........................................
ปีค.ศ.2004 – 2023 (อิงการเปลี่ยนแปลงของดัชนี และไม่รวมเงินปันผล)
เงิน 100 บาท จะกลายเป็นเท่าไหร่ เมื่อลงทุนในตลาดหุ้นเหล่านี้ ตลอดระยะเวลา 20 ปี?
........................................
ตลาดหุ้นไทย : SET / ผลตอบแทนรวม 110.87% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 3.97% ต่อปี
...
ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา : S&P500 / ผลตอบแทนรวม 292.32% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 7.46% ต่อปี
…
ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา : NASDAQ / ผลตอบแทนรวม 589.19% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 10.67% ต่อปี
…
ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา : DOW JONES / ผลตอบแทนรวม 246.71% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 6.76% ต่อปี
...
ตลาดหุ้นยุโรป : Euro Stoxx 50 / ผลตอบแทนรวม 53.22% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 2.27% ต่อปี
...
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น : Nikkei 225 / ผลตอบแทนรวม 189.45% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 5.77% ต่อปี
...
ตลาดหุ้นจีน : China A50 / ผลตอบแทนรวม 168.49% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 5.34% ต่อปี
...
ตลาดหุ้นฮ่องกง : Hang Seng / ผลตอบแทนรวม 14.83% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 0.74% ต่อปี
...
ตลาดหุ้นอินเดีย : Nifty 50 / ผลตอบแทนรวม 926.17% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 13.04% ต่อปี
...
ตลาดหุ้นเวียดนาม : FTSE Vietnam / ผลตอบแทนรวม -68.89% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย -5.68% ต่อปี
…
ตลาดหุ้นบราซิล : BOVESPA / ผลตอบแทนรวม 406.76% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 8.92% ต่อปี
…
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ : KOSPI / ผลตอบแทนรวม 190.15% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 5.77% ต่อปี
…
ตลาดหุ้นมาเลเซีย : KLCI / ผลตอบแทนรวม 60.27% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 2.52% ต่อปี
…
ตลาดหุ้นสิงคโปร์ : SGXL / ผลตอบแทนรวม 435.20% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 9.23% ต่อปี
…
ตลาดหุ้นไต้หวัน : TWII / ผลตอบแทนรวม 186.74% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 5.68% ต่อปี
........................................
เพิ่มเติมข้อมูลผลตอบแทนของสองนักลงทุนในตำนาน จากไทยและสหรัฐอเมริกา
...
Berkshire Hathaway : BRKa / ผลตอบแทนรวม 517.29% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 10.05% ต่อปี
...
นิเวศน์ เหมวชิรวรากร / ผลตอบแทนรวม 2,722.85% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 20.39% ต่อปี
........................................
ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นเพียงประเทศเดียวที่ทำให้เงินของคุณหายไป ถึงแม้ว่าคุณจะลงทุนมาอย่างยาวนานถึง 20 ปี เป็นกรณีย่ำแย่มากที่สุดในบรรดาประเทศที่หยิบยกมา หากคุณนำเงิน 100 บาท ไปลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ณ ปัจจุบันเงินนั้นจะหลงเหลือมูลค่าเพียง 33 บาท นับเป็นการขาดทุนกว่า 67% ระยะเวลาไม่ช่วยอะไรเลย
ย่ำแย่รองบ๊วยลงมาคือตลาดหุ้นฮ่องกง ที่การลงทุนระยะยาวนั้นให้ผลตอบแทนทบต้นไม่ถึง 1% ต่อปี (ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นสรวงสวรรค์เลยทีเดียว)
........................................
ตลาดหุ้นอินเดียเป็นประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงมากที่สุด วัดด้วยอัตราผลตอบแทนทบต้นระยะยาว 20 ปี ถึงกว่า 13.04% ล่าสุดอินเดียกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก แซงหน้าประเทศจีนไปแล้ว น่าจับตามองว่าในอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกได้หรือไม่ ก็อาจคุ้มค่าที่จะลองเสี่ยงดู
........................................
ตลาดหุ้น Nasdaq แหล่งกบดานของเหล่าธุรกิจเทคโนโลยีล้ำสมัย ผู้ชี้ขาดความเป็นไปของโลกมนุษย์หัวก้าวหน้าในอนาคต ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดรองจากประเทศอินเดีย เฉลี่ยอยู่ที่ 10.67% ต่อปี ตลาดนี้เป็นลูกรักตัวความหวังของนักลงทุนมาตลอดหลายสิบปี ยังให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง
........................................
หากคุณมีความเชี่ยวชาญ แล้วเลือกลงทุนแบบมุ่งเน้น (Focus) ตลาดหุ้นจะทำให้คุณร่ำรวย หากคุณไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเลย แล้วเลือกลงทุนแบบมุ่งเน้น (Focus) ตลาดหุ้นจะทำให้คุณยากจน
........................................
หากแบ่งเงินนำไปลงทุนใน 10 ดัชนีอิงตลาดหุ้นด้านบนตามตารางประกอบ ด้วยสัดส่วนเท่าๆกัน / ผลตอบแทนรวม 252% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 6.85% ต่อปี
...
หากแบ่งเงินนำไปลงทุนใน 4 ดัชนีอิงตลาดหุ้นซึ่งถูกจัดประเภทว่าพัฒนาแล้ว (Developed Market) ประกอบด้วย S&P500, Euro Stoxx50, Nikkei 225, Hang Seng, ด้วยสัดส่วนเท่าๆกัน / ผลตอบแทนรวม 138% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 4.67% ต่อปี
...
หากแบ่งเงินนำไปลงทุนใน 4 ดัชนีอิงตลาดหุ้นซึ่งถูกจัดประเภทว่ากำลังพัฒนา (Emerging Market) ประกอบด้วย SET, China A50, Vietnam, Nifty 50, ด้วยสัดส่วนเท่าๆกัน / ผลตอบแทนรวม 284% / อัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 7.34% ต่อปี
...
การจัดพอร์ตอิงดัชนีทั้ง 3 รูปแบบ ทำผลตอบแทบลดลงจนต่ำกว่าเงินตั้งต้นเพียงแค่ปีเดียว นั่นคือในปี 2008 ที่เกิดวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ในสหรัฐอเมริกานั่นเอง เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
........................................
หากไม่ต้องสนใจเลยว่าคุณจะเก่งหรือไม่เก่ง แล้วเลือกลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ตลาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ซึ่งสูงกว่าสินทรัพย์ส่วนใหญ่ และด้วยระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานมากกว่า 20 ปี คุณจะไม่มีวันขาดทุนเลย ความเสี่ยงเป็นเรื่องของความรู้ ประสบการณ์ และการบริหารจัดการนั่นเอง
........................................
‘ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร’ สร้างผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทยอย่างมหาศาล และเอาชนะ ‘วอเร็น บัฟเฟตต์’ ขาดลอย วัดด้วยอัตราผลตอบแทนทบต้นตลอด 20 ปี เฉลี่ย 20.39% ต่อปี ในขณะที่ ‘Berkshire Hathaway’ ของวอเร็น บัฟเฟตต์ มีอัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 10.05% ต่อปี แต่โปรดอย่าลืมว่านี่คือค่าเฉลี่ยเพียง 20 ปีย้อนหลังเท่านั้น ประวัติศาสตร์ของบัฟเฟตต์คงต้องถอยหลังย้อนไปอีกนานแสนนานเหลือเกิน ซึ่ง ดร.นิเวศน์ยังคงเยาว์วัย
...
หากคุณมีความเชี่ยวชาญ แต่ยังคงระแวดระวังภัยอยู่เสมอ เลือกให้น้ำหนักเงินลงทุนสูงในสินทรัพย์ที่ดี กระจายความเสี่ยงบ้างตามสมควร ตลาดหุ้นจะทำให้คุณยืนอยู่เหนือค่าเฉลี่ยของนักลงทุนทั่วไป
...
สำหรับโลกแห่งการลงทุนนั้น องค์ความรู้และระยะเวลา หากมีมากก็สามารถเพิ่มทวีคูณผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล และเราควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเงินตั้งต้นเลย
................................................
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ
📌ผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ตลอดระยะเวลา 20 ปี🌎
- Introverted investor
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 119
- ผู้ติดตาม: 278
📌ผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ตลอดระยะเวลา 20 ปี🌎
โพสต์ที่ 1
Try to be : Full Time Investor, Reader, Writer, Learner & Cultural observer.
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor