❎'Naked Short Selling' กระบวนการทำลายล้างตลาดหุ้นไทย : วิชัย วชิรพงศ์

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Introverted investor
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 117
ผู้ติดตาม: 270

❎'Naked Short Selling' กระบวนการทำลายล้างตลาดหุ้นไทย : วิชัย วชิรพงศ์

โพสต์ที่ 1

โพสต์

.............................
ยักษ์.png
..........................................................................

🏦บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นโบรกเกอร์ (Broker) นายหน้าซื้อขายหุ้น และมีปริมาณการซื้อขายเป็นอันดับหนึ่งกว่า 26-27% นับเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหุ้นไทย ทิ้งห่างอันดับสองอย่างมโหฬาร เป็นเรื่องไม่ปกติ แต่จะไปโทษโบรกเกอร์ก็ไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องของธุรกิจ อาศัยช่องโหว่ของระเบียบบางอย่าง ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
..............................................

🕤ณ ช่วงเวลานี้ หลายคนในวงการตลาดทุนไทยคงเคยได้ยินคำว่า ‘Naked Short Selling’ คือกระบวนการขายหุ้นโดยที่ไม่ได้มีหุ้นถือครองอยู่จริง ไปยืมคนอื่นมาขายก่อน (ยืมจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้?) จากนั้นจึงเข้าซื้อคืนเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลง คุณคิดว่าเหตุการณ์ที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นกระบวนการทำลายล้างตลาดหุ้นและนักลงทุนรายย่อยหรือเปล่า?
.....................

📌‘Hedge Fund’ ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงจากต่างประเทศ (โดยเฉพาะสิงคโปร์) ติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ในไทยด้วยเหตุผลที่ว่าอยากจะเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นไทย โดยมีข้อแม้ว่า
...

1⃣ “ขอวงเงินซื้อขายจำนวนมหาศาล” โดยไม่ต้องวางหลักประกันอะไรเลย (จับเสือมือเปล่า อาศัยชื่อเสียง เครดิต ความน่าเชื่อถือ)
...
2⃣ “ขอความรวดเร็ว” ‘Hedge Fund’ ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับ ‘Robot Trade’ (ซอฟต์แวร์ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นอัตโนมัติ) ขอตั้ง Server ที่ตลาดหลักทรัพย์เลย
...
3⃣ “ขอค่าธรรมเนียมต่ำ” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพวก ‘Hedge Fund’ หรือกลุ่ม ‘Robot Trade’ เสียค่าธรรมเนียมประมาณล้านละ 30 บาท ซื้อข้าวกินสักจานยังไม่ได้เลย
...

📣ถามว่าทำแบบนี้ผิดไหม? ไม่ผิดหรอก โทษต่างชาติไม่ได้ โทษบริษัทหลักทรัพย์ไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ธุรกิจต้องดำเนินต่อไป ปกติแล้วนักลงทุนรายย่อยทั่วไปต้องส่งคำสั่งซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ จากนั้นโบรกเกอร์จึงส่งคำสั่งไปยังตลาดหลักทรัพย์อีกที แต่พวก ‘Hedge Fund’ เขาสามารถส่งคำสั่งโดยตรงไปยังตลาดหลักทรัพย์ได้เลยทันทีตามใจต้องการ (อาจอาศัยใบอนุญาตของโบรกเกอร์ที่เขาเปิดบัญชีซื้อขายอยู่) นี่คือเรื่องจริง มีจริงแน่นอน มีคนใกล้ตัวมาบอกผม เขาสื่อสารเองไม่ได้ ถ้าออกมาพูดแล้วได้ตกงานกันระนาวแน่นอน
..............................................

ประเด็นเรื่องค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น โดยปกติคือยิ่งมีการทำธุรกรรมมากยิ่งจ่ายน้อย โดยเฉลี่ยแล้วผมเสียค่าธรรมเนียมประมาณล้านละ 300-400 บาท ซึ่งก็ถูกมากแล้ว เทียบกับในอดีตจะเป็นหลักพันบาทแน่นอน ส่วนตอนนี้พวก ‘Hedge Fund’ หรือกลุ่ม ‘Robot Trade’ เสียล้านละ 30 บาท สร้างข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันถึง 10 เท่า! พวกเขามีอำนาจ อยากจะทำอะไรก็ได้ อยากจะทำลายใครก็ได้
..............................................

📉ผลลัพธ์คือ “ตลาดหุ้นซบเซา” เพราะพวกเขาฆ่าทุกคน ฆ่ารายย่อย ฆ่ารายกลาง ฆ่ารายใหญ่ ฆ่าแม้กระทั่งเจ้าของหุ้น ตายกันเรียบเลย สุดท้ายก็ไปประลองยุทธ์กันอยู่ในกลุ่ม ‘Hedge Fund’ หลายสิบรายด้วยกันเอง วัตถุประสงค์การมีตัวตนอยู่ของตลาดหุ้นคืออะไร? มันคือช่องทางการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนไม่ใช่หรือ? เจ้าของนำหุ้นเข้าตลาดเพื่อสร้างมูลค่า ระดมทุนไปขยายกิจการ แต่พอตลาดซบเซา สภาพคล่องหดหาย นักลงทุนก็หายตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นตลาดหุ้นประเทศสิงคโปร์ มีบริษัทถอดถอนตัวเองออกจากตลาดกันเต็มไปหมด เพราะเจ้าของเมื่อนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นก็เหมือนการทำร้ายตัวเอง มูลค่าถดถอย
..............................................

💸เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งเป็นเจ้าของบริษัทจดทะเบียน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มูลค่ามหาศาล และฝากหุ้นไว้กับโบรกเกอร์ต่างประเทศ มีอยู่วันหนึ่งหุ้นของเขาราคาร่วงหนักมาก เลยไปตรวจสอบปริมาณการซื้อขายหุ้นรายวัน โอ้โหมันมีมากกว่าจำนวนหุ้นซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดถือครองอยู่เสียอีก มีคนเอาหุ้นออกมาขายเยอะแยะขนาดนั้น ถามหน่อยเถอะว่าใครขาย? นี่แหล่ะ ‘Naked Short Selling’ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ไทยก็ออกมาแถลงว่าไม่มีอะไรแบบนี้ ผมก็คงมิบังอาจไปโต้แย้งอะไรได้
..............................................

👨‍💼 ‘Hedge Fund’ เขามีอำนาจอยู่เหนือเรามากนัก เปรียบดังนักมวยคนละรุ่น ลงนวมต่อยไปอย่างไรก็แพ้ราบคาบ พวกเขานำหุ้นออกมาจากไหนก็ไม่รู้ มาวางขายขู่ให้รายย่อยกลัว เมื่อรายย่อยโยนของทิ้งแล้วพวกเขาก็รับกลับ เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่ทำอะไร เผลอๆออกมาแก้ตัวให้ด้วยว่าไม่มีอะไรผิดกฎหมาย ซึ่งหากมันจะเป็นการ ‘Disruptive Technology’ ในวงการตลาดหุ้นนั้นผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่มันไม่เป็นธรรม จะต่อยมวยแล้วน้ำหนักต้องสูสีกันหน่อย ไม่ใช่ต่อกันเป็น 10 เท่า
..............................................

👎ทุกวันนี้มีโบรกเกอร์หลายรายติดต่อผมมาตลอด “เสี่ยยักษ์ เรามีหุ้นกำลัง IPO สนใจหรือเปล่า?” ผมรีบยกมือไหว้เลย ขอบคุณนะ แต่เอาไปขายคนอื่นเถอะ ผมเจ็บมาเยอะ หุ้น IPO เดี๋ยวนี้ใครได้ไปก็เตรียมขายทิ้ง ไม่มีใครมานั่งคาดหวังแล้วว่ามันจะดี คุณลองไปบอกใครดูสิว่าอนาคตหุ้นตัวนี้มันจะดีอย่างนั้น จะดีอย่างนี้นะ น่าสนใจเข้าลงทุน เขาคงสวนมาว่า “มึงก็ถือไปสิ เดี๋ยวกูโยนของใส่เอง” ณ ปัจจุบัน หุ้นหลายๆบริษัทที่จ่อ IPO เข้าตลาดหุ้นก็แทบไม่มีการรับประกันการขายจากโบรกเกอร์แล้ว เพราะโบรกเกอร์กลัวขายไม่หมดต้องมารับไว้เอง ไม่ใช่หุ้นคุณไม่ดีนะ แต่สภาพตลาดแบบนี้ ไม่มีใครอยากเปลืองตัวเข้าไปเสี่ยง
..............................................

🔴‘Short Sell’ ผมรับได้เสมอนะ ไม่ได้ใจแคบเลย แต่ขอให้คุณ ‘Short’ ให้จริง ถ้าแน่จริงก็ ‘Short’ มาเลย หากคิดว่าหุ้นมันแย่ก็กดราคามันลงไปเสีย สักวันคุณก็ต้องซื้อคืนอยู่แล้ว แถมยังมีต้นทุนดอกเบี้ยการทำธุรกรรมยืมหุ้นมา หากแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่ โบรกเกอร์ไม่ผิดหรอก มันมีช่องโหว่อยู่ ผู้กำกับดูแลคงต้องมองดูหน่อย คนอื่นเขาไม่กล้าพูด ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างรับรองตายหมู่
..............................................

‘Naked Short Selling’ นั้นผมคิดว่าเราคงทำอะไรได้ไม่มาก หากต้นตอมาจากต่างประเทศ แต่จะนิ่งเฉยก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นตายหมด นักลงทุนตาย ไม่ต้องมานั่งใฝ่ฝันถึงความมั่งคั่งกันแล้ว โบรกเกอร์ก็ตาย งานการไม่มีให้ทำ เจ้าของหุ้นก็ตาย บริษัทระดมทุนไม่ได้
..............................................

บางคนพูดว่า “เห้ยเสี่ยยักษ์มึงออกมาพูดเพราะเสียผลประโยชน์หรือเปล่า?” บอกเลยว่าไม่ต้องมาเป็นห่วงผมหรอก ผมขึ้นมายืนอยู่บนฝั่งนานแล้ว เคยได้ยินเรื่องแม่บ้านที่ตลาดหลักทรัพย์ไหม ทำความสะอาดอยู่ในห้องสมุดมารวย ทำงานไป อ่านหนังสือไป ศึกษาเรื่องการลงทุนไปเรื่อยๆ จนมีเงินเก็บหลักล้านบาท ผมอยากให้ภาพเช่นนี้ยังคงอยู่ ผู้คนมีความหวัง ตลาดหุ้นคือพื้นที่แห่งโอกาส แต่ผมกลัวว่าภาพเช่นนี้จะไม่มีอีกแล้วในอนาคต
..............................................

ผมยังเชื่อมั่นในเส้นทางนี้นะ มันยังมีโอกาส แต่เราต้องรอให้เป็น และแก้ไขสิ่งที่กำลังเป็นปัญหา อย่าปล่อยให้ผู้คนในอุตสาหกรรมนี้ต้องตายไปเฉยๆ มีใครก็ไม่รู้เข้ามาสูบเลือดเราจนแห้งกลายเป็นซอมบี้แล้วก็จากไป เรายังมีความหวัง มีผู้คนออกมาจุดประเด็นเรื่องนี้มากขึ้น เข้าใจว่าเราต้องปรับตัวให้ทันโลก เปลี่ยนแนวคิดที่ล้าหลัง แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมเสมอคือ
...

✅“ถามตนเองเสมอว่า สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ มีคุณค่าเพียงพอต่อเป้าหมายและความฝันแล้วหรือยัง?”
...
💬เสี่ยยักษ์ : วิชัย วชิรพงศ์

..............................................................................

ขอขอบคุณ ข้อมูลบางส่วนจาก

🎥“Naked Short, ทุบหุ้น มโนหรือสูบเลือดรายย่อย” : Money Chat Thailand (15.11.2023), เนาวรัตน์ เจริญประพิณ🙏
Try to be : Full Time Investor, Reader, Writer, Learner & Cultural observer.
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor
โพสต์โพสต์