สรุปความรู้งาน Meeting VI ภาคใต้ (18-19 Nov 23)

[earthcu]

เนื่องด้วยมีโอกาสร่วมงาน Meeting VI ภาคใต้ Q3/23 : ที่ผ่านมา จึงอยากจะสรุปความรู้ที่ได้จากงานครั้งนี้บางส่วนเผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนนักลงทุนท่านอื่นๆที่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ครับ

วิทยากร
1.พี่ โจ อนุรักษ์ บุญแสวง
2.พี่ตี้ ธนะสิน พิพัฒน์กิตติกุล

1.หลักการเลือกหุ้น By พี่ตี้
1.1 Business Model ที่จะเลือก ต้องเป็น Business Model ที่ดีมากๆ มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว หรือ Business Model แบบปานกลาง โดยเน้นไปที่ธุรกิจที่สามารถทำความเข้าใจได้เท่านั้น
1.2 มองหาปัจจัยที่มีผลต่อผลประกอบการของบริษัท เช่นในบางธุรกิจราคาพลังงานอาจจะเป็นต้นทุนหลักที่กระทบกับผลประกอบการของบริษัท เพื่อใช้ในการประเมินช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการลงทุน
1.3 รอจังหวะเข้าซื้อ ซึ่งจังหวะการลงทุนที่ดีที่สุด มักจะเป็นช่วงที่ปัจจัยลบบางประการเข้ามากระทบผลประกอบการของบริษัทซึ่งเรามองว่าเป็นแค่ปัจจัยชั่วคราว

2.ตัวอย่าง Case ที่อาจจะต้องระวัง บริษัทที่ Business Model ที่ดูก็ธรรมดา แต่เน้นไปที่การเพิ่มทุน หรือใช้วิธีแปลงหนี้เป็นหุ้น บริษัทที่สินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน เพราะจะใช้วิธีการกู้เงินธนาคารจำนวนมากๆไม่ได้ อาจจะต้องใช้วิธีการกู้ยืมจากการออกหุ้นกู้เป็นหลัก

3.การบริหารจิตใจ เน้นการลงทุนในบริษัทที่เราเข้าใจเป็นอย่างดีแล้วเท่านั้น เพราะปัจจัยบางประการอาจจะส่งผลกระทบกับบริษัทได้ในระยะเวลานึง ซึ่งถ้าเราเข้าใจ และทราบว่าธุรกิจโดยรวมยังคงดีอยู่ในระยะยาว ก็สามารถบริหารจิตใจให้สามารถทนในการถือหุ้นในช่วงระยะเวลานานๆได้

4.พึงระวังการ Leverage จากการใช้ Margin ในกรณีที่เราไม่ได้ใช้ Margin ต่อให้ราคาหุ้นลดลง 40-50% ในช่วงระยะเวลาที่เราถือ ก็ไม่มีปัญหาการโดน Force Sell ทำให้เราสามารถอยู่รอดในตลาดได้ในระยะยาว

5.การลงทุนเป็นการเล่นเกมในระยะยาว จริงๆแล้วผลตอบแทนหลัก 10-20% ในระยะยาวอย่างต่อเนื่องก็เพียงพอแล้วที่จะประสบความสำเร็จ

6.Time Frame ในการลงทุน สำหรับพี่ตี้มองว่าในระยะยาวประมาณนึงเช่น 3-5 ปีขึ้นไป เพื่อให้สามารถมีเวลาเพียงพอที่จะสะท้อนภาพของธุรกิจได้ในกรณีที่เราเลือกลงทุนได้ถูกบริษัท

7.งบการเงิน หลักๆไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการเลือกหุ้น เพราะ Step แรกยังคงเน้นมองไปที่การเลือกหาบริษัทที่มี Business model ที่ดีเป็นหลักก่อน หลังจากนั้นค่อยมาดูงบการเงินเพื่อเป็นการ Confirm ความเข้าใจในตัว Business model บริษัทว่าเราเข้าใจถูกต้องและสอดคล้องกันกับ Business Model ตอนแรกที่เราศึกษาไหม

8.วิธีการพัฒนาการมอง Business Model ให้แม่น เน้นอ่านข้อมูลบริษัทและทำความเข้าใจในตัวบริษัท จากนั้นให้ใช้วิธีจดสรุปลงไปในสมุด logbook เช่นปีละ 10-20 บริษัท จากนั้นมาดูสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่เป็นจริงว่าตรงกันหรือไม่ ถ้าไม่ตรงกับสิ่งที่เราคิดเกิดขึ้นเพราะเหตุใด ฝึกทำอย่างนี้สะสมไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีข้อมูลสะสมเป็นหลัก 100 ตัวขึ้นไป ก็จะทำให้เราสามารถมอง Business Model ได้แม่นยำขึ้น

9.การหาความรู้ของพี่ตี้ในอดีต เน้นหนังสือแปล ยกตัวอย่าง เช่น
Peter Lynch : เรียนหุ้นกับ ปีเตอร์ ลินซ์ : Learn to Earn, ตีแตกวอลสตรีท : Beating the Street, เหนือกว่าวอลสตรีท : One Up On Wall Street
Philip Fisher : Common Stocks and Uncommon Profits หุ้นสามัญ กับ กำไรที่ไม่สามัญ
การลงทุนแบบเน้นคุณค่าหลักสูตรมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
Value Investing: From Graham to Buffett and Beyond หนังสือ
ศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์ : Buffettology

10.สถานการณ์ในตลาดหุ้นที่เป็นขาลงอย่างปีนี้ สามารถเลือกที่จะทำได้ดังนี้ 1.)อยู่เฉยๆ 2.)หาเงินมาเติม Port 3.)Switching หุ้น โดยขายตัวที่ Upside น้อย เพื่อไปซื้อในตัวที่ Upside มากกว่า

11.ในปีนี้นักลงทุนที่ได้กำไร อาจจะมาจากการที่ Focus Trading โดยเลือกหุ้นที่ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดซึ่งปีนี้มีจำนวนไม่มาก หรือบางคนอาจจะมาจากการ Short หุ้น เป็นต้น

12.Over Information : ปัจจุบันควรจะต้องระวังเรื่องการเสพย์ข้อมูลที่มากจนเกินไป กลายเป็น Over Information เพราะข้อมูลส่วนใหญ่นั้นเกือบทั้งหมดอาจจะไม่ค่อยมีผลกระทบกับผลประกอบการของบริษัท เราควรเลือกกลั่นกลองข้อมูลข่าวสารให้ดี ยกตัวอย่างข้อมูลที่ควรดูเช่น ข่าวของบริษัทที่แจ้งโดยตลาดหลักทรัพย์

13.นโยบายแจกเงิน 10,000 บาท มองว่าน่าจะมีผลเยอะกับคนที่ยากจน เช่นคนที่พึ่งพารายได้จากเบี้ยยังชีพของรัฐบาล ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับหุ้นในบาง Sector

14.เวลาวิเคราะห์หุ้น เราอาจจะต้องดูหลายๆปัจจัย อย่างเช่น สินค้าของบริษัทสามารถถูกลอกเลียนแบบได้ง่ายไหม เพราะอาจจะส่งผลต่อการที่บริษัทอื่นๆแห่เข้ามาทำสินค้าประเภทนี้แล้วจะส่งผลทำให้ GPM ในระยะยาวลดลง รวมไปถึงการดู Business Model แบบ 5 Force Analysis ให้ดี อาจจะเจอกรณีว่าบางบริษัทเพิ่มกำลังการผลิตแล้วอาจจะส่งผลต่ออำนาจต่อรองต่อลูกค้าที่ลดลงทำให้ GPM ลดลง และทำให้กำไรในระยะยาวไม่น่าที่จะดีได้

15.ถอดบทเรียนหุ้นที่อาจจะทำให้นักลงทุนเกิดการขาดทุนได้มากๆ เช่น บริษัทที่ทำธุรกิจที่เป็น Red Ocean, ผู้บริหารที่ทำธุรกิจแปลกๆ, บริษัทที่ซื้อทรัพย์สินแบบแปลกๆอยู่เสมอ ที่ดูว่าไม่ค่อยสมเหตุสมผล, บริษัทที่ Market Cap สูงมากๆ ซึ่งดูไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งหลายครั้งมาจากการปั่นราคาขึ้นไปโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ

16.หุ้นที่เน้นการเติบโตจากการส่งออก ข้อดี ถ้าสินค้าของบริษัท success มีโอกาสเติบโตได้จาก TAM ที่มหาศาล อย่างไรก็ตามก็ยังมีความเสี่ยงที่สูงในระดับนึง เพราะหลายๆ Brand ส่งสินค้าออกไปต่างประเทศก็ไม่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงเราควรจะดูว่าสินค้าของบริษัทจะเป็นสินค้าที่ยั่งยืนไหม หรือว่าเป็นเพียงสินค้าที่เป็นแค่กระแสชั่วคราว

17.พึงระวังบริษัทที่ผุ้บริหาร ชอบให้เป้าหมาย Market Cap ของบริษัท

18.สุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ อย่ามัวแต่สนใจเรื่องอื่นๆ จนละเลยสุขภาพ เพราะบางทีถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างขึ้นมาเราจะไม่สามารถย้อนเวลากลับมาเพื่อดูแลสุขภาพได้

19.การขายหุ้นของนักลงทุน VI 1.)ขายเมื่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนไปอย่างถาวรในทางที่ไม่ดี 2.)ขายหุ้นเมื่อถึงราคาที่เหมาะสม 3.)ขายหุ้นเพื่อ Switching ไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่ดีกว่า

20.การลงทุนมีต้นทุนของทางด้านเวลาอยู่ พึงระวังบริษัทที่ใช้เวลานานมาก (อีกหลายปีกว่าที่จะ Project จะเสร็จ) เพราะถ้าเรารีบซื้อหุ้นไปตั้งแต่ตอนนี้นั้น กว่าจะได้ผลตอบแทนอาจจะต้องใช้เวลานานเกินไปกว่าที่จะได้ซึ่งพอมาคิดแล้วอาจจะไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงระหว่างทางและเสียโอกาสในการลงทุนบริษัทอื่นๆที่ดีกว่า

21.เวลาลงทุน คิดให้รอบด้าน คิดให้ครบทุกมุม ฝึกการคิด 2 ชั้นแบบ Howard Marks

22.อุตสาหกรรม EV จีน ที่เริ่มเข้ามานั้น เริ่มที่จะเข้ามาทดแทนเครื่องยนต์สันดาปภายในของญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะมีหลายส่วนที่เปลี่ยน Supply Chain ใหม่ ซึ่งอาจจะส่งผลกับบางบริษัทที่รับงานอยู่กับค่ายญี่ปุ่นในปัจจุบัน

23.พึงระวังการลงทุนในธุรกิจที่อาจจะถูกภาครัฐแทรกแซงได้ เช่นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก เพราะเมื่อถูกเข้ามาแทรกแซงอาจจะทำให้กำไรของบริษัทลดลงอย่างมีนัยยะได้

24.เวลาเราศึกษาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เราต้องทำความเข้าใจให้ละเอียดลึกซึ้งเพราะบางทีการที่บริษัทอยู่ในหมวดอุตสาหกรรมบางอย่างนั้นตอนแรกเราอาจะมองว่าเป็น Business model ในอุตสาหกรรมที่ดีมาก แต่เมื่อศึกษาอย่างละเอียดนั้นอาจจะพบว่าจริงๆแล้ว หลักๆกำไรของบริษัทมีความผันผวนอยู่เสมอ และจริงๆแล้วบริษัทมีความเป็นบริษัทที่มองว่ากึ่งวัฏจักร (Commodity) ก็เป็นไปได้

25.พึงระวัง บริษัทที่ต้องใช้ Working Cap หรือสินทรัพย์หมุนเวียนเยอะ ยิ่งถ้ามีเงินจมใน working cap เยอะๆ เช่นในหลัก 100 วันขึ้นไป เพราะ Business Model ลักษณะนี้น่าจะขยาย หรือ scale up บริษัทได้ลำบาก

26.เน้นเลือกลงทุนในบริษัทที่มี Business Model ที่ดี ที่มีคุณภาพของรายได้ โดยเฉพาะถ้ามี Recurring income ด้วย รายได้สามารถคาดการณ์ หรือ Predictable และพยายามเน้นวิเคราะห์ Five Force ด้วยเพื่อพิจารณาให้รอบด้านขึ้นโดยเฉพาะความเสี่ยงต่างๆของบริษัท

27.Theme การลงทุนที่น่าสนใจ
1.)บริษัทที่มีโอกาสเติบโตจากการ Growth ในต่างประเทศ ถ้า success ก็มีโอกาสไปได้ไกล ยังไงก็อย่าลืมดูความเสี่ยงอื่นๆของบริษัทด้วย
2.)บริษัทที่สามารถหาตลาด Blue Ocean ได้ ซึ่งอาจจะอยู่ในตลาดหุ้นต่างประเทศบางประเทศ

28.ข้อแนะนำสำหรับการเลือกหุ้นปันผล 1.)เน้นที่กำไรต้องสม่ำเสมอ เพราะบางบริษัทอาจจะได้กำไรและปันผลเยอะแค่ชั่วคราวเนื่องจากเป็น Cycle ของอุตสาหกรรม 2.)ถ้าฐานรายได้นักลงทุนไม่เยอะ แนะนำให้อย่าลืมยื่นภาษีเพื่อขอคืนเครดิตภาษีด้วย

29.ส่งท้าย ขาดทุนแต่ไม่ควรเสียกำลังใจ, ให้เชื่อมั่นความคิดของตนเอง ,จัดกรอบความคิดของตัวเองให้ชัดเจน เพื่อหาวิธีการชนะที่แน่นอน เหมือนอย่าง Warren Buffet , ลงทุนกระจายความเสี่ยงด้วย อย่าลงทุนกระจุกอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวทั้งหมด แบ่งการลงทุนออกเป็นหลายๆ Theme การลงทุน เช่นบริษัทที่ราคาหุ้นลงมาเยอะๆ มี MOS แล้ว, บริษัทที่ Growth ในต่างประเทศ, บริษัทที่ Transform ไปลงทุนในธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ, บริษัทที่เป็นกลุ่มหุ้นปันผล หรือ Theme อื่นๆ



เนื่องจากในวันที่ทานข้าวเย็นกับกลุ่มพี่ๆนักลงทุนหาดใหญ่ ผมไม่ได้จดเนื้อหาต่างๆไว้ เนื้อหาที่เขียนในนี้คือการพยายาม Review เนื้อหาที่ตัวเองได้ฟังและเข้าใจในภายหลัง เพราะฉะนั้นลำดับของเนื้อหาและข้อความต่างๆอาจจะไม่ตรงกับที่ทางวิทยากรได้พูด ในกรณีที่อาจจะไม่ตรงกับเนื้อหาที่วิทยากรต้องการสื่อสาร ผมขอความกรุณาเพื่อนๆท่านอื่นที่ไปฟังในวันดังกล่าวช่วยแนะนำเพิ่มเติมหรือแก้ไขให้ด้วยครับ

ขอขอบคุณพี่โจ และพี่ตี้เป็นอย่างสูงครับ ที่กรุณาให้ความรู้น้องๆทุกคน และเปิดโอกาสให้น้องๆได้ซักถามความรู้อย่างละเอียด แถมยังกรุณาเลี้ยงข้าวเที่ยงให้สำหรับนักลงทุนทุกท่านเนื่องจากสภาพตลาดในปีนี้ที่ไม่ค่อยดี

ขอขอบคุณทีมงานที่จัดทุกท่านครับ (พี่แมว ,พี่บัวดิน ,พี่จรัญ, K.เตียง, พี่โต้ง) ที่ต้อนรับพวกผมเป็นอย่างดี พี่ๆทุกคนเป็นกันเองและช่วยแนะนำข้อมูลดีๆให้กับผมและเพื่อนๆที่มาจากต่างจังหวัด

ชอขอบคุณพี่ท่านๆอื่น เช่น พี่ You , พี่เล็ก ด้วยครับ ที่ช่วย share ความรู้จากการไปหาดใหญ่ครั้งนี้ให้เพื่อนๆท่านอื่นที่ไม่ได้มาร่วมงาน

และขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านครับที่ช่วยแนะนำความรู้ในด้านการลงทุนให้ผมอยู่เสมอๆ

ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ
earthcu/ 21 Nov 23
(2 Years Promise)