IKIGAI กับการลงทุนแบบ VI / Pocket investor

[Pocket investor]

Investor's practice: สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้จะมาแชร์มุมมองของผมเกี่ยวกับปรัชญาการใช้ชีวิตของญี่ปุ่น "Ikigai" กับความสำคัญด้านการลงทุน จะเป็นอย่างไร ลองมาดูกันเลยครับ
.
"Ikigai" เป็นปรัชญาเก่าแก่ของชาวญี่ปุ่นในการค้นหา "คุณค่าของการมีชีวิตอยู่" ที่ช่วยให้เราตอบคำถามกับตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร เป้าหมายในการดำรงชีวิตอยู่คืออะไร และทุกวันที่ตื่นมา...อะไรกันแน่คือสิ่งที่เราอยากจะทำมันจริงๆ
.
หลักการของ Ikigai นั้นเรียบง่ายที่ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
Love >> เพียงเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณรักและสบายใจที่จะทำมัน
Mastery >> สิ่งที่คุณถนัดและทำได้ดี โดย ไม่ฝืนความรู้สึก
Money >> สามารถหารายได้เพื่อเลี้ยงชีพได้
Moral Good >> เป็นสิ่งที่ดี เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
.
หากคุณค้นพบสิ่งที่เป็นจุดบรรจบของวงกลมทั้ง 4 นั่นก็อาจจะเป็น อิคิไก ที่บอกว่าชีวิตของคุณต้องการอะไรจริงๆกันแน่...
.
เพราะ การได้ทำในสิ่งที่รักและมีคุณค่าจริงๆนั้น แม้อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็เป็น "ความสุขที่เรียบง่าย" ที่ช่วยเติมเต็มหัวใจทำให้เราอยากจะทำมันทุกวัน ไม่ต่างจากที่ อ.ปู่ Warren Buffett เปรียบเสมือน "Tap Dancing to Work" หรือการเต้นรำไปทำงานอย่างมีความสุข
.
โดยทั่วไปแล้ว Ikigai ของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกันออกไปตามความชอบ ความถนัดและบริบทที่แตกต่างกัน แต่เชื่อว่าหลายๆท่านที่อ่านบทความนี้ คงกำลังคิดว่า "อิคิไกของฉันคือการลงทุน" ❤
.
ส่วนตัวผมเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน...มันอาจจะเริ่มต้นจากการที่เราพยายามค้นหาว่าเราชอบอะไร และอะไรที่น่าจะทำมันได้ดี ส่วนตัวตั้งแต่เด็กผมก็ทำอะไรไม่ค่อยเก่ง แต่โชคดีที่พอรู้จักตัวเองว่าเราสนใจชอบศึกษาธุรกิจ ชอบเรื่องการคำนวณ คิดวิเคราะห์วางแผนตั้งแต่เด็กๆ จากการเล่นหมากรุก/การ์ดเกม เป็นประจำ น่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ดี ผมเคยคิดว่าหลังจบมาคงทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนหาประสบการณ์สักพักและคงออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ...
.
แล้วผมก็โชคดีที่ได้รู้จักกับการลงทุนแบบ VI
.
การเป็นนักลงทุน โดยเฉพาะ Value Investor เปรียบเสมือนงานในฝันสำหรับผม อาชีพแบบนี้มีจริงด้วยหรือ? คุณสามารถมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจได้ เพียงแค่คิดวิเคราะห์ไม่ต้องลงแรงทำเอง ได้ศึกษาธุรกิจมากมายไม่รู้จบ มีอิสระตัดสินใจได้ด้วยตัวเองและใช้ความรับผิดชอบเพียงการดูแลเงินในพอร์ตของตัวเองเท่านั้น ที่สำคัญมีโอกาสที่จะทำให้มี "อิสรภาพทางการเงิน" หรือพูดง่ายๆว่าลงทุนอย่างเดียวก็หาเลี้ยงชีพได้ไม่ลำบาก...มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ
.
หลังจากวันนั้น มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆที่ไม่เก่งเรื่องการเจรจากับคนแบบผม ก็พับเก็บความฝันที่จะสร้างธุรกิจด้วยตัวเองไปก่อน... "นักลงทุน" กลายเป็นความฝันใหม่ที่ผมคิดว่าสักวันหนึ่งอยากทำอาชีพนี้ เป็นอาชีพหลัก
.
รู้ตัวอีกทีงานการลงทุนก็กลายเป็น "Passion" ที่ผมสนุกที่จะทำทุกวันไม่เคยเบื่อ แม้วันนี้รายได้จากการลงทุนเพียงอย่างเดียวจะยังไม่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่มันก็เติบโตจากวันแรกไปมากๆ ผมมีความสุขในการเห็นมันโตไปเรื่อยๆช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน
.
อย่างไรก็ตามการเป็นนักลงทุน อาจจะเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยเห็นภาพด้านการสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่นมากนัก หากจะพูดว่าเป็นผู้ระดมทุนในธุรกิจเพื่อผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ ก็ดูจะฝื่นๆไปหน่อย แต่สิ่งเล็กๆง่ายๆที่นักลงทุนสามารถทำให้ผู้อื่นได้คือการ "Sharing" ที่ผ่านๆมาการลงทุนส่วนใหญ่ของผมจะเป็นผู้รับสาร จนวันที่ผมเริ่มเขียนบทความต่างๆลงเพจ ดีใจที่หลายๆคนชอบ
ทุกคำขอบคุณมันเติมเต็มจิตใจมากๆ แล้วผมก็พบว่า ผมเจอ Ikigai ของผมแล้ว
.
แต่คุณค่าของการลงทุนไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิต
.
แม้ว่าการลงทุนจะเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต แต่ในบางวันที่ตลาดไม่เป็นใจหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดในบางครั้ง คุณอาจจะผิดหวังกับมัน และการหมกมุ่นกับมันมากเกินไปนั่นก็มีผลเสียหลายเรื่อง โดยเฉพาะด้านสุขภาพกายและจิต คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ของคุณจึงไม่ได้เป็นแค่การลงทุนเพียงอย่างเดียว
.
บางครั้งการทำสิ่งเล็กๆที่สำคัญในชีวิตอย่างสมดุล เช่น การทำงานประจำด้วยความรับผิดชอบและเห็นข้อดี อ่านหนังสือเพิ่มความรู้ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไปเล่นดนตรีกับเพื่อนๆบ้าง การใช้เวลากับคนที่คุณรัก ท่องเที่ยวออกไปดูโลกกว้าง ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมบ้าง หรือแม้แต่การให้เวลาพักอยู่บ้านทำตัวช้าๆทำเรื่องไร้สาระบ้าง ทุกสิ่งล้วนเป็น Ikigai เล็กๆที่ช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน ซึ่งทำให้คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ของคุณนั้นมีความหมายอย่างสมบูรณ์มากขึ้น
.
ทั้งหมดเป็นแค่มุมมองของผมเพียงคนเดียว อาจจะถูกบ้างผิดบ้างนะครับ ใครมีความคิดเห็นอย่างไรสามารถ comment มาคุยกันได้เลยนะครับ : )
Writer: Pocket investor