🟢“หลักการบริหารพอร์ตหุ้นกรณีติดดอย เพื่อการลงทุนระยะยาว” สไตล์หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Introverted investor
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 117
ผู้ติดตาม: 270

🟢“หลักการบริหารพอร์ตหุ้นกรณีติดดอย เพื่อการลงทุนระยะยาว” สไตล์หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี

โพสต์ที่ 1

โพสต์

noname 333.jpg

..................................................................

⭕“3 แนวคิด หากคุณติดดอย (ขาดทุน)”⭕
........................
🔶 “หากเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตดีในอีก 1 – 3 ปีข้างหน้า ควรถือครองต่อไป” สิ่งที่เราต้องใส่ใจและฝึกฝนฝีมือให้ช่ำชองคือ “การคาดการณ์อนาคต” ว่าในระยะอีก 3-5 ปีข้างหน้านับจากวันนี้ รายได้ กำไรสุทธิ หรือกระแสเงินสดซึ่งเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทน่าจะมีขอบเขตตัวเลขประมาณเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญซึ่งจะสร้างโอกาสอันงดงามทางการลงทุนอย่างมหาศาล
...
“นักลงทุนส่วนใหญ่มักทำตัวเหมือนกับว่ามีสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้ลงมือทำอยู่เสมอตลอดเวลา พวกเขาคิดว่าตนเองฉลาดพอที่จะเฟ้นหาการลงทุนที่ดีได้อยู่เรื่อยๆ โอกาสทางการลงทุนอันยอดเยี่ยมนั้นเป็นเรื่องสุดพิเศษ นั่นหมายความว่ามันไม่ได้โผล่มาให้คุณเห็นได้ทุกวันหรอกนะ” : วอเร็น บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)
...
สุดท้ายแล้วในระหว่างกระบวนการประเมินมูลค่าพื้นฐานทางธุรกิจ เราควรทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรกว่าสถานะของบริษัทนั้นๆ กำลังอยู่ในช่วงระยะใดของการเติบโต จะเติบโตในอัตราเร่งเท่าใด และจะเติบโตเช่นนี้ไปได้อีกกี่ปี
........................
🔶 “หากเป็นหุ้นที่พื้นฐานแย่ ควรขายทิ้งทันที เพื่อนำเงินไปเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดี” วิธีเดียวแบบไม่มีทางลัดที่จะทำให้คุณค้นพบหุ้นพื้นฐานดีที่แอบซ่อนอยู่ในตลาดหุ้นก็คือ “การใส่ใจเจาะลึกไปที่รายละเอียด” คุณไม่มีทางค้นพบหรือรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยการนั่งอ่านข่าวหุ้นอยู่เฉยๆ แล้วจบอยู่เพียงแค่ตรงนั้น คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์ให้ลึกลงไปว่าข่าวสารซึ่งคุณได้รับมานั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งใด ก่อให้เกิดเหตุการณ์รูปแบบใดตามมา เหตุการณ์นั้นๆ สามารถคำนวณออกมาเป็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์ได้หรือไม่ และเป็นขอบเขตตัวเลขประมาณเท่าไหร่ การเจาะลึกไปให้ถึงแก่นสารสำคัญของข้อมูลเหล่านี้จะสร้างภาพแห่งอนาคตบางอย่างขึ้นมาในระบบคิดของคุณ ก่อให้เกิดโอกาสทางการลงทุนอันสุดแสนพิเศษ
...
“การขาดทุนหุ้นไม่ใช่เรื่องน่าอาย ที่น่าอายคือการถือหุ้นแย่ๆไว้ แล้วยังไปซื้อเพิ่มในตอนที่พื้นฐานกำลังแย่ลงไปอีก” : ปีเตอร์ ลินซ์ (Peter Lynch)
........................
🔶 “หากไม่มีเงินสดเหลือในมือ แต่เจอหุ้นพื้นฐานดีและมี Upside มากกว่า อาจขายหุ้นดีที่ถือครองอยู่บางส่วน ไปซื้อหุ้นดีที่มี Upside สูงกว่า” การลงทุนระยะยาว ไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นจะต้องหลับหูหลับตาถือหุ้นไปเรื่อยๆ ไม่ยอมขาย โดยไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องความคุ้มค่าและโอกาสใดๆเลย
...
“ภูมิปัญญาของนักลงทุนคือ การเสาะหาความแตกต่างระหว่างมูลค่าและราคาหุ้น” : เบนจามิน เกรแฮม (Benjamin Graham)
................................................

⭕“5 แนวคิดเพื่อการลงทุนระยะยาว”⭕
........................
🔷 “บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันสูง” นักลงทุนในหุ้นมีทางเลือกว่า จะวิเคราะห์ในมุมมองเจ้าของกิจการให้ครบทุกแง่มุม หรือเลือกใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการซื้อขายหุ้นในแต่ละวัน เพียงเพื่อให้รู้สึกว่าได้ลงมือทำอะไรสักอย่าง หากคุณคือ “นักลงทุนระยะยาว” กระบวนการวิเคราะห์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ควรใส่ใจฝึกฝน ผมไม่สนใจเลยว่าตลาดหุ้นจะปิดตัวลงสักหนึ่ง หรือสองปี อย่างไรเสียมันก็ปิดในวันเสาร์และอาทิตย์อยู่ดี ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับผม เป็นความจริงที่ว่า การขยันขันแข็งซื้อขายหุ้นอยู่ในตลาดนั้น สามารถมอบโอกาสดีๆ ให้เสมอ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร : วอเร็น บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)
........................
🔷 “บริษัทอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต หรือช่วงกำลังเร่งตัว” เมื่อสนใจเข้าลงทุนในหุ้นเติบโต ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับอัตราส่วน P/E หรือ PB/V (ราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น : Price to Book Value) แม้กระทั่งอัตราส่วนเงินปันผล ผมคิดว่าการลงทุนในหุ้นเติบโตนั้น “Market Cap.” คือตัวชี้วัดซึ่งสำคัญที่สุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสามารถเผยความลับได้ว่า บริษัทที่คุณสนใจเข้าซื้อลงทุนนั้น ณ ราคาปัจจุบัน ราคายังถูกมาก หรือแพงเกินไปแล้ว หากเรามัวหมกมุ่นอยู่กับอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ ก็คงหมดโอกาสที่จะได้เข้าซื้อเพื่อลงทุนในบริษัทที่ยอดเยี่ยม ธุรกิจในช่วงระยะเริ่มต้นดำเนินกิจการนั้นค่า P/E มักจะสูงมาก เนื่องมาจากผลกำไรสุทธิอันน้อยนิด หรือแม้กระทั่งยังมีผลขาดทุนอยู่ การยึดติดอยู่กับอัตราส่วน P/E ในช่วงระยะเริ่มต้นของการเติบโตจึงเป็นสิ่งไร้ประโยชน์สำหรับผม
........................
🔷 “ผู้บริหารมีความสามารถ และซื่อสัตย์” ผู้บริหารที่น่าชื่นชมคือคนที่รายงานผลประกอบการของบริษัทอย่างตรงไปตรงมา และกล้าที่จะยอมรับในความผิดพลาดอย่างเปิดเผย ไปจนถึงการกระจายความดีความชอบเมื่อพบกับความสำเร็จ การสื่อสารผลการดำเนินงานของบริษัทต้องไม่มีการแอบแฝงตัวเลขใดๆ สิ่งที่จำเป็นต้องถูกรายงานออกมาอย่างครบถ้วน ทั้งนี้ก็เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้อ่านหรือผู้ถือหุ้น : วอเร็น บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)
........................
🔷 “อย่าดูเพียงแค่งบการเงิน” งบการเงินสะท้อนสิ่งที่คาดหวัง แต่เราจำเป็นต้องพิจารณาให้ละเอียดมากกว่าแค่กำไรหรือขาดทุน “การเดินเข้าไปยังร้านค้าและทดลองใช้สินค้าของบริษัทซึ่งคุณกำลังสนใจลงทุน คือสิ่งสำคัญที่สุดในการวิเคราะห์ธุรกิจ (Scuttlebutt) ยังมีอีกหลากหลายวิธีการซึ่งจะทำให้คุณได้ “ข้อมูลวงใน” มาไว้ในครอบครอง มันจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการตัดสินใจลงทุนของคุณอย่างแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” : ปีเตอร์ ลินซ์ (Peter Lynch)
........................
🔷 “บริษัทเอาชนะคู่แข่งในอุตสาหกรรมได้เพิ่มมากขึ้น” ในโลกธุรกิจ ถ้าคุณเก่ง คุณจะทำถูก 6 ใน 10 ครั้ง ไม่มีใครทำถูก 9 ใน 10 ครั้งแน่นอน และการแข่งขันมันไม่สนุกหรอก แต่สนุกที่สุดคือ “การกินรวบ (ผูกขาดทางธุรกิจ)” ปรากฎการณ์ “Winner Take All” คือจุดสูงสุดของระบบทุนนิยม : ปีเตอร์ ลินซ์ (Peter Lynch)
................................................
🖋นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี (เพิ่มเติม : ข้อคิดจากนักลงทุนในตำนาน)
................................................
🔗ขอขอบคุณข้อมูลและเนื้อหาบางส่วนจาก ‘THE STANDARD WEALTH’ : 30/06/2023
...
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊

.................
Blockdit cover 2.jpg
Try to be : Full Time Investor, Reader, Writer, Learner & Cultural observer.
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor
โพสต์โพสต์