เงินปันผลในมุมมองของ Buffett / คนขายของ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 792
ผู้ติดตาม: 123

เงินปันผลในมุมมองของ Buffett / คนขายของ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เงินปันผลในมุมมองของ Buffett / โดย คนขายของ

จากหุ้นประมาณ 500 ตัวในดัชนี S&P500 มีหุ้นอยู่ราว 400 ตัวที่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ หันมาดูตลาดหุ้นไทยพบว่า หุ้นที่อยู่ในดัชนี SET50 ทุกตัวล้วนจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น ในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำมาก ทำให้นักลงทุนทั้งรายบุคคล และ สถาบัน ค้นหาสินทรัพย์ที่สามารถสร้างดอกผลให้ได้อย่างสม่ำเสมอ ตลาดหุ้นจึงเป็นจุดสนใจของผู้คนจำนวนมาก ยิ่งถ้าหากดูผลตอบแทนเฉลี่ยเงินปันผลของตลาดหุ้นไทย ณ เดือนธันวาคม 2561 ซึ่งอยู่ที่ราว 3.22% ซึ่งถ้าเทียบกับผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของไทยซึ่งอยู่ที่ราว 2.5% ก็ดูเหมือนว่าส่วนต่างยังดึงดูดใจให้ผู้คนหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อหาผลตอบแทนจากเงินปันผลกัน หากเงินปันผลสามารถทำให้หุ้นเป็นที่สนใจของนักลงทุนได้ เพราะเหตุใดบริษัท Berkshire Hathaway (BRK) ของ Warren Buffett ถึงมีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผลเลยตั้งแต่เริ่มเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์? Warren Buffett ไม่ชอบเงินปันผลหรืออย่างไร?

APPLE บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ เป็นหุ้นที่ BRK ถือครองมากเป็นอันดับหนึ่ง สร้างเงินปันผลให้ BRK ปีละเกือบพันล้านเหรียญ ซึ่งหากเราดูหุ้นที่ BRK ถือครองในห้าอันดับแรก ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเกือบ 65% ของพอร์ต พบว่าหุ้นทั้งห้าตัวนั้น จ่ายเงินปันผลทุกตัว อยู่ในช่วงตั้งแต่ 1.9% - 5.29% หากคิดคร่าวๆว่าพอร์ตของ BRK สร้างเงินปันผลได้ในอัตราเฉลี่ยที่ 2% จากมูลค่าพอร์ตทั้งหมด 2.2 แสนล้านเหรียญ BRK ของ Buffett จะได้เงินปันผลก่อนภาษีที่ประมาณ 4.4 พันล้าน ซึ่งก็ดูเหมือนว่า Buffett ชอบเงินปันผลอยู่พอสมควร แต่ทำไม BRK ไม่เคยปันผลออกมาเลย แล้ว Buffett นำเงินไปทำอะไร?

Buffett ได้กล่าวไว้ใน Annual Report ของ BRK ในปี 2012 ว่า ผู้บริหารของบริษัทควรนำกำไรที่ได้มาจากการทำธุรกิจไปใช้ใน 4 กิจกรรมดังต่อไปนี้ หนึ่ง นำเงินไปสร้างธุรกิจที่กำลังดำเนินงานอยู่ให้เติบโต สอง นำเงินไปซื้อหรือควบรวมกิจการ สาม นำเงินไปซื้อหุ้นคืน ซึ่งอันนี้ Buffett ได้เน้นย้ำว่าต้องซื้อที่ราคาสมเหตุสมผลเท่านั้น จึงเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง และ ประเด็นสุดท้าย ให้นำเงินนั้นไปจ่ายเป็นปันผล ซึ่ง Buffett ได้บรรยายต่อไปว่า หากบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนในการลงทุนได้ดี การเก็บเงินไว้กับบริษัทเพื่อนำไปลงทุนต่อ จะสามารถสร้างความมั่งคั่งให้ผู้ถือหุ้นได้มากกว่าที่จะจ่ายเป็นเงินปันผลออกไป มาถึงจุดนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า หากบริษัทไม่จ่ายเงินปันผล แล้วผู้ถือหุ้นที่ต้องการดอกผลจากการลงทุนจะทำอย่างไร?

ในเรื่องนี้ Buffett แนะนำว่า ให้ผู้ถือหุ้นแบ่งขายหุ้นที่ถืออยู่ออกไปทีละน้อยแทน ขอยกตัวอย่างเช่น หุ้นตัวหนึ่งในภาวะปกติ จะซื้อขายกันที่ 1.5 เท่าของ Book Value มี ROE 15% หากเก็บกำไรไว้ทั้งหมดไม่ปันผล ทุกๆปี Book Value ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งถ้าหุ้นยังซื้อขายกันที่ 1.5 เท่าของ Book Value เหมือนเดิม ราคาก็น่าจะเพิ่มขึ้น 15% แต่ถ้าบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลที่ 50% ของกำไร Book Value ของบริษัทจะโตเพียง 7.5% ซึ่งราคาหุ้นก็จะโตเพียง 7.5% บนสมมุติฐานเดียวกันกัน แต่ในส่วนเงินปันผลที่จ่ายออกไป จะไม่ได้ premium 1.5 เท่าของ Book Value เหมือนกับการเก็บกำไรไว้ในบริษัท ทำให้ผลตอบแทนโดยรวมของผู้ถือหุ้นได้น้อยกว่า

แต่กระนั้นก็ตาม Buffett ไม่ได้พูดถึงว่า หากผู้ถือหุ้นได้เงินปันผลไป แล้วเอาไปลงทุนต่อในกิจการที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่มากกว่าบริษัท เช่นบางบริษัทเริ่มอิ่มตัว เอาเงินผู้ถือหุ้นไปลงทุนเพิ่ม อาจทำ ROI ได้เพียง 10-12% แต่หากผู้ถือหุ้นเอาไปลงทุนซื้อหุ้นตัวอื่น ซึ่งกำไรกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะ product life cycle กำลังเข้าสู่ช่วงพุ่งทะยานของ S-Curve เขาอาจจะทำ ROI ได้ถึง 20-25% หากนักลงทุนท่านใด มีสายตาในการลงทุนที่แหลมคมเช่นนี้ การได้รับเงินปันผลอาจจะทำให้กำไรโดยรวมของพอร์ตการลงทุนดีกว่าการให้บริษัทนำกำไรเก็บไว้

นอกจากนั้น การเก็บกำไรไว้กับบริษัทในบางกรณี อาจจะไม่เป็นผลดีเสมอไป ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงหลายๆอุตสาหกรรม ด้วยคู่แข่งรายใหม่ที่เร็วกว่า สดกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่า การตั้งสมมุติฐานว่าตลาดจะให้ PBV ที่เท่าเดิม เหมือนเดิมในทุกๆปี อาจจะไม่เป็นจริงเสมอไป อย่างเช่น หุ้นของ WALMART ก่อนที่ค้าปลีกออนไลน์จะมาเป็นที่นิยมกันอย่างมาก PBV ของ WALMART เคยซื้อขายกันในช่วง 6-13 เท่าในยุคก่อนปี 1990 แต่ปัจจุบัน กลับซื้อขายในช่วง 2.3 – 3.9 เท่า แต่ WALMART ยังดี ที่อยู่รอดมาได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ก็มีอีกหลายบริษัทที่ล้มหายตายจากไป บางบริษัทส่วนทุนหดหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะขาดทุนต่อเนื่องกันหลายปี ผมเชื่อว่าในกรณีแบบนี้ นักลงทุนบางท่านคงอยากได้กำเงินปันผลไว้ในมือบ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร

BRK นั้นบริหารโดย Warren Buffett มาอย่างยาวนาน ซึ่ง Buffett นั้นเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าเป็น คนที่ซื่อสัตย์ ทำอะไรตรงไปตรงมา และ มีฝีมือการลงทุนในระดับตำนาน การลงทุนของ Buffett นั้นเต็มไปด้วยความรอบคอบ เน้นไม่ขาดทุนก่อนเป็นหลัก กำไรไม่ต้องสูงสุดก็ได้ แต่ขอให้มั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง Buffett ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้ไม่มีปันผลออกมาเลยให้ผู้ถือหุ้นแม้แต่ปีเดียว แต่หากคุณลงทุนกับ BRK ตั้งแต่ปี 1964 จำนวน 10,000 บาท ถือมาจนถึงตอนนี้ เงินนั้นจะกลายเป็น 75,000,000 บาทในปี 2018 ด้วยผลงานอันน่าทึ่ง อาจทำให้ผู้บริหารบริษัทอื่นๆ ใช้นโยบายไม่ปันผลให้ผู้ถือหุ้นบ้าง โดยอ้างว่าจะเอาไปลงทุนให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ก่อนจะเชื่อขอให้เช็คประวัติก่อนว่าไว้ใจได้ไหม และลงทุนเก่งไหม เพราะถ้าไม่เก่ง จ่ายมาเป็นปันผลให้ผมได้ตัดสินใจเองดีกว่าครับ
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
โพสต์โพสต์