BABA - Alibaba Group Holding Ltd
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
เห็นผลประกอบการแล้ว ตอนแรกไม่คิดว่าจะร่วงเยอะขนาดนี้
ดูตัวเลขต่างๆ ก็โตค่อนข้างดีเลยครับ
Net profit ลดลง 28% จาก share-based compensation expense กับ 1-time charge fee ที่จ่ายเงินกู้ก่อนกำหนด
บวกกลับเข้าไปแล้ว net profit ก็จะใกล้เคียงกับปีที่แล้วเลย
ไม่แน่ใจว่าเจ้า share-based compensation expense นี่ยังจะมีอีกในอนาคตไหมครับ
หรือว่ามีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวครับ
ดูตัวเลขต่างๆ ก็โตค่อนข้างดีเลยครับ
Net profit ลดลง 28% จาก share-based compensation expense กับ 1-time charge fee ที่จ่ายเงินกู้ก่อนกำหนด
บวกกลับเข้าไปแล้ว net profit ก็จะใกล้เคียงกับปีที่แล้วเลย
ไม่แน่ใจว่าเจ้า share-based compensation expense นี่ยังจะมีอีกในอนาคตไหมครับ
หรือว่ามีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวครับ
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
- leaderinshadow
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- Posts: 1765
- Joined: Wed Oct 26, 2005 12:28 pm
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
ใครต้องการศึกษา อาลีบาบา แนะนำเล่มนี้เลยครับ
https://se-ed.com/product/%E0%B8%8A%E0% ... 9742282240
https://se-ed.com/product/%E0%B8%8A%E0% ... 9742282240
- Attachments
-
- jack ma book_378.jpg (53.43 KiB) Viewed 1551 times
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
พี่วีระพงษ์เขียนถึง Baba ครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=59198
อันนี้เป็นของคุณอาร์ม ตั้งนิรันดร์ครับ
http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/635665
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=59198
อันนี้เป็นของคุณอาร์ม ตั้งนิรันดร์ครับ
http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/635665
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
Alibaba Revenue Jumps 32%, Boosted by Mobile Shopping
http://www.morningstar.com/news/dow-jon ... pping.html
http://www.morningstar.com/news/dow-jon ... pping.html
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
บทวิเคราะห์จาก MBKET ครับ
https://tradingm.maybank-ke.co.th/rdbs/ ... A_GRP_.pdf
https://tradingm.maybank-ke.co.th/rdbs/ ... A_GRP_.pdf
Invest or Don't. There is no try.
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
MBKET ปรับ target price เพิ่มขึ้นจาก....
https://tradingm.maybank-ke.co.th/rdbs/ ... A_GRP_.pdf
https://tradingm.maybank-ke.co.th/rdbs/ ... A_GRP_.pdf
Invest or Don't. There is no try.
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
พาตะลุย Alibaba เจอ Jack Ma EP.1
https://m.youtube.com/watch?v=Qy6ViBvWCn0
EP.2 ไปดูภารกิจของ"แจ๊กหม่า"กันต่อ กับ Alibaba Cloud ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลก!
https://m.youtube.com/watch?v=btXxNhoqizU
https://m.youtube.com/watch?v=Qy6ViBvWCn0
EP.2 ไปดูภารกิจของ"แจ๊กหม่า"กันต่อ กับ Alibaba Cloud ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลก!
https://m.youtube.com/watch?v=btXxNhoqizU
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
Alibaba ขอซื้อที่ดินแทนเช่า แลกลงทุนหมื่นล้านบูม EEC
Jack Ma ยื่นข้อเสนอใหม่ “ฮับโลจิสติกส์” ในไทย ขอเปลี่ยนจากการ “เช่าที่ดิน” เป็น “ซื้อที่ดิน” แทน ปั้นฮับไทยให้ยิ่งใหญ่ EEC-BOI หาช่องดึง Alibaba ลงทุน เปิด พ.ร.บ. EEC ให้ถือกรรมสิทธิ์ได้แค่เช่า 49+50 ปี พ.ร.บ. BOI ให้ซื้อที่ดินได้แต่สิทธิประโยชน์น้อยกว่า ส่วน WHA มั่นใจดีลเช่าที่ยังไม่ล้ม
https://www.prachachat.net/economy/news-251613
Jack Ma ยื่นข้อเสนอใหม่ “ฮับโลจิสติกส์” ในไทย ขอเปลี่ยนจากการ “เช่าที่ดิน” เป็น “ซื้อที่ดิน” แทน ปั้นฮับไทยให้ยิ่งใหญ่ EEC-BOI หาช่องดึง Alibaba ลงทุน เปิด พ.ร.บ. EEC ให้ถือกรรมสิทธิ์ได้แค่เช่า 49+50 ปี พ.ร.บ. BOI ให้ซื้อที่ดินได้แต่สิทธิประโยชน์น้อยกว่า ส่วน WHA มั่นใจดีลเช่าที่ยังไม่ล้ม
https://www.prachachat.net/economy/news-251613
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
Cloud Computing จะเป็นธุรกิจหลักของ Alibaba ในอนาคต ทุกๆธุรกิจในอนาคตจะถูกขับเคลื่อนด้วยระบบ Cloud ซึ่ง Alibaba ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในด้าน Cloud Computing เพื่อให้บริการแก่ธุรกิจต่างๆไว้แล้ว
โดยใน September Quarter 2018 Alibaba Cloud ก็ยังห้าวไม่หยุดรายได้เพิ่มขึ้น 90% YoY อยู่ที่ US$825 million คิดเป็น 7% จากรายได้ทั้งหมดของ Alibaba จาก 5%ในปีที่แล้ว โดยสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ รวมถึงการออกสินค้าและบริการใหม่ ทำให้จำนวนลูกค้าที่จ่ายค่าบริการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติใหม่ๆกว่า 600 รายการ ทั้งในด้าน AI, Big Data, นวัตกรรมใหม่ๆ, ระบบรักษาความปลอดภัยและ IoT
ในเดือนกันยายน 2018 Alibaba Cloud ได้เปิดตัว Apsara 2.0 ระบบปฏิบัติการตัวใหม่สำหรับระบบ Cloud Computing ระบบปฏิบัติการใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณให้กับองค์กรต่างๆ รวมถึงระบบ Hybrid Cloud และการเชื่อมต่อกับเครือข่าย ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถใช้โซลูชัน Alibaba Cloud IoT ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆ เข้ากับระบบ Cloud ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เปิด Data Center ใหม่พร้อมกันถึง 2 แห่งในลอนดอนเพื่อบุกตลาดในอังกฤษและยุโรป เพื่อให้บริการ 2 Availability Zone ก่อนหน้านั้น Alibaba Cloud ได้เปิด Data Center ที่ แฟรงค์เฟิร์ต และ ดูไบ เพื่อให้บริการลูกค้าในยุโรปโดยเฉพาะ Alibaba Cloud ในลอนดอนจะมีทีม Security และวิศวกรคอยดูแลและสนับสนุนการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงโดยรองรับบริการที่หลากหลายทั้ง Elastic Computing, Storage, Database, Network, Application Services และ Big Data Analytics การเปิด Data Center เพิ่มในครั้งนี้จะทำให้ตอนนี้ Alibaba Cloud มี 52 Availability Zone ใน 19 ประเทศทั่วโลก
Alibaba aims to make cloud computing its 'main business'
https://www.cnbc.com/2018/11/09/alibaba ... uture.html
Alibaba Cloud Expands European Presence with UK Data Centres
https://www.alibabagroup.com/en/news/ar ... ws=p181022
#AlibabaCloud
โดยใน September Quarter 2018 Alibaba Cloud ก็ยังห้าวไม่หยุดรายได้เพิ่มขึ้น 90% YoY อยู่ที่ US$825 million คิดเป็น 7% จากรายได้ทั้งหมดของ Alibaba จาก 5%ในปีที่แล้ว โดยสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ รวมถึงการออกสินค้าและบริการใหม่ ทำให้จำนวนลูกค้าที่จ่ายค่าบริการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติใหม่ๆกว่า 600 รายการ ทั้งในด้าน AI, Big Data, นวัตกรรมใหม่ๆ, ระบบรักษาความปลอดภัยและ IoT
ในเดือนกันยายน 2018 Alibaba Cloud ได้เปิดตัว Apsara 2.0 ระบบปฏิบัติการตัวใหม่สำหรับระบบ Cloud Computing ระบบปฏิบัติการใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณให้กับองค์กรต่างๆ รวมถึงระบบ Hybrid Cloud และการเชื่อมต่อกับเครือข่าย ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถใช้โซลูชัน Alibaba Cloud IoT ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆ เข้ากับระบบ Cloud ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เปิด Data Center ใหม่พร้อมกันถึง 2 แห่งในลอนดอนเพื่อบุกตลาดในอังกฤษและยุโรป เพื่อให้บริการ 2 Availability Zone ก่อนหน้านั้น Alibaba Cloud ได้เปิด Data Center ที่ แฟรงค์เฟิร์ต และ ดูไบ เพื่อให้บริการลูกค้าในยุโรปโดยเฉพาะ Alibaba Cloud ในลอนดอนจะมีทีม Security และวิศวกรคอยดูแลและสนับสนุนการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงโดยรองรับบริการที่หลากหลายทั้ง Elastic Computing, Storage, Database, Network, Application Services และ Big Data Analytics การเปิด Data Center เพิ่มในครั้งนี้จะทำให้ตอนนี้ Alibaba Cloud มี 52 Availability Zone ใน 19 ประเทศทั่วโลก
Alibaba aims to make cloud computing its 'main business'
https://www.cnbc.com/2018/11/09/alibaba ... uture.html
Alibaba Cloud Expands European Presence with UK Data Centres
https://www.alibabagroup.com/en/news/ar ... ws=p181022
#AlibabaCloud
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
ขณะที่ “ยอดรวมมูลค่าสินค้า” (GMV : Gross Merchandise Volume ในงานมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 เป็นมูลค่ารวมที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มการค้าปลีกของ Alibaba, LAZADA, Ali Express ในช่วง 24 ชั่วโมงของวันที่ 11 พฤศจิกายน และชำระผ่าน Alipay ซึ่งเป็นข้อมูลที่อ้างอิงเรียลไทม์ และรวมค่าขนส่ง (ถ้ามี) ธุรกรรมเกี่ยวข้องกับแบรนด์ต่างประเทศ (แบรนด์ที่สร้างขึ้นนอกจีนแผ่นดินใหญ่) และข้อมูลผู้ใช้สำหรับ Tmall เท่านั้น) ในปี 2018 ทำได้ 213,500 ล้านหยวน (30,800 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- “ไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค” ดูแลรับผิดชอบการส่งสินค้า 1,000 ล้านออเดอร์
- กว่า 180,000 แบรนด์ เข้าร่วมในเทศกาล
- ผู้บริโภคกว่า 40% ซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์ต่างชาติ
- มี 237 แบรนด์ที่มียอด GMV สูงกว่า 100 ล้านหยวน อาทิ Apple, Dyson, Kindle, Estée Lauder, L’Oréal, Nestlé, Gap, Nike และ Adidas
- ประเทศที่ขายสินค้าให้กับจีนในงานนี้สูงสุดคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และเยอรมนี
- 230 ประเทศ/เขต เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
- ลาซาด้า เข้าร่วม 11.11 ในฐานะหนึ่งในอีโคซิสเท็มของอาลีบาบา นำเสนองานเทศกาลนี้ให้กับผู้บริโภคในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
- “ไช่เหนียว เน็ตเวิร์ค” ดูแลรับผิดชอบการส่งสินค้า 1,000 ล้านออเดอร์
- กว่า 180,000 แบรนด์ เข้าร่วมในเทศกาล
- ผู้บริโภคกว่า 40% ซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์ต่างชาติ
- มี 237 แบรนด์ที่มียอด GMV สูงกว่า 100 ล้านหยวน อาทิ Apple, Dyson, Kindle, Estée Lauder, L’Oréal, Nestlé, Gap, Nike และ Adidas
- ประเทศที่ขายสินค้าให้กับจีนในงานนี้สูงสุดคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และเยอรมนี
- 230 ประเทศ/เขต เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
- ลาซาด้า เข้าร่วม 11.11 ในฐานะหนึ่งในอีโคซิสเท็มของอาลีบาบา นำเสนองานเทศกาลนี้ให้กับผู้บริโภคในสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
- Attachments
-
- 650BF0ED-B7B7-4DD2-8DD5-B9A7D7CFEF1F.png (488.37 KiB) Viewed 825 times
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
เสร็จสิ้นมหกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ระดับโลกกันไปแล้ว สำหรับ “11.11 Global Shopping Festival” ที่มีจุดเริ่มต้นจากการที่ “Jack Ma” ผู้ก่อตั้งอาณาจักร “Alibaba Group” มองเห็นโอกาสของ “วันคนโสด” (Singles Day) ในวันที่ 11 เดือน 11 ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1993 โดยนักศึกษากลุ่มหนึ่งของมหาวิทยาลัย Nanjing ได้ผุดไอเดียที่อยากให้คนโสดมารวมตัวกัน เพื่อเฉลิมฉลองกับ “ความโสด”
อีเว้นท์ 11.11 Shopping Festival จึงเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 2009 ในปีแรกมีร้านค้าเข้าร่วมกับ “Alibaba” เพียง 27 ร้าน/แบรนด์ และเมื่อสิ้นสุดกิจกรรม ทำยอดขายกว่า 7 ล้านเหรียญ
แต่รู้หรือไม่ ?!? นับจากปีแรกที่จัดอีเว้นท์ขึ้น จนถึงปี 2018 ในทุกปี จะมีการเติบโต ทั้งจำนวนร้านค้า – แบรนด์ชั้นนำระดับโลกเข้าร่วมอีเว้นท์ – ยอดขายสินค้า – ยอดการทำธุรกรรม – ยอดการจัดส่ง – การขยายจากตลาดจีน ไปสู่การเป็นมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก ที่คนทั่วโลกสามารถสั่งซื้อได้ พร้อมทั้งจัดส่งในเวลาอันรวดเร็ว และที่สำคัญ คือ สัดส่วนการสั่งซื้อสินค้าผ่าน “สมาร์ทโฟน” เพิ่มขึ้น จนกลายเป็นช่องทางหลักของการซื้อสินค้าออนไลน์ไปแล้ว
มองในอีกมิติหนึ่ง มหกรรม “11.11” ไม่ใช่เป็นเพียงเทศกาลช้อปปิ้งเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนภาพ “พลังอำนาจซื้อของมหาชนคนจีน” ที่ทุกวันนี้แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคชาวจีนมาเป็นลำดับแรกๆ
อาจกล่าวได้ว่าปัจจุบันการเติบโตด้านยอดขายของบรรดาแบรนด์ใหญ่ระดับโลก และแบรนด์หรูหลายแบรนด์ มาจาก “ตลาดจีน” เป็นหลัก !!
เพราะฉะนั้นสำหรับ มหกรรม “11.11” ซึ่งเป็นเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ใหญ่สุดแห่งปี ที่ชาวจีนทุกคนต่างรอคอย นั่นหมายความคนจีน พร้อมเต็มที่ที่จะใช้จ่ายไม่อั้น สิ่งที่ตามมาคือ เม็ดเงินสะพัดบนระบบ Digital Payment และแน่นอนว่าแบรนด์น้อยใหญ่ก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน “Alibaba” ได้ทลายกำแพงมหกรรม “11.11” ที่แต่เดิมจัดขึ้นเฉพาะในจีน ให้กลายเป็นมหกรรมแห่ง Globalization อย่างแท้จริง ที่ทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงเทศกาลช้อปปิ้งนี้ได้ ไม่เว้นแม้แต่โซนอาเซียน ที่ “Alibaba” เข้าซื้อกิจการ “LAZADA” เพื่อบุกตลาดอาเซียน โดยปีนี้ นับเป็นปีแรกที่ LAZADA เชื่อมต่อกิจกรรม และระบบ “11.11” กับ “Alibaba” อย่างเต็มรูปแบบ
ดังที่ แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Alibaba Group กล่าวไว้ว่า “มหกรรม 11.11 ในปีนี้ เราได้เห็นความแข็งแกร่งและการเติบโตของเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภคของจีน จากการที่ผู้บริโภคมุ่งแสวงหาการยกระดับการใช้ชีวิตประจำวัน
การที่ธุรกิจในระบบนิเวศทั้งหมดของ Alibaba ได้เข้าร่วมในงานนี้ ทำให้แบรนด์และพันธมิตรร้านค้าต่าง ๆ สามารถสร้างการปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในอนาคต อาลีบาบาจะยังคงเป็นผู้นำวิวัฒนาการเพื่อก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ดิจิทัลในอนาคต”
อีเว้นท์ 11.11 Shopping Festival จึงเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 2009 ในปีแรกมีร้านค้าเข้าร่วมกับ “Alibaba” เพียง 27 ร้าน/แบรนด์ และเมื่อสิ้นสุดกิจกรรม ทำยอดขายกว่า 7 ล้านเหรียญ
แต่รู้หรือไม่ ?!? นับจากปีแรกที่จัดอีเว้นท์ขึ้น จนถึงปี 2018 ในทุกปี จะมีการเติบโต ทั้งจำนวนร้านค้า – แบรนด์ชั้นนำระดับโลกเข้าร่วมอีเว้นท์ – ยอดขายสินค้า – ยอดการทำธุรกรรม – ยอดการจัดส่ง – การขยายจากตลาดจีน ไปสู่การเป็นมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก ที่คนทั่วโลกสามารถสั่งซื้อได้ พร้อมทั้งจัดส่งในเวลาอันรวดเร็ว และที่สำคัญ คือ สัดส่วนการสั่งซื้อสินค้าผ่าน “สมาร์ทโฟน” เพิ่มขึ้น จนกลายเป็นช่องทางหลักของการซื้อสินค้าออนไลน์ไปแล้ว
มองในอีกมิติหนึ่ง มหกรรม “11.11” ไม่ใช่เป็นเพียงเทศกาลช้อปปิ้งเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนภาพ “พลังอำนาจซื้อของมหาชนคนจีน” ที่ทุกวันนี้แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคชาวจีนมาเป็นลำดับแรกๆ
อาจกล่าวได้ว่าปัจจุบันการเติบโตด้านยอดขายของบรรดาแบรนด์ใหญ่ระดับโลก และแบรนด์หรูหลายแบรนด์ มาจาก “ตลาดจีน” เป็นหลัก !!
เพราะฉะนั้นสำหรับ มหกรรม “11.11” ซึ่งเป็นเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ใหญ่สุดแห่งปี ที่ชาวจีนทุกคนต่างรอคอย นั่นหมายความคนจีน พร้อมเต็มที่ที่จะใช้จ่ายไม่อั้น สิ่งที่ตามมาคือ เม็ดเงินสะพัดบนระบบ Digital Payment และแน่นอนว่าแบรนด์น้อยใหญ่ก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน “Alibaba” ได้ทลายกำแพงมหกรรม “11.11” ที่แต่เดิมจัดขึ้นเฉพาะในจีน ให้กลายเป็นมหกรรมแห่ง Globalization อย่างแท้จริง ที่ทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงเทศกาลช้อปปิ้งนี้ได้ ไม่เว้นแม้แต่โซนอาเซียน ที่ “Alibaba” เข้าซื้อกิจการ “LAZADA” เพื่อบุกตลาดอาเซียน โดยปีนี้ นับเป็นปีแรกที่ LAZADA เชื่อมต่อกิจกรรม และระบบ “11.11” กับ “Alibaba” อย่างเต็มรูปแบบ
ดังที่ แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Alibaba Group กล่าวไว้ว่า “มหกรรม 11.11 ในปีนี้ เราได้เห็นความแข็งแกร่งและการเติบโตของเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภคของจีน จากการที่ผู้บริโภคมุ่งแสวงหาการยกระดับการใช้ชีวิตประจำวัน
การที่ธุรกิจในระบบนิเวศทั้งหมดของ Alibaba ได้เข้าร่วมในงานนี้ ทำให้แบรนด์และพันธมิตรร้านค้าต่าง ๆ สามารถสร้างการปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในอนาคต อาลีบาบาจะยังคงเป็นผู้นำวิวัฒนาการเพื่อก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ดิจิทัลในอนาคต”
- Attachments
-
- 53612E99-FBF7-4C72-B252-5F34247F69AC.png (1.01 MiB) Viewed 824 times
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
P/E P/BV หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจากต่างประเทศครับ
- Attachments
-
- D480B83D-BB9B-400F-9ECF-CFBADCA6EE91.jpeg (269.5 KiB) Viewed 605 times
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
ขอบคุณครับ
ราคานี้ มี forward pe ปี 20 อยู่ 19-20 แล้ว เหมือนที่ผ่านๆ มา ตลาดจะผันผวนตาม ข่าว trade war ซะเยอะครับ
ราคานี้ มี forward pe ปี 20 อยู่ 19-20 แล้ว เหมือนที่ผ่านๆ มา ตลาดจะผันผวนตาม ข่าว trade war ซะเยอะครับ
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
วิวัฒนาการ Alibaba
มรดกจาก Jack Ma
วันที่ 10 กันยายน 2019 คือวันที่คุณ Jack Ma ได้ก้าวลงจากการเป็นประธานบริหารบริษัท Alibaba ที่เขาได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ชายคนนี้ได้สร้างตำนานในด้าน Ecommerce ไว้อย่างมากมาย และที่สำคัญกว่า เขาสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปปิ้งของคนจีนรวมถึงคนเอเชียได้หลายร้อยล้านคน บุคคลที่จะมารับตำแหน่งแทนคือคุณ Daniel Zhang มาดูกันว่า 20 ปีที่ผ่านมา Jack Ma ได้สร้างอะไรไว้บ้าง จากบริษัท Ecommerce ทั่วไป จนเป็นบริษัทที่ครบวงจร มีครบตั้งแต่ระบบขนส่งอันทันสมัย ธุรกิจส่งอาหาร รวมไปถึงธุรกิจ Cloud Computing ที่เติบโตสูงมากในแต่ละปี ทาง CNBC ได้ทำเหตุการณ์สำคัญของบริษัท Alibaba ไว้ ขอเอามาสรุปเพื่อเล่าให้ฟังกัน
เมษายน 1999 ปีแห่งการเริ่มต้น
Alibaba ได้ก่อตั้งขึ้นด้วยกลุ่มคน 18 คนที่เชื่อในวิสัยทัศน์ของ Jack Ma ในช่วงแรก ออฟฟิศคือห้องพักของ Jack Ma ในเมืองหางโจวที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Alibaba ในปัจจุบัน เวปไซด์แรกของเขาคือ Alibaba.com ซึ่งเป็นเวปไซด์ภาษาอังกฤษ โดยให้บริการศูนย์กลางของผู้ค้าส่งสำหรับคนที่สนใจซื้อสินค้าราคาส่งจากจีน (B2B หรือ Business to Business)
มกราคม 2000 เทวดาแห่งวงการ start-up มาลงทุนในบริษัท
บริษัท Softbank แห่งประเทศญี่ปุ่นได้มาลงทุนใน Alibaba เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านเหรียญ โดย Jack Ma เปิดเผยว่า การพูดคุยระหว่างเขากับคุณมาซาโยชิ ซัน CEO ของ SoftBank ไม่ได้พูดถึงเรื่องรายได้หรือโมเดลในการทำธุรกิจเลย เราแค่แลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์กันเท่านั้น การตัดสินใจในการลงทุนก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
พฤษภาคม 2003 Taobao ได้กำเนิดขึ้น
Taobao เวปไซด์สื่อกลางที่ให้บริการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายรายย่อยได้มาเจอกัน (B2C หรือ Business to Customer และ C2C หรือ Customer to Customer) Taobao มีความคล้ายกับ Ebay ในหลายๆ ส่วน แต่ส่วนที่แตกต่างคือ Taobao ให้ผู้ซื้อและผู้ขายคุยกันได้อย่างอิสระ และไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหมือน Ebay
ธันวาคม 2004 เปิดให้บริการ Alipay
เมื่อมีศูนย์กลางสำหรับซื้อขายสินค้าแล้ว ก็ต้องมีเครื่องมือสำหรับการจ่ายและรับเงินเช่นกัน ปัจจุบัน Alipay คือ 1 ใน 2 ของระบบ digital payment ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน อีกเจ้าหนึ่งคือ WeChat ที่ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท Tencent การใช้งานสำหรับ Alipay สามารถใช้ได้บนร้านค้าปกติผ่านการสแกน QR Code หรือใช้ในการซื้อขายบนระบบออนไลน์ก็ได้เช่นกัน
สิงหาคม 2005 บริษัท Yahoo จากสหรัฐฯ กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด
Yahoo ได้ใส่เงินลงทุนไปในบริษัท 1 พันล้านเหรียญและถือหุ้น 40% ในบริษัท กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด และในส่วนหนึ่งของข้อตกลง Alibaba จะเป็นผู้บริหารธุรกิจของ Yahoo ในประเทศจีน
พฤศจิกายน 2007 นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง
ก่อนที่ Alibaba จะไปจดทะเบียนที่ตลาดหุ้นประเทศสหรัฐฯ ได้มีการ IPO ในฮ่องกงก่อน ในการระดมทุนครั้งนั้น Alibaba ได้เงินไปกว่า 13,100 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือกว่า 50,000 ล้านบาท ในสมัยนี้อาจจะดูเหมือนไม่เยอะ แต่ในสมัยเมื่อ 12 ปีที่แล้วก็ถือว่ามากพอสมควร ราคา IPO อยู่ที่ 13.50 เหรียญฮ่องกง การซื้อขายวันแรกขึ้นไปทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 39.50 เหรียญฮ่องกง หรือปรับตัวขึ้น 193%
เมษายน 2008 Tmall ได้กำเนิดขึ้น
Tmall หรือชื่อเต็มคือ Taobao Mall ปัจจุบัน Tmall มีความสำคัญสำหรับ Alibaba มากในด้านรายได้ ธุรกิจของ Tmall คือเป็นศูนย์กลางให้สินค้าจากต่างประเทศมาตั้งร้านค้าออนไลน์เพื่อขายให้กับผู้บริโภคชาวจีน มีสินค้าหลากหลายประเภทตั้งแต่สินค้าหรูหรา เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่ของกิน จุดแตกต่างของ Tmall กับ Taobao คือ Tmall ตั้งขึ้นสำหรับแบรนด์สินค้าจากต่างประเทศขายให้คนจีน (B2C) แต่ Taobao จะเป็นผู้ขายคนจีนขายให้คนจีน (B2C และ C2C)
กันยายน 2009 เปิดตัวธุรกิจ Cloud
ปัจจุบัน ธุรกิจ Cloud Computing ถือเป็นธุรกิจที่ทำรายได้มาเป็นอันดับ 2 ให้กับ Alibaba และยังเป็นธุรกิจที่เติบโตสูงที่สุดในเครือ เมื่อปีที่ผ่านมา Danial Zhang CEO คนปัจจุบันได้เคยให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ว่าธุรกิจ Cloud Computing จะเป็นธุรกิจหลักของบริษัทในอนาคต
พฤศจิกายน 2009 เปิดตัวมหกรรมวันคนโสด
วันที่ 11 เดือน 11 ถูกขนานนามว่าเป็นวันคนโสดโดยทาง Alibaba เป็นผู้เริ่มต้นเทศกาลนี้ และเมื่อคุณโสดไม่ได้ไปไหน ก็มาช็อปปิ้งกันดีกว่า วันที่ 11 เดือน 11 เป็นวันที่มีการซื้อขายออนไลน์สูงที่สุดในรอบปี และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การซื้อขายในวันนี้ ทางผู้ขายจะมีส่วนลดพิเศษกว่าวันอื่นๆ ในปี 2009 ยอดขายในวันคนโสดอยู่ที่ 7.8 ล้านเหรียญ หรือราว 240 ล้านบาท ล่าสุดปี 2018 ยอดขายในวันคนโสดอยู่ที่ระดับ 30,800 ล้านเหรียญ หรือราว 950,000 ล้านบาท
มิถุนายน 2012 Alibaba เพิกถอนการจดทะเบียนออกจากตลาดหุ้นฮ่องกง
หลังจากจดทะเบียนบริษัทในตลาดหุ้นฮ่องกงเพียง 5 ปี บริษัทก็ขอเพิกถอนการจดทะเบียนออกจากตลาดหุ้นฮ่องกง และจ่ายเงินซื้อหุ้นทั้งหมดที่ถือโดยนักลงทุน 27% ขึ้นมาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,450 ล้านเหรียญหรือราว 75,000 ล้านบาท Jack Ma ได้เปิดเผยว่า สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้บริษัทถอนตัวจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนคือเรื่องของความคล่องตัวในการทำธุรกิจ
กันยายน 2012 Alibaba ซื้อหุ้นคืนจากกลุ่ม Yahoo
Alibaba ได้ซื้อหุ้น 20% จาก 40% ที่ทาง Yahoo ถืออยู่ โดยใช้เงินทั้งสิน 7,600 ล้านเหรียญ หรือราว 235,000 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างงามสำหรับ Yahoo ที่ลงทุนเพียง 1,000 ล้านเหรียญในปี 2005กันยายน 2014 เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
Alibaba ได้กลับมาเป็นบริษัทมหาชนอีกครั้ง โดยคราวนี้จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และถือเป็นการ IPO ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ สามารถระดมทุนได้กว่า 25,000 ล้านเหรียญ หรือราว 775,000 ล้านบาท
ตุลาคม 2014 กำเนิดธุรกิจใหม่ Ant Financial
Ant Financial ถูกตั้งขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่จะขยายธุรกิจไปในอุตสาหกรรมการเงิน หรือที่เรียกกันว่า Fintech ปัจจุบัน Ant Financial คือบริษัท Fintech ที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีมูลค่าประมาณ 150,000 ล้านเหรียญ หรือราว 4.65 ล้านล้านบาท
สิงหาคม 2015 ลงทุนในบริษัท Suning ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศจีน
Alibaba ได้ลงทุนในบริษัท Suning โดยใช้เม็ดเงินประมาณ 4,560 ล้านเหรียญหรือราว 141,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบร้านค้าดั้งเดิม เป็นการส่งสัญญาณให้ตลาดจีนและตลาดโลกรู้ว่า Alibaba กำลังจะมีธุรกิจใหม่สำหรับการค้าปลีก โดยการนำออนไลน์มารวมกับออฟไลน์ เพื่อให้ระบบนิเวศน์ของ Alibaba มีความสมบูรณ์และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เมษายน 2016 Alibaba ได้เน้นไปที่ตลาดต่างประเทศมากขึ้นAlibaba ได้ลงทุนในกิจการ Lazada จากกลุ่ม Rocket Internet ของประเทศเยอรมนี ด้วยเงินประมาณ 1,000 ล้านเหรียญ โดยเป็นการซื้อจากเจ้าของเดิม 500 ล้านเหรียญ และใส่เงินลงไปในธุรกิจอีก 500 ล้านเหรียญ โดยหวังที่จะเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจากการเติบโตของคนชั้นกลางในประเทศเหล่านี้
กันยายน 2019 Jack Ma ได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานบริหาร Jack Ma ได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานบริหาร Alibaba โดย Daniel Zhang, CEO คนปัจจุบันจะก้าวขึ้นมาเป็นแทน โดยทาง Jack Ma จะยังคงเป็นคณะกรรมการบริษัทจนถึงการประชุมประจำปีของบริษัทในปี 2020 เป็นการก้าวลงจากตำแหน่งสูงสุดในบริษัทที่เขาได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ตั้งแต่ IPO ครั้งที่ 2 ที่ตลาดหุ้น New York ที่ราคา 68 เหรียญในวันที่ 19 กันยายน 2014 ผ่านไปเกือบ 5 ปี ราคา ณ วันที่ 9 เดือน 9 ปิดไปที 177.78 เหรียญ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันที่เข้าตลาด 161% หรือปรับขึ้นมากกว่า 20% แบบทบต้น
ธุรกิจ Ecommerce ใครๆ ก็ทำได้ มี Barrier to Entry ต่ำ ใช้เงินเริ่มต้นไม่สูง แต่คนที่จะประสบความสำเร็จได้มีไม่มากนัก ผู้ก่อตั้งมีความสำคัญสูงมาก เพราะวิสัยทัศน์ของเขาจะเป็นตัวกำหนดว่าจะได้เงินลงทุนจาก Venture Capital หรือป่าว ซึ่งถ้าไม่ได้เงินลงทุนจาก VC ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโตต่อไปได้ คุณ Jack Ma ได้ทำให้วิสัยทัศน์ของเขากลายเป็นธุรกิจจริง มีความแข็งแกร่งระดับต้นๆ ของประเทศจีน จนถึงวันที่เขาก้าวลงจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด บริษัทก็ยังไปต่อได้อย่างไม่ลำบากเพราะไว้วางรากฐานทั้งหมดไว้จนเข้มแข็งแล้ว สิ่งที่ท้าทาย Alibaba ในอนาคตคือการเจาะตลาดในภูมิภาคอาเซียนให้ได้มากขึ้น เพราะเป็นภูมิภาคที่มีการเติบดตค่อนข้างสูง นี่เป็นอีกตัวอย่างที่สำคัญของการลงทุน ธุรกิจที่ดีก็ต้องมาคู่กับผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมด้วย และผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมจะสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นมา สิ่งที่ตามมาคือราคาหุ้นที่จะไปในทิศทางเดียวกับผลประกอบการ
10 กันยายน คือวันที่ชายที่ชื่อ หม่า หยุน หรือที่คนทั่วโลกรู้จักกันในนาม Jack Ma ได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 55 ปี ด้วยการลงจากตำแหน่งบริหารสูงสุดในฐานะบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศจีน ยังไม่ทราบได้ว่า ต่อจากนี้เขาจะทำอะไรต่อไป จะไปเป็นอาจารย์เหมือนที่เขาเคยพูดไว้หรือไม่ก็ต้องรอดูกันไป แต่มรดกทางความคิดและการมาเปลี่ยนพฤติกรรมการช็อปปิ้งของคนหลายร้อยล้านคนคงจะอยู่ไปอีกนาน
มรดกจาก Jack Ma
วันที่ 10 กันยายน 2019 คือวันที่คุณ Jack Ma ได้ก้าวลงจากการเป็นประธานบริหารบริษัท Alibaba ที่เขาได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ชายคนนี้ได้สร้างตำนานในด้าน Ecommerce ไว้อย่างมากมาย และที่สำคัญกว่า เขาสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปปิ้งของคนจีนรวมถึงคนเอเชียได้หลายร้อยล้านคน บุคคลที่จะมารับตำแหน่งแทนคือคุณ Daniel Zhang มาดูกันว่า 20 ปีที่ผ่านมา Jack Ma ได้สร้างอะไรไว้บ้าง จากบริษัท Ecommerce ทั่วไป จนเป็นบริษัทที่ครบวงจร มีครบตั้งแต่ระบบขนส่งอันทันสมัย ธุรกิจส่งอาหาร รวมไปถึงธุรกิจ Cloud Computing ที่เติบโตสูงมากในแต่ละปี ทาง CNBC ได้ทำเหตุการณ์สำคัญของบริษัท Alibaba ไว้ ขอเอามาสรุปเพื่อเล่าให้ฟังกัน
เมษายน 1999 ปีแห่งการเริ่มต้น
Alibaba ได้ก่อตั้งขึ้นด้วยกลุ่มคน 18 คนที่เชื่อในวิสัยทัศน์ของ Jack Ma ในช่วงแรก ออฟฟิศคือห้องพักของ Jack Ma ในเมืองหางโจวที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Alibaba ในปัจจุบัน เวปไซด์แรกของเขาคือ Alibaba.com ซึ่งเป็นเวปไซด์ภาษาอังกฤษ โดยให้บริการศูนย์กลางของผู้ค้าส่งสำหรับคนที่สนใจซื้อสินค้าราคาส่งจากจีน (B2B หรือ Business to Business)
มกราคม 2000 เทวดาแห่งวงการ start-up มาลงทุนในบริษัท
บริษัท Softbank แห่งประเทศญี่ปุ่นได้มาลงทุนใน Alibaba เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านเหรียญ โดย Jack Ma เปิดเผยว่า การพูดคุยระหว่างเขากับคุณมาซาโยชิ ซัน CEO ของ SoftBank ไม่ได้พูดถึงเรื่องรายได้หรือโมเดลในการทำธุรกิจเลย เราแค่แลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์กันเท่านั้น การตัดสินใจในการลงทุนก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
พฤษภาคม 2003 Taobao ได้กำเนิดขึ้น
Taobao เวปไซด์สื่อกลางที่ให้บริการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายรายย่อยได้มาเจอกัน (B2C หรือ Business to Customer และ C2C หรือ Customer to Customer) Taobao มีความคล้ายกับ Ebay ในหลายๆ ส่วน แต่ส่วนที่แตกต่างคือ Taobao ให้ผู้ซื้อและผู้ขายคุยกันได้อย่างอิสระ และไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหมือน Ebay
ธันวาคม 2004 เปิดให้บริการ Alipay
เมื่อมีศูนย์กลางสำหรับซื้อขายสินค้าแล้ว ก็ต้องมีเครื่องมือสำหรับการจ่ายและรับเงินเช่นกัน ปัจจุบัน Alipay คือ 1 ใน 2 ของระบบ digital payment ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน อีกเจ้าหนึ่งคือ WeChat ที่ดำเนินธุรกิจโดยบริษัท Tencent การใช้งานสำหรับ Alipay สามารถใช้ได้บนร้านค้าปกติผ่านการสแกน QR Code หรือใช้ในการซื้อขายบนระบบออนไลน์ก็ได้เช่นกัน
สิงหาคม 2005 บริษัท Yahoo จากสหรัฐฯ กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด
Yahoo ได้ใส่เงินลงทุนไปในบริษัท 1 พันล้านเหรียญและถือหุ้น 40% ในบริษัท กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด และในส่วนหนึ่งของข้อตกลง Alibaba จะเป็นผู้บริหารธุรกิจของ Yahoo ในประเทศจีน
พฤศจิกายน 2007 นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง
ก่อนที่ Alibaba จะไปจดทะเบียนที่ตลาดหุ้นประเทศสหรัฐฯ ได้มีการ IPO ในฮ่องกงก่อน ในการระดมทุนครั้งนั้น Alibaba ได้เงินไปกว่า 13,100 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือกว่า 50,000 ล้านบาท ในสมัยนี้อาจจะดูเหมือนไม่เยอะ แต่ในสมัยเมื่อ 12 ปีที่แล้วก็ถือว่ามากพอสมควร ราคา IPO อยู่ที่ 13.50 เหรียญฮ่องกง การซื้อขายวันแรกขึ้นไปทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 39.50 เหรียญฮ่องกง หรือปรับตัวขึ้น 193%
เมษายน 2008 Tmall ได้กำเนิดขึ้น
Tmall หรือชื่อเต็มคือ Taobao Mall ปัจจุบัน Tmall มีความสำคัญสำหรับ Alibaba มากในด้านรายได้ ธุรกิจของ Tmall คือเป็นศูนย์กลางให้สินค้าจากต่างประเทศมาตั้งร้านค้าออนไลน์เพื่อขายให้กับผู้บริโภคชาวจีน มีสินค้าหลากหลายประเภทตั้งแต่สินค้าหรูหรา เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้แต่ของกิน จุดแตกต่างของ Tmall กับ Taobao คือ Tmall ตั้งขึ้นสำหรับแบรนด์สินค้าจากต่างประเทศขายให้คนจีน (B2C) แต่ Taobao จะเป็นผู้ขายคนจีนขายให้คนจีน (B2C และ C2C)
กันยายน 2009 เปิดตัวธุรกิจ Cloud
ปัจจุบัน ธุรกิจ Cloud Computing ถือเป็นธุรกิจที่ทำรายได้มาเป็นอันดับ 2 ให้กับ Alibaba และยังเป็นธุรกิจที่เติบโตสูงที่สุดในเครือ เมื่อปีที่ผ่านมา Danial Zhang CEO คนปัจจุบันได้เคยให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ว่าธุรกิจ Cloud Computing จะเป็นธุรกิจหลักของบริษัทในอนาคต
พฤศจิกายน 2009 เปิดตัวมหกรรมวันคนโสด
วันที่ 11 เดือน 11 ถูกขนานนามว่าเป็นวันคนโสดโดยทาง Alibaba เป็นผู้เริ่มต้นเทศกาลนี้ และเมื่อคุณโสดไม่ได้ไปไหน ก็มาช็อปปิ้งกันดีกว่า วันที่ 11 เดือน 11 เป็นวันที่มีการซื้อขายออนไลน์สูงที่สุดในรอบปี และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การซื้อขายในวันนี้ ทางผู้ขายจะมีส่วนลดพิเศษกว่าวันอื่นๆ ในปี 2009 ยอดขายในวันคนโสดอยู่ที่ 7.8 ล้านเหรียญ หรือราว 240 ล้านบาท ล่าสุดปี 2018 ยอดขายในวันคนโสดอยู่ที่ระดับ 30,800 ล้านเหรียญ หรือราว 950,000 ล้านบาท
มิถุนายน 2012 Alibaba เพิกถอนการจดทะเบียนออกจากตลาดหุ้นฮ่องกง
หลังจากจดทะเบียนบริษัทในตลาดหุ้นฮ่องกงเพียง 5 ปี บริษัทก็ขอเพิกถอนการจดทะเบียนออกจากตลาดหุ้นฮ่องกง และจ่ายเงินซื้อหุ้นทั้งหมดที่ถือโดยนักลงทุน 27% ขึ้นมาเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,450 ล้านเหรียญหรือราว 75,000 ล้านบาท Jack Ma ได้เปิดเผยว่า สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้บริษัทถอนตัวจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนคือเรื่องของความคล่องตัวในการทำธุรกิจ
กันยายน 2012 Alibaba ซื้อหุ้นคืนจากกลุ่ม Yahoo
Alibaba ได้ซื้อหุ้น 20% จาก 40% ที่ทาง Yahoo ถืออยู่ โดยใช้เงินทั้งสิน 7,600 ล้านเหรียญ หรือราว 235,000 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างงามสำหรับ Yahoo ที่ลงทุนเพียง 1,000 ล้านเหรียญในปี 2005กันยายน 2014 เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
Alibaba ได้กลับมาเป็นบริษัทมหาชนอีกครั้ง โดยคราวนี้จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และถือเป็นการ IPO ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ สามารถระดมทุนได้กว่า 25,000 ล้านเหรียญ หรือราว 775,000 ล้านบาท
ตุลาคม 2014 กำเนิดธุรกิจใหม่ Ant Financial
Ant Financial ถูกตั้งขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่จะขยายธุรกิจไปในอุตสาหกรรมการเงิน หรือที่เรียกกันว่า Fintech ปัจจุบัน Ant Financial คือบริษัท Fintech ที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีมูลค่าประมาณ 150,000 ล้านเหรียญ หรือราว 4.65 ล้านล้านบาท
สิงหาคม 2015 ลงทุนในบริษัท Suning ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศจีน
Alibaba ได้ลงทุนในบริษัท Suning โดยใช้เม็ดเงินประมาณ 4,560 ล้านเหรียญหรือราว 141,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบร้านค้าดั้งเดิม เป็นการส่งสัญญาณให้ตลาดจีนและตลาดโลกรู้ว่า Alibaba กำลังจะมีธุรกิจใหม่สำหรับการค้าปลีก โดยการนำออนไลน์มารวมกับออฟไลน์ เพื่อให้ระบบนิเวศน์ของ Alibaba มีความสมบูรณ์และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เมษายน 2016 Alibaba ได้เน้นไปที่ตลาดต่างประเทศมากขึ้นAlibaba ได้ลงทุนในกิจการ Lazada จากกลุ่ม Rocket Internet ของประเทศเยอรมนี ด้วยเงินประมาณ 1,000 ล้านเหรียญ โดยเป็นการซื้อจากเจ้าของเดิม 500 ล้านเหรียญ และใส่เงินลงไปในธุรกิจอีก 500 ล้านเหรียญ โดยหวังที่จะเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจากการเติบโตของคนชั้นกลางในประเทศเหล่านี้
กันยายน 2019 Jack Ma ได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานบริหาร Jack Ma ได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานบริหาร Alibaba โดย Daniel Zhang, CEO คนปัจจุบันจะก้าวขึ้นมาเป็นแทน โดยทาง Jack Ma จะยังคงเป็นคณะกรรมการบริษัทจนถึงการประชุมประจำปีของบริษัทในปี 2020 เป็นการก้าวลงจากตำแหน่งสูงสุดในบริษัทที่เขาได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ตั้งแต่ IPO ครั้งที่ 2 ที่ตลาดหุ้น New York ที่ราคา 68 เหรียญในวันที่ 19 กันยายน 2014 ผ่านไปเกือบ 5 ปี ราคา ณ วันที่ 9 เดือน 9 ปิดไปที 177.78 เหรียญ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันที่เข้าตลาด 161% หรือปรับขึ้นมากกว่า 20% แบบทบต้น
ธุรกิจ Ecommerce ใครๆ ก็ทำได้ มี Barrier to Entry ต่ำ ใช้เงินเริ่มต้นไม่สูง แต่คนที่จะประสบความสำเร็จได้มีไม่มากนัก ผู้ก่อตั้งมีความสำคัญสูงมาก เพราะวิสัยทัศน์ของเขาจะเป็นตัวกำหนดว่าจะได้เงินลงทุนจาก Venture Capital หรือป่าว ซึ่งถ้าไม่ได้เงินลงทุนจาก VC ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโตต่อไปได้ คุณ Jack Ma ได้ทำให้วิสัยทัศน์ของเขากลายเป็นธุรกิจจริง มีความแข็งแกร่งระดับต้นๆ ของประเทศจีน จนถึงวันที่เขาก้าวลงจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด บริษัทก็ยังไปต่อได้อย่างไม่ลำบากเพราะไว้วางรากฐานทั้งหมดไว้จนเข้มแข็งแล้ว สิ่งที่ท้าทาย Alibaba ในอนาคตคือการเจาะตลาดในภูมิภาคอาเซียนให้ได้มากขึ้น เพราะเป็นภูมิภาคที่มีการเติบดตค่อนข้างสูง นี่เป็นอีกตัวอย่างที่สำคัญของการลงทุน ธุรกิจที่ดีก็ต้องมาคู่กับผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมด้วย และผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมจะสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นมา สิ่งที่ตามมาคือราคาหุ้นที่จะไปในทิศทางเดียวกับผลประกอบการ
10 กันยายน คือวันที่ชายที่ชื่อ หม่า หยุน หรือที่คนทั่วโลกรู้จักกันในนาม Jack Ma ได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 55 ปี ด้วยการลงจากตำแหน่งบริหารสูงสุดในฐานะบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศจีน ยังไม่ทราบได้ว่า ต่อจากนี้เขาจะทำอะไรต่อไป จะไปเป็นอาจารย์เหมือนที่เขาเคยพูดไว้หรือไม่ก็ต้องรอดูกันไป แต่มรดกทางความคิดและการมาเปลี่ยนพฤติกรรมการช็อปปิ้งของคนหลายร้อยล้านคนคงจะอยู่ไปอีกนาน
- Attachments
-
- EB685084-9F04-4778-927C-4C5A5D9EA726.jpeg (287.06 KiB) Viewed 500 times
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
สอบถามหน่อยครับ การที่Alibaba จะ ipo.ในตลาดฮ่องกงเดือนนี้ จะมีผลอย่างไรต่อหุ้น baba เดิม บ้างครับ ราคาหุ้นของทั้งสองตลาดจำเป็นต้องเคลื่อนไหวเหมือนกันใช่มั้ยครับ แล้วถ้าipo ระดมทุนเพิ่ม แปลว่าจำนวนหุ้นของบริษัทจะเยอะขึ้น epsช่วงแรกก็จะลดลงหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
- blackninja
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- Posts: 176
- Joined: Mon Jun 06, 2011 8:46 am
Re: BABA - Alibaba Group Holding Ltd
ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวเหมือนกันครับ แต่ถ้าราคาต่างกับประมาณนึงจะมีคนเข้ามาทำ arbitrage ซึ่งจะทำให้ราคามันน่าจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน หรือไม่ต่างกันมากครับ หุ้นบริษัทเยอะขึ้นมีผลกับ eps ครับTummajag wrote: ↑Thu Nov 14, 2019 5:28 pmสอบถามหน่อยครับ การที่Alibaba จะ ipo.ในตลาดฮ่องกงเดือนนี้ จะมีผลอย่างไรต่อหุ้น baba เดิม บ้างครับ ราคาหุ้นของทั้งสองตลาดจำเป็นต้องเคลื่อนไหวเหมือนกันใช่มั้ยครับ แล้วถ้าipo ระดมทุนเพิ่ม แปลว่าจำนวนหุ้นของบริษัทจะเยอะขึ้น epsช่วงแรกก็จะลดลงหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ