กลับไปอเมริกากันทำไม??

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
neangs
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Laurence D. Fink on Investment Megatrends 24.03.2013

I believe that for the next three to four years, the US is probably the best market in the world on a risk-adjusted basis.The following four megatrends are very important for a positive outcome in the US.

First, we have a very strong banking system. But it is in need of new assets. We've had four years of low interest rates. This is now harming the banks, because their assets are maturing very rapidly. People are refinancing their mortgages. The banks are therefore losing their high-earning assets.

They have to be a lot more aggressive, in terms of re-lending their money, and this will have a very positive outcome in the US – this need to lend is the second megatrend. The banks will start lending to small and medium businesses. In turn, once these businesses get more capital from the banks they will start hiring. Overall, the strength of the capital of the banks, and their need to start lending, will be a very powerful trend in the next few years.

The third area is housing. In the last five years, we've struggled with a very severe excess housing inventory in the US. Housing prices collapsed. We are now in the seventh year, and it is beginning to stabilize. In fact, prices are going up. So, what we saw as a large headwind is now becoming a good tailwind. That will transform the economy, too. It will add at least 1 percent of GDP to the economy.

The fourth megatrend is energy. We spend so much time talking about technology, and technological changes. But we don't understand how technology changes in the manufacturing process. In the US, we have seen how technology has transformed a country where four and a half years ago, we were focusing on the fear of being so reliant on importation of foreign oil. We were talking about all of the alternative energy sources that we needed. Now, through these new technologies, we've found natural gas and oil. Today, we're now projecting out four and five years. The US will be North American energy independent. It's a substantial change from what we just thought just four years ago. But more importantly, having this proliferation of excess energy, we have the lowest prices of natural gas in the world. Natural gas is USD 3.50 in the United States, versus USD 11 in Zurich, and in Japan and China, it's USD 18. We have a huge advantage in the US, which will allow us to become much more prevalent in manufacturing, because our natural gas is so cheap. Manufacturers are already moving to factories in the US.

See full article https://infocus.credit-suisse.com/app/a ... 18&lang=EN
ภาพประจำตัวสมาชิก
Unstablemind
Verified User
โพสต์: 405
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 2

โพสต์

Does this mean that the usa is ready for another stock market bubble?
Its all about getting alpha.
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขนเงินกลับเพราะอะไร
ดูตอนที่ออก QE 1
ตอนนั้น ผู้บริหารระดับสูงของภาคการเงินที่นั้นโดนโจมตรีเรื่องโบนัส
จำนวนมหาศาล แต่ ประชาชนทั่วไป (รัฐ) ต้องแบกรับหนี้ที่เพิ่มขึ้น
บางคน นั่งเครื่องบินเจ๊ทส่วนตัวของบริษัทมา White house เพื่อมาขอเงินช่วยเหลือ
ด้วยซ้ำไป

เมื่อ QE ทำงาน กำไรจากการถือครองพันธบัตร โดยที่ FED เป็นคนไล่ซื้อ ทุกราคา
เพื่อกดผลตอบแทนของพันธบัตรลด ทำให้ ภาคการเงินที่ถือครองได้ผลประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคาพันธบัตรรัฐบาล
เมื่อหมด QE (ถอน QE) เกิด ขาดทุนจากการตายหมู่ในตลาดตราสารหนี้
ทำไงละเนี่ย ก็ถอนเงินที่กำไรไปโป๊ะ แค่นั้นเอง
:)
:)
neangs
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 4

โพสต์

Since last month I have been wondering why some foreign fund pulled out their long term investment from some countries in Asia and around the world. Why they are reallocating their assets? Only QE issue is not fit for this big movement (my opinion).

I think they saw a confirmation of up-trend sign of USA ka.

Anyway, it doesn't mean Thailand is not good na ka. Only now we have less expected growth when compare with other countries ka.

Note: I do not work with any financial companies anymore, so I may not have enough necessary info na ka. I have to search and read from internet and public articles. Pls. share if anyone has more info or opinion ka.
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ถ้าอย่างนั้นเอาเอกสารตัวนี้ไปอ่านละกัน
http://www.fas.org/sgp/crs/misc/RL31967.pdf
ว่ามองเรื่องหนี้เป็นอย่างไง
:)
:)
neangs
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 6

โพสต์

tks mak mak ka, but i'm not good in Finance.
let wait for reply from expert na ka.
Likhit
Verified User
โพสต์: 270
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 7

โพสต์

qe 1 เริ่มตั้งแต่ปีใหนใช่ปี 2010 หรือเปล่าครับ
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 8

โพสต์

อันที่โพสไปนั้น เป็นเอกสารจาก
Congressional Research Service
เขียนโดย
D. Andrew Austin
Analyst in Economic Policy
Mindy R. Levit
Analyst in Public Finance
ปรับปรุงครั้งล่าสุดคือ
May 22,2013
ออกมาทุกเดือนละครั้ง ปรับปรุงว่าสถานการณ์ของหนี้เป็นเช่นไรครับ
อ่านไว้เพื่อรู้ว่า เพดานหนี้แก้ไขหรือเปล่า
เพราะ การแก้ไขเพดานหนี้ที่ US ต้องประชุมรับรองการเพิ่มเพดานหนี้
ครั้งล่าสุด ถึงฏีกา เลย คือ เซ็นต์กันวันสุดท้ายของเพดานหนี้
หาอ่านกันได้ครับ เพื่อเตรียมพร้อม สถานการณ์ต่างๆครับ
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1373
ผู้ติดตาม: 7

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ข้อ4เป็นไปได้อย่างมากครับ
ความได้เปรียบทางด้านราคาพลังงานจะเป็นตัวพลักดันภาคอุตสาหกรรมอื่นๆให้ย้ายฐานมาลงทุน
เช่นอุตเหล็ก อุตปิโตรเคมี แล้วส่งไปดั้มที่ยุโรป
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
neangs
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 10

โพสต์

มีหลายสำนักที่วิเคราะห์เรื่อง shale gas มาตั้งแต่ปีทีแล้วค่ะ ยกตัวอย่าง Amy Myers ที่พูดถึงบทวิเคราะห์ ของ CitiBank ว่า...

"The boon to U.S. manufacturing will not be limited to petrochemicals. Auto makers are also expanding in the U.S., taking advantage of lower energy costs and shorter supply chains for Western hemisphere markets and more than 20 manufacturers have announced U.S. plant expansions recently, according to Citibank, including Caterpillar Inc., Deere & Co., General Electric, United Technologies, ABB, EADS, Siemens and Mitsubishi Heavy Industry, among others.

All this bodes well for the U.S. economy. According to Citibank, all this means that jobs are being re-shored and U.S. demand for capital goods are rising, portending a “substantial” rise in GDP growth."

JUN 14, 2013
see full article http://stream.wsj.com/story/experts-lea ... -2-253403/
neangs
Verified User
โพสต์: 51
ผู้ติดตาม: 0

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 11

โพสต์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: [email protected]--

ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งแรง รับข้อมูลเศรษฐกิจสดใส,ตลาดคลายกังวลสภาพคล่องจีน
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 มิถุนายน 2556 22:30:29 น.
..........

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.6% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3% เนื่องจากความต้องการสินค้าประเภทต่างๆปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น

ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด่ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2% บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 2.1% แตะระดับ 476,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2551 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 462,000 ยูนิต/ปี

............
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18398
ผู้ติดตาม: 75

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 12

โพสต์

Date 1 mo 3 mo 6 mo 1 yr 2 yr 3 yr 5 yr 7 yr 10 yr 20 yr 30 yr
06/03/13 0.03 0.05 0.08 0.14 0.30 0.50 1.03 1.53 2.13 2.92 3.27
06/04/13 0.05 0.04 0.08 0.14 0.32 0.48 1.05 1.55 2.14 2.95 3.30
06/05/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.30 0.48 1.02 1.52 2.10 2.90 3.25
06/06/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.30 0.48 1.01 1.49 2.08 2.89 3.23
06/07/13 0.04 0.04 0.07 0.14 0.32 0.52 1.10 1.59 2.17 2.98 3.33
06/10/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.32 0.55 1.13 1.62 2.22 3.03 3.36
06/11/13 0.05 0.05 0.08 0.14 0.34 0.57 1.12 1.61 2.20 3.00 3.33
06/12/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.34 0.57 1.15 1.64 2.25 3.04 3.37
06/13/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.32 0.55 1.11 1.60 2.19 2.99 3.33
06/14/13 0.04 0.05 0.08 0.13 0.29 0.49 1.04 1.53 2.14 2.95 3.28
06/17/13 0.05 0.05 0.08 0.13 0.27 0.49 1.06 1.57 2.19 3.01 3.35
06/18/13 0.04 0.05 0.08 0.13 0.27 0.48 1.07 1.58 2.20 3.00 3.34
06/19/13 0.04 0.05 0.08 0.13 0.31 0.58 1.24 1.76 2.33 3.09 3.41
06/20/13 0.03 0.05 0.09 0.14 0.33 0.62 1.31 1.84 2.41 3.18 3.49
06/21/13 0.02 0.05 0.09 0.13 0.38 0.70 1.42 1.95 2.52 3.26 3.56
06/24/13 0.01 0.06 0.11 0.16 0.42 0.73 1.48 2.02 2.57 3.27 3.56
06/25/13 0.03 0.06 0.11 0.17 0.43 0.74 1.49 2.03 2.60 3.31 3.60
http://www.treasury.gov/resource-center ... data=yield

Yield ของ พันธบัตร 10 ปี เพิ่มขึ้นตลอดทางเลย
Yield เพิ่มคือ ราคาพันธบัตรลดลงมาตลอดทาง
แถมด้วย ราคาพันธบัตรระยะ 1 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นตลอดทางเลย
ในช่วงนี้

ตลาดนี้มองว่า ในอนาคตดอกเบี้ยขึ้นแน่นอน
แต่ดอกเบี้ยระยะสั้น ยังเท่าเดิม
QE คือ กด Yield Curve ทั้งเส้นเลย
งานนี้ดูกันต่อไปว่า

ตายหมู่ในตลาดตราสารหนี้ยังคงอยู่อีกหรือไม่
สำหรับพันธบัตรระยะยาว

ส่วนในประเทศไทย
ถ้าหาก กองทุนตราสารหนี้ (กบข กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนตราสารหนี้
บริษัทประกันภัย/ประกันชีวิต ธนาคารพาณิชย์) ถ้าหากเป็นตราสารหนี้ที่ตั้งใจถือครองจำครบกำหนด (ประเด็นคือ บริษัทมีปัญญาในการถือครองแล้วไม่กระทบต่อหนี้สินด้วย) สามารถใช้วิธีการตัดจำหน่าย แทนการ Mark to Market
ซึ่งวิธีนี้ ไม่มีผลต่อเหตุการณ์ดังกล่าว กลับเป็นผลดีด้วยซ้ำว่า กำไรดีเกินควร
ดังนั้น สภานักบัญชี ควรจะพิจารณาให้ใช้วิธี mark to market ทั้งหมด เพื่อสะท้อนให้เห็นภาระของบริษัท ถึงแม้นว่า บริษัทต้องการถือครองจนครบกำหนด
เพราะ บริษัทจำเป็นต้องคำนวณเรื่องความเสี่ยงที่เกิดจาก Duration ของตราสารหนี้
หากเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเสี่ยงด้านตลาดอยู่แล้ว
:)
:)
nu
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 446
ผู้ติดตาม: 15

Re: กลับไปอเมริกากันทำไม??

โพสต์ที่ 13

โพสต์

miracle เขียน:Date 1 mo 3 mo 6 mo 1 yr 2 yr 3 yr 5 yr 7 yr 10 yr 20 yr 30 yr
06/03/13 0.03 0.05 0.08 0.14 0.30 0.50 1.03 1.53 2.13 2.92 3.27
06/04/13 0.05 0.04 0.08 0.14 0.32 0.48 1.05 1.55 2.14 2.95 3.30
06/05/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.30 0.48 1.02 1.52 2.10 2.90 3.25
06/06/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.30 0.48 1.01 1.49 2.08 2.89 3.23
06/07/13 0.04 0.04 0.07 0.14 0.32 0.52 1.10 1.59 2.17 2.98 3.33
06/10/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.32 0.55 1.13 1.62 2.22 3.03 3.36
06/11/13 0.05 0.05 0.08 0.14 0.34 0.57 1.12 1.61 2.20 3.00 3.33
06/12/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.34 0.57 1.15 1.64 2.25 3.04 3.37
06/13/13 0.04 0.05 0.08 0.14 0.32 0.55 1.11 1.60 2.19 2.99 3.33
06/14/13 0.04 0.05 0.08 0.13 0.29 0.49 1.04 1.53 2.14 2.95 3.28
06/17/13 0.05 0.05 0.08 0.13 0.27 0.49 1.06 1.57 2.19 3.01 3.35
06/18/13 0.04 0.05 0.08 0.13 0.27 0.48 1.07 1.58 2.20 3.00 3.34
06/19/13 0.04 0.05 0.08 0.13 0.31 0.58 1.24 1.76 2.33 3.09 3.41
06/20/13 0.03 0.05 0.09 0.14 0.33 0.62 1.31 1.84 2.41 3.18 3.49
06/21/13 0.02 0.05 0.09 0.13 0.38 0.70 1.42 1.95 2.52 3.26 3.56
06/24/13 0.01 0.06 0.11 0.16 0.42 0.73 1.48 2.02 2.57 3.27 3.56
06/25/13 0.03 0.06 0.11 0.17 0.43 0.74 1.49 2.03 2.60 3.31 3.60
http://www.treasury.gov/resource-center ... data=yield

Yield ของ พันธบัตร 10 ปี เพิ่มขึ้นตลอดทางเลย
Yield เพิ่มคือ ราคาพันธบัตรลดลงมาตลอดทาง
แถมด้วย ราคาพันธบัตรระยะ 1 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นตลอดทางเลย
ในช่วงนี้

ตลาดนี้มองว่า ในอนาคตดอกเบี้ยขึ้นแน่นอน
แต่ดอกเบี้ยระยะสั้น ยังเท่าเดิม
QE คือ กด Yield Curve ทั้งเส้นเลย
งานนี้ดูกันต่อไปว่า

ตายหมู่ในตลาดตราสารหนี้ยังคงอยู่อีกหรือไม่
สำหรับพันธบัตรระยะยาว

ส่วนในประเทศไทย
ถ้าหาก กองทุนตราสารหนี้ (กบข กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนตราสารหนี้
บริษัทประกันภัย/ประกันชีวิต ธนาคารพาณิชย์) ถ้าหากเป็นตราสารหนี้ที่ตั้งใจถือครองจำครบกำหนด (ประเด็นคือ บริษัทมีปัญญาในการถือครองแล้วไม่กระทบต่อหนี้สินด้วย) สามารถใช้วิธีการตัดจำหน่าย แทนการ Mark to Market
ซึ่งวิธีนี้ ไม่มีผลต่อเหตุการณ์ดังกล่าว กลับเป็นผลดีด้วยซ้ำว่า กำไรดีเกินควร
ดังนั้น สภานักบัญชี ควรจะพิจารณาให้ใช้วิธี mark to market ทั้งหมด เพื่อสะท้อนให้เห็นภาระของบริษัท ถึงแม้นว่า บริษัทต้องการถือครองจนครบกำหนด
เพราะ บริษัทจำเป็นต้องคำนวณเรื่องความเสี่ยงที่เกิดจาก Duration ของตราสารหนี้
หากเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเสี่ยงด้านตลาดอยู่แล้ว
:)
กองทุนทั้งหลายต้อง mark to market ทั้งหมดนะครับ

ส่วนพอร์ตบริษัทขึ้นอยู่กับว่าแบ่งเป็นอะไร เพือค้า เื่ผื่อขาย ถือจนครับ ก็จะทำบัญชีแยกกันไปอะไรทำนองนี้
จะให้ mark ทั้งหมดคงไม่เหมาะกับทุกบริษัทครับ เช่น บริษัทประกัน ถ้าอยู่ๆด้านสินทรัพย์ถูก mark แต่หนี้สินไม่ mark เกิดยิลล์เด้งขึ้นแรงๆ บริษัทเจ๊งไม่รู้ตัวเลยนะครับ
โพสต์โพสต์