ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
AiBook
Verified User
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สวัสดีครับ

อยากรบกวนขอคำปรึกษาหน่อยครับ

ผมลงทุนมาได้ 5-6 ปีแล้ว หุ้นก็จะถือยาวมาตลอด ส่วนมากจะซื้อตัวเดิมๆซ้ำไปเรื่อยๆเมื่อมีเงิน แล้วก็สลับตัวที่งบออกมาไม่ดี หรือเปลี่ยนไปเข้าตัวที่ดูแล้วมีอนาคตมากกว่า

ทีนี้มีโครงการจะสร้างบ้านซึ่งลองเปรียบเทียบดอกที่เสียแล้วรู้สึกไม่คุ้ม เลยอยากจะขายหุ้นส่วนหนึ่งออกมาเพื่อให้กู้น้อยๆหน่อย

ปัญหาคือ ไม่รู้จะขายตัวไหนดี ทุกตัวราคาปรับขึ้นไปมากกว่าทุนค่อนข้างมากแล้ว และก็มีอนาคตที่จะโตไปได้ดีด้วย (เท่าที่ผมคิด แหะๆ)

ถ้าเป็นเพื่อนๆเวลาต้องใช้เงินและมีหุ้นแบบนี้ จะแบ่งขายออกไปด้วยเหตุผลอะไรบ้างครับ ถ้าทุกตัวดูมีอนาคตเหมือนกันหมด

เป็นหุ้นที่ค้าขายในประเทศทั้งหมด บางบริษัทได้ประโยชน์จากเรื่องเงินบาทแข็งด้วย (แต่ไม่ได้มองจุดนี้ตอนเข้าซื้อ)

ตอนนี้ที่ถือมีอยู่ 5 ตัว สัดส่วนพอๆกันทั้ง พอร์ท ที่คิดๆไว้ก็ ขายเฉลี่ยๆไปให้เท่าๆกันทั้งหมด แต่บางตัวก็ดูมีอนาคตมากๆแถมมีเยอะกว่าตัวอื่น จะขายก็เสียดาย

ยังไงรบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะครับ

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
S&K Fund
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ควรจะเปรียบเทียบ อัตราการเติบโต ของหุ้น กับ ดอกเบี้ยที่เสียครับ
โดยส่วนตัว ผมคงไม่ขายหุ้นออกมา ถ้า หุ้นที่ถืออยู่มีปันผลในระดับที่ สูงกว่า ดอกเบี้ยเงินกู้
เพราะการลงทุนในหุ้นเติบโต สามารถที่ได้ผลตอบแทนที่ชดเชย เงินกู้ได้
แต่คงต้องประเมินว่าเงินที่กู้ไม่ได้จำนวนมากเกินไป เช่น
กู้ สามล้าน อัตราดอกเบี้ย 7 % 20 ปี จะมีภาระผ่อน ประมาณ 24000 บาท
เงินจำนวนสามารถใช้ รายได้ต่อเดือนผ่อนได้หรือไม่
ส่วน พอร์ต คงดูแลให้เติบโตดีกว่าครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
KentaII
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 383
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เป็นผมกู้ดีกว่าครับ ถ้าพี่ขายหุ้นออกมาก็เท่ากับเสีย opportunity cost เหมือนกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หุ้นจะให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย
ผู้ใดบอกว่าตัวเองเป็น "แมงเม่า" เขาผู้นั้นมักไม่ใช่แมงเม่า...แต่ผู้ใดบอกว่าตัวเองเป็น "เซียน" เขาผู้นั้น จะกลายเป็น แมงเม่าในไม่ช้า เพราะเขา "หยุดพัฒนาตนเอง"
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

โดยทั่วไปผมเห็นด้วยกับความเห็น 2 ท่านด้านบนครับ
ระยะยาว ดอกเบี้ยที่จ่ายมันลดลงตามเงินต้น เงินรับปันผลเพิ่มขึ้นตามการเติบโตผลกำไร
ลองใส่ excel คำนวณดูก็ได้นะครับ

แต่ทั้งนี้ถ้าพี่อาจจะยุ่งๆไม่มีเวลา ถ้าเริ่มไม่แน่ใจกับหุ้นที่ถือ
การเอาเงินไปลดหนี้ ก็อาจเป็นความคิดที่ดีนะครับ
ลองให้เหตุผลหุ้นตัวที่อยากขายออกมาถามพี่ๆในนี้ก็ได้นะครับ เผื่อมีไอเดียดีๆ
Go against and stay alive.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3778
ผู้ติดตาม: 74

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ชั่งน้ำหนักดูครับ ระหว่าง...

เงินสดที่จะอยู่ในกระเป๋าเรา
ซึ่งมีแผนที่จะทำให้มันงอก

กับความสุขสบายที่เราได้รับ
หากยอมจ่ายแพงหน่อย
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <⁠(⁠ ̄⁠︶⁠ ̄⁠)⁠> ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3778
ผู้ติดตาม: 74

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ไม่ตรงคำถาม ปกติผมจะไม่ค่อยถือเงินสด
เวลาเจอหุ้นตีแตก ก็จะต้องเลือกขายหุ้น
ออกไปบางตัว หรือว่าบางส่วน
คงบอกไม่ได้ว่าจะขายตัวไหนดี
หรือแบ่งขายทุกตัวเพื่อแลกสภาพคล่องกลับมา

ที่ผ่านมา ผมมักจินตนาการเสมอ
ว่าถ้าเจอหุ้นตีแตกเมื่อไหร่ หรือเมื่อต้องการใช้เงิน
ผมจะทำยังไงต่อไป เป็นการวางแผน
เป็นการชั่งน้ำหนักทางเลือกที่เรามี
เป็นการคิดเล่นๆ แต่มีโอกาสใช้จริง
ซึ่งแต่ละคน คงเลือกไม่เหมือนกัน
จริงไหม ?
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <⁠(⁠ ̄⁠︶⁠ ̄⁠)⁠> ...
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เคสของคุณ "Aibook" คล้ายๆกับเคสที่ผมจะได้เจอในอนาคตเลยครับ...^^)
จากคำถามวิเคราะได้ว่ากำลังจะกู้เงินสร้างบ้าน แต่ดอกเบี้ยสูง จึงอยากลดจำนวนเงินกู้
โดยเอาเงินจากการขายหุ้นไปโปะเงินต้นเพื่อให้กู้น้อยลง ปัญหาคือไม่รู้จะขายตัวไหนและ
จำนวนเท่าไรดี.....???

ในเรื่องของการขายหุ้นผมคงตัดสินใจอะไรไม่ได้เพราะข้อมูลมีน้อย และเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับ
แผนการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวของคุณ "Aibook" ครับว่าซื้อมาเพราะอะไรแล้วจะขายมันเพราะอะไร

ส่วนที่ผมอยากแนะนำคือ ลองมองย้อนกลับไปที่ต้นของปัญหาครับ เริ่มต้นปัญหาเกิดจากดอกเงินกู้สูง
แล้วเราจะเอาเงินมาโปะเงินต้นเพิ่ม
1)สามารถหาดอกเบี้ยต้ำกว่านี้ได้หรือไม่ เช่น ไม่ได้กู้จากธนาคาร???
2)เราจะหาเงินสดที่จะมาโปะเงินต้นเพิ่มโดยไม่ต้องขายหุ้นได้หรือไม่???

ปล. "อย่ามองเพียงทรัพย์สิน(เงิน)ที่อยู่ในมือเรา" ครับ
หวังว่าน่าจะได้ไอเดียเพิ่มเติมนะครับ...^^)
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 8

โพสต์

แก้ไขครับ
"อย่ามองเพียงทรัพย์สิน...." เป็น

"อย่ามองเพียงทรัพยากร(เงิน) ที่อยู่ในมือเรา" ครับ...^^)
arica
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1124
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ลักษณะการลงทุนแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ไม่สามารถให้คำแนะนำได้ ท่านต้องตัดสินใจเองครับ
เคสผม ผมขายหุ้นล้างพอร์ตเกือบเกลี้ยง(มูลค่าไม่สูงมาก) เพื่อไปซื้อที่ดินแปลงนึง ซึงหลังจากทำไปแล้ว 2เดือน หุ้นตัวที่น่าจุถือไว้ไนพอร์ต เพิ่มมูลค่าได้อีกเกือบ 50% เมื่อคิดย้อนหลังไปผมไม่เสียใจเสียดายเลยเพราะ ณ นาที่นั้นได้ตัดสินใจไปแล้ว ซึ่งที่ดินที่ซื้อไปแล้วปัจจุบันมีคนมาขอซื้อผมในราคาให้เพิ่มอีก 50 % เพราะที่ดินตรงนั้นมีแปลงเดียวให้เท่าไหรผมก็ไม่ขาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 21

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ตัวผมเองใช้กลยุทธ์ "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน"

ผมสร้างพอร์ตการลงทุนให้ใหญ่พอ
เพื่อให้ได้ใช้ดอกผล
มาสร้างความสูข

ถึงตอนนั้นแล้ว เราไม่ได้กังวล ผลตอบแทน
ไม่ต้องกังวลเรื่อง ดอกเบี้ยจ่ายครับ

ไอดอลของผม กำลังเป็นตัวอย่างให้ผม ใช้เงินสร้างความสูขอย่างคุ้มค่าครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
AiBook
Verified User
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

จริงๆก็มีความคิดว่า ดอกเบี้ยแต่ที่ต้องจ่ายมันยังน้อยกว่าผลตอบแทนที่ได้ในแต่ละปี ที่ผ่านๆมาทำได้พอใจระดับหนึ่งประมาณ 20-30% ต่อปี

ทีนี้อย่างที่ทุกๆท่านว่า ถ้าเราเก็บเงินไว้ลงทุนเพื่อให้มันเติบโตไปเรื่อยๆ แล้วควรจะเก็บไปอีกสัก 5-10 ปี ได้เป็นเงินก้อนใหญ่มาโปะ (ในเคสว่าผมกู้ 25 ปี) หรือว่า เราเอาผลตอบแทนที่ได้มาในแต่ละปี ขายแบ่งออกไปโปะดี เช่นถ้าปีนี้กำไร 30% ก็ขายหุ้นออกไปให้เหลือมูลค่าเท่าต้นปี บวก ปันผล แล้วเก็บเงินก้อนที่เทียบเท่าตอนต้นปี ลงทุนในปีต่อๆไปดี

จริงๆในส่วนของเงินเดือนประจำก็พอครอบคลุมที่จะจ่่ายค่าผ่อนบ้านต่อเดือนได้อยู่ เพียงแต่เคยคำนวนว่าถ้าผ่อนเป็นเวลา 25 ปี มูลค่าที่ต้องจ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น มันเพิ่มจากยอดที่กู้มาค่อนข้างมากเกือบเท่าตัวเลย เลยอยากจะโปะเพื่อลดจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไปด้วย

ขอบคุณมากๆครับ

:D
harikung
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2237
ผู้ติดตาม: 14

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 12

โพสต์

dome@perth เขียน:ตัวผมเองใช้กลยุทธ์ "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน"

ผมสร้างพอร์ตการลงทุนให้ใหญ่พอ
เพื่อให้ได้ใช้ดอกผล
มาสร้างความสูข

ถึงตอนนั้นแล้ว เราไม่ได้กังวล ผลตอบแทน
ไม่ต้องกังวลเรื่อง ดอกเบี้ยจ่ายครับ

ไอดอลของผม กำลังเป็นตัวอย่างให้ผม ใช้เงินสร้างความสูขอย่างคุ้มค่าครับ
เห็นด้วยครับ ถ้าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เป็นผมก็จะอดทนรอดีกว่าครับ อย่างผมตั้งเป้าว่าจะไม่ซื้ออะไร(ไม่ว่าบ้าน รถ หรืออื่นๆ) เกินเงินปันผลต่อปี
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1373
ผู้ติดตาม: 7

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 13

โพสต์

AiBook เขียน:ขอบคุณทุกความเห็นครับ

จริงๆก็มีความคิดว่า ดอกเบี้ยแต่ที่ต้องจ่ายมันยังน้อยกว่าผลตอบแทนที่ได้ในแต่ละปี ที่ผ่านๆมาทำได้พอใจระดับหนึ่งประมาณ 20-30% ต่อปี

ทีนี้อย่างที่ทุกๆท่านว่า ถ้าเราเก็บเงินไว้ลงทุนเพื่อให้มันเติบโตไปเรื่อยๆ แล้วควรจะเก็บไปอีกสัก 5-10 ปี ได้เป็นเงินก้อนใหญ่มาโปะ (ในเคสว่าผมกู้ 25 ปี) หรือว่า เราเอาผลตอบแทนที่ได้มาในแต่ละปี ขายแบ่งออกไปโปะดี เช่นถ้าปีนี้กำไร 30% ก็ขายหุ้นออกไปให้เหลือมูลค่าเท่าต้นปี บวก ปันผล แล้วเก็บเงินก้อนที่เทียบเท่าตอนต้นปี ลงทุนในปีต่อๆไปดี

จริงๆในส่วนของเงินเดือนประจำก็พอครอบคลุมที่จะจ่่ายค่าผ่อนบ้านต่อเดือนได้อยู่ เพียงแต่เคยคำนวนว่าถ้าผ่อนเป็นเวลา 25 ปี มูลค่าที่ต้องจ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น มันเพิ่มจากยอดที่กู้มาค่อนข้างมากเกือบเท่าตัวเลย เลยอยากจะโปะเพื่อลดจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไปด้วย

ขอบคุณมากๆครับ

:D
อย่าคิดว่า"จำนวน"ดอกเบี้ยเท่าไหร่ แต่ต้องคิดในแง่time valueด้วยครับ
เงินทุกอย่างมีต้นทุนของมัน
เงินกู้บ้านก็มีต้นทุนเท่ากับดอกเบี้ยรายปี
เงินลงทุนก็มีต้นทุนเท่ากับผลตอบแทนจากการลงทุน
ต้นทุนไหนสูงกว่า เราควรให้ความใส่ใจกับเงินส่วนนั้นมากๆ
และลงทุนกับเงินส่วนนั้น (มองรวมในแง่risk vs returnด้วยนะครับ)

ผมจะขายเงินลงทุนมาโป๊ะบ้านก็ต่อเมื่อ
อัตราผลตอบแทนของเงินลงทุนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงแล้ว
ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
pullmeunder
Verified User
โพสต์: 332
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ส่วนตัวผมมีแนวคิดในการถอนเงินในบัญชีหุ้นมาใช้ด้วย แต่จะต้องไม่ทำให้กระทบต่อพอร์ตมาก
โดยสิ้นปีจะถอนซัก 3% ของพอร์ตเพื่อเอามาจ่ายค่าผ่อนบ้านซึ่งจ่ายแต่เงินต้น
หรือเอาไปใช้จ่ายทั่วๆไปตามที่จำเป็น(ให้รางวัลแก่ตัวเองบ้าง)
AiBook
Verified User
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 15

โพสต์

anubist เขียน:
AiBook เขียน:ขอบคุณทุกความเห็นครับ

จริงๆก็มีความคิดว่า ดอกเบี้ยแต่ที่ต้องจ่ายมันยังน้อยกว่าผลตอบแทนที่ได้ในแต่ละปี ที่ผ่านๆมาทำได้พอใจระดับหนึ่งประมาณ 20-30% ต่อปี

ทีนี้อย่างที่ทุกๆท่านว่า ถ้าเราเก็บเงินไว้ลงทุนเพื่อให้มันเติบโตไปเรื่อยๆ แล้วควรจะเก็บไปอีกสัก 5-10 ปี ได้เป็นเงินก้อนใหญ่มาโปะ (ในเคสว่าผมกู้ 25 ปี) หรือว่า เราเอาผลตอบแทนที่ได้มาในแต่ละปี ขายแบ่งออกไปโปะดี เช่นถ้าปีนี้กำไร 30% ก็ขายหุ้นออกไปให้เหลือมูลค่าเท่าต้นปี บวก ปันผล แล้วเก็บเงินก้อนที่เทียบเท่าตอนต้นปี ลงทุนในปีต่อๆไปดี

จริงๆในส่วนของเงินเดือนประจำก็พอครอบคลุมที่จะจ่่ายค่าผ่อนบ้านต่อเดือนได้อยู่ เพียงแต่เคยคำนวนว่าถ้าผ่อนเป็นเวลา 25 ปี มูลค่าที่ต้องจ่ายทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น มันเพิ่มจากยอดที่กู้มาค่อนข้างมากเกือบเท่าตัวเลย เลยอยากจะโปะเพื่อลดจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไปด้วย

ขอบคุณมากๆครับ

:D
อย่าคิดว่า"จำนวน"ดอกเบี้ยเท่าไหร่ แต่ต้องคิดในแง่time valueด้วยครับ
เงินทุกอย่างมีต้นทุนของมัน
เงินกู้บ้านก็มีต้นทุนเท่ากับดอกเบี้ยรายปี
เงินลงทุนก็มีต้นทุนเท่ากับผลตอบแทนจากการลงทุน
ต้นทุนไหนสูงกว่า เราควรให้ความใส่ใจกับเงินส่วนนั้นมากๆ
และลงทุนกับเงินส่วนนั้น (มองรวมในแง่risk vs returnด้วยนะครับ)

ผมจะขายเงินลงทุนมาโป๊ะบ้านก็ต่อเมื่อ
อัตราผลตอบแทนของเงินลงทุนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงแล้ว
ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน

อย่างที่คุณ anubist ว่าเลย พอลองคิดในแง่การเติบโตระยะเวลาเดียวกัน ถ้าสามารถทำได้แย่ๆเลยที่ปีละ 10% ทบต้นไปเรื่อยๆเป็นเวลา 25 ปี ยังไงก็มีมูลค่าที่สูงกว่า ค่าผ่อนบ้านในระยะเวลา 25 ปีอยู่แล้ว

ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้คำแนะนำด้วยครับ
Noinar
Verified User
โพสต์: 136
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ขอบคุณคำเเนะนำดีๆของพี่ๆ คับ ^^
" Risk comes from not knowing what you’re doing " Warrent Buffett
tt
Verified User
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 5

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ตอนนี้หุ้นขึ้นแน่นอนเงินไว้ในหุ้นดีกว่าอยู่แล้ว แต่ลองคิดถึงตอนหุ้นตกนานๆด้วยว่า
port ก็ลดลง หนี้ก็ยังเหลือเพียบ ความเครียดมันจะเข้ามามาก ผมเคยผ่านตอน subprime มาแล้ว
ถ้าต้องการสบายใจผมว่าจ่ายเท่าไรก็ได้ ให้เหลือหนี้ที่เราไม่เครียดมากดีกว่า
AiBook
Verified User
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 18

โพสต์

tt เขียน:ตอนนี้หุ้นขึ้นแน่นอนเงินไว้ในหุ้นดีกว่าอยู่แล้ว แต่ลองคิดถึงตอนหุ้นตกนานๆด้วยว่า
port ก็ลดลง หนี้ก็ยังเหลือเพียบ ความเครียดมันจะเข้ามามาก ผมเคยผ่านตอน subprime มาแล้ว
ถ้าต้องการสบายใจผมว่าจ่ายเท่าไรก็ได้ ให้เหลือหนี้ที่เราไม่เครียดมากดีกว่า
จริงๆก็มีความกังวลเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะช่วง subprime หุ้นที่ผมลงทุนราคาลดไปเกือบ 50% ถึงแม้สุดท้ายจะราคาขึ้นมากกว่า 100% แต่ก็หลายปีอยู่


ตอนนี้ผมเลยเปรียบเทียบด้วยปันผลในเคสว่าช่วงตลาดตก ซึ่งดูแล้วก็พอได้อยู่ เฉลี่ยแล้วก็ยังได้เกือบ 10% ดีกว่าดอกเบี้ยเงินกู้

แต่ถ้าตลาดตกหนักๆแบบนั้นอีกรอบ คงตัองพิจารณาใหม่ถึงความคุ้มค่า

ขอบคุณครับ
saichon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1224
ผู้ติดตาม: 5

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ผมเป็นอีกคนที่เป็นแบบพี่จขกท.เรื่องมีแผนจะสร้าง/ซื้อบ้านครับ
ก่อนหน้านี้ผมอยู่บ้านฟรีมาตลอด
จนเมื่อปีที่แล้วผมวางแผนเรื่องการเรียนของลูก เลยจำเป็นต้องมีที่พักใกล้ที่เรียน

ผมทำการชั่งน้ำหนักเรื่องการกู้เงินกับการขายหุ้นซื้อบ้านเงินสด
ตอนนั้นคำนวนคร่าวๆว่าถ้ากู้คงต้องจ่ายดอกเบี้ยและต้องผ่อนเดือนละประมาณ2-3หมื่นบาท
สำหรับการซื้อบ้านเงินสดแม้สบายใจแต่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ และเสียโอกาสในการถือหุ้นเติบโตที่มีอยู่ในพอร์ต
สำหรับผม ผมว่าไม่ดีทั้งคู่...
วันนี้ผมเลยตัดสินใจเลือกทางที่3 คือการเช่าอยู่แทนครับ
(เท่าที่เช๊คราคาคร่าวๆ น่าจะเสียค่าเช่าประมาณเดือนละ1หมื่นบาท)

การเลือกทางเลือกที่3 คิดว่าจะทำให้ผมมีโอกาสลุ้นอิสระภาพทางการเงินได้เร็วกว่าทางเลือกอื่น
ผมเลยเลือกทางนี้ครับ เอาไว้ผมพอร์ตใหญ่ระดับหนึ่งหรือผมหาหุ้นดีๆไม่ได้แล้ว
ผมค่อยมาคิดเรื่องการมีบ้านเป็นของตัวเองอีกทีครับ :wink:
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
kmitnb
Verified User
โพสต์: 23
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 20

โพสต์

"สำหรับการซื้อบ้านเงินสดแม้สบายใจแต่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ และ เสียโอกาสในการถือหุ้นเติบโตที่มีอยู่ในพอร์ต" saichon



อยากทราบมุมมองของเพื่อนๆ เรื่อง การซื้อบ้าน หรือ เช่าบ้านอยู่ดี
ตอนนี้ผมเช่าหอพักอยู่ใกล้ที่ทำงาน ค่าเช่า+ค่าใช้จ่าย รวมประมาณ 6000 บาทต่อเดือน

ปัจจุบัน ผมสนใจทาวเฮาท์เล็กๆ หลังหนึ่งใกล้ที่ทำงาน ราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท
และพอร์ตผมก็มีมูลค่ามากเพียงพอที่จะซื้อบ้านหลังนี้ได้ พอร์ตหุ้นได้ Return เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง ประมาณ ปีละ 15 %

ถ้าถามในมุมขอเพื่อนๆนักลงทุน Vi ว่า สิ่งใดคุ้มค่าที่สุดครับ ระหว่าง
1. ขายหุ้นมาซื้อบ้านเงินสดทั้งหมด
2. กู้เต็มแม๊กโดยไม่ขายหุ้นเลย ให้หุ้นมันเติบโตไปตามค่าเฉลี่ยที่เราทำได้ ปีละ 15 % (แล้วเอา เงินเดือนตัวเอง+ งปผ.หุ้น มาจ่ายเงินกู้ทุกเดือน ต้องประหยัดหน่อย)
3. เช่าอยู่เหมือนเดิม จ่าย 6000 บาทต่อเดือน ต่อไป.


อยากได้มุมมองระหว่าง ยอมจ่ายค่าเช่าต่อไป เพื่อรักษา capital Gain ให้คงอยู่ต่อไป

ขอบคุณครับ
arica
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1124
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำเลือกตัวที่ขาย

โพสต์ที่ 21

โพสต์

kmitnb เขียน:"สำหรับการซื้อบ้านเงินสดแม้สบายใจแต่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ และ เสียโอกาสในการถือหุ้นเติบโตที่มีอยู่ในพอร์ต" saichon



อยากทราบมุมมองของเพื่อนๆ เรื่อง การซื้อบ้าน หรือ เช่าบ้านอยู่ดี
ตอนนี้ผมเช่าหอพักอยู่ใกล้ที่ทำงาน ค่าเช่า+ค่าใช้จ่าย รวมประมาณ 6000 บาทต่อเดือน

ปัจจุบัน ผมสนใจทาวเฮาท์เล็กๆ หลังหนึ่งใกล้ที่ทำงาน ราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท
และพอร์ตผมก็มีมูลค่ามากเพียงพอที่จะซื้อบ้านหลังนี้ได้ พอร์ตหุ้นได้ Return เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง ประมาณ ปีละ 15 %

ถ้าถามในมุมขอเพื่อนๆนักลงทุน Vi ว่า สิ่งใดคุ้มค่าที่สุดครับ ระหว่าง
1. ขายหุ้นมาซื้อบ้านเงินสดทั้งหมด
2. กู้เต็มแม๊กโดยไม่ขายหุ้นเลย ให้หุ้นมันเติบโตไปตามค่าเฉลี่ยที่เราทำได้ ปีละ 15 % (แล้วเอา เงินเดือนตัวเอง+ งปผ.หุ้น มาจ่ายเงินกู้ทุกเดือน ต้องประหยัดหน่อย)
3. เช่าอยู่เหมือนเดิม จ่าย 6000 บาทต่อเดือน ต่อไป.


อยากได้มุมมองระหว่าง ยอมจ่ายค่าเช่าต่อไป เพื่อรักษา capital Gain ให้คงอยู่ต่อไป

ขอบคุณครับ
ถ้าเป็นตัวผมนะ ย้ำ ผมจะ ทำ ข้อ 2 และกู้ยาวๆ แต่ ที่ทำงานต้องไม่เปลี่ยนจังหวัดอื่นด้วยนะครับ เพราะว่าเงินที่จ่ายไป ได้สินทรัพย์มา อนาคต มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น สามารถขายต่อได้
โพสต์โพสต์