Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1526
ผู้ติดตาม: 232

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมก็ไม่มีประสบการณ์เท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าจะให้ share

ข้อ 2. ผมใช้วิธีตีแตก ดร.นิเวศน์ให้คำจำกัดความดีมาก คือถ้าความเสี่ยงดูแล้วน้อย ผมใส่ทันที ถ้ามีลังเล ก็ใส่ 50% หรือ 30% ของเป้าหมาย จำกัดกระสุนไว้ 3 นัด ถ้าพอร์ต 1 ล้านบาท ก็ต้องยิงประมาณ 3-50,000 บาทต่อครั้งอย่างน้อย (ถ้าพอร์ตใหญ่จน 3 นัดเก็บไม่หมด ก็อีกเรื่อง ต้องขยันค่อย ๆ เก็บ) แต่ไม่แนะนำยิงบ่อย ๆ เพราะส่วนมากจะวิ่งหาย

ข้อ 3. ถ้าซื้อแล้วลง ผมจำกัดไว้ 5-10 ช่องต้องยิงกระสุนที่สอง (ภาษาง่ายๆ) ถ้ายิงกระสุนหมดแล้วก็รอ (แต่อย่ายิงเยอะเกินเพราะตลาดหุ้นไทย หุ้นขาลงน่ากลัวมากๆๆๆๆๆๆๆ) ถ้ายังลงอีกผมต้องทำการบ้านหนักมาก ๆ ว่าสาเหตุเพราะอะไร ต้องตอบให้ได้ และจะได้รู้ว่าจะขายตัวอื่นเพื่อมาซื้อตัวนี้ หรือจะ cut loss

อันนี้คือที่ทำมา แล้วค่อนข้างเวิร์ค
Tiger
Verified User
โพสต์: 593
ผู้ติดตาม: 0

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมมาแชร์ด้วยนะ

ถ้ามีหุ้นวิ่งผ่านมาหา
ผมจะเริ่มจากการศึกษาธุรกิจ ว่าทำอะไร และผมชอบหรือไม่
ถ้าชอบราคาไม่แพงเกินไป ผมก็ซัดเลยไม่รอ
แล้วเลือกบรรจุว่าจะอยู่ในพอร์ตไหน (ครอบครัวหรือส่วนตัว)

พอร์ตครอบครัว ลงทุนในหุ้นประเภทไม่น่าจะมีการก้าวกระโดด
โตไปเรื่อย ๆ เล็กน้อย แต่มีปันผล ราคาไม่แพงมาก
สภาพคล่องต่ำ และไม่น่าจะมีเหตุการณ์ ทำให้หุ้นรูดลงแบบน่าตกใจ
ปีนึงปรับพอร์ตซัก 3-4 ครั้ง ทุกตัวอยู่ในสัดส่วนไล่ ๆ กัน
ถ้ามีตัวใหม่ที่เข้าข่าย ผมก็จะขายตัวนึงออกให้พอร์ตส่วนตัว
แต่ไม่ขายออกข้างนอก เพราะทุกตัวมักจะขายได้ราคายาก ในเวลาอันสั้น
และไม่อยากขาย
พอร์ตนี้มีหุ้นอยู่ 4 ตัว ประกันภัยจะเยอะกว่าตัวอื่นเล็กน้อย
กระสุนของพอร์ตนี้ก็มีเงินปันผล กับเงินฝากที่ยังเหลืออยู่นิดหน่อย
+ การขายให้พอร์ตส่วนตัว

พอร์ตส่วนตัว โยกหุ้นตามใจ หลักการ์ณน้อยลง
หลัง ๆ จะเน้นหุ้นที่ผมสนใจทีมบริหาร และคาดหวังการ เติบโต
ของรายได้มากกว่า 15 %
ถูก แพง ยังเป็นเรื่องรองสำหรับ พอร์ตนี้
ถ้าชอบ แล้ว แพง (วิ่งมาไกลแล้ว) ก็ซื้อน้อยหน่อย
ถ้าชอบ พึ่งเริ่มวิ่ง หรือยังไม่วิ่ง ก็ซื้อเยอะหน่อย
น้ำหนักแต่ละตัวไม่เท่ากัน ขอให้ชอบซื้อหมด
แต่จะอั้นตัวที่แพงให้ถือไม่เกิน 15 % ของพอร์ต
ทุกตัวพร้อมขายทำกำไร และ cut loss
กระสุนของพอร์ตนี้ เอาแน่นอนไม่ได้
เงินเดือนเหลือ โบนัส โยกหุ้น เล่นรอบ มีหมด

ทำแบบนี้สนุกแต่ไม่ค่อยได้ตังค์ครับ
พอร์ตครอบครัวล่าสุดปีนี้น่าจะได้ผลตอบแทนซัก 6-10 %
ส่วนตัวยังติดลบอยู่ 5-10 % ครับ
:D
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
Tiger
Verified User
โพสต์: 593
ผู้ติดตาม: 0

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ฉะนั้นถ้าเป็นเงิน 1 ล้านบาท

ผมคงแบ่งเป็นพอร์ตครอบครับ ซัก 700000 บาท
หุ้น 1-4 ตัวแล้วแต่อัธยาศัย

ส่วนพอร์ตส่วนตัว แค่ 300000 ครับ

ลงทุนแบบผมปีนี้ยังแพ้เงินเฟ้อเลย  :cry:
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
chansaiw
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 710
ผู้ติดตาม: 3

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ตอนที่มันลงแล้วลงอีกเนี่ยอย่าลืมสำรวจด้วยนะครับ ว่าที่คิดไว้เนี่ยผิดรึเปล่า
"Failure is the only way to start again intelligently"
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ตอบไม่ได้ เพราะยังมีเงินลงทุนไม่ถึง 1 ล้านบาทครับ  :lol:  :lol:
Expecto Patronum!!!!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
tenkafubu
Verified User
โพสต์: 224
ผู้ติดตาม: 0

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมขอตอบแบบมือใหม่เหมือนกันครับ..
 หลักการบริหาพอร์ตแบบของผมน่ะครับ..(ที่จำๆ มาและท่องไว้ๆๆ)
   เนื่องจากผมมีเงินเก็บไม่มากครับ ซึ่งมาจากการทำงาน แต่ก็เก็บทุกเดือนครับ

สมมติ  ผมคิดจะซื้อหุ้น 1 ตัวเพิ่มจากที่มีอยู่
สมมติว่าผมประเมินมูลค่าที่ควรจะเป็นของมันได้ และสูงกว่าราคาที่ซื้อมา โดยมีส่วนเผื่อปลอดภัยประมาณ 20%
  หุ้น   จำนวน    EPS    SES   BV  Cost    Mrk.  
  A      200       6        70   30     60      55
  B      300       2.5      25   10     15      16
  พอร์ตของผม เป็นดังนี้
      ยอดขายทั้งสิ้น          14000+7500  =  21500  บาท
          ได้กำไร                1200+  750  =    1950  บาท
      ส่วนของจ้าของ           6000+3000  =    9000  บาท
          ต้นทุน                12000+4500  =  16500  บาท
          ราคาตลาด           11000+4800  =  15800  บาท
     ผลตอบแทน   P/E      15800 / 1950 =  8.1
                       P/BV    15800 / 9000 =  1.8
                       ROE       1950 / 9000 =  21.7%
            Yearly Return     1950 / 16500 = 11.8%
 หากเป็นเช่นนี้  ผมก็จะซื้อหุ้น ที่ เมื่อนำราคา และผลกำไรมาคิดรวมแล้วทำให้ ROE ผมสูงขึ้น Yr. Return ผมสูงขึ้น
3M Only...
Market Cap.
ภาพประจำตัวสมาชิก
tenkafubu
Verified User
โพสต์: 224
ผู้ติดตาม: 0

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ทีนี้ ต่อนะครับ..ผมจะซื้อ หุ้น A เพิ่มหรือไม่เมื่อราคาลดลง???
สมมติ  ผมเก็บเงินได้อีก 22000 บาท หากซื้อหุ้น A จะได้ 400 หุ้น ซึ่งพอร์ตของผมจะเป็นดังนี้ครับ
 พอร์ตใหม่  (กลุ่มบริษัทในเครือ)
          ยอดขายทั้งสิ้น        42000+7500  = 49500  บาท
          กำไร                     3600+750    =   4350  บาท
          ส่วนเจ้าของ           18000+3000  =  21000  บาท
          ต้นทุน      12000+4500+22000   =  38500  บาท
         ราคาตลาด             33000+4800  =  37800  บาท
    ผลตอบแทน   P/E      37800 /   4350 =  8.7
                      P/BV    37800 / 21000 =  1.8
                      ROE       4350 / 21000 =  20.7%
           Yearly Return     4350 / 38500 =  11.2%
     คำตอบ  ผมอาจจะซื้อ เพราะ ROE  และ Return  ยังสูงอยู่ แต่หากผลตอบแทนรวมลดต่ำลงมาก ผมอาจจะหยุด แล้วขายมันซะ
   ทีนี้ หากมีตัวอื่น ที่ทำให้ ผลตอบแทนผมสูงขึ้น  ผมก็จะซื้อครับ..
   ถามว่าหุ้น B ผมจะซื้อเพิ่มหรือไม่แม้ว่าราคาขึ้นมาแล้ว  ผมก็จะคิดเช่นเดียวกันครับ
   เพราะผมคิดว่า หากอนาคตยังโตอีก โดยดูจากยอดขายและกำไรที่เพิ่มขึ้นครับ ผมก็จะนำมาคิดรวมครับ..มือใหม่ครับ  ทำตามท่าว่ามา
3M Only...
Market Cap.
ภาพประจำตัวสมาชิก
tenkafubu
Verified User
โพสต์: 224
ผู้ติดตาม: 0

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ต่ออีกครับ..ก่อนอื่นต้องบอกว่า ทั้งหมดนี้ มาจากความคิดของท่าน ดร. ที่แนะนำมาผ่านทางหนังสือของท่านที่ผมซื้อมา  รวมทั้ง เฮียอีกหลายท่านในที่นี้ ที่ผมจับมารวมๆ กันครับ..
ขอขอบคุณมากครับ...
แต่ผมเองยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงในระยะยาวน่ะครับ.. :shock:
มาดูหุ้น A ครับ หากสมมติ เงินจำนวนเท่าเดิม 22000 บาท ซื้อหุ้น A ได้ 1375 หุ้น
พอร์ตใหม่จะเป็นดังนี้ ครับ..กลุ่มบริษัทใหม่
  ยอดขายรวม         55875   บาท
  กำไร                   5387.5 บาท
  เจ้าของ               22750  บาท
  ต้นทุน                38500   บาท
  ราคาตลาด           37800   บาท
  P/S           0.7
  P/E            7  
  P/BV         1.7
  ROE          23.7%
  Yr. Return 14 %
    หากมองที่ gain ผมคงแดงครับ... :x
3M Only...
Market Cap.
sunrise
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2273
ผู้ติดตาม: 1

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ประเมินเทรนด์ของธุรกิจครับ

ผมถือหลักว่า ในพอร์ตไม่ให้มีเกิน 7ตัว เพราะมากกว่านี้ดูแลไม่ทั่วถึง
แบ่งเป็น 2 ส่วนครับ

ส่วนหลัก  60-70% ของพอร์ต ไม่เกิน 3 ตัว
พวกนี้ดูธุรกิจว่าเป็นอย่างไร
ดูละเอียด ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ
ทำว่าปัจจัยอะไรจะทำให้รายได้หด หรือเพิ่ม
มีเวลาจะเดินดูตลาด แวะไปที่ร้าน ถามพนักงานที่ทำงานอยู่
พวกนี้จะหาข้อมูลค่อนข้างละเอียดครับ

ส่วนที่เหลือ เป็นตัวที่ไม่เน้นมาก 2-5 ตัว พวกนี้รวมหุ้นเก็งกำไรผลประกอบการระยะสั้นด้วยครับ
เน้นอ่านข่าว ดูเทรนด์ธุรกิจระยะสั้น และยาว
อ่านรายงาน ดูว่าผลประกอบการเป็นอย่างไร
พวกนี้ส่วนใหญ่ ผมหาๆ เอาในเว๊ปนี่แหละครับ  :lol:
และก็อาจพัฒนาเป็น พอร์ตหลักได้ถ้ารู้สึกว่า biz model ถูกใจครับ

เวลาซื้อ ผมยังหา safety margin ยังไม่เป็น ผมก็ซื้อทันทีที่คิดว่า p/e ไม่แพงเกินไปนัก และในระยะ ครึ่งปี ถึง หนึ่งปีน่าจะมีข่าวดีให้เห็น หรือว่า กำไรโตอย่างก้าวกระโดดครับ
ส่วนใหญ่ ไม่ต่อราคาเท่าไหร่ครับ หลังจากคิดว่าดีแล้ว
ซื้อเป็นซื้อ ตามจำนวนที่ต้องการ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tongue
Verified User
โพสต์: 725
ผู้ติดตาม: 0

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมแบ่งเงินนะพี่

ได้เงินมา จะมีหลายก๊อก
ส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้ทั่วไป อีกส่วนเก็บเป็นเงินสดไว้เพื่อสภาพคล่อง
ที่เกินมาก็เก็บไว้ซื้อหุ้น

2. เวลาซื้อผมซื้อตอนมันถูกๆครับ ส่วนใหญ่ก็ตูมเดียวแหละครับเพราะเงินไม่เยอะมาก ซื้อแล้วไม่ค่อยคิดมาก

3.ตอนแรกที่ซื้อ ตอนนั้น 10 ตัว ครับ กระจายทุกกลุ่ม
ราคามันขึ้นบ้าง ลงบ้างครับ ถัวๆกันไป แต่พอเวลาผ่านไป ก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นครับว่าแต่ละตัวแต่ละกลุ่มเป็นอย่างไร  ก็ค่อยๆคัดออกครับ

4. ผมจำกัดความเสี่ยงด้วยการ พยายามทำเงินให้มันเย็นๆ แล้วเอามันไปอยู่ที่เย็นๆครับ
แต่ก็มีบ้างครับ ที่เอาเงินเย็น ไปอยู่ที่ร้อนๆ ไหม้ทุกทีพี่ :lol:  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Simply
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

Money and Portfolio Management แบบวีไอเค้าทำกันยังไงครับ?

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ถ้าผมลองเปลี่ยนคำถามใหม่ว่า"มีเงิน 1 ล้านบาท จะทำลงทุนอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนได้มากที่สุด???"....คำตอบที่เกิดตามมาย่อมขึ้นกับ
1.ผลตอบแทนที่คาดหวัง
2.ความรู้และความชำนาญ
การมองผลตอบแทนในแต่ละคนที่ต่างกัน จะเป็นสิ่งที่จำกัดเครื่องมือที่ตอบสนองความต้องการ ส่วนความรู้ความชำนาญจะเป็นสิ่งกำหนดปริมาณการลงทุนในแต่ละส่วน....หุ้นเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด
ในคนที่มีความชำนาญในการดูเพชรดูพลอย เขาก็ต้องบอกว่าการซื้อขายเพชรพลอยทำกำไรดีที่สุด เพราะเขาชำนาญที่สุด.ถ้าไปถามคนซื้อขายที่ดิน เขาก็ต้องบอกว่าการซื้อขายที่ดินดีที่สุด เพราะเขาชำนาญที่สุด...
...ในคำถามคือ มุ่งว่าการลงทุนในหุ้นอย่างเดียว
...คำตอบที่ถามคือหุ้นAที่สงสัย โดนMr.Marketปั่นหัวแกล้งทดสอบกำลังใจ
ในหนังสือกุญแจห้าดอก เขียนไว้ว่า"เวลานักลงทุนรายย่อย ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจนสรุปได้แล้ว มักจะสงสัยในข้อสรุปของตัวเอง ไม่มั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง"...ผมว่าตรงนี้เป็นจุดเปิดให้Mr.Marketเข้ามาปั่นหัวเล่น
ผมขอถามเจ้าของหุ้นAกลับว่า ลองถามตัวเองใหม่ว่า คุณซื้อหุ้นAเพราะว่าอะไร นั่งตอบตัวเองให้ได้เป็นข้อๆนะครับ และถ้าสุขภาพหุ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่คุณวิเคราะห์ แล้วมีเหตุผลอะไรที่คุณจะไม่ซื้อหุ้นเพิ่มและเป็นหุ้นตัวที่คุณดูเองแล้วดีล่ะครับ สำหรับผมมีข้อเดียวคือ ตังค์ไม่พอครับ
...อย่าลืมซิครับว่า การลงทุนในหุ้นเป็นการลงทุนระยะยาวครับ ไม่จำเป็นว่าต้องซื้อวันนี้แล้วพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ราคาต้องขึ้น ธุรกิจต้องใช้เวลากว่าจะโต ที่สำคัญคือเราต้องรู้ว่าบริษัทของเราเป็นต้นไม้ชนิดไหน ไม้ล้มลุก ไม้ยืนต้น หรือว่าเป็นวัชพืชครับ...บางครั้งก็ต้องซื้ออนาคตบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าหุ้นทุกตัวในพอร์ต รออนาคตทุกตัว อันนี้ก็แย่ครับ
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ล็อคหัวข้อ