เสนอขายกองทุนเปิดแมกซ์พันธบัตร คุ้มครองเงินต้น

[lantharima]

คุณอัจฉรา สุทธิศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นครหลวงไทย เปิดเผยว่า \"ทาง บลจ.นครหลวงไทย วางแผนการเสนอขายกองทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 โดยเป็นการเสนอขายในส่วนของกองทุนตราสารหนี้อายุประมาณ 6-9 เดือนในช่วงประมาณต้นเดือนของทุกเดือน เฉลี่ยเดือนละ 1 กองทุน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่ไม่อยากเสียโอกาสการลงทุนในช่วงดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น โดยช่วงเวลานี้จะมีการเสนอขายกองทุนเปิดแมกซ์พันธบัตร คุ้มครองเงินต้น (MAX PPB) ในระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-8 ก.ย. 2548 อายุโครงการไม่เกิน 190 วัน คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.7%ต่อปี โดยกำไรที่ได้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

คุณอัจฉรา ได้กล่าวต่อไปว่าในช่วงนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นๆ ทั้งนี้ ทางบลจ.นครหลวงไทยจึงได้ออกกองทุนเปิดแมกซ์พันธบัตร 2 คุ้มครองเงินต้น ซึ่งเหมาะสำหรับ ผู้ลงทุนที่ต้องการให้เงินลงทุนเริ่มแรกได้รับความคุ้มครอง รวมทั้งมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำธนาคาร ต้องการลงทุนที่มั่นคง ความเสี่ยงต่ำ โดยมีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าเงินกองทุน และตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจ ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสาขาของธนาคารต่างประเทศ ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 4 อันดับแรกและธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าเงินกองทุน

อย่างไรก็ตาม ทาง บลจ.นครหลวงไทย ได้เสนอทางเลือกที่ 2 ให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการการลงทุนที่มั่นคง ความเสี่ยงต่ำ แต่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกำไรที่ได้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และสามารถลงทุนเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยการลงทุนในกองทุนเปิดแมกซ์พันธบัตร (MAX PB) ซึ่งมีกำหนดการเสนอขายประมาณช่วงปลายเดือน ก.ย.2548 ทั้งนี้ กองทุนนี้จะมีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าเงินกองทุน และตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจ ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสาขาของธนาคารต่างประเทศ ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 4 อันดับแรกและธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าเงินกองทุน โดยตราสารดังกล่าวจะครบกำหนดอายุใกล้เคียงกับระยะเวลาไถ่ถอนของกองทุน ทำให้ไม่มีความเสี่ยงจากสภาพคล่องของตราสารแต่อย่างใด นอกจากนี้ กองทุนดังกล่าวจะมีจุดเด่นตรงที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสในอัตราก้าวหน้าเพื่อไม่ให้เสียโอกาสในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น โดยบริษัทจัดการจะทำการรับซื้อคืนอัตโนมัติเป็นรายไตรมาสทุกเดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม เป็นจำนวนเงินที่จัดสรรในอัตราร้อยละ ดังนี้
(1) ครั้งแรก ร้อยละ 2.75 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ผู้ถือหน่วยเริ่มลงทุนตามราคาที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน)
(2) ครั้งที่ 2 ร้อยละ 3.00 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ผู้ถือหน่วยเริ่มลงทุนตามราคาที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน)
(3) ครั้งที่ 3 ร้อยละ 3.25 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ผู้ถือหน่วยเริ่มลงทุนตามราคาที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน)
(4) ครั้งที่ 4 ร้อยละ 3.50 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ผู้ถือหน่วยเริ่มลงทุนตามราคาที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน)
(5) ครั้งที่ 5 ร้อยละ 3.75 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ผู้ถือหน่วยเริ่มลงทุนตามราคาที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน)
(6) ครั้งที่ 6 ร้อยละ 4.00 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ผู้ถือหน่วยเริ่มลงทุนตามราคาที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน)
(7) ครั้งที่ 7 ร้อยละ 4.25 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ผู้ถือหน่วยเริ่มลงทุนตามราคาที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน)
(8) ครั้งสุดท้าย ร้อยละ 4.50 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ผู้ถือหน่วยเริ่มลงทุนตามราคาที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน) โดยได้รับพร้อมกับเงินลงทุนเริ่มต้นตามมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาทต่อหน่วยลงทุน)





สถานที่ติดต่อ/สอบถามรายละเอียด :
 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นครหลวงไทย จำกัด, 942/135 ชั้น 4 อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 1 ถ.พระราม 4 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม.10500. , โทร. 0-2624-8500 ฝ่ายการตลาดและบริการลูกค้า ต่อ 520, 522, 524 และ 526,  ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ , โทร. 0-2208-5000 ฝ่ายธุรกิจตลาดทุน ต่อ 5486-7, 5509, 5603, 5685, 5677 และ 5906 และ สาขาทั่วประเทศ,  บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด, สำนักงานใหญ่ เลขที่ 999/9 อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 9 ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน กทม. 10330. , โทร. 0-2624-8850-61 และสำนักงานสาขาทุกแห่ง,  บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) , สำนักงานใหญ่ เลขที่ 130-132 อาคารสินธรทาวเวอร์ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. 10330., โทร. 0-2627-3100 และสำนักงานสาขาทุกแห่ง , ,