สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรกิจ B

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 400

สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรกิจ B

โพสต์ที่ 1

โพสต์

พวกเขาคือ..ดรีมทีม 'วีไอ..ประเทศไทย'

เผยโฉม 12 กรรมการสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) นำทัพโดย 'ธันวา เลาหศิริวงศ์' โดยมี 2 เซียนหุ้นพันล้าน ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เป็นที่ปรึกษาสมาคม

สดๆร้อนๆกับ สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ที่ยกระดับจากสมาชิกเว็บไซต์ขึ้นมาเป็นสมาคมอย่างสมบูรณ์แบบ โดยมี "ไก่" ธันวา เลาหศิริวงศ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย รับหน้าที่เป็นนายกสมาคม รุ่นที่ 1 มีวาระ 2 ปี กรรมการสมาคมมีทั้งหมด 12 คน โดยมี 2 ผู้อาวุโส ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาสมาคม

ภายหลังรับโทรศัพท์ติดต่อจากกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ธันวา เลาหศิริวงศ์ นายกสมาคมวีไอ รุ่นที่ 1 รีบเป็นธุระโทรศัพท์ชักชวนกรรมการสมาคมทุกคนให้มาเปิดตัวพร้อมกัน ไม่ว่าใครติดธุระอะไรหรืออยู่ต่างจังหวัดก็ห้ามปฏิเสธ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงกับบทบาทที่มีสมาชิกเว็บไซต์ "หลายหมื่นคน" ฝากความหวังเอาไว้

นายกสมาคมวีไอ รุ่นที่ 1 แจกแจงให้ฟังว่า สมาคมเรามีกรรมการ 12 คน ทุกคนมาทำงานด้วยจิตอาสาโดยไม่รับค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ทำไม! ต้องยกระดับจากเว็บไซต์เป็นสมาคม วัตถุประสงค์หลักเราต้องการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเน้นคุณค่า ไม่ได้รวมตัวเพื่อไปสร้างกระแสให้ใคร ที่ผ่านมาเวลาหุ้นตัวไหนขึ้นเรามักโดนยัดข้อหาตลอด (หัวเราะ)

"ที่สำคัญกรรมการทุกคนเป็นนักลงทุนแนว VI ที่ประสบความสำเร็จ เราอยากตอบแทนสังคมบ้างโดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และต้องการช่วยเหลือด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเราจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งจากที่เรียกเก็บค่าสมาชิกรายปี แบ่งเป็นสมาชิก 1 ปี 500 บาท สมาชิก 3 ปี 1,200 บาท สมาชิก 5 ปี 2,000 บาท สำหรับนักศึกษาสามารถสมัครสมาชิกรายปีในอัตรา 200 บาท เงินส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยเหลือสังคมตอนนี้กำลังหารือในเรื่องของรูปแบบความช่วยเหลือ"

นอกจากนี้ การยกระดับเป็นสมาคมยังทำให้สมาชิกสามารถขอเข้าไปเยี่ยมชมบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และมีตัวตนที่พิสูจน์ได้ เดิมอาจมีนักลงทุนบางกลุ่มแอบอ้างว่าตัวเองเป็นนักลงทุน VI แล้วขอเข้าไปเยี่ยมชมกิจการ แต่จริงๆ แล้วเป็นพวก “พันธุ์ผสม” ทำให้นักลงทุน VI จริงๆ เขาเสียหาย

สำหรับโฉมหน้ากรรมการสมาคมทั้ง 12 คน นอกจาก ธันวา เลาหศิริวงศ์ นายกสมาคมแล้ว ก็มี "ภา" ภาสุชา อุดรวณิช มีชื่อล็อกอินในเว็บไซต์ว่า “KIRI” เธอจะรับหน้าที่เชิญเหล่าบริษัทจดทะเบียนมาตอบคำถามคาใจของนักลงทุน และดูแลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เธอบอกว่าบริษัทจดทะเบียนสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ให้ความรู้นักลงทุนได้..ฟรี!!!

“หมอมุข” นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ รับเป็นอุปนายกสมาคม ชื่อล็อกอินว่า “Paul vi” หมอมุขจะทำหน้าที่แทนนายกสมาคมกรณีติดภาระกิจ มีบทบาทเป็นหัวหน้าห้องดูแลความเรียบร้อยของกระทู้ ข้อความในเว็บไซต์ รวมถึงระบบไอที ทีมหมอมุขมีเกือบ 10 คน ทีมนี้จะเน้นสร้างความโปร่งใส

"โจ้" อนุรักษ์ บุญแสวง ชื่อล็อกอินว่า “ลูกอีสาน” โจ้จะดูแลกฎกติกามารยาท ที่ผ่านมาก็มีชื่อเสียงเรื่องความเป็นกลางอยู่แล้ว หน้าที่หลักจะช่วยจัดงานกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาก็จัดสัมนาร่วมกับเพื่อนนักลงทุนในอำเภอหาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น “กานต์” วรพงศ์, “ตี้” ธนะสิน พิพัฒน์กิตติกุล (ผู้ถือหุ้น HTECH, SNC เป็นต้น) โดยจัดไตรมาสละ 1 ครั้ง มีนักลงทุนเข้าฟังมากถึง 50 คน เก็บค่าเข้าฟังคนละ 500 บาท ต่อไปจะลดราคาเหลือคนละ 300 บาท ซึ่งทางสมาคมเห็นว่าแนวคิดนี้น่าสนใจกำลังหารือเพื่อปรับมาใช้กับทางสมาคม "ฉัตร" ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ กรรมการและเลขานุการสมาคม ชื่อล็อกอิน “Chatchai” นิสัยเป็นคนเที่ยงตรง จะคอยดูแลข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุน "หลิน" อังสินี อภิวัชรกุล กรรมการและเหรัญญิก ชื่อล็อกอิน “Kongkang” ดูแลฝ่ายการเงิน หน้าที่นี้สำคัญเรื่องการเงินต้องทำให้โปร่งใส "หนิง" เสริฐสรรพ์ อภิวัชรกุล ชื่อล็อกอิน “Little wing” เป็นสามีของ "หลิน" จะรับหน้าที่ดูแลห้องบทความ เพื่อให้นักลงทุนได้ประโยชน์สูงสุด หนิงจะหาบทความดีๆ มาให้นักลงทุนได้อ่าน

"ขาว" ณภัทร ปัญจคุณาธร กรรมการและนายทะเบียน ชื่อล็อกอิน “KAO” เป็นนักลงทุนจากนครศรีธรรมราช ขาวจะคอยติดตามและเก็บข้อมูลสมาชิกทุกคน เพราะมีความรู้ด้านบัญชี อาจไปช่วยงาน "หนิง" เรื่องบทความบ้าง "กานต์" ณัฐชาต คำศิริตระกูล ชื่อล็อกอิน “Mario” จะรับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของสำนักงาน การรับสมัครสมาชิก ส่วน "เอก" ธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง ชื่อล็อกอิน "Epeterpanz" มีความสามารถในการบริหารงานมาก เพราะมีบริษัทส่วนตัว เอกลงทุนในตลาดหุ้นมานานตั้งแต่สมัย บง.เอกธนกิจ (ฟินวัน)

"เว็บ" พรชัย รัตนนนทชัยสุข ชื่อล็อกอิน “WEB” เป็นนักแปลหนังสือด้านการลงทุนมือหนึ่งของไทย จะมารับหน้าที่ดูแลกิจกรรม และงานสัมนาต่างๆ หลังจากนี้สมาคมจะมีจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ล่าสุดได้นักลงทุนมือดีๆ หลายคนมาให้ความรู้ เช่น "โจ้" ลูกอีสาน อาจารย์นิเวศน์ คเชนทร์ เบญจกุล และ "ซี" พีรยุทธ์ เหลืองวารินกุล เจ้าของฉายา "นักลงทุนปฏิบัติธรรม" กรรมการคนสุดท้าย คือ “หมอเค” ศุภศักดิ์ หล่อธนวณิชย์ รับหน้าที่ดูแลสมาชิกสัมพันธ์ เพราะรู้จักคนเยอะ

"กรรมการเกือบทุกคนเป็น "ชุดเก่า" ตั้งแต่สมัย สุทัศน์ ขันเจริญ เป็นประธานวีไอ ทุกคนมีความเป็นกลางเห็นได้จากการลงทุนส่วนตัว จริงๆ ทุกคนอยากจะเลิกเป็นกรรมการแล้ว แต่ผมก็ขอร้องให้ทีมงานอยู่ช่วยกันก่อน คนเหล่านี้เขาอยากช่วยเหลือสังคมจริงๆ" นายกสมคมวีไอ กล่าวปิดท้าย
multipleceilings
Verified User
โพสต์: 2141
ผู้ติดตาม: 2

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 2

โพสต์

the avengers ของไทย :mrgreen: :mrgreen:
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
คลายเครียด
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1741
ผู้ติดตาม: 6

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ


:cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers:
Pu
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 393
ผู้ติดตาม: 1

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ได้รู้จักกันก็คราวนี้แหละครับ :D
"If you took our top fifteen decisions out, we’d have a pretty average record. It wasn’t hyperactivity,but a hell of a lot of patience. You stuck to your principles and when opportunities came along,you pounced on them with vigor"-Charlie Munger
prajuvb
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 456
ผู้ติดตาม: 5

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 5

โพสต์

หลายๆคนเป็นรุ่นบุกเบิกตั้งแต่แรกเริ่มของwebsite
และมีผลงานในการลงทุนแนวviแบบเข้มข้น
ไม่postชี้นำหรือปั่นหุ้น
เป็นdream teamที่น่ายกย่องครับ
Pat T Buffett
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 340
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยสละทั้งแรงและเวลาเพื่อส่วนรวมครับ :D
whiteknight_p
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 315
ผู้ติดตาม: 1

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอชื่นชมในความเสียสละของทุกท่านครับ
ขอบคุณมากครับ
-----------------------------------------
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
ภาพประจำตัวสมาชิก
generalman
Verified User
โพสต์: 81
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ดีใจมากครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมฯ :D
"Investing is not a game where the guy with 160 IQ beats the guy with 130 IQ. What is needed is a sound intellectual framework for making decisions and the ability to keep emotions from corroding the framework."

Warren Buffett
ภาพประจำตัวสมาชิก
Packky
Verified User
โพสต์: 856
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอบคุณครับ :) :) :)
montkrua
Verified User
โพสต์: 24
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ด้วยจิตคาราวะ
kasam
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 313
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เยี่ยมครับ
เป็นกำลังใจให้ ThaiVI ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
champ_st
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 533
ผู้ติดตาม: 1

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เป้นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนครับ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
เกล้า
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1190
ผู้ติดตาม: 1

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 13

โพสต์

จากในรูปถ้าเทียบความหล่อกันแล้วล่ะก็
ผมว่าพี่ WEB หล่อสุด :mrgreen:
ควรทุ่มเทเจริญให้มาก..ในงานที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง..
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 1

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ยินดีด้วยครับ
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป

-จีรนุช เปรมชัยพร
sipoonya
Verified User
โพสต์: 469
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 15

โพสต์

สู้ๆนะฮะ สมาคม ไฟท์ติ้ง
Sixth Sense Investor
vmrkai
Verified User
โพสต์: 60
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 16

โพสต์

สู้ ๆ
Jane Seksan
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 110
ผู้ติดตาม: 34

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ดีใจและภูมิใจครับ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสมาคม ที่ไม่ใช่เพียงแบ่งปันความรู้ให้กับสมาชิก

แต่ยังแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับสังคม ตามวัตถุประสงค์ ที่ทางสมาคมจะทำประโยชน์คืนสู่สังคม


เป็นการเผยโฉมหน้า(ที่น่ารัก)....จริงๆครับ :mrgreen:
"วันคืนล่วงเลยไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่"

"สิ่งทั้งหลายทั้งปวง อันใครๆ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น"

........ คำสอน พระพุทธเจ้า ........
pakhakorn
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ยินดี ด้วย ครับ :P
wwwman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 337
ผู้ติดตาม: 1

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 19

โพสต์

เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกท่านครับ :D ส่วนหนึ่งที่มั่นใจในสมาคม มาจากท่านนายกและรายชื่อทีมงาน ทุกท่านครับ รวมถึงท่านที่ปรึกษาสมาคมทั้ง 2 ท่าน อจ.ไพบูลย์และดร.นิเวศน์ครับ สมกับที่เรียกว่า Dream Team จริงๆครับ ผมเลยไม่ลังเลที่จะเป็นสมาชิกสมาคม 5 ปี ( 5 5 5) ในปี 55 ครับ ขอให้สมาชิกชมรมทุกท่านมีความสุขในการลงทุนครับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
ladak
Verified User
โพสต์: 46
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ยินดีด้วยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
และขอขอบคุณสำหรับคณะกรรมการทุกคนที่ทำงานเพื่อสมาชิกทุกคน
โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ขอบคุณมากๆคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 2

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 21

โพสต์

12 ดรีมทีม VI

1."พี่ไก่" ธันวา เลาหศิริวงศ์ นายกสมาคม
2. "ภา" ภาสุชา อุดรวณิช “KIRI”
3.“หมอมุข” นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ “Paul vi”
4."โจ้" อนุรักษ์ บุญแสวง “ลูกอีสาน”
5."ฉัตร" ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ “Chatchai” เลขานุการสมาคม
6."กานต์" ณัฐชาต คำศิริตระกูล “Mario”
7. "เอก" ธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง "Epeterpanz"
8."เว็บ" พรชัย รัตนนนทชัยสุข “WEB”
9. "หนิง" เสริฐสรรพ์ อภิวัชรกุล “Little wing”
10."หลิน" อังสินี อภิวัชรกุล “Kongkang” เหรัญญิก
11. "ขาว" ณภัทร ปัญจคุณาธร “KAO” นายทะเบียน
12.“หมอเค” ศุภศักดิ์ หล่อธนวณิชย์ "crazyrisk"
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 19

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 22

โพสต์

รูปประกอบข่าวจาก Post พี่ปรัชญา :P :P
news_img_462669_1.jpg
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 5&start=90
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
dr1
Verified User
โพสต์: 881
ผู้ติดตาม: 30

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ไชโย ไชโย ไชโย

สาธุ สาธุ สาธุ
samatah
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 24

โพสต์

นอกจากทีมงานคณะกรรมการสมาคมที่เห็นในรูปแล้ว เรายังมีนักลงทุนที่มีความรู้ ประสบการณ์ และประสบความสำเร็จอย่างสูงอีกหลายๆคนที่พร้อมจะช่วยสมาคมในการเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ แนวทางการลงทุนเน้นคุณค่าที่ถูกต้อง

และยังมีนักลงทุนรุ่นน้องอีกเกินสิบคน ที่คอยช่วยงานในด้านต่างๆของสมาคม ไม่ว่าจะเป็น งาน Company Visit งาน Moderator งานกิจกรรมพบปะสังสรรค์ งานอบรมสัมมนา
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 792
ผู้ติดตาม: 123

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ผมขอฝากพี่ฉัตร และ ท่านประธาน และ ท่านกรรมการ และทีมงานทุกท่านหน่อยนะครับ

ทราบว่าทางสมาคมจะมีการอบรมเรื่องการลงทุนแบบคุณค่าแบบเป็นล่ำเป็นสัน หากเป็นได้

ผมอยากให้ช่วยสอดแทรกหลักการเศรษฐกิจพอเพียง หลักการใช้ชีวิตอย่างรู้จักพอประกอบกันด้วยนะครับ

ผมเชื่อว่าต่อไปจะมีน้องๆที่นำแนวทางนี้ไปใช้แล้วเกิดเห็นผลมากมาย และสำหรับบางคนอาจเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น

หากเขาเหล่านั้นมั่งคั่งขึ้นมาโดยไม่มีคุณธรรม จริยธรรม การรู้จักประมาณตน ทรัพย์ที่เขาหาได้นั้นอาจเป็นเหตุแห่งปัญหาที่ตามมาในอนาคต

บางคนเมื่อยังมีไม่มากก็ยังไม่สามารถ"ซ่า"ได้มาก ต่อมาเมื่อมีมากแล้วอาจจะเหลิง

ผมเข้าใจครับว่าการสอนเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เอาแค่นิดๆหน่อยๆเท่าที่พอบอกเขาได้ก็พอครับ

ถ้าหากทีมงานไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง แก่แล้วก็อย่างนี้แหละครับ ห่วงลูกห่วงหลาน
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 26

โพสต์

คนขายของ เขียน:ผมขอฝากพี่ฉัตร และ ท่านประธาน และ ท่านกรรมการ และทีมงานทุกท่านหน่อยนะครับ

ทราบว่าทางสมาคมจะมีการอบรมเรื่องการลงทุนแบบคุณค่าแบบเป็นล่ำเป็นสัน หากเป็นได้

ผมอยากให้ช่วยสอดแทรกหลักการเศรษฐกิจพอเพียง หลักการใช้ชีวิตอย่างรู้จักพอประกอบกันด้วยนะครับ

ผมเชื่อว่าต่อไปจะมีน้องๆที่นำแนวทางนี้ไปใช้แล้วเกิดเห็นผลมากมาย และสำหรับบางคนอาจเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น

หากเขาเหล่านั้นมั่งคั่งขึ้นมาโดยไม่มีคุณธรรม จริยธรรม การรู้จักประมาณตน ทรัพย์ที่เขาหาได้นั้นอาจเป็นเหตุแห่งปัญหาที่ตามมาในอนาคต

บางคนเมื่อยังมีไม่มากก็ยังไม่สามารถ"ซ่า"ได้มาก ต่อมาเมื่อมีมากแล้วอาจจะเหลิง

ผมเข้าใจครับว่าการสอนเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เอาแค่นิดๆหน่อยๆเท่าที่พอบอกเขาได้ก็พอครับ

ถ้าหากทีมงานไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง แก่แล้วก็อย่างนี้แหละครับ ห่วงลูกห่วงหลาน
ขอบคุณมากครับ ผมเข้าใจว่าในคอร์สอบรม จะมีการกล่าวถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรม โดยอาจารย์ผู้ใหญ่ที่เราเคารพด้วยครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 27

โพสต์

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%99.html

การเงิน - การลงทุน : ถนนนักลงทุน
วันที่ 24 กรกฎาคม 2555 01:00
'ธันวา เลาหศิริวงศ์' ผู้นำ 'เซียนหุ้นวีไอ' คนปัจจุบัน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

รูปภาพ

แม้พอร์ตอาจไม่ใหญ่เป็นพันๆ ล้าน แต่ด้วยเพดานบินที่สูงบวกความตั้งใจที่เต็มเปี่ยม 'เซียนหุ้นวีไอ' น้อยใหญ่เต็มใจยกตำแหน่ง 'ผู้นำ' ให้กับเขา..'ไก่' ธันวา เลาหศิริวงศ์' นายกสมาคมวีไอ 'รุ่นที่ 1'

ชายวัย 45 ปี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย เพื่อมา "เล่นหุ้น" เป็นอาชีพ..เขาต้องบ้าแน่ๆ นั่นอาจเป็นความคิดของคนส่วนใหญ่ แต่สำหรับ "ไก่" ธันวา เลาหศิริวงศ์ การหลุดออกจากกรอบชีวิตเดิมๆ เพื่อริเริ่มสิ่งใหม่ให้ชีวิต คือการเริ่มต้นนับหนึ่งของความท้าทายครั้งใหม่

ปัจจุบันธันวาในวัย 47 ปี ไม่เพียงได้รับโอกาสใหม่ๆ ในชีวิต เป็นกรรมการตรวจสอบ บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) เป็นกรรมการอิสระ บมจ.อีซี่ บาย และเป็นคอลัมนิสต์เขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนมากมายแล้ว เพื่อนพ้องน้องพี่ชาว "วีไอ" ยังมอบภาระกิจ "ผู้นำ" ให้กับเขาในตำแหน่ง นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) รับไม้ต่อจาก สุทัศน์ ขันเจริญสุข เจ้าของพอร์ตหุ้น “หลายร้อยล้านบาท” ที่ขอจบภารกิจตัวเอง ภายหลัง ผลักดันเว็บไซต์ "ไทยวีไอ" ขึ้นเป็น "สมาคม" จนสำเร็จลุล่วง

ย้อนประวัติหัวหน้าวีไอคนปัจจุบัน หลังเรียนจบภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในปี 2530 และภายหลังได้รับการยกย่องให้เป็นศิษย์เก่าวิศวะฯลาดกระบัง “ดีเด่น” ธันวาสมัครเข้าทำงานในตำแหน่งวิศวะกรระบบในบริษัท โตโย เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ทำงานได้ 3 ปีก็ลาออกมาเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ไต่เต้าจากตำแหน่งเล็กๆ เลื่อนจนได้เป็นผู้บริหาร ก่อนจะถูกส่งตัวไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นได้รับการโปรโมทให้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ต่อจาก ศุภจี สุธรรมพันธุ์ (ปัจจุบันเป็น CEO บมจ.ไทยคม)

กว่า 20 ปี ที่ธันวาเป็นลูกหม้อไอบีเอ็ม จากตำแหน่งเล็กๆ ไต่เต้าจนเป็นผู้นำองค์กร ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจลาออกเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2554 เพื่อก้าวเดินในเส้นทางใหม่ของชีวิตตั้งใจแน่วแน่จะทำประโยชน์ให้กับสังคม ในระหว่างที่ร่วมงานกับไอบีเอ็มเขาได้เตรียมความพร้อมทางการเงินล่วงหน้ามานานกว่า 10 ปี แม้จะมีเงินเดือนสูงแต่ธันวาใช้ชีวิตเรียบง่ายและนำเงินไปลงทุนต่อจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพารายได้ประจำชีวิตก็อยู่ได้อย่างสบาย

สิบโมงตรง ณ ชั้นใต้ดินตึก IBM กรุงเทพธุรกิจ BizWeek มีนัดหมายกับนายกสมาคมวีไอใหม่แกะกล่อง แว้บ!! แรกที่สังเกตุเห็นชายวัยกลางคนผู้นี้มีบุคลิกกระตือรือร้นตลอดเวลา ตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาแทบไม่เห็นเขาหยุดสั่งงานกรรมการสมาคมหรือนั่งพัก แถมอำนวยความสะดวกแขกผู้แปลกหน้า (นักข่าว+ช่างภาพ) ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แม้จะไม่ใช่เจ้านายของตึก IBM แล้ว ไม่ว่าธันวาจะเดินไปที่ไหน พนักงานที่พบไม่เว้นแม้แต่แม่ค้าบนโรงอาหารชั้น 7 ต่างพากันยกมือไหว้และทักทายอย่างเป็นกันเอง

เจ้าตัวเล่าชีวิตการลงทุนให้ฟังว่า เริ่มสัมผันการลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อปี 2532 หลังมีโอกาสเจอพี่คนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่เขาสนใจลงทุนในตลาดหุ้น ช่วงนั้นยังไม่มีครอบครัวจึงตัดสินใจควักเงินเก็บ "หลักแสนบาท" ที่ตั้งใจจะนำส่วนหนึ่งไปสร้างบ้านมาลงทุน แต่ปัจจุบันมีลูก 2 คน ผู้หญิงคนโตตอนนี้เรียนอยู่ปี 2 ทางด้านไฟแนนซ์อยู่ที่อเมริกา ส่วนลูกชายคนสุดท้องกำลังจะบินไปเรียนตามพี่สาว

"การลงทุนช่วงแรกผมขาดทุนหนักมาก (หัวเราะ) จนแทบจำตัวเลขไม่ได้ เพราะลงทุนแบบไม่มีหลักการ แถม “จัดเต็ม” ซื้อหุ้นหลายตัวชนิดไม่มีข้อมูลสักอย่างอยู่ในหัวสมอง ทำให้ตอนนั้นต้องกู้เงินมาสร้างบ้าน ตลอดระยะเวลา 10 ปีแรกของการลงทุน ยอมรับว่า "ไม่ประสบความสำเร็จ" โดนวิกฤติเล่นงานตลอด ไม่ว่าจะเป็นสงครามอ่าวเปอร์เซีย หรือ ต้มยำกุ้ง แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเข็ดแม้จะยังมองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เรียกได้ว่าขายขาดทุนก็ต้องยอม"

จุดหักเหของการลงทุนเกิดขึ้นในช่วงที่ทำงานอยู่ที่ประเทศสิงค์โปร์ ตอนนั้นได้อ่านหนังสือต่างประเทศเรื่อง “Rich dad Poor dad” (พ่อรวยสอนลูก) ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ เรื่องนี้สอนเกี่ยวกับอิสระภาพทางการเงิน และสอนให้ใช้เงินทำงานแทนเรา เมื่อกลับมาเมืองไทยก็ได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเรื่อง “ตีแตก” ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เล่มนี้สอนเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า และสอนให้รู้ว่าลงทุนแบบไหนมีความเสี่ยงต่ำ และมีความมั่นคงสูง

"ผมใช้เวลาอ่านหนังสือ 2 เล่มนี้ไม่นาน..ชอบมาก! มันมีเหตุมีผลเหมือนวิชาวิศวะที่เราร่ำเรียนมา จริงๆ แล้วหนังสือ "ตีแตก" เปลี่ยนแปลงชีวิตและครอบครัวของผม ไม่เช่นนั้นชีวิตการลงทุนคงเหมือนในช่วง 10 ปีก่อนที่ขาดทุนอย่างหนัก"

เขาอธิบายรอยต่อจุดหักเหของความคิดก่อนจะ "ตีแตกทางความคิด" สำเร็จว่า เดิมตัวเองมีแนวคิดว่า "การ เล่นหุ้น" คือ "ต้องขายเมื่อมีกำไร" โดยไม่สนใจว่าพื้นฐานบริษัทเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ แต่หนังสือตีแตกสอนให้คิดว่าการเล่นหุ้น คือ "การลงทุนทำธุรกิจ" แม้ราคาหุ้นจะ "ขึ้น" แต่หากพื้นฐานยังดีก็ "ไม่จำเป็นต้องขาย" จริงๆ อยากให้นักลงทุนกลับไปอ่านบทความที่ผมเขียนเรื่อง “มรดกอาณาจักรธุรกิจ” และ “คุณค่านักลงทุน” เนื้อหาโอเคมาก

ธันวาเริ่มบททดสอบในเส้นทางวีไออย่างจริงจัง ช่วงปี 2546 โดยลงทุนหุ้นเป็น "สิบตัว" เน้น "ราคาถูก" เป็นหลัก โดยจะดูค่า P/E และค่า P/BV เน้นต่ำๆ เข้าไว้ รวมถึงดูผลตอบแทนจากเงินปันผล ซึ่งจะต้องอยู่ระดับ 4-5% การลงทุนในลักษณะนี้ยอมรับว่า "ผลตอบแทนไม่ค่อยดีเท่าไร" การที่ "หุ้นถูก" เพราะมัน "ไม่มีสตอรี่" มาสนับสนุนราคา ราคาหุ้นก็ไม่ไปไหน เขาจมอยู่กับการลงทุนลักษณะนี้ 2-3 ปี เห็นว่า "ยังไม่ใช่" จึงเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่

"วันนี้เงื่อนไขการลงทุนของผมมีค่อนข้างเยอะ จะเน้นลงทุนเฉพาะหุ้น “ซุปเปอร์สต็อก” คือ หนึ่ง..มีรูปแบบธุรกิจที่ดี ผู้บริโภคมีการซื้อซ้ำ สอง..บริษัทมีรายได้มั่นคงแน่นอน สาม..ฐานะการเงินดี สี่..ผู้บริหารเก่ง ห้า..ธุรกิจมีความเสี่ยงต่ำ และมี Economy of scale (ยิ่งใหญ่ต้นทุนยิ่งถูก) ทุกวันนี้หุ้นในตลาดมีมากถึง 500 บริษัท แต่เชื่อหรือไม่! ว่ามีหุ้นที่เป็นซุปเปอร์สต็อกแบบที่ผมบอกไม่ถึง 20 ตัว"

นอกจากเรื่องปัจจัยพื้นฐานแล้วธันวายังคำนึงถึงเรื่อง "สภาพคล่อง" ประกอบด้วย เขาจะซื้อหุ้นที่มีสภาพคล่องค่อนข้างสูง เคยซื้อหุ้นดีราคาถูกแต่พอจะขายต้องใช้เวลาเป็นเดือน ตรงข้ามกับหุ้นที่มีสภาพคล่องใช้เวลาขายเพียง 2-3 วันก็หมด นี่เป็นอีกเงื่อนไขการลงทุนส่วนตัวที่อาจจะต่างจากวีไอคนอื่น

"ทุกวันนี้ผมจะให้ความสำคัญกับการแกะงบการเงินน้อยลง แต่จะเน้นดูภาพรวมของธุรกิจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามากกว่าว่าเขามีความชำนาญและธุรกิจทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจมากแค่ไหน ปัจจุบันผมมีหุ้นในพอร์ตแค่ 5-6 ตัว เป็นซุปเปอร์สต็อกเกือบทั้งหมด มีเพียง 1 ตัว ที่เป็นหุ้นขนาดกลาง ตั้งใจจะหาจังหวะขาย เพื่อปรับพอร์ตให้เป็นหุ้นซุปเปอร์สต็อกทุกตัว"

อยากรู้ว่าพอร์ตลงทุนของนายกสมาคมวีไอมีมูลค่าเท่าไร..? ถามกันตรงๆ แบบนี้ เจ้าตัวถึงกับหัวเราะก่อนปิดประตูใส่กลอนว่า "ไม่ขอเปิดเผยดีกว่า!" เอาเป็นว่ามีมูลค่า "มากระดับหนึ่ง" ส่วนหุ้นในพอร์ต 5-6 ตัว มีอะไรบ้าง! เจ้าตัวก็ตอบเลี่ยงไปว่า ชอบกลุ่มค้าปลีก, อาหาร, โรงพยาบาล และสื่อสาร ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ในระยะกลางถึงยาวน่าสนใจมาก โอกาสจะสร้างผลตอบแทนปีละ 12-15% มีสูงมาก

จริงๆ บอกแค่นี้ก็เดาออกแล้วว่ามีหุ้นอะไรบ้าง!! ซึ่งก็พอรู้ว่าวีไอเขาเล่นหุ้นอะไรกันอยู่ แต่บางตัว "บิซวีค" มองว่าอาจจะขึ้นมา "เยอะมากแล้ว"

ทำไม! ถึงชอบ 4 กลุ่มนี้ (ค้าปลีก, อาหาร, โรงพยาบาล, สื่อสาร) เจ้าตัววิเคราะห์ให้ฟังคร่าวๆ โดยบอกก่อนว่าหุ้นทั้ง 4 กลุ่ม ถือเป็นปัจจัยที่ "คนขาดไม่ได้" คือ "ต้องกิน-ต้องใช้-ต้องรักษา" กลุ่มค้าปลีกและอาหารทนต่อทุกสภาวะเศรษฐกิจ ส่วนธุรกิจโรงพยาบาล ชอบเพราะเป็นธุรกิจที่ "คนต่อรองไม่ได้" (เขาจะฟันเท่าไรก็ต้องจ่าย) ปัจจุบันคนไทยประมาณ 25% (เป็นผู้สูงอายุ) อยู่ในวัยที่ต้องเข้าโรงพยาบาล ฉะนั้นธุรกิจนี้ไม่มีทางไม่เติบโตมีแต่ "เติบโตไม่มาก" กับ "เติบโตมาก"

สำหรับธุรกิจสื่อสาร แม้จะไม่ใช่ปัจจัย 4 แต่ถือว่า "จำเป็น" ในการดำรงชีวิตประจำวัน วันไหนลืมหยิบโทรศัพท์มาก็แทบจะอยู่ไม่ได้แล้ว..จริงมั้ย!! ที่สำคัญเป็นธุรกิจที่มีการ "ใช้ซ้ำทุกวัน" อีกอย่างหากระบบ 3G เกิดจริงๆ รายได้จากการขายโทรศัพท์ของโอเปอร์เรเตอร์จะมากขึ้น "แต่การทำนายของผมอาจผิดก็ได้ (หัวเราะ)"

สำหรับเป้าหมายผลตอบแทน เขาบอกว่า ถ้าได้ 12-15% ต่อปี เท่านี้ก็ “แฮปปี้” แล้ว ผมชอบคำพูดประโยคหนึ่งของอาจารย์นิเวศน์ แกบอกว่า “10 ปี 1 หลัก” หมายความว่า เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี เราควรมีมูลค่าพอร์ตเพิ่ม 1 หลัก ถือเป็นเป้าหมายท้าทายมาก..ผมก็อยากทำให้ได้อย่างนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขนาดมุ่งมั่น

อีกหนึ่งวรรคทองของ ดร.นิเวศน์ ที่ชอบคือ “เราไม่รู้หรอกว่าราคาหุ้นจะไปเท่าไร รู้เพียงว่าเป็นหุ้นที่ดี กิจการของเขายอดเยี่ยม และจะดีต่อไปในระยะยาว” แต่นักลงทุนบางรายมักจะบอกว่า การที่ได้กำไรหลายๆ เด้งเป็นเพราะเหตุผลโน่นนี่ ส่วนตัวคิดว่ามันอาจไม่ใช่เหตุผลอย่างนั้นก็ได้ เราคงไม่สามารถคำนวณเหตุผลได้แม่นยำ การเล่นหุ้นมีเทคนิคมากมาย เราไม่สามารถประเมินได้ว่าจะกำไรเท่าไร

"ผมเน้นการลงทุนแล้วสบายใจ นับวันผมยิ่ง “ขี้เกียจลงทุน” เพราะเงื่อนไขการลงทุนของผมมีมากมาย ทำให้ไม่ค่อยเจอหุ้นที่อยู่ในเงื่อนไขเท่าไร ส่วนใหญ่จะหาข้อมูลเพื่อมาเขียนบทความมากกว่า (หัวเราะ) แม้จะขี้เกียจแต่ผมก็มักจะสอนลูกทั้ง 2 คน โดยวิธีให้เงินลูกไปบริหารจัดการเอง..เช่น ผมจะให้เงิน 100 บาท เขาอยากเอาไปเรียนอะไรตามใจเขาเลย เพราะส่วนที่เหลือจะเป็นของเขา เมื่อเขาอายุ 25 ปี ผมจะโอนเงินส่วนที่เหลือทั้งหมดให้เขา ผมอยากสอนให้ลูกรู้จักการออกแบบทางการเงินและออกแบบชีวิตของเขาเอง"

ในฐานะนายกสมาคมวีไอ ธันวาฝากบอกนักลงทุนว่า คุณต้องหาแนวทางการลงทุนของตัวคุณเองให้เจอ คนเราเก่งไม่เหมือนกัน อยากให้ทุกคนมีความสุขกับการลงทุน และเมื่อประสบความสำเร็จแล้วก็ควรตอบแทนคืนให้สังคมบ้างทางไหนก็ได้

"ผมเห็นหลายคนถ่ายรูปตอนไปเที่ยวเมืองนอก กินอาหารเริ่ดหรู จริงๆ แล้วคนที่ประสบความสำเร็จบางคน อาจกลับไปทำแบบเดิมไม่ได้แล้วก็ได้ หลักการที่ดีคนอื่นต้องทำตามได้ ที่ผ่านมาผมมักแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเรื่องการศึกษา เพื่อเป็นทุนให้กับคนด้อยโอกาส ซึ่งผมจะนำแนวทางนี้ไปใช้กับทางสมาคมด้วย ทุกวันนี้บ้านพ่อผมอยู่ที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ผมก็จะส่งเงินให้พ่อนำไปช่วยการศึกษาเด็กๆ ที่โน่นเป็นประจำ"

ความเสี่ยงของความสำเร็จ คือหยุดไม่ได้ที่จะขยายมันออกไปเรื่อยๆ เส้นทางของ "เซียนหุ้น" ที่แท้จริงอยู่ที่การ "ให้" ยิ่งให้..ยิ่งได้!!! เกิดมาชาติหนึ่งได้ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ และสังคม นั่นต่างหาก..ความสำเร็จที่แท้จริง "ธันวา เลาหศิริวงศ์" เขาตั้งใจที่จะเดินเส้นทางนั้น!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 7

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ข่าวเก่า

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B9%8C.html

การเงิน - การลงทุน : ถนนนักลงทุน
วันที่ 14 ธันวาคม 2552 01:00
สุข แบบ VI สบาย แบบ 3 แวลูอินเวสเตอร์

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

รูปภาพ


เปิดใจ 3 แวลูอินเวสเตอร์เล่นหุ้นอย่างไรให้ 'สุข+รวย' ยึดหลักการ 'ง่ายๆ-พอเพียง-มีเหตุผล' รับทั้งกำไรได้ทั้งความสุขแบบทูอินวัน


เป็นนักลงทุนมายาวนานและเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Thaivi.com แต่ด้วยหน้าที่การงาน ทำให้ ธันวา เลาหศิริวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย เพิ่งมีโอกาสบอกเล่าประสบการณ์ลงทุนเป็นครั้งแรก เจ้าตัวเน้นย้ำก่อนว่าเป็นการลงทุนส่วนตัวเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับงานประจำที่ทำอยู่

จุดเริ่มต้นในกระดานหุ้น ธันวาเล่าว่าหลังเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นและมีเงินเก็บพอสมควร จึงเริ่มลงทุนหุ้นตามคำชักชวนของคนรู้จัก สมัยนั้นยังใช้ระบบ “เคาะกระดาน” ผ่านบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เกียรตินาคิน อยู่ตึกอมรินทร์ทาวเวอร์

“ผมลงทุนตามอารมณ์สิบกว่าปีกำไรได้นิดเดียว แต่ขาดทุนเยอะล้างพอร์ตแล้วสองสามครั้ง ผ่านวิกฤติตั้งแต่อิรักบุกคูเวต จนถึงลอยตัวค่าเงินบาทปี 2540 เจ็บตัวมาตลอดทาง”

จุดเปลี่ยนในชีวิตนักลงทุนของธันวา เกิดขึ้นเมื่อต้องเดินทางไปประเทศสิงคโปร์มีโอกาสอ่านหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” ของ โรเบิร์ต คิโยซากิ และ “ตีแตก” ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ถึงเริ่มเดินเข้าสู่วิถีนักลงทุนหุ้นคุณค่า

“ช่วงแรกๆ ผมเลือกลงทุนหุ้นปันผลเป็นหลัก ต่อมาก็พัฒนาเริ่มดูภาพเศรษฐกิจใหญ่ประกอบเน้นธุรกิจที่จับต้องได้และสามารถประเมินผลประกอบการข้างหน้าได้”

พอร์ตลงทุนในปัจจุบัน มีหุ้นอยู่ 5 ตัว เป็นกลุ่มโมเดิร์นเทรด 2 ตัว โรงพยาบาล และอาหาร ส่วนตัวจะเลือกหุ้นที่อิงกับ "ปัจจัยสี่" แต่ให้น้ำหนักกับหุ้นที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าและที่อยู่อาศัยน้อยกว่าอาหารและยา ที่สำคัญต้องเป็นผู้นำในธุรกิจและมีธรรมาภิบาลระดับสูงด้วย

ธันวา อธิบายว่าข้อดีของหุ้นโรงพยาบาล คือ ลูกค้าแทบจะไม่มีอำนาจต่อรองราคาได้เลย ผลประกอบการก็ดีปันผลสูง แต่บางตัวก็ติดกับดักสภาพคล่อง โอกาสขายออกมีน้อย

โครงสร้างผู้ถือหุ้นก็สำคัญ ธันวาเลือกที่จะลงทุนบริษัทที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้บริหารด้วย เพราะจากประสบการณ์ผู้บริหารที่ไม่มีหุ้นจะให้ความสำคัญกับกิจการน้อยกว่าคนที่มีหุ้นในมือ

ด้วยภารกิจในงานประจำที่เร่งรัด จึงต้องลงทุนหุ้นไม่กี่ตัว ปกติจะถืออยู่ที่ 5 ตัว แต่ก็ติดตามผลการดำเนินงานต่อเนื่องถ้ามีเวลาก็จะไป Company Visit ทุกไตรมาส

“นอกจากนี้ผมยังลงกองทุนหุ้นไว้ 3 กองเพราะผมคิดว่าผลตอบแทนยังไงก็ดีกว่าไปลงทุนแบบอื่นแน่นอน”

ธันวา เล่าให้ฟังอีกว่า ทุกวันนี้พอใจกับชีวิตการเป็นแวลูอินเวสเตอร์ มีกลุ่มนักลงทุนที่มีแนวคิดเหมือนกับเป็นเพื่อนพูดคุย เมื่อมีการจัดกิจกรรมของชมรมก็จะมาแนะนำนักลงทุนหน้าใหม่ทุกครั้ง

ส่วนการลงทุนครั้งใหญ่ของชีวิต เร็วๆ นี้ กำลังเตรียมสร้างบ้าน "หลังที่สอง" รวมถึงวางแผนการศึกษาให้บุตรสาว "สองคน" สร้างสมดุลระหว่าง "สุขใจ" และ "สบายกระเป๋า" ได้อย่างลงตัว


ด้าน พรชัย รัตนนนทชัยสุข คนไทยเพียงคนเดียวที่คลั่งไคล้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ถึงขนาดดั้นด้นไปซื้อหุ้น "เบิร์คไชร์ ฮาธะเวย์" (Berkshire Hathaway) เพื่อหวังไปพบตัวจริงเสียงจริงของ "บัฟเฟตต์" ในงานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีถึงเมืองโอมาฮา สหรัฐอเมริกา

พรชัย เป็นผู้แปลและเรียบเรียงหนังสือของวอร์เรน บัฟเฟตต์, เบนจามิน เกรแฮม, ปีเตอร์ ลินช์ รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหลายเล่ม เขาจบปริญญาตรีด้านเภสัชกรเมื่อปี 2537 เริ่มทำงานครั้งแรกในบริษัทยาแห่งหนึ่ง จากนั้นจึงไปเรียนต่อด้านบริหารธุรกิจ (MBA) และได้เข้าทำงานที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต

พรชัย เริ่มต้นชีวิตนักลงทุนเมื่อประมาณปี 2535-2537 ซึ่งตลาดหุ้นบูมมาก แต่ก็เล่นแบบเก็งกำไรและไม่ประสบความสำเร็จ

"แรกๆ ผมเลือกหุ้นโดยกางบทวิเคราะห์โบรกเกอร์ว่าเขาเชียร์หุ้นตัวไหนบ้าง แต่แล้วก็ขาดทุน เพราะเราไม่ได้ดูเลยว่า ราคาหุ้น ค่าพี/อี ค่าพี/บี ผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร พอซื้อเข้าไปจึงขาดทุน ช่วงที่เข้าไปดัชนี 1,000 จุดต้นๆ หลังจากนั้นมันตกลงมาต่ำสุด 207 จุด ผมรู้สึกเลยว่าการเชื่อผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่วิธีที่ทำกำไรได้"

จากประสบการณ์ครั้งนั้นเขาจำได้ว่า ซื้อหุ้นไว้ที่ดัชนี 1,300 จุด ตกลงมาเหลือ 200 จุด แต่หุ้น SE-ED ราคากลับขึ้นจาก 28 บาท ไป 36 บาท เริ่มเห็นว่ามันมีหุ้นบางตัวที่เอาชนะตลาดได้ จากนั้นมาก็เป็นแวลูอินเวสเตอร์เต็มตัว โดยวิธีการลงทุนจะค้นหาหุ้นที่ราคาตลาดถูกกว่ามูลค่ากิจการที่คำนวณได้ และต้องเป็นธุรกิจที่คาดการณ์รายได้ในอนาคตได้ ไม่ผันผวน มีจุดแข็งในธุรกิจ และมองเห็นคู่แข่งว่าเป็นใคร

"หุ้นพวกอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี งานประมูล พวกนี้ไม่แน่นอนคาดเดาไม่ได้เลย หุ้นพวกนี้ต้องหลีกเลี่ยง"

พอร์ตส่วนตัวตอนนี้พรชัยเปิดเผยว่า มีหุ้นไทยแค่ 2 ตัวเท่านั้น ตอนนี้เน้นถือเงินสดเพราะมองว่าราคาหุ้นขึ้นมาเยอะมากแล้ว แต่เริ่มนำเงินไปลงทุนที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งเป็นการลงทุนตรง ปัจจุบันมีอยู่ 8 ตัว โดยให้เหตุผลว่าต้องมีเยอะกระจายความเสี่ยงเพราะข้อมูลน้อยกว่าเมืองไทย

"ผมแบ่งสัดส่วนพอร์ตถือเงินสด 20% หุ้นที่สหรัฐฯ 10% ที่เหลือเป็นหุ้นไทยสองตัว 60-70% ถ้าผมลงทุนหุ้นกระจุกเพียงไม่กี่ตัว แปลว่า ผมมั่นใจในตลาดหุ้นมากๆ แต่ถ้าซื้อหลายตัว แปลว่า ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง"

ช่วงเวลาที่ขายหุ้น ปกติจะถือหุ้นไว้จนกว่าราคาจะขึ้นมาใกล้เคียงกับมูลค่าที่คำนวณไว้ หรือไปเจอหุ้นตัวอื่นที่มีมูลค่าถูกกว่าก็จะสลับตัวเล่น แต่บางครั้งถ้ารู้ว่าเลือกผิดตัวก็จะตัดใจขายไปเลย

สถานการณ์ที่ตลาดหุ้นลงมาแรงๆ อย่างช่วงปลายปี 2551 พรชัยบอกว่า หุ้นในพอร์ตไม่ได้ตกลงไปมาก แต่ถือโอกาสขายตัวที่แพงออกไปแล้วไปซื้อตัวอื่นที่ถูกกว่า เพื่อให้หุ้นในพอร์ต Under Value ตลอดเวลา

“แนวทางของผมก็คือ เราซื้อหุ้นในตลาดไม่ใช่ซื้อตลาดหุ้น ส่วนใหญ่ผมไม่ได้จำต้นทุนหรอก กำไรก็ไม่ได้จำ ถือว่าการลงทุน คือ ความสุขของชีวิต”

ทุกวันนี้การลงทุนหลักๆ ยังคงเป็นการลงทุนในหุ้น แต่ก็มีแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปซื้อกองทุนหุ้นเหมือนกัน นอกจากนี้ก็ยัง "ลงทุนความรู้" โดยบินไปอบรมด้านการลงทุนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและโคลัมเบีย รวมถึงให้ความสำคัญกับครอบครัวด้วย

แต่สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นการลงทุนเหมือนกันก็คือ การบินไปประชุมผู้ถือหุ้น เบิร์คไชร์ ฮาธะเวย์ ที่เมืองโอมาฮา สหรัฐอเมริกา พยายามทำให้ได้ทุกปี เจ้าตัวเผยว่าเป็น "ความสุข" ที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ เพราะได้กระทบไหล่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ตัวเป็นๆ


ทางด้านแวลูอินเวสเตอร์หมายเลขหนึ่งของเมืองไทย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ยอมรับในสังขารตอนนี้ “แก่ลง” คำนวณอะไรเยอะๆ ไม่ไหว วิธีเลือกหุ้นที่จะลงทุนจะดูบริษัทที่ทำงานเหมือน “พนักงานเก็บเงิน” มีความแน่นอนสูงและมีแนวโน้มที่จะเก็บเงินได้ต่อเนื่องในอนาคต

“บริษัทต้องไม่ลงทุนมาก แต่รับเงินเรื่อยๆ เราแค่มองดูว่า อนาคตผู้คนยังเลือกที่จะเดินทางไปให้เก็บเงินอีกหรือไม่ แต่ไม่ใช่หุ้นทางด่วนนะบอกก่อน” เจ้าตัวว่า ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าอาจารย์นิเวศน์ หมายถึงหุ้น CPALL ที่มีติดพอร์ต 22.50 ล้านหุ้น มูลค่าเกือบ 480 ล้านบาท

อาจารย์นิเวศน์ บอกว่า ตอนนี้มีหุ้นในพอร์ต "สิบตัว" (อาทิ CPALL, IT, HMPRO, IRC, APRINT) ลงทุนหนักๆ อยู่ 6-7 ตัว ส่วนใหญ่ซื้อแล้วไม่คิดจะขาย ถือยาวตั้งแต่ห้าปีเป็นต้นไป บางตัวสิบกว่าปีแล้วก็ไม่ขาย ถ้าจะขายก็คือไปเจอหุ้นตัวอื่นที่มูลค่าลดลงมาแล้ว เปลี่ยนตัวเล่น เท่านั้นเอง

ส่วนการลงทุนอื่นๆ ยังคงเป็นเรื่องการศึกษาของลูกสาวที่เตรียมบินไปเรียนต่อต่างประเทศเร็วๆ นี้

สุขใจ-สบายกระเป๋า หลักการของสามแวลูอินเวสเตอร์ "ง่ายๆ-พอเพียง-มีเหตุผล" รับทั้งกำไรได้ทั้งความสุขแบบทูอินวัน
doikham
Verified User
โพสต์: 91
ผู้ติดตาม: 0

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ที่คุณ chatchai พูดถึงคอร์สอบรม ไม่ทราบว่ามี criteria ในการคัดเลือกผู้รับการอบรมยังไงคะ ( เข้าใจว่าจะมีคนสมัครมากกว่าจำนวนที่รับมาก )
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

Re: สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เปิดตัวในกรุงเทพธุรก

โพสต์ที่ 30

โพสต์

doikham เขียน:ที่คุณ chatchai พูดถึงคอร์สอบรม ไม่ทราบว่ามี criteria ในการคัดเลือกผู้รับการอบรมยังไงคะ ( เข้าใจว่าจะมีคนสมัครมากกว่าจำนวนที่รับมาก )
คอร์สอบรมสำหรับนักลงทุนมือใหม่ครับ การคัดเลือกก็คงจะเป็นลำดับก่อนหลังในการจองเหมือนกิจกรรมอื่นๆของสมาคมครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
โพสต์โพสต์