Dicuss กันสนุกๆนะคับนีโอ เขียน: ↑ศุกร์ ก.ค. 19, 2024 8:45 pmภาพรวมตลาดหุ้นไทย ขาดความเชื่อมั่นด้วยครับSTARK OTO MORE EA NEX BYD SABUYตระกูล J อีกหุ้นรายตัวเลยเล่น พีอีต่ำครับอย่าง XO พีอี ใกล้ 10 หากตลาดหุ้น ไม่มีการโกง ความเชื่อมั่นจะมีมาก XO ต้องเล่น พีอี 20 ขึ้นครับ
ผมว่า PE ของ XO ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ อาจจะ จะไม่ได้ใกล้10ก็ได้มั้งคับ
และ Fair PE 20++ ก็อาจจะพอได้ ถ้าดอกเบี้ยลงมาต่ำกว่านี้ และ มองไปที่ Normalized Profit นะคับ (ไม่ใช่เอากำไรที่ ดีเกินจิงของธุรกิจ ในช่วงฐานรายได้ และ กำไรตอนนี้)
ทำไมถึงมองแบบนั้น
1. XO ธรรมชาติของธุรกิจเป็น Bump & Dump เพราะ ซอส 1 ขวด กว่าที่ผู้บริโภคจะกินหมด ใช้เวลา 1 ปี +/- ดังนั้นรอบการสั่งของ Distributor ในตปท โดยเฉพาะ Dis หลักๆในยุโรป 2 เจ้าหลัก เขาจะสั่งเยอะๆมาเป็นรอบๆ อาจจะรอบนึงกินเวลาประมาณ 1-2 ปี แล้วสั่งเยอะๆอยู่ 1-2 ไตรมาส แล้วกว่าจะระบาย inventory หมดก็อาจจะใช้เวลาสัก 1 ปี แล้วก็สั่งใหม่ เป็นรอบๆแบบนี้ แบบนี้จิงๆแล้วธุรกิจแบบนี้ ความSmooth ของ Topline มันไม่มี Recurring เท่าไร และการมาของรายได้จะมาเป็นรอบๆ สังเกตภาพเมกาได้ ยอดเมกาที่สั่งในปีที่ผ่านมา กว่าDISจะเคลีย Inventory หมด ก็น่าจะต้องใช้เวลาเป็นปี ส่วนยุโรปก็น่าจะใช้ เวลาเคลีย Inventory เป็นรอบๆ ทำให้Dis เขา Forecast การสั่งไม่ค่อยได้
2. งบ XO แทบจะดีเกินจิงทุกบรรทัด ตั้งแต่ GPM ที่ดีเกินจิง เพราะตอนนี้ U rate ของโรงงานได้ Scale มากสุดๆแล้ว การจะดัน GPM ขึ้นไปอีกเป็นไปได้ยาก ในระยะยาว GPM ระดับนี้โอกาสจะยืนได้ยาก โอกาสจะลดลงสูงกว่าที่จะ Maintain ได้
3. SG&A ที่ได้อยู่ทุกวันนี้ก็ดีเกินจิง เพราะตอนนี้ XO แทบจะลง Marketing expense น้อยมากๆ ด้วยที่ Dis ในยุโรปเขาทำตลาดไปพอสมควร ทำให้แบรนติดตลาดในยุโรป ตลาดในยุโรป แทบจะบอกได้ว่า XO คือเบอร์ 1แล้วละ ชนะแล้วในตลาดนี้ ในอนาคตถ้ามีคู่แข่งมาอาจจะต้องลง Maintain marketing expense เพิ่มจากปจบอีก ก็เป็นได้ และตลาดในเมกา ภาพการแข่งขันไม่ใช่แบบนั้น ตลาดซอสในเมกา มัน Fragment และ ออกไปทาง Commodity พอสมควร รวมทั้ง ทวีปอื่นๆด้วย การจะเพิ่มยอดขาย หรือถ้าบริษัทจะเปิดตลาดใหม่ ต้องมีการเพิ่มค่า marketing อีกมาก ดังนั้น Marketing ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ใช้น้อยเกินจิงไปหน่อย แทบจะ True good to be true อีกเช่นกัน ในระยะยาว เราน่าจะเห็น สัดส่วน marketing expense to sale เพิ่มก็เป็นไปได้มากกว่า จะอยู่ระดับนี้
4. TAX ที่ได้อยู่ทุกวันนี้ก็ดีเกินจิง ไม่ sustain แน่ๆ in the long run
5. ส่งผลให้ NPM ของธุรกิจ อยู่ในจุดที่ขอบบนมากๆแล้ว ในระยะยาว ยังไงก็ต้องต่ำลงมากกว่านี้ จากเหตุผลที่ว่ามา
6. การเติบโตของธุรกิจต้องลุ้น Topline โตอย่างเดียว ขา MARGIN ต่างๆ ในระยะยาวโอกาส drop ลงเป็นไปได้มากกว่าโอกาศที่จะ Maintain ได้ แต่โอเคแหละในระยะยาว5 ปี++ บริษัทก็น่าจะยังเติบโตไปได้ในมุมของ Topline
7. ภาพธุรกิจที่กำไรดีเกินจิง และ ความไม่ smooth ของ Topline (พูดง่ายๆคือ เหมือนจะไม่ค่อย Recurring เท่าไร) บวกกับตลาดก็น่าจะ Adjust Normalize profit ลงมา จากสถานการณ์ตอนนี้ที่ดีเกินจิงในตอนนี้ ทำให้ จิงๆแล้ว กำไรของ XO ที่ นวค คาดกันไว้แถว 800+/- อาจจะ ปรับNPAT ให้ลงมาสู่ธรรมชาติของธุรกิจที่ควรจะเป็น อาจจะอยู่สัก 600-650 ลบ ซึ่ง PE สำหรับกำไร 600-650 โอเค อาจจะอยู่แถวๆ 15-17+/- ในสภาวะดอกเบี้ย และ ตลาดแบบนี้ ส่วนกำไรอีก 150-200 มันดีในสภาวะแบบที่ไม่น่าsustain ต่อไปได้ในเชิงธุรกิจในอนาคต ผมมองเป็นกำไรส่วนเพิ่มจากสถานการณ์พิเศษชั่วคราว ผมให้ PE สัก 1-2 แล้วกัน ก็เอาไปบวก Mkt cap จาก Core operation ที่ควรจะเป็น
ราคา ตรงนี้ก็อาจจะประมาณ fair หรือ อาจจะ Underprice นิดหน่อยมั้งคับ
แต่ระยะยาวก็เป็นธุรกิจที่ดีนะคับ น่าสนใจคับ