โพสต์ยอดนิยม

ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Daphne_Daddy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 39
ผู้ติดตาม: 27

Re: TKN

โพสต์ที่ 1

โพสต์

AGM คำถามจากนักลงทุน – คำตอบจากผู้บริหาร เพิ่มเติมครับ
คำถาม 1
สัดส่วนการขาย ณ ปัจจุบัน ของในประเทศ และต่างประเทศ เหมาะสม หรือควรปรับ อย่างไร ในประเทศ 40% ต่างประเทศ 60%
คำตอบ
ณ ปัจจุบันตลาดในไทย เติบโตค่อนข้างจำกัด เนื่องจากประชากรศาสตร์ โอกาสเติบโตในต่างประเทศจะมีโอกาส GAP ที่มากกว่า
- อินโดนีเซีย เมื่อก่อนยังไม่โต ตอนนี้เริ่มมีความนิยม
- ผู้บริหารมองว่าสัดส่วนดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่พึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากจนเกินไป
- ตลาดนอกประเทศมี 40 ประเทศที่ส่งออกไป
- ตลาดต่างประเทศที่เป็น STAR มี 10 ประเทศ เช่น จีน อินโด อเมกา แคนาดา
- อีก 30 ประเทศ ยังมี ROOM ให้เติบโตอีกมาก

คำถาม 2
ตลาดตะวันออกกลางมีเข้าไปบ้างหรือไม่
คำตอบ
ยูเออี , การ์ต้า ไปแล้วแต่ยังไม่ได้มาก การเข้าห้างใหญ่ค่อนข้างยาก ตามกฎของอิสลาม ( ตลาดใหม่ )

คำถาม 3
เรื่อง Packaging และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็น TREND CARBON CREDIT และ GREEN
คำตอบ
- ทางโรงงานมีเป้าหมายในการผลิต Packaging โดยปรับปรุงเรื่องรูปแบบซองย่อย
- TKN ไม่ได้เป็นผู้ผลิต Packaging เอง ส่วนใหญ่จะใช้ฟอล์ย ซึ่งทำให้เก็บรักษาสินค้าได้ 1 ปี และส่งออกได้ ณ ปัจจุบันการ Lean ต้นทุนยังแพง ต้องรอเทคโนโลยีจากผู้ผลิต Packaging


คำถาม 4
งบ R & D ทำไมถึงใช้ลดลง
คำตอบ
- ช่วงโควิทเราใช้งบ R&D สูง
- ลดพนักงานลงจาก 3,000 คน ไปเป็น 1,700 คน จากการปรับปรุงไลน์การผลิตที่ดีขึ้น
- ตอนนี้ไลน์ย่างใช้พนักงานมากสุด เกือบ 1,000 คน พยามปรับปรุงอยู่ ต้องค่อย ๆ ทำ

คำถาม 5
ความสามารถในการต่อรองต้นทุน ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร เช่นการล็อคราคา 1 ปี
คำตอบ
- เนื่องจากสาหร่ายเป็นสินค้า COMMO และ TKN ซื้อในปริมาณสูง บางตัวได้ราคาที่ดีกว่า บางตัวได้ราคาตลาด ไม่เท่ากัน
- ขนาดสาหร่ายที่ซื้อ ปกติเป็นขนาด A4 ปกติจะนำมาม้วนได้ 2 ม้วน คิด SOLUTION ใหม่จะทำอย่างไรให้ได้ 3 ม้วน โดย WORK กับผู้รีดแผ่นที่เกาหลี
- ซื้อเงินสด หรือมัดจำก่อน เพื่อล็อคราคาและปริมาณก่อน
- ส่งทีมงานไปประกบ + WORK OUT คู่ค้าที่เกาหลี ( ผู้บริหารพึ่งไปมา )
- 36 ปี เจอภาวะแบบนี้ครั้งแรก
- กังวลเรื่องปริมาณวัตถุดิบ มากกว่าราคาวัตถุดิบ
- ปีนี้จบการเจรจาซื้อปริมาณสาหร่ายแล้ว ( หน้าปลูกจบเดือนเมษา )
- ปีนี้ของขาด ( กลยุทธ์ปีนี้ต้องมีของใช้ผลิต จะใช้ของถูกไม่ได้ )
- เป็นโอกาสในวิกฤต ผู้ประกอบการรายเล็ก อาจไม่มีของ ล้มหายไปได้ คู่แข่งน้อยลง
- งบการตลาดโดยรวมของอุตสาหกรรมจะใช้น้อยลง เนื่องจากหมดไปกับต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น เจ้าอื่น ๆ ไม่ทุ่มงบการตลาด เป็นโอกาสขยายได้
- STOCK ที่ดิวจบไป ใช้ได้ถึงมีนาปีหน้า ปกติสัญญาการซื้อ COVER 1 – 1.5 ปี แล้วแต่ชนิดสาหร่าย


คำถาม 6
เรื่องสาหร่ายต้นทุนตัวเก่าได้ไปถึงเดือนไหน ต้นทุนตัวใหม่เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ จะปรับราคาได้ไหม
คำตอบ
- รายได้ 96% มาจากสาหร่าย
- จีน และญี่ปุ่น ผลผลิตลดลง 50 %
- เกาหลีกระทบน้อยกว่า
- ผลกระทบต่อต้นทุนปี 2024 คาดการตอนแรก 15 %
- ปีนี้ไม่ปกติ ผู้เล่นรายใหญ่ซื้อหนักมาก
- ปัจจุบันต้นทุนขึ้น 50 % จาก 2023 ( ตอนนี้ฤดูปลูกจบแล้ว ของไม่พอ )

คำถาม 7
ผลกระทบต่อ GP ต้นทุนใหม่ เท่าไหร่
คำตอบ
- Q1 , Q2 จะยังดีอยู่
- Q3 , Q4 กระทบ GP 3 – 5 %
- ดูโอกาสปรับขึ้นราคและหาตลาดใหม่ ๆ

อื่น ๆ
- ระบบการซื้อวัตถุดิบ จะซื้อผ่าน Agent
- จะลงลึกไปที่ผู้รีดแผ่น เพื่อปรับปรุงคุณภาพและปริมาณการผลิต
- ยังไม่สามารถลงลึกไปที่ฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายได้
- ปีนี้รู้ขนาดของผลกระทบแล้ว ตอนนี้ได้หาวิธีการทำงานและแนวทางการดำเนินงานเพื่อรับมือแล้ว เช่นการปรับ PRODUCT MIX เน้นไปที่สินค้าที่ HIGH MARGIN และรูปแบบการรีดและใช้แผ่นสาหร่าย และการเน้นปริมาณการผลิต ( Q ) ให้กำลังการผลิตได้สูงขึ้น
- ตลากเมกาเข้าได้แล้ว วางในคอสโคได้ 50 % ฝั่งแคนาดาเข้าไปวางใน MT ครบแล้ว
ทำการตลาดโดยใช้อินฟู KOL KOC ในท้องถิ่น เพื่อให้ทราบการมีอยู่ของสินค้า
Dech
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 5016
ผู้ติดตาม: 145

Re: TKN

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เมื่อวานมี agm อาจมีมาม่าราคาสาหร่ายแพงกันอีก

สรุปคร่าวมากคือ ราคาสาหร่าย lot ใหม่
เริ่ม q3 ปีนี้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50%
เนื่องจากผลผลิตในตลาดโลกน้อยและมีการแย่งประมูลราคากันทุกประเทศ

เป็นวิกฤตในรอบ 36 ปี 40 ปี เลยครับ
เถ้าแก้น้อย 20 ปี ไม่เคยเจอ เคยเจอเล็กๆ 2 ครั้งก่อนแต่น้อยกว่ารอบนี้
คนทำสาหร่ายในไทยไม่มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้

ปีหน้าราคาคงลดเพราะมีเกาหลีมีการเพิ่มพื้นที่ปลูกสาหร่าย และหมดช่วงหน้าเอลนีโญ เข้าสู่ลานีญา

ของ tkn ผบห. และบริษัทปรับตัวกันแล้ว ยังตั้งเป้าเติบโตทั้งยอดขายและกำไร
q1 q2 gp จะยังเหมือน q4 ปีก่อน และ q3 q4 อัตรากำไรลดลงแน่นอน
แต่ยอดขายจะโตกำไรรวมอาจไม่ลดก็ได้ ก็ต้องรอดูกันไปครับ

เรื่องอัตราภาษีที่จ่ายจาก boi ปีนี้ ยังพอๆ ปีที่แล้ว
ของปีหน้าก็กำลังปรับปรุงของ boi ต่างๆ เพิ่มได้ให้รอดูก่อน
บริษัท ปรับตัวเต็มที่ และจะมีข่าวดีจากตลาดต่างประเทศ เพิ่มช่องทางขาย กำไรเจรจาต่อรอง

ตลาดอินโด ที่เปลี่ยน dist ไป ดีมากๆ และเมกาเองก็เติบโตมาก

ถือเป็นโอกาศในวิกฤติราคาสาหร่าย เราจะได้ไปกินรายเล็กๆ ที่อาจจะขาดของหรือสู้ราคาไม่ไหวได้
และถ้าทั้งตลาดขึ้นราคา เราก็สามารถปรับราคาได้อีก
และจะมีการปรับปรุงสายการผลิต ลด cost ต่างๆ กันเยอะ
ผ่านรอบนี้ไป tkn จะแข็งแรงขึ้นอีกเยอะมากๆ

ตอนนี้ของ tkn คุณต๊อบได้สั่งซื้อสาหร่ายสำหรับผลิตทั้งปีไปแล้ว
เรามีของสำหรับขายแน่ๆ รองรับการเติบโต

เอาประมาณนี้ก่อนครับ เดี่ยวคงมีคนอื่นมาสรุปให้อีกครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
Toro149
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 897
ผู้ติดตาม: 142

Re: PM

โพสต์ที่ 3

โพสต์

PM AGM 23/04/2024

ผู้ร่วมประชุม 50ราย มาด้วยตนเอง 32ราย จำนวนหุ้น 68%

วาระ 1
- รับรองรายงานการประชุมสามัญ 2566

วาระ 2
- ผลการดำเนินงาน

แบ่งตามผลิตภัณฑ์
- Own brand
- รับจัดจำหน่าย การตลาด มีทั้งของบ.เองและคู่ค้า
- ODM อาหารแมว

Product ใหม่ มีในหลาย แบรนด์
- ทาโร่ โอเล่
- ได้ยาสระผมนิ่มพร มาเป็นคู่ค้า
- อาหารแมว

ผลการดำเนินงาน
- รายได้ -15.6% จากการยกเลิกการจัดจำหน่าย
- อัตรากำไรขั้นต้น +3.9% จาก
- กำไร +42% จากต้นทุนจัดจำหน่ายไปจีนลดลง

แผนงาน
- ทาโร่ จุดเด่นเพื่อสุขภาพ มีแบบอบกรอบ ชุบน้ำจิ้ม
- การสื่อสาร เน้นให้ตรงเป้าหมาย
- ODM เป็นสูตรเฉพาะ ลูกค้าไปผลิตที่อื่นไม่ได้ ยั่งยืนกว่า

Q การลงทุนมีวนา ขาดทุนมานานเท่าไร และเมื่อไรจะเลิกกิจการ
A เป็นการเพิ่มเสาหลักอีกเสาหนึ่ง นอกจากอาหารขบเคี้ยว และอาหารสัตว์
- คำนึงถึงความยั่งยืน ทั้งของบ.และคู่ค้า
- การทำธุรกิจ บางทีก็เร็ว บางทีก็ช้าหน่อย
- หลายปีที่แล้วผถห.ก็ถามว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยงจะไปได้หรือเปล่า ตอนนี้ก็เป็นเสาหลักนึง
- ตลาดกาแฟ 6หมื่นล้าน และการบริโภคกาแฟยังน้อย กว่ายุโรป เชื่อว่ายังมีโอกาศอีกมาก
- ผลิตภัณท์กาแฟ มีเนื้อและเปลือก บ.กำลังเอามาผลิตสินค้า เช่น เครื่องสำอางค์ กำลังขออย.อยู่
- มีการประเมินจาก สำนักงานเศรษฐกิจ... ใน 8มิติ ออกมาเป็นมูลค่า 550ล้าน แต่ยังเปลี่ยนเป็นเงินไม่ได้
- ในส่วนนี้ มี Carbon credit 20ล้านบาท กำลังขอเพื่อแปลงเป็นเงิน
- การรับรู้ผลขาดทุน เรารับรู้มาทุกปีในงบรวม
- ส่วนในงบเดี่ยว เป็นเงินลงทุนและกู้ยืม เลยเปลี่ยนเงินกู้ยืมเป็นเงินทุน เพื่อประหยัดภาษี เลยต้องมีการด้อยค่า
- ส่วนที่ถามว่าจะเลิกเมื่อไร ถ้าสุดวิสัยจริงๆ อาจจะเลิก แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น

Q แบรนด์หลักนอกจากทาโร่
A ส่วนอาหารสัตว์เลี้ยง Atlas cat มีทั้งในประเทศและตปท
- กาแฟ อาจจะยังไม่เยอะ

Q การขายทาโร่ไปตปท
A ในจีน กำลังขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนหน้านี้เราเข้าไปตอนโควิด เสียค่าใช้จ่ายดาราไป
- ปีนี้มี TMall ค่อยๆเข้าไป
- เมื่อก่อน kol ตัวใหญ่ๆไม่เอาเรา ตอนนี้ได้ kol เบอร์ 1-2
- อาเซี่ยน เวียดนามแข่งขันราคาสูง ราคาเราพรีเมียมลดราคาต่ำขนาดนั้นไม่ได้จะขาดทุน คงต้องรอตลาดให้พรีเมียมมากขึ้น
- เกาหลี ขายล๊อตใหญ่ เข้า supermarket ใหญ่สุดได้
- ลาว เติบโต
- ฟิลิปินส์ ติดต่อเข้ามา
- โดยสรุปตลาดต่างประเทศไม่หวือหวา

Q อาหารสัตว์เลี้ยง มีการขยายกำลังการผลิตไหม
A ปีก่อนปีที่แล้ว ตลาดดีมาก แล้วก็ตกลงมาจากสต๊อกที่เยอะ
- เราปรับตัว q3 เริ่มกลับมาปกติ และเตรียมแผนขยายกำลังผลิต 200ล แบ่งเฟส เป็นปีที่ผ่านมา 80-90ล
- จะทำให้ โอทีหายไป เพื่มกำลังผลิต 20-25% ถ้ารวมเฟสสองจะได้ 50%จากปีฐาน
- โรงงานบางพลีเปิดใช้งานแล้ว

Q อาหารสัตว์
A มีทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ ใน 18เดือนข้างหน้าจะใช้กำลังผลิตส่วนใหม่เต็ม

Q ทาโร่ ยอดขายตปทเท่าไร
A ยังน้อยอยู่ 2-3% แต่แนวโน้มดี
- ตลาดปลาเส้นคนยอมรับอยู่แล้ว ที่เค้ามีอยู่จะคุณภาพค่อนข้างต่ำกว่าเรา


วาระ 3
- อนุมัติงบการเงินปี 66

วาระ 4
- ปันผล 0.5บ 279ล้านบาท คิดเป็น 100%ของกำไร

วาระ 5-6
- อนุมัติกรรมการที่ออกตามวาระ 2ท่าน และกรรมการใหม่แทนท่านเดิม 1ท่าน
- ค่าตอบแทนกรรมการ เท่าปีที่แล้ว

วาระ 7
- แต่งตั้งผู้สอบบัญชี สำนักงาน อีวาน
- ค่าตอบแทน 2.28ล้าน เท่าปีที่แล้ว

วาระ 8
- อื่นๆ

Q อาหารสัตว์ บ.อื่นก็ใช้ Odm เหมือนกัน คิดว่าเรามีความสามารถในการแข่งขันแค่ไหน
A บ.มีประสบการณ์มายาวนาน มีมาตรฐานในฐานะ oem จนหลายปีที่แล้ว เปลี่ยนเป็น odm จากมาจิ้นต่ำ 5% ดีขึ้นมามาก
- อีกส่วนคือ ระบบสังคมโลกคำนึงถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ

Q Atlas cat คิดว่าสำเร็จแค่ไหน จะเป็นทาโร่เบอร์สองได้ไหม
A รายได้มาจากตปท เป็นแบรนด์ลูกค้า
- เรายังไม่มีความสามารถในการ
- ในประเทศมีร้านค้าที่ซื้อประจำ หลายร้อยราย ยอดยังไม่เยอะ
- จะไปไล่ตาม 2000ล ทาโร่ปีไหน

Q กาแฟ มีแผนการเติบโตยังไง
A เรามีจุดเด่นในการร่วมกับชุมชน
- เราดูแลป่า 2หมื่นกว่าไร่ ช่วยดูแลไฟป่า หลายปีที่ผ่านมาไม่มีไฟป่า มีปีนี้ 2ครั้ง
- เราต้องเอาสินค้าไปแปลงเป็นเงินให้ได้
4 ช่องทาง
1. ส่งกาแฟให้โรงคั่ว
2. ขายกาแฟที่คัวแล้ว
3. กาแฟกระป๋อง ยังเล็กอยู่
4. ร้านกาแฟเราเอง 2สาขา เป็นต้นแบบ สาขาแรก มีผลกำไร สาขาที่สองมีขาดทุนอยู่บ้าง
- ทำ cascara เชอรี่กาแฟ ทำมา 3ปี อยู่ช่วงสุดท้ายกับ อย.
- Carbon Credit

Q การขยายร้านกาแฟ
A green bean เราคงไม่ขยายมาก ขายส่วนเกิน
- ร้านกาแฟ ดูอยู่ 2สาขา
- ตปท สรรหาคู่ค้า เราไม่ได้ทำการตลาดเอง เน้นตลาดที่ให้คุณค่ากับการดูแลป่า

Q Carbon credit 20ล้านคิดยังไง และ 6000กว่าไร่ จะขยายได้ไหม Carbon credit จะได้เยอะขึ้น
A ทำงานกับองค์การก๊าซเรือนกระจก
- พื้นที่ที่เราปลูกอยู่ในอุทยาน ต้องได้รับอนุญาติ ไม่น่ามีปัญหา
- หลังจากนั้นต้องทำ baseline แล้วคำนวนส่วนที่เพิ่มขึ้นมา เค้าต้องการ 3ปี ในการวัด

ดูรูปได้ที่
https://www.facebook.com/share/p/4adsQf ... tid=oFDknk
ภาพประจำตัวสมาชิก
SCGLOBAL
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 670
ผู้ติดตาม: 321

Re: PM

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ประเด็นเสริม ช่วงรุมหลัง AGM คร่าวๆ

1.ภาพรวมทาโร่ ในประเทศมองโตเท่าอุตสาหกรรม เจอตลาดขนมถุงใหญ่แย่งแชร์ โดนทั้งอุตสาหกรรม
.
2.รอบนี้จะไปจีนโดยจะไปอย่างระมัดระวัง คิดว่าน่าจะเริ่มเห็นภาพได้ช่วง ปลาย q2 หรือ q3/67 + ได้เข้าไปขายใน T mall market เริ่มรับรู้รายได้ q1/67
.
3.ขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์ แบ่ง 2 เฟส เฟสละ 100 ล้านบาท กำลังผลิตรวมสองเฟส เพิ่มจากเดิม 50% (กำลังเริ่มดำเนินการแล้ว เฟสแรก 25%)
.
4.การเติบโต CLMV จะเป็นการโตผ่าน ดิส ที่บริษัทขายให้
.
5.อาหารสัตว์ เป้าโต 2 หลัก
.
6.เมล็ดกาแฟขายให้อเมซอล+พันธุ์ไทย โดยมีวนาจะเปิดสาขาเพิ่ม 2 สาขา ซึ่ง 1สาขาในสนามบินดอนเมืองและอีกที่ยังไม่ทราบ (Mivana ขาดทุน 60 ลบ. ปี 66)
.
7.บริษัทเป็นดิสให้คาร์บี้ ในส่วนของ MT เริ่มรับรู้รายได้ q1/67 (ยกเว้น ที่จำหน่ายใน 7-11)
.
8.ต้นทุนวัตถุดิบไม่มีเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะจากปีก่อน
( ในส่วนของ Surimi ที่ผลิต Taro เพราะผู้บริหาร Taro เป็นคนตอบ ส่วน ฝั่ง BU อาหารสัตว์เลี้ยง ผู้บริหาร ติด Deal สำคัญกับลูกค้า จึงไม่ได้มาร่วม จึงทำให้ ไม่มีความคิดเห็นในช่วง รุมหลังงาน เพราะ ธุรกิจ สัตว์เลี้ยง คุณ วิเชียร เป็นคนนำเสนอ ทั้งหมด บนเวที )
.

ปล. ในวงเล็บ ผม เสริม ในส่วนที่พูดสอบถาม จากคุณ Firstee

Cr. บทความสรุปจาก คุณ Firstee
🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏

=====================================================

ธุรกิจ Dist ที่เข้ามาใหม่ รับจัดจำหน่าย Calbee PM รับรู้รายได้ ราวๆ 30% คิดคราวๆราวๆ 1 ใน 3 ของ ยอดขายทั้งประเทศ

> บริษัท คาลบี้ธนาวัธน์ จำกัด คาด รายได้น่าจะประมาณ 1700-1900 ล้าน ปี 66

> ถ้าคิดคราวๆ ไตรมาสละ 100-150 ล้าน เป็นของ PM กำไร NPM 10% ในส่วนนี้ คิดเฉลี่ยๆ กำไร ราวๆ 10 ล้าน/ไตรมาส
(IR ให้ Guideline NP High Single Digit - Early Double Digit ก็ขอ เฉลี่ยๆ 10% ในส่วน ธุรกิจ จัดจำหน่าย Distributor ของ Calbee)
กำไร อาจจะดูไม่ได้มี นัยยะ สำคัญมาก แต่ เมื่อคิดว่า มาช่วย Offset การขาดทุน Mivana ก็ น่าจะโอเค....
.
.
Calbee.jpg
"ประสบการณ์คือสิ่งที่คุณจะได้รับ เมื่อถึงวันที่คุณไม่ได้สิ่งที่ต้องการ" - Howard Marks
“I like to say, “Experience is what you got when you didn’t get what you wanted.”
bammanasathit
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 55
ผู้ติดตาม: 66

Re: EURO

โพสต์ที่ 5

โพสต์

สวัสดีครับเพื่อนๆ นักลงทุน พอดีเห็นราคาหุ้น EURO ลงมาเยอะมากๆ ศุกร์ที่แล้ว ราคาทำ New Low ผมเลยขับรถเข้าไปดูที่สาขา ทองหล่อ ว่า ร้านยังอยู่ใช่มั้ยครับ 😂

หลังจากที่ได้เข้าไปเดินดู Furniture ก็คือสวยและแพงเหมือนเดิมครับ
และผมก็ได้มีการพูดคุยกับ Sales ดังนี้ครับ

1. ยอดขายยังดีอยู่ ที่ภูเก็ตยังขายดีมาก
2. ได้ Project โครงการ luxury เพิ่ม (เดี๋ยวจะแจ้งเพิ่ม)
3. ผมได้สอบถามว่า “ลูกค้าแบบไหน(ประเภทไหน) ที่เข้ามาซื้อFurniture เรา?”
3.1. sales แจ้งว่าส่วนใหญ่ ถ้า เป็น B2C จะมาจากโครงการ ระดับ Luxury เช่น Four season Private Residences
3.2 ผมเลยลองนัด Sales ที่ โครงการ Four Season ดูครับ ว่าห้องเค้าแต่งแบบไหน ใช้ Furniture ของ Euro จริงรึเปล่า
3.3. ผมเข้าไปดู 2 ห้อง (แบบ 3 ห้องนอน ราคา 100 ล้าน, กับ 2 ห้องนอน 60 ล้าน) ส่วนใหญ่ ก็ใช้ Furniture จาก Euro เกือบทั้งห้องเลยครับ!
3.4. Gym ส่วนกลางก็ใช้ ของ Technogym 100% ครับ
น่าคิดนะครับเพราะปีนี้มีโครงการ Ultra Luxury เปิดเยอะเลยนะครับ

4. ตอนนี้มีสงคราม ระยะเวลาขนส่งจะกระทบ กับ euro มั้ย และ กระทบ cancellation rate มั้ย?
4.1. Sales แจ้งว่า นานจริง การขนส่งจากเดิม 3-4 เดือน ตอนนี้ 7-8 เดือน
แต่ไม่ค่อยกระทบ cancellation rate เพราะ บ้าน/ ห้องส่วนใหญ่ ของลูกค้า จะเสร็จช้ากว่า 7-8 เดือน อยู่แล้ว

ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ
S__32555224_0.jpg
S__32555222_0.jpg
Can do
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 573
ผู้ติดตาม: 26

Re: SAPPE

โพสต์ที่ 6

โพสต์

"A lot of times the question is harder than the answer. If you can properly phrase the question, then the answer is the easy part." Elon Musk
ภาพประจำตัวสมาชิก
เหรียญ
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 713
ผู้ติดตาม: 207

Re: KCG

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอสรุปข้อมูลที่ได้จากIR+AGM+ราคาน้ำมันเนยตามนี้ครับ

1.เว็บglobal diary trendนี่พอใช้ดูแนวโน้มได้ซึ่งราคาจะอิงกับประเทศนิวซีแลนด์ แต่KCGซื้อจากออสเตรเลีย

2.โดยKCGได้lockราคาbutter oilและส่วนอื่นๆไปถึงQ3/67ล่วงหน้าไปแล้ว ซึ่งต้นทุนจะส่งผลทำให้GPMเรียงQ1<Q2<Q3ตามนี้

3.ช่วงปลายQ2ถึงQ3จะเป็นช่วงผลผลิตใหม่เข้าตลาด ก็จะทำให้ราคาวัตถุดิบกลับเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง

4.ก็ไปรอลุ้นปริมาณช่วงนั้นว่าจะมากหรือน้อยอีกที ตอนนี้รู้แค่สบายใจเรื่องต้นทุนไปถึงQ3/67ได้

5.มีหาแหล่งวัตถุดิบสำรอง ไม่ว่าจะเป็น จีน อินเดีย เพื่อเป็นการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

6.ตั้งแต่Q2/67เป็นต้นไป ตั้งเป้าโต2digit Q2ผ่านมา1เดือนยังทำได้ตามแผน

7.ในQ3/67จะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดค่อนข้างมาก ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายโต2digitจากปีก่อน

8.โซล่าลูฟพึ่งเริ่มเฟสแรก ถ้าติดตั้งครบจะราวๆ2.5MW งบลงทุนราวๆ60ล้าน

9.โดยปกติQ2จะlow season จากเป็นช่วงที่ผลไม้ออก และ ปิดเทอม แต่บริษัทพยายามยกโลว์ขึ้นมา

10.โลจิสติคพาร์คจะใช้ครบทุกอาคารภายในQ2/67 คาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยยะสำคัญราวๆ20-30ล้าน/ปี <ปี67ไม่เต็มปี>

ประมาณนี้รอพี่ๆท่านอื่นมาสรุปเพิ่มเติมครับ
''I didn't come this far to only come this far''
newposhy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 47
ผู้ติดตาม: 19

Re: SAPPE

โพสต์ที่ 8

โพสต์

Screen Shot 2024-04-23 at 2.45.05 PM.png
Screen Shot 2024-04-23 at 2.48.16 PM.png
ผมได้ลองชิม mogu รสมะพร้าวจาก Hmart NYC ครับ พนักงาน sappe แจ้งตอน agm ว่า grade วุ้น mogu จะดีกว่า gumi ก็พึ่งมาเข้าใจครับตอนได้ลองทานคู่กัน ผมใช้ gumi รสโยเกิร์ต มาเทียบวุ้นครับ

น้ำมะพร้าว: กลิ่นหอม รสชาติน้ำมะพร้าวคล้ายๆ น้ำมะพร้าวของ magic farm (SNNP) รสออกหวานเปรี้ยว แต่ก็ไม่ได้หวานจนแสบคออาจจะเพราะมีรสเปรี้ยวมาตัด ผมเดาว่าบริษัทน่าจะใช้น้ำมะพร้าวแกงเพราะมีรสเปรี้ยวและเติมน้ำตาลตามสูตร ตอนไป agm ผมได้ลอง mogu ลิ้นจี่ซึ้งจำได้ว่าอร่อยแต่รู้สึกหวานมาก เมื่อเทียบกับ mogu ลิ้นจี่ที่เคยชิมที่ agm (น้ำตาลประมาณ 40g กว่าๆ) mogu มะพร้าวมีน้ำตาลน้อยกว่า (น้ำตาล 35g) แต่ก็ยังเยอะกว่าน้ำตาลใน gumi (น้ำตาล 14g) ก็เข้าใจว่าบริษัทไม่ได้ใช้น้ำตาลเท่ากันสำหรับ mogu แต่ละรสครับ

วุ้นมะพร้าว: ถ้าเทียบฉลากแล้ว gumi มีวุ้นมะพร้าว 15% ส่วน mogu มี 25% พอได้ลองทานทั้งคู่ก็รู้สึกว่า mogu มีวุ้นเยอะกว่าแต่ก็ไม่ได้เยอะเกินไปกำลังดี ถ้าเทียบตัววุ้นกับ gumi ผมรู้สึกว่าวุ้น mogu หนุ่มและอร่อยกว่า วุ้น gumi ซึ้งแข็งกว่า ของ mogu ไม่ต้องใช้แรงเขี้ยวเยอะเท่า และกินเพลินกว่าของ gumi ครับ
Dech
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 5016
ผู้ติดตาม: 145

Re: TKN

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ถ้าอยากดูของสาหร่ายทะเล ข้ามมาอันนี้เลยครับ ดูไปทั้ง 4 อันเลยก็ดีครับ

จะได้เห็น connection ของ tkn และคุณต๊อบกับธุรกิจนี้ที่เกาหลี
นี่ผ่านมานานแล้ว ก็ความรู้และอื่นๆ ก็ต้องแน่นหนาขึ้นแน่ๆ
สามารถพาไปดูได้ทุกขั้นตอน

ทั้งหมดนี้เมื่อ 16 ปีก่อน tkn ยังไม่มีการขายไปที่ตลาดจีนเลยครับ
ตอนนี้โรงงานต่างๆ ของ tkn คิดว่าพัฒนาไปไกลกว่านี้เยอะแล้วละครับ

phpBB [video]


phpBB [video]


phpBB [video]


phpBB [video]


ดูกันเล่นๆ ให้เห็นสภาพตลาดเมื่อก่อน
แล้วมาดู tkn ตอนนี้จะเห็นการพัฒนาปรับปรุงตัว
รอดูกันไปครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
Suwanwok
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 11
ผู้ติดตาม: 0

Re: MOSHI

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ทำคล้ายๆ popmart เลยค่ะ กล่องสุ่มละ 500 น่าจะ GPM ดีทีเดียว (ถ้าขายได้เยอะ)

IMG_7552.jpeg
ภาพประจำตัวสมาชิก
RnD-VI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 6463
ผู้ติดตาม: 621

Re: MOSHI

โพสต์ที่ 11

โพสต์

MOSHI: Key Takeaways from Meeting
(by DAOL, 23 Apr 24)

ประเด็นสำคัญ ได้แก่
1) ปรับเป้าการขยายสาขาในปี 2024E ขึ้นเป็น 34 สาขา โดยร้าน Moshi Moshi เพิ่มขึ้นเป็น 30 สาขา จากเดิมที่ 20 สาขา และ garlic อีก 4 สาขา

2) รายได้ 1Q24E โตได้ราว +20% หลักจากรายได้สาขาใหม่ และ online sales จากสินค้า collaboration กับ NCT dream โดย SSSG ของ physical stores ทรงตัว

3) GPM ใน 1Q24E ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง +50-70 bps YoY แม้มีการรวม The ok station เข้ามา (1Q23 ยังไม่มี The ok station)

DAOL: เรามองเป็นบวกจากแนวโน้มกำไร 1Q24E ที่คาดออกมาดีจาก รายได้ที่โตได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันประมาณการกำไรปี 2024E/25E อยู่ที่ 506/621 ล้านบาท โต +26%/+23%
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pondtrade
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 138
ผู้ติดตาม: 130

Re: PLUS

โพสต์ที่ 12

โพสต์

IMG_0428.jpeg

ผมลองชิมทั้ง Mogu Mogu และ Mabu coco แล้ว สำหรับผมถ้าให้เปรียบเทียบกันระหว่าง 2 แบรนด์นี้

ผมคิดว่าเหมือนเปรียบเทียบ Coke กับ Pepsi ครับ

รสชาติมีความคล้ายกัน วุ้นต่างกันไม่มาก

แต่ Mabu กับ Mogu แตกต่างจาก Kato ชัดเจนครับ (Kato หวานกว่ามากๆ)

อยู่ที่ Dist. แต่ละประเทศ และผู้บริโภคจะเลือกแล้วหละครับ ว่าชอบแบบไหน

กำลังการผลิตขวด PET ที่ขยายใหม่เพิ่มอีก 150 ล้านขวด/ปี (จากเดิมขวดแก้ว 200 ล้านขวด/ปี)
ผมคิดว่าลงทุนไม่สูญเปล่าแน่นอนครับ สำหรับผลิตภัณฑ์ Mabu coco + Coco royal น้ำมะพร้าว 100%

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ รอติดตามต่อไปครับ
”ทุกๆสิ่งมันต้องแลกถึงจะได้มา“
VIVICH
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 198
ผู้ติดตาม: 178

Re: SIS

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ได้ติดตามสินค้าใหม่ ที่ได้ข้อมูลมาจากข่าวของเพจ และได้สอบถามรายละเอียดสินค้าไปกับทางบริษัทค่ะ

เมื่อวันที่ 20/02/24 ที่ผ่านมา คุณ Andy Wen - SEA Regional Director จาก Network Optix ผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการกล้องวงจรปิดชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เข้าพบคุณสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ ของบริษัท SiS เพื่อหารือเเนวทางการนำเสนอสินค้าเเละ solution เกี่ยวกับระบบบริหารจัดการกล้องวงจรปิด ให้กับกลุ่มลูกค้าของ SiS รวมทั้งตกลงให้ SiS เป็น Distributor อย่างเป็นทางการ

IMG_4679.jpeg


คุณกำลังหา VMS เเบบนี้อยู่รึป่าว?

-ออกเเบบมาเพื่อให้ user ใช้งานง่ายที่สุด
-รองรับกล้องเเบรนด์ต่างๆมากกว่า 99%
-ดึงภาพจาก cctv ในพื้นที่ต่างๆมาจัดการในที่เดียว ผ่านระบบ cloud ฟรี
-มีความต้องการ spec server ต่ำ (core i3 รองรับ 128ch)
-รองรับหลากหลาย platform (Windows,Linux,VM,ARM,IOS,Android)
-มี API , SDK ให้นำไปพัฒนาเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ
-ฟรี upgrade ตลอดอายุการใช้งาน

ถ้าใช่ ติดต่อเราครับ
Network Optix by SiS
Nx by SiS

เรามีทีมงานพร้อมนำเสนอ solution ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

IMG_4680.jpeg
IMG_2677.jpeg


NetworkOptix รายนี้เป็นผู้ผลิต software สำหรับงานจัดการภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทดสอบมาระยะหนึ่งแล้ว พบว่าสามารถใช้ในงานบันทึกภาพบน SiS Cloud สำหรับงาน Video Surveillance-as-a-Service ได้ดี ก็เลยจะนำ software นี้มาใช้กับ SiS Cloud เพื่อเพิ่มบริการ CCTV on SiS Cloud

ในการขาย CCTV on SiS Cloud นี้ จะจับตลาดที่ไม่ต้องการดูแลระบบเอง โดยลูกค้าแค่ติดตั้งกล้องที่มีโปรแกรม NetworkOptix ติดตั้งในกล้อง เพื่อส่งภาพจากกล้องขึ้นไปบันทึกบน SiS Cloud ได้โดยตรง ซึ่งยังคงต้องประสานงานระหว่าง engineer ของ Hikvision และ NetworkOptix เพื่อลองติดตั้งและทดสอบการใช้งานที่ถ้าได้ผลดี ก็จะให้ติดตั้งโปรแกรมนี้ลงในกล้องจากโรงงาน Hikvision ไปเลย

ระหว่างที่ดำเนินการเรื่องนี้ ก็กำลังทดสอบระบบกล้องแบบเดียวกันนี้ แต่มาพร้อม Cloud ของผู้ผลิตกล้องเอง ซึ่งมีอยู่ 2 ยี่ห้อคือ Verkada และ Avigilon ว่าใช้งานได้ดีเพียงใด และต้นทุนแบบไหนดีกว่า ฯลฯ แล้วประเมินอีกครั้ง ว่าจะเลือกขายระบบไหนครับ

กล้องที่ติดตั้ง software ลงไป จะเป็นรุ่นเฉพาะที่ทาง hikvision จะขายให้เฉพาะลูกค้าที่สั่งซื้อมาครับ เพราะกล้องนี้ จะส่งภาพขึ้น SiS Cloud เสมอ และ SiS จะเป็นคนเปิดบัญชีบน SiS Cloud ให้ลูกค้าแต่ละรายที่จะซื้อไปใช้งาน จึงนำไปใช้งานอื่นไม่ได้

โปรแกรม NetworkOptix มีส่วนที่เป็น AI ด้วยครับ และจะเพิ่มความสามารถด้านนี้ขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งการใช้งานบน Cloud จะมีข้อดีในด้าน AI ที่สามารถเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้ และเมื่อเพิ่มความสามารถด้าน AI เข้าไป ลูกค้าก็จะได้ใช้งานทันที ต่างไปจากการติดตั้งตัวบันทึกภาพเอง ที่อุปกรณ์มักมีข้อจำกัด ไม่สามารถเพิ่มความสามารถได้
Neverland
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 411
ผู้ติดตาม: 9

Re: HTC

โพสต์ที่ 14

โพสต์

มติท่ีประชุมผู้ถือหุ้น https://weblink.set.or.th/dat/news/2024 ... 20956T.pdf

เป้าหมายปี 2027 กับปี 2032 ก็ยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนอะไร คือรายได้มากกว่า 11,000 ล้านบาทและรายได้มากกว่า 15,000 ล้านบาทตามลำดับ เรื่องสัดส่วนแบ่งการตลาดและเป้าหมายก็ยังคงเป็นเช่นเดิมที่เคยแจ้งไว้ เป้าหมายก็ยังหนักแน่นคงเดิม มีเป้าหมายแล้วพยามไปให้ถึง ดีมากเลยครับ

เป้าระยะสั้นสำหรับปี 2024 รายได้เติบโตในกรอบ 6-8% และยอดขายที่เป็นลังเติบโต 4-6% จากปีก่อนหน้า เป้า GPM ไม่ต่ำกว่า 40% โดย headwind ในปีนี้ได้แก่ราคาน้ำตาลและราคาน้ำมัน ซึ่งเม็ดพลาสติก PET ก็จะแปรผันตรงกับราคาน้ำมันด้วย

ไลน์ผลิตขวดแก้วใหม่ที่พุนพินจะเริ่มผลิตได้ในปลายปีนี้ ซึ่งหลังจากเริ่มการผลิตที่ไลน์ใหม่นี้ก็จะทำการปิดไลน์ที่หาดใหญ่ โดยที่หาดใหญ่จะกลายเป็นศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ เรื่องตัดค่าใช้จ่ายสำหรับเครื่องจักรเก่าที่หาดใหญ่ไม่มีนัยยะอะไรแล้วเนื่องจากอายุมากกว่า 40-50 ปีแล้ว

ขวดแก้วที่ผลิตจากไลน์ใหม่จะมีความใหม่อยู่ตลอดเวลา โลโก้บนขวดจะไม่ลอกหรือจาง ส่วนนี้ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีในการปริ้นท์นะครับ แต่ฟังดูแล้วจะได้คุณภาพ packaging โดยเฉพาะโลโก้ที่ดูใหม่ไม่ลอก ดูดีและดึงดูดให้น่าซื้อมากขึ้น

มีถามเรื่อง sustainability และ environment ด้วย ซึ่งบริษัทก็ยังคงให้ความสำคัญดีเช่นเดิม

มีคำถามถามเรื่องจะมีออกวอแรนต์หรือไม่ เพราะคนถามชอบที่ราคาวอแรนต์ขยับขึ้นลงมากกว่าหุ้นแม่ ผู้บริหารตอบว่ายังไม่มีแผนในขณะนี้เพราะยังไม่มีแนวคิดในการเพิ่มทุน

มีคำถามว่าเปลี่ยน ticker ในการเทรดจาก HTC เป็น COKE ได้มั๊ย เพราะน่าจะบ่งบอกถึงธุรกิจของบริษัทได้ดีกว่า HTC ฟังแล้วนึกถึงยี่ห้ออุปกรณ์สื่อสารโทรศัพท์มือถือ แล้วโค้กก็เป็นสินค้าที่บริษัทขายเป็นสัดส่วนที่มากที่สุด คำตอบของเรื่องนี้คือไม่เปลี่ยน เนื่องจาก HTC เป็นชื่อในการเทรดที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยท่านกรรมการคนก่อน มีที่มาที่ไป แล้วก็อยากให้คิดว่า HTC คือ Heart To Customer ผมว่า Heart to customer ก็ดีครับ ให้ใจลูกค้า ทำให้ดีเต็มที่แบบที่เป็นมา

มีคำถามคำตอบอื่นๆ อีก ผมจำไม่ได้ รอท่านอื่นมาเพิ่มเติมนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paewrblue
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 75
ผู้ติดตาม: 151

Re: PR9

โพสต์ที่ 15

โพสต์

PR9 Q&A AGM

การขยายกิจการ
- การเปลี่ยนไต ขยายสถานที่ และเพิ่มเครื่องฟอกไต เพื่อรองรับผู้ป่วยมากขึ้น และร่วมกับโรงพยาบาลในเครือข่าย, เพิ่มแพทชย์ เพิ่ม อุปกรณ์ การพัฒนาระบบ application ต่างๆ เช่น การเปิดร้านขายยา และผลิตภัทย์ทางการแพทย์

การเติบโตของคนไข้ต่างชาติในปีนี้ ของชาติไหนบ้าง และตะวันออกกลาง
- ผู้ป่วยต่างชาติประมาณ 14% ปีนี้ตั้งเป้า 15-16% แบ่งกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติเป็น CLMV รักษาโรคยาก, จีนเป็นกลุ่มที่2 เพราะlocation เราเป็น chinatown ที่2 เลยก็ว่าได้ ตอบโจทย์กับลูกค้ากลุ่มนี้ . กลุ่มอาหรับเตรียมทีมงานที่จะดูแลกลุ่มนี้มากขึ้น

การเติบโตของคนไข้ IPD, OPD, แนวโน้มของ GPM ?
- ปีนี้เทียบQ1 ของปีที่แล้วเติบโตได้ดี แนวโน้มของ GPM ดีขึ้นด้วย เราได้ใช้asset utilization มากขึ้น ทั้ง volume ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เรามีตัววัด KPI มากขึ้น

กลุ่มตะวันออกกลางคราวๆ % เท่าไร
- ของ Kuwait เราไม่เยอะเท่าไร ของตะวันออกกลางยังไม่เพิ่มขึ้นเท่าไร

ค่าธรรมเนียม OPD ปรับขึ้น 100บ ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาที่ผ่านมา ยังคง concept ของการบริการอยู่คือ value for money

กำลังพัฒนา Line OA ของ โรงพยาบาล คาดว่าจะเสร็จภายในQ2 เอามาใช้เป็น payment method ด้วย.



มีตกหล่นไปบางคำถามนะครับเพราะจดไม่ทัน.
"It ain't what you don't know that gets you into trouble. It's what you know for sure that just ain't so.”
wantanath
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 12
ผู้ติดตาม: 3

Re: NEO

โพสต์ที่ 16

โพสต์

เห็นคุณ SCGLOBAL โพสต์ เลยลองไปหามาดูบ้าง ขอบคุณคุณ SCGLOBAL ค่ะ

ที่กัมพูชาดูได้รับความนิยมอยู่นะคะ กด like เยอะ มีอัพเดตเพจสม่ำเสมอ
FIneline cambodia.PNG
De-nee cambodia.PNG

ืที่พม่าหาตัว เพจ Fineline official ไม่เจอ แต่ไปเจอ web รับ Preoder Fineline
แม้เอนเกจจะน้อย แต่จากการที่เปิดรับ pre-order ก็น่าจะเป็นสินค้าที่อยู่ในความต้องการอยู่ค่ะ
FIneline myanmar.PNG
De-nee myanmar.PNG
ภาพประจำตัวสมาชิก
SCGLOBAL
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 670
ผู้ติดตาม: 321

Re: NEO

โพสต์ที่ 17

โพสต์

คลิป Dnee ที่ Vietnam ครับ อยู่ในช่อง ของ Dnee Vietnam

phpBB [video]


.
.
มีช่อง FB Page : Dnee Vietnam ด้วยครับ
Dnee.jpg
"ประสบการณ์คือสิ่งที่คุณจะได้รับ เมื่อถึงวันที่คุณไม่ได้สิ่งที่ต้องการ" - Howard Marks
“I like to say, “Experience is what you got when you didn’t get what you wanted.”
kirov
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 334
ผู้ติดตาม: 69

Re: EURO

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ผมคิดว่าอีกส่วนนึงที่ผู้บริหารอาจจะยังไม่ได้อธิบายให้เห็นภาพ แต่ผมเจอจากประสบการณ์ส่วนตัวคือ ตอนช่วงทำ Interior พอออกแบบตกแต่งภายในเสร็จ เริ่มก่อสร้างตามแบบ ปัญหาของคนทำบ้านมาเป็นร้อยแปดพันเก้า เรื่องออกแบบ เรื่องผู้รับเหมา เรื่อง defect บ้าน พอถึงช่วงเลือกเฟอร์นิเจอร์ ก็อยากให้จบง่ายๆแล้วเพราะเป็นขั้นตอนสุดท้าย มัณฑนากรของผมมีพาไปเดินดู Euro Creations ในขั้นตอนการเลือกเฟอร์นิเจอร์ (ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะซื้อโซฟา Natuzzi ตัวเดียว และพาเดินอีก 2-3ร้าน ซึ่งตอนแรกผมไม่ได้ตั้ง budget ไว้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ขนาดนี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่เซลล์ Euro ที่ผมเจอขยันมาก เอาแปลนตกแต่งภายในไปดู แล้วช่วยเสนอตัวเลือก 1,2,3 ที่เหมาะกับโทนบ้านเรา ทำออกมาเป็น PDF ส่งมาเป็น package เลย สำหรับเฟอร์นิเจอร์แต่ละห้องในบ้าน ทำให้ผมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องไปนั่งเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นในแต่ละร้าน ซึ่งผมว่าเป็นจุดแข็งของ Euro creations เรื่องเซลล์ และลูกค้าก็ไม่ค่อยได้เทียบราคาขนาดนั้นหรอก รู้แค่ว่าซื้อหลายชิ้นรวมยอดออกมาแล้วได้ลดราคาเป็น tier สูงสุดแล้ว ผมไปเดิน Chanintr ไม่ได้เจอประสบการณ์การขายเป็น project แบบนี้ สรุปจากที่คิดว่าจะไปซื้อชิ้นเดียว เลยซื้อไปเกือบทั้งบ้าน บางอย่างที่เหลือก็ซื้อ Chanintr เป็นชิ้นๆที่ชอบไป (ผมไม่แน่ใจว่าลูกค้า B2C คนอื่นเป็นเหมือนผมไหม ไม่มีตัวเลขให้ดูว่า Euro สามารถขายลูกค้า B2C เป็น project ได้มากขึ้นกว่าเดิมแทนที่ลูกค้าจะเดินมาซื้อแค่ชิ้นหรือสองชิ้น)

อีกเรื่องนึงคือผมว่าหลังๆ ประสบการณ์การอยู่อาศัยของคนเปลี่ยนไป (พูดถึงกลุ่มคนที่ High income ที่เป็น target marketนะครับ) อยากได้บ้านที่กระจกใหญ่ มี double space volume ห้องโถงสูง อยู่สบาย ขับรถกลับมาบ้านแล้วมีความสุข อยู่ไม่อึดอัด ซึ่งผมคิดว่าต่อไปคนซื้อบ้าน จะใช้บริการมัณฑนากรออกแบบตกแต่งภายในค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในใจมัณฑนากรก็อยากได้ portfolio ตัวเองที่ดูดี สุดท้ายก็เลยอาจไปจบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวแบบมีแบรนด์มากขึ้น ถ้าลูกค้าจ่ายได้และไม่อยากปวดหัว แต่ถ้าลูกค้าอยากประหยัดส่วนนี้ ก็ต้องไปเดินเลือกเฟอร์นิเจอร์ไทยลอยตัวแต่ละร้านเอาเอง

บ้านโครงการ คอนโดที่ราคา 25ล้านขึ้นไป สมมุติงบตกแต่งภายใน 4ล้าน คร่าวๆเป็น built-in 2ล้าน เป็นเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ลอยตัว 2ล้าน (ตอนแรกอาจจะตั้ง budget ไว้3ล้าน แต่มางอกที่เฟอร์ลอยทีหลังเพิ่งรู้ตัว) น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก B2C ของบริษัท ถ้าเป็นบ้านโครงการก็พวก Grand Bangkok Boulevard, Nantawan, Vive, Palazzo, เศรษฐสิริ เป็นต้น อีกส่วนนึงบ้านที่เป็น designer ออกแบบเสร็จ fully furnished ก็อาจจะค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิด แบบที่เห็นใน series selling sunset ในต่างประเทศ

ผมคิดว่าคนไทยรู้จักกระเป๋าเสื้อผ้าแบรนด์เนมมานานแล้ว แต่เฟอร์นิเจอร์แบรนด์เนมคนไทยจะค่อยๆรู้จักเพิ่มขึ้น

ปัญหาเรื่องเงินบาทอ่อนแข็ง การขนส่ง ขออนุญาตไม่พูดถึงครับ อีกส่วนนึงก็ไม่แน่ใจว่าทำไมคุณเควินไม่ได้ถือหุ้นครับ
greenman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 559
ผู้ติดตาม: 10

Re: RJH

โพสต์ที่ 19

โพสต์

UPDATE จากประชุมผู้ถือหุ้นครับที่จำได้และเห็นว่าเป็นประโยชน์ 1.ประธานแจ้งเรื่องการเปิด รพ.ราชธานี หนองแคจะมีความล่าช้าจากการที่มีการปรับแบบในส่วนของห้องสวนหัวใจกับส่วนฟอกไตเทียม 2.จำนวนคนไข้ประกันสังคมในอยุธยาลดจำนวนลงแต่เราได้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นทำให้จำนวนคนไข้ที่ลงทะเบียนกับเราไม่ลดลง ส่วนแบ่งการตลาด 61% ทั้งนี้รพ.พยายามเพิ่มรายได้จาก ปกส.เท่าที่จะทำได้ เช่น ตรวจร่างกาย ผ่าตัดกระเพาะ เป็นต้น 3. ถาม IR นอกรอบเรื่องค่าเสื่อมราคาของราชธานี หนองแค ปีละ 40 ล้านบาท
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2637
ผู้ติดตาม: 270

Re: SPALI

โพสต์ที่ 20

โพสต์

AGM Spalai 23 Apr 67 14.00

ดร ประทีป ประธานกรรมการบริษัท กล่าวเปิดประขุม
คุณไตรเตชะ CEO พูดถึงมาตราการอสังหา กระตุ้นภาคอสังหา
ก่อนหน้าค่าจดจำนองราคาบ้าน ได้3ล้าน ปีนี้ไม่ถึง7ล้านได้ส่วนลดเหลือ0.01%
ช่วยคนที่ซื้อบ้านได้ถึง90%ของทั้งหมด จากตัวเลขคนซื้อบ้านศุภาลัยปี66
บ้านBoiก็ช่วยบริษัทได้ยกเว้นภาษี3ปีด้วย

2023 pre-sales
High rise 29% bkk
Low rise 24% bkk

High rise up country 3%
Low rise upcountry 46%

2024
Launch 50,000ลบ
Pre-sales 36,000
Total revenue 36,000
Bkk 51% up 49%

Transfer
ส่วนใหญ่จะอยู่ในปีนี้

Launch plan 29โครงการ
เน้นแนวราบ
กท 40%
ตจว 47%

ที่ออสเตรเลีย ลงทุนมา12โครงการ 10ปี ขยายอีก12โครงการ4state,5city
New south wales คือพื้นที่ใหม่ที่เข้าไปลงทุนรวม 24โครงการ 4state 6city

พลังงาน
วิกฤตสภาพอากาศ ภาวะโลกร้อน ทำอย่างไรจึงลดภาวะเรือนกระจก40%ภายในปี2573
เพื่อให้โลกยั่งยืน น่าอยู่
supalai go green ร่วมกับตลท
สร้างบ้านแบบรักษ์โลก มาตราวัดก่อให้เกิดมลภาวะให้น้อยลง
เอาเศษวัสดุ เศษปูน กลับมาใช้
ใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ติดตั้งsolar roof บ้านกลางใหญ่
ติดตั้ง EV charger
โครงการตัดแว่นให้กับคนงานก่อสร้างปีสอง
เป็นพี่เลี้ยงsme อสังหาภูธร แชร์ ปสก
เสนองบกับราชการ เปลี่ยนท่อกันน้ำท่วม
บริจาคที่ดินรังสิตสร้าง รร สวนกุหลาบรังสิต

ธรรมมภิบาล
ปรับปรุงนโยบายปรับปรุงกิจการให้สอดคล้อง
กำหนดแนวทางการปฏิบัติ
กำหนดsupplier day ให้พบปะกัน
ดำเนินเชิงรุกกับนักลงทุนและนักวิเคราะห์
ยอดโอน ลดลง มาจาก อาคารชุด7โครงการปี65ยังขายไม่หมด ทำให้รายได้คอนโดปี65มามาก
แต่ปี66 ที่เราซื้อทั้งหมดเนี่ยมันมีใบนิ เราไม่มีความเ 4 ยงว่า
Gp 35.6% มาจากสัดส่วนการโอน
ปี65 โอนคอนโดเยอะ เลยมีGPสูงกว่าปี66

คชจ การขายและบริหาร 12.1%เราทำได้ตำสุดในอุตสาหกรรม

ต้นทุนการเงินปรับขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น
กำไรต่อหุ้น 3.07บาท

งบดุล
สท 86,000ลบ
หนี้สินโต 7%จากการขยายธุรกิจ
Project loan 8500ลบ
ชำระหุ้นกู้ 8400ลบ
ออกใหม่ดอกเบี้ย 3.47% 12,000ลบ อายุ1-2ปี มีหุ้นกู้ กพ 67 ครบกำหนดไป2,000ลบ
หุ้นกู้ในระบบ default แต่ไม่กระทบบริษัท เราออกใหม่ก็ขายหมด

Equity 51,465 ลบ
ต้นทุนทางการเงิน 2.78% ปรับขึ้นมาบ้างจากธปท ปรับดอกเบี้ย
Tris rating A stable

Q&A

Q:สินค้าคงเหลือปลายปี67เหลือสักกี่% ,Q1เป็นอย่างไร?
A: แนวราบroll overไปเรื่อยๆ มีสินค้าคงคลังเหลือ6,000ลบ ขายหมดใน1-2เดือน
ปกติสินค้าคงคลังจะดูแนวคอนโด 12,000ลบ ต่อโครงการเป็นหลักร้อยล้านบาทเอง
สายสีม่วงตอนนั้นมีเหลือเยอะตอนนี้ขายหมดแล้ว
Q1 อัตรการกู้ไม่ผ่านบ้างประมาณ13-14%ในปีที่ผ่านแต่บ้านราคาถูกไม่ผ่านเยอะกว่า

ปีนี้น่าจะใกล้เคียง เพราะดอกเบี้ยยังเท่าเดิม
Q1ขายได้6,000ลบ มาตรการมาตอนเมษา q2น่าจะดีกว่าq1

Q: Australia12โครงการเป็นอย่างไร?
A:เราลงนามธค 66 ศื้อขาดและรับรู้รายได้ตั้งแต่1มค
แต่ที่ดินที่เขาให้ขายได้รับรู้31มีค ATTTC ดูแล คาดว่าเสร็จสิ้นในมิย
เงินที่ต้องจ่ายตามสัญญา ยังไม่ได้จ่ายรอหน่วยงานรัฐอนุมัติก่อน

Q:ข่าวที่ส่งเสริมต่างชาติมาซื้ออสังหา?
A: โลกแคบลง ในไทยจะมีเพิ่มขึ้น เทียบกับUAE ต่างชาติ80%
ในไทย ต่างชาติซื้อได้คอนโด49% คิดว่าต่างชาติจะเข้ามาเรื่อยๆโดยเฉพาะคนพม่ามาซื้อมากขึ้น

Q:ผู้ถือหุ้นอินเดีย ได้แนะนำแนวทางเพิ่มเติมแต่ความเสี่ยงสูงขึ้นโดยใช้leverage กู้มากขึ้น?
A:คุณประทีปพูดด้วยความมั่นใจว่า บริษัทเน้นความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูง

Q:Loftประชา วงค์สว่าง อยากทราบความคืบหน้า?
A: โครงการนี้น่าจะไปต่อได้ แต่ถ้าไม่ผ่าน ที่ดินเก่า เราพัฒนาแนวราบได้

วาระที่2 พิจารณาปันผล 1.45บาท แต่จ่ายระหว่างกาลไปแล้ว0.7
ดังนั้นงวด6เดือนหลังอีก75สต
กำไรสุทธิปี66=5,312ลบ ลดลงจากปี65 7,621ลบ

วาระที่3 พิจารณาเลือกกรรมการ แทนที่ออกตามวาระ
ดร ประทีป คุณไตรเตชะ และ นายประศาสน์ ตั้งมติธรรม

วาระที่4 อนุมัติค่าตอบแทน ค่าบำเหน็จ และเบี้ยประชุมของกรรมการ
ปีนี้เท่าปีก่อน ตามรูป และ
ประธานกรรมการและกรรมการ ได้รับค่าบำเหน็จลดลงเหลือ800,000บาท

วาระที่5 อนุมัติแต่งตั้งผู้สอบบัญชี และ กำหนดค่าสอบบัญชีราคาเท่าเดิม

วาระที่6 ออกเสนอขายหุ้นกู้ ไม่เกิน 34,000ลบเพิ่มขึ้นอีก15,000ลบจากเดิม
เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนขยายกิจการทั้งในประเทศแลต่างประเทศ
ปรับญาการลงทุน low risk high return เราได้ดอกเบี้ยต่ำ2%กว่าๆ
หุ้นกู้มีการจองล้น3เท่าตัว

Q:อธิบายโครงการที่ออสเตรเลีย มูลค่าเท่าไหร่ เป็นบ้านเดี่ยว คอนโด
ขายเสร็จค่อยขายใช่ไหม?
A:เราลงทุนมาครบ11ปีแล้ว เมื่อก่อนลงด้วยเงินไม่เยอะ เสร็จก็ต่อโครงการใหม่ จบครบ12โครงการ
ก็มีstock lance มาชวนเราลงทุน12โครงการ สร้างเสร็จค่อยขายให้ลูกค้า
ซื้อที่ดิน วางผัง ขออนุมัติ ทำโครงสร้างพื้นฐานให้ เสร็จแล้วขายที่ดิน โอนให้ลูกค้า
มีบริษัทที่สร้างตัวอย่างบ้านให้ดูก่อน เพื่อให้คนซื้อมาจ้างสร้างบ้าน ได้1,000กว่าไร่มา10ปี
ส่วนใหญ่ขายได้เดือนละ20โครงการ
ต้นทุนการก่อสร้างในออสเตรเลีย ปรับตัวสูงขึ้น เราพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แล้วค่อยขายที่ดิน
เราไปเพราะเพิ่มศักยภาพการเติบโตและกระจายความเสี่ยง

Q: ปีนี้ดูค่อนข้างaggressive ออกหุ้นกู้เพิ่ม มีวิธีอย่างไรให้เกิดความมั่นใจ?
A: คุณดูจำนวนเวินที่ลงทุน gearing 44%เอง DE 0.7เท่า ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ถือหุ้นอินเดียเสนอให้กู้มากขึ้น
SG&Aต่ำสุด บริษัทเสี่ยงน้อย มั่นคง แข็งแรง กว่าหลายบริษัท ไปลงทุนที่ออสเตรเลีย
ดอกเบี้ยที่ได้รับถูกกว่าตปท
เราบุกตลาดช่วงนี้เพราะช่วงโควิดกระทบมาก ตอนนี้เราฟื้นเร็ว จำนวนdeveloperน้อยลง
และโครงการที่ออกมาน้อยกว่าโควิด
เมื่อก่อน ยื่น EIA 12โครงการต่อปี ปีที่แล้วมีแค่2-3โครงการ เรามองว่าเป็นโอกาส

Q: คดีที่เกิดขึ้น EIAผ่านได้อย่างไร?
A: กรรมการพิจารณาสิ่งแวดล้อมถูกฟ้องร้อง แต่จริงๆโปร่งใสที่สุด เราใช้เวลาเสนอแล้วเสนออีกกว่า6ปี
ที่ดินตรวละแสน ตอนนี้200,000แล้ว
คดีที่เกิดเป็นโครงการที่นานสุด ปรับหลายรอบ คณะกรรมการทราบดีว่ามีคนจ้องจะฟ้อง
ช่วงเวลายื่นEIAรอบคอบครอบที่สุดจากทุกโครงการเพราะเราทราบว่ามีประเด็น

Q:ออสเตรเลีย ส่วนแบ่งรายได้ไม่เกิน300ลบ เทียบกับรายได้ทั้งหมดดูน้อย คุ้มไหม ?
ตอบ jv รวม10ปี 2,300ลบแล้ว เราไม่ได้ส่งเงินไปทุกโครงการ บางอันก็ใช้สภาพคล่องในjvมาทำ

Q:อัตราส่วนทางการเงินที่บอกว่าดีกว่าตลาด อยากให้ทำตารางเทียบกับทุกบริษัท?
A: จะทำโชว์เทียบบริษัทกับค่าเฉลี่ย

Q:คอนโดปีที่แล้ว มีข่าวแผ่นดินไหว รองรับได้เท่าไหร่
A: ดร ประทีป บอกว่า กฎหมายไทยมีเพิ่มความแข็งแรงของเสาใหญ่ขึ้นในจังหวัดเชียงรายล่วงหน้าแล้ว ตอม่อขยายให้ใหญ่กว่าคู่แข่งแล้ว
คุณไตร :คอนโดใหม่ๆสามารถรองรับกับความรุนแรงของแผ่นดินไหวในพื้นที่นั้น

Q:เหล็กเส้นโครงการอื่นใช้6หุน ของเรา?
A:ตึกใหญ่ใช้ใหญ่กว่า6หุน เป็นนิ้วเลย
NaughtyMacgie
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 610
ผู้ติดตาม: 59

Re: PRI

โพสต์ที่ 21

โพสต์

phpBB [video]


Credit: https://www.youtube.com/@valueinvesting9482
Dech
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 5016
ผู้ติดตาม: 145

Re: TKN

โพสต์ที่ 22

โพสต์

เผื่อใครอยากรู้ว่าผลิตสาหร่ายกันยังไง เก่าหน่อยแต่มีประโยชน์ครับ
ได้เห็นโรงงาน tkn เมื่อ 15 ปี ที่แล้ว เห็นการปลูกสาหร่าย การผลิตแผ่นก่อนส่งมาให้ tkn
การประมูลราคาสาหร่าย

คุณต๊อบยังเด็กๆ อยู่เลย

ถ้าขี้เกียจดูข้ามไปอันที่ 4 เลยครับของ tkn ละ

phpBB [video]


phpBB [video]


phpBB [video]


phpBB [video]
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
ภาพประจำตัวสมาชิก
SCGLOBAL
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 670
ผู้ติดตาม: 321

Re: AUCT

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ไม่ทราบจะ content ไหม แต่ช่วงที่ วิกฤติรถมือ 2 ราคาตก เพจ คุณพ้ง ก็ ออกมาบ่น ตามสภาพตลาด หรือ ตอนที่ รถ Ev ทำให้ รถมือ 2 ขายไม่ออกก็ออกมาทำคลิปบ่น
.
ล่าสุด วันนี้ ปล่อยคลิป “ วิกฤติ มี supply รถมือ 2 ไม่พอขาย ” ประกาศรับ ซื้อรถ รุ่นยอดนิยมด่วน ทั้ง civic city jazz accord Vios Ativ

> ถ้าจริงตามนี้ ฝั่ง Demand รถมือ 2 น่าจะผ่าน วิกฤติแล้ว ถ้าจะกังวล คงกังวล ฝั่ง supply หรือ รถโดน ยึดที่จะ มีเข้ามาให้ประมูล กันมากไหม

> ข้อมูลก็ inline กับฝั่ง AUCT ที่ว่า success rate ในการจบประมูล ของ Q1 สูงกว่า Q4 เพราะประมูลไปแล้วขายง่าย ขายคล่อง คนก็คงอยากประมูลให้จบ มากขึ้น


https://www.facebook.com/share/v/aiDBn ... tid=w8EBqM

IMG_6469.jpeg
"ประสบการณ์คือสิ่งที่คุณจะได้รับ เมื่อถึงวันที่คุณไม่ได้สิ่งที่ต้องการ" - Howard Marks
“I like to say, “Experience is what you got when you didn’t get what you wanted.”
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2637
ผู้ติดตาม: 270

Re: MASTER

โพสต์ที่ 24

โพสต์

AGM Master 23 apr 67 10.00

มีผู้เข้ามาประชุมด้วยตนเอง 29ราย
รับมอบฉันทะ 496 ราย รวม 78.11%
1000031607.jpg
โครงสร้างรายได้ 1916 ลบเพิ่มจากปี65 1482ลบเพิ่มขึ้น 29.3%
1.รายได้จากศัลยกรรม 1552ลบ 79.9%
2. รายได้ดูแลผิวพรรณ 135 ลบ 7%
3.รายได้ปลูกผม ดูแลเส้นปม 114ลบ 5.9%
4.รายได้ดูแลหลังศัลยกรรม 69ลบ 3.6%
5.รายได้ประกอบกิจกรรมโรงพยาบาลอื่น 43ลบ 2.2%
1000031619.jpg
1000031620.jpg
1000031622.jpg
SG&A เพิ่มจาก 462 ลบไป 633ลบ
กำไรสุทธิ416 ลบ เพิ่มขึ้น 38%

สท 3637 ลบ
หนี้สิน 646 ลบ
ส่วนผู้ถือหุ้น 2991 ลบ

วาระที่๓ อนุมัติงบการเงิน
วาระที่4 อนุมัติจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 1หุ้นเดิมต่อ 0.142857142857หุ้นปันผล
และเงินปันผล หุ้นละ 0.01587302 บาทเพื่อชำระภาษีหักณ ที่จ่าย
วาระที่5 อนุมัติ ลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้จำหน่ายและแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ

วาระที่11 พิจารณาอนุมัติ เข้าซื้อหุ้น เอส 45
1000031654.jpg
1000031653.jpg
1000031656.jpg
1000031655.jpg
ที่ปรึกษาทางการเงินพิจารณาแล้วเหมาะสม ราคาไม่เกิน 565.7ลบ
Q:การซื้อหุ้นมีที่ปรึกษา ราคาเท่าไหร่ครับ book valueเท่าไหร่ รายงานที่ปรึกษาอิสระน่าจะมีรายละเอียด
A: มีส่งให้แล้วเรื่องQR code จะรับพิจารณาในคราวหน้า เรื่องพิมพ์ใบมอบอำนาจ
และวิธีการเดินทาง
ส่วนวิธีการประเมิน
1.book valueไม่สะท้อนกิจการ 62ลบ
2.มูลค่าทางบัญชี220ลบ เป็นเวลาณ ขณะหนึ่ง
3 วิธีdcf

วิธีการประเมินมูลค่าแบบDCF น่าจะเหมาะสมสุด 1196- 1541ลบ ทำให้ราคาที่ทำรายการไม่เกิน 565.71ลบ
ดูเหมาะสม ราคาเข้าซื้อ100บาทต่อหุ้น

วาระที่12 พิจารณา อนุมัติเสนอขายหุ้นกู้ ไม่เกิน2000ลบ

1000031658.jpg
1000031657.jpg
ภาพประจำตัวสมาชิก
Thai VI Officer
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1539
ผู้ติดตาม: 1398

Re: MEGA

โพสต์ที่ 25

โพสต์

★ Opportunity day Transcript 30 - by ThaiVI ★
บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) - MEGA
Date: 12- Mar-24


Transcript 30 : https://bit.ly/49IrD8k
PDF – MEGA : https://bit.ly/4b9x8gz

--------------------------------------
การตอบคำถาม Oppday Q4/2023 บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) - MEGA

คุณสุจินตนา บุญวรภัทร กล่าวเปิดพร้อมกล่าวแนะนำคุณวิเวก ดาวัน, คุณมาโนช กัลบัคซานี และคุณฟรานซิส รีโก จากนั้นคุณสุจินตนาได้เริ่มกล่าวชี้แจงรายงานผลประกอบการบริษัทในไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2566 เป็นลำดับถัดมา

ผู้ให้ข้อมูลจำนวน 4 คน
ระยะเวลาทั้งหมด 30:40 นาที

------------------------------------------

เริ่มการตอบคำถาม

1. Gross Margin?
คุณวิเวก : We should be able to maintain น่าจะได้ Gross Margin เราน่าจะ Maintain ได้ เพราะว่าสินค้าเราไม่ได้เป็นสินค้าแฟชั่น เราไม่ได้แค่ลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขาย มีแต่สินค้าที่เรียกว่าโควิด ทุกคนมีสต๊อกเยอะ ขายไม่ออก เราก็ต้อง Discount เยอะ แต่สินค้า Mega เราไม่ได้มีสต๊อก เราไม่ได้ Carry stock ใน Covid Product มีไม่ได้เยอะ Impact ไม่น่าจะมีเยอะ การเติบโตของเรามันมาจากยาด้วย ยาอีกหลายตัวที่เราขึ้นทะเบียนใหม่ Product ใหม่ ๆ ด้วย อันที่หนึ่ง อันที่สอง เรื่อง Buy Power 30-40% มาจากยา ยาก็เรียกว่ายาจำเป็น เรามียาสามัญที่คนใช้โดยมีปัญหา อันนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งประมาณ 10% ที่เหลือประมาณ 50-60% ถือว่าเป็น Supplement แต่ Supplement เราส่วนใหญ่เป็นยา เราไม่ได้ขาย Supplement เป็น Fashion Product มาก ที่จำเป็น คนเราเชื่อ แล้วก็กินเพื่อสุขภาพ แล้วก็เราไม่ได้ Cover ประมาณ 50-60 ล้านคน ผมคิดว่าลูกค้าเราอยู่ในกลุ่มประมาณ 5 ล้านกว่าคนในแต่ละประเทศ ประมาณ 10% ไม่น่าจะเกิน 5-10% ตรงนี้ก็เป็นลูกค้าของ Mega ส่วน Impact ไม่น่าจะเยอะ โดย Buy Power ลดลง เท่าที่เราเคยเห็นในตอน 5-6 ปีที่แล้ว มันมี Recession เข้ามาในสหรัฐอเมริกา Supplement Business ไม่ได้ลดลง ถ้าเราอยากจะดูแลสุขภาพ ถ้าเราเชื่อ กิน So Impact ไม่น่าจะเยอะ เท่าที่ประสบการณ์เราก็เท่าที่เราดูใน 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้ว่ายอดลดลง เราบอกไม่ได้ แต่ว่าเราไม่ได้เห็นว่ามันหายไป 30-40% ไม่น่าห่วง ตามที่เราดูในตลาดด้วย ว่าสินค้าเราไม่ได้เป็น Mass Product แล้วก็คนที่เชื่อ แล้วก็คนที่ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพแล้วก็ใช้ต่อเนื่อง อันนั้นก็ไม่หาย ปัญหาว่าเราจะหาลูกค้าใหม่ ๆ อย่างไร วันนี้เป็นเรื่องใหญ่ แล้วก็อันนี้มันมาจาก New Product แล้วก็มาจากยาด้วย ที่รัฐบาลอยู่ในบัญชีหลักด้วย อันนั้นก็จะเป็น Direction อันหนึ่งที่ทำให้เรายังโตได้ 5-6% 5-10% Single Digit Mid-Single Digit เรียกว่า 5 6 7 8% ประมาณนั้น


2. ความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย แล้วก็แนวโน้มโอกาสการขยายการลงทุนในประเทศเวียดนาม ว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง แล้วก็คาดว่าจะเห็นผลสรุปชัดเจนในปี 67 นี้ไหม?
คุณวิเวก : ใช่ครับ ใช่ แล้วตอนนี้ปัญหาเวียดนามเราก็ต้องหาที่อยู่ ที่ที่เราเคยประกาศไปแล้ว ที่ที่เหมาะ แล้วก็ไม่ไกลจากโฮจิมินห์ เรากำลังดูแล้วก็เช็กไปแล้วหลายที่ ยังไม่ได้เซ็นสัญญาเพื่อซื้อ แต่ว่าอยู่ในระหว่างการดำเนินการ คิดว่าไม่น่าจะเกิน Quarter 2 ในปีนี้ เราน่าจะเห็นความคืบหน้ากันเรื่องเวียดนามว่าจะเซ็นสัญญา เพราะว่าดีไซน์ แบบโรงงานอะไร เรามีแล้ว So, i think เราจะเห็นอะไรคืบหน้าภายในไม่เกิน Quarter ที่ 2 ไตรมาสที่ 2
คุณสุจินตนา : แล้วก็อินโดนีเซียค่ะ
คุณวิเวก : อินโดนีเซีย ทุก ๆ อย่างไปตามปกติ ตามแพลน เราช้าไปนิดหนึ่งช่วงโควิด แต่ตอนนี้ลงเข็มเดือนนี้ แล้วก็เริ่มก่อสร้างภายใน 12 เดือน ขยายโรงงานเสร็จ เราน่าจะมี Soft Capsule Line ด้วย แล้วก็ขยาย Packaging เพื่อเพิ่มกำลังผลิตด้วย เพราะว่าตอนนี้เราก็ลงในตลาดเยอะ หลาย Product ที่ได้ทะเบียนไปแล้ว แล้วก็หลาย ๆ Product ที่เรานำเข้าได้ เราก็ได้ทะเบียนทยอยออกมาอยู่ด้วย ตามแพลน เราก็ลงทุนตามที่เราแพลนไว้ ที่เราบอกว่าภายใน 2030 เรามีในแพลนประมาณ 50 ล้านเหรียญ เรา Believe ว่าเราจะ Achieve ได้ภายใน 30 ตอนนี้ก็ทุกอย่างพร้อม โรงงานน่าจะ Ready ประมาณ 2025 ปลาย ๆ Quarter ที่ 3-4 เพราะว่าอยู่ในที่เดียวกัน เพราะฉะนั้นใบอนุญาตอาจจะไม่ช้า End of 25 น่าจะเริ่มได้ เริ่มขยาย แล้วก็ผลิตเพิ่มขึ้นได้ เพราะว่า Product เดิมเริ่มผลิตได้ Product ใหม่ก็ต้องขอทะเบียน ก็อยู่ในระหว่างการทำ อยู่ใน Process


3. ทิศทางธุรกิจในเมียนมาว่าแนวโน้มเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็มีเห็นโอกาสในการ M&A หรือว่า JV Synergy ใหม่ ๆ หรือไม่ อย่างไร มีข้อสรุปชัดเจนในเรื่องนี้หรือยัง?
คุณวิเวก : เมียนมาเป็นอะไรที่ตอนนี้พูดยาก ส่วนผมเองก็ไม่อยากจะคิดระยะยาว ตอนนี้มีแค่ว่าเรามีทีมงานอยู่แล้ว เรามี Warehouse แล้วก็เรามีทุกอย่างพร้อม แล้วก็หนึ่ง ถ้าเรานำเข้ายาได้ ความต้องการในตลาดยังมีอยู่ แล้วก็ทีมงานเราก็ยังมีพร้อม ปี 2 ปี เรียกว่าต้อง Manage Cost แล้วก็พยายามทำเยอะสุดที่เราทำได้ แล้วก็ทำในองค์กรยาที่รัฐบาลอนุญาตให้เรานำเข้า หาเงินได้ เขามีให้ Import License ด้วย ตอนนี้เป็น Maintenance Period ต้อง Manage ปี 2 ปี ต้อง Maintain Strength แล้วก็ Manage แล้วก็เราพร้อมตลอดเวลาเพื่อให้เรา Supply สินค้าได้ MEGA Strength แล้วก็สินค้าที่เราขายอยู่ก็ติดตลาดตั้งนานแล้ว ส่วน Business เราก็มียา ก็เป็น Area หนึ่ง เรามี Product เยอะในองค์กรยาด้วย เยอะเพราะว่าเรามีหลายธุรกิจที่เราทำให้ Distribute ไทยด้วย แล้วก็ขายเองด้วย แล้วก็ตอนนี้เราไม่ได้มอง JV M&A แต่ว่าเราจะมองว่าผลิต ทำอะไรบางอย่างในประเทศ เพื่อหลาย ๆ คนที่หา Partner ดี ๆ อยากจะโยกย้าย อยากทำสินค้าที่คนอื่นทำไม่ได้ อันนี้เราก็มองอยู่ด้วยว่าหลายคนก็มาติดต่อ ถาม คุยกับเราอยู่ด้วย Finding the key is to sustain and be there and ทีมงานเราก็อยู่กับเราได้ ที่แบบ Right side ใช้เงินในทางที่ถูก and don't waste money in the country and stay there เพราะว่า Opportunity ต้องมา ถ้าประเทศมีการเปลี่ยนแปลง ปี 2 ปี มันก็ปรับขึ้น Mega ก็ยังมีโอกาส and even if you look at performance ปี 2023 we still be ok. Problem in Myanmar มันก็มีปัญหาแหละ เมื่อก่อนเรามี Vision ว่ามันมี Growth Strategy พม่ามี 55 ล้าน 60 ล้านคน แล้วก็ทุกคนไปลงทุนอยู่ญี่ปุ่นอะไรต่าง ๆ ตอนนี้ประเทศเริ่มพัฒนาแล้วก็มันมี Environment มันเปลี่ยน พยายามดีขึ้น ตอนนี้เรียกว่ามัน Declining GDP เราจะ Manage อย่างไร Manage ว่าขายยาที่จำเป็น แล้วก็เรามีทีมงานพร้อม ลงทุนทำ Warehouse เรามีที่ เราทำโซลาร์เซลล์ เราทำทุกอย่าง เพราะว่าเราเป็น Best Warehousing ระบบ Software Hardware เราก็ Cover 3 Outlets ในพม่า ตอนนี้ก็ยัง Cover อยู่ แต่ว่าหลายที่มันตัดออกไปแล้ว ไปไม่ได้ Area ที่เรายัง Cover อยู่ เราก็ยังส่งของให้ได้อยู่นะครับตอนนี้ I think say watch strategy นั่งดู แล้วก็พร้อมตลอดเวลา and maintain keep your cost manage your business แล้วก็ทำธุรกิจให้ แล้วก็รอ รอเวลา อันนี้เป็นปัญหาที่ไม่มีใครคาดหวังได้ มันก็เกิดขึ้น แต่ว่าเราก็หา Growth จากที่อื่น ๆ ด้วย แอฟริกา อินโดนีเซีย เวียดนาม ไทยแลนด์ ก็อันนี้เรียกว่ามันต้องไดร์ฟ เมื่อก่อนเราคิดว่าถ้าพม่า Growth เราจะได้โอกาสโตอีกเยอะ อันนี้ก็เป็น Lost อันหนึ่งที่เราก็เสียใจด้วย เรื่องนี้ก็ทำอะไรไม่ได้จริง ๆ


4. คู่แข่งตลาดที่เราส่งออกยาไป เช่น แอฟริกา เมียนมา อินโดนีเซีย เวียดนาม มีคู่แข่งจากจีนหรืออินเดียเข้ามาเล่นหรือเปล่า แล้วก็มีอะไรเป็น Barrier ของเรา แล้วก็ในส่วนของการแข่งขันอาจจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าเราหรือเปล่า?
คุณวิเวก : มีครับ ๆ Competition ธุรกิจไหนไม่มี ก็ไม่จริง มีบางประเทศก็มี Local Business ใหญ่ที่ผลิตในประเทศ แล้วก็ธุรกิจใหญ่ ๆ ถ้ามี แล้วก็บางประเทศก็มีนำเข้าด้วย Local ก็มีด้วย ผมว่าองค์กรยาก็มีทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ ถ้าบางประเทศ เวียดนามก็มีหลายโรงงาน เมืองไทยก็มี 180 โรงงาน อินเดียก็มี 10,000 กว่าโรงงาน เราก็ต้องไปส่งออกอย่างเดียว ก็ส่งวัตถุดิบด้วย ขาย Finish Product ด้วย จีนก็มีบ้าง นอกจากจีน ก็มีทั้งทางสหรัฐอเมริกา ทั้ง European ก็มี Product ใหม่ ๆ ก็มี ยามันองค์กรที่มันก็มีคู่แข่งเยอะ ทุกแบบ แต่ตอนนี้อยู่ที่ว่าเรา Success อย่างไร เราชนะอย่างไร Prove อยู่ว่าเราเข้าไปทำก่อน แล้วก็ทำแบรนด์ด้วย เพราะว่า Mega มี over product ด้วย เราลงทุน สร้างแบรนด์มาตอนนี้ 10 กว่าปี เราไปแต่ละประเทศ ไปก่อนเพื่อนก็มีมานานแล้ว อันนี้เป็น Strategy หนึ่ง Strategy ที่สอง เราก็มีสินค้าใหม่ ๆ ที่เราขึ้นทะเบียนเร็วกว่าเพื่อน แล้วก็เราทำการตลาด แล้วก็เริ่มแข่งกันด้วย สุดท้ายเราก็ต้องแข่งกัน เหมือนกับราคาลดลง แต่คุณภาพเดียวกัน เราก็ต้องแข่งกัน ตอนนี้ระดับทั่วโลกก็เริ่มขอบัญชีดี ๆ ขอกันที่ระดับยุโรป อย่างนั้น Product เรามันก็ดันกับใครไม่ได้ ไม่ว่าจะผลิตในยุโรป ผลิตในไทย คุณภาพต้องเท่ากัน เพราะว่าทุกคนต้องการ GMP ต้องการ GDP อะไรเหมือนกันหมด ถามว่าใครจะลดราคา มันก็ลดราคา แปลว่าลด Margin เขาต้นทุนน้อยกว่า ต้นทุนน้อยตรงที่ว่าเขาผลิตเยอะ จำนวนผลิตก็ 50 เท่ากับเรา เพราะว่าแต่ละประเทศเวลาเขาผลิต เขาก็มีตลาดในประเทศด้วย I think ถ้าถามว่า Pricing come from volume ถ้าเขาสูง การผลิต ตอนนี้วัตถุดิบ ทุกคนซื้อจากอินเดียกับจีน ส่วนใหญ่ เพราะว่าเขาเรียกว่า Pharmacy of the world สุดท้าย มันมี Manufacturing Charge อย่างเดียว ถ้าใครทำแค่ 100,000 เม็ดต่อปี คนหนึ่งทำ 10 ล้านเม็ดต่อปี มูลค่าต้องน้อยกว่าอยู่แล้ว มันก็ถูกลง กำลังผลิต Cost ทุกอย่าง มันจะลดลง It is natural อย่างนั้นเราก็ต้องมี Good Partner ทีมที่เราผลิตสินค้าในราคาที่เหมาะสมได้ เราอาจจะมีเทคนิค บางครั้งเราไปในตลาดต่างประเทศ เราก็สร้างตลาดด้วย ลูกค้าไม่มี คู่แข่งไม่มี เพราะว่าเขาไม่เคย Launch Product แบบนี้ด้วย ไม่ได้มี Strategy อันเดียว หนึ่ง Launch Branded Product ที่เรามีแบรนด์ในตลาด สอง เราก็ไป Force to market สาม เราก็ต้องแข่งกันให้ได้ในราคาที่คนอื่นก็แข่งได้ เราก็ทำได้เหมือนกัน ฉะนั้นหมอ โรงพยาบาล รัฐบาล เชื่อเรา เพราะว่าสินค้าเรามีคุณภาพ มาตรฐานสูง ก็ต้องทำ 3 อย่าง ไม่ใช่ว่าทำอย่างไหนอย่างหนึ่ง เราไม่ได้ทำ Research แสดงว่าสินค้าเราก็ต้องสร้างตลาดก่อนให้ได้ So far, เรา Prove ว่าเรา Work อยู่ อนาคตเรายังมองว่ายังมี Chance ในการสร้างตลาดรออยู่ในหลาย ๆ ประเทศที่ยังไม่ได้แค่เปลี่ยนไปซื้อราคาถูกอย่างเดียว


5. Vistra มีการเข้าไปวางขายใน CJ Express เรามีแผนจะเข้าไปหรือไม่ แล้วก็เราจะมีแนวโน้มที่จะทำตัวเมลาโทนินที่เห็นในท้องตลาด ราคาค่อนข้างแพง เราสนใจทำไหม?
คุณวิเวก : อันนี้เป็นรายละเอียดมาก เราไม่ไปวิเคราะห์ Vistra Vistra มีกลยุทธ์ดี วันนี้เป็นแพลนของเขา แต่ละบริษัทก็มีกลยุทธ์ของเขา ผมจะไม่ไป Comment คนอื่น แต่สินค้า Mega ก็เป็นสินค้ายา ทะเบียนยา แล้วก็อาจจะมีอาหารบ้าง เราจะขายที่ไหนที่เราคิดว่าเหมาะกับลูกค้า ลูกค้าของเราไปซื้อได้ แล้วก็ทำตลาดให้ได้ เพราะเขาอยู่ใน CJ เราก็ไม่ได้ตามเขา I think the most important thing is ลูกค้าเชื่อ ลูกค้าไปซื้อสินค้า บางคนอาจจะไม่ได้ขายในออนไลน์ด้วย มีหลายบริษัทที่ยอดขาย 500 ล้าน พันล้าน ก็ขายในร้านยาอย่างเดียวก็มี ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่กลยุทธ์ ของเรา เราก็อยู่ที่ไหน เราอยากจะทำตลาดแบบไหน เราอยากจะติดต่อลูกค้าแบบไหนให้เขาเชื่อ สินค้าเราจะเป็นสินค้าที่มั่นใจ คุณภาพเราระดับยา เราผลิตในโรงงานมี TGA มี BfArM มี German FDA สินค้าเราทุกเม็ด เราทำเป็นยาเลบ I think it's a different strategy เราไม่ไปวาง Strategy เหมือนคนอื่น บางคนขายในออนไลน์ ก็มี บางคนขายในแค่ Supermarket ก็มี อันนี้แล้วแต่คน แล้วแต่เขามีลูกค้าที่เชื่อไปซื้อสินค้าที่นั่นด้วย บางครั้งมัน Depend on Market บางครั้งบน Kmart Walmart อะไรก็มีแผนกขายวิตามิน คนก็ขาย ไปเซเว่นก็มีคนขายทั่วเลย Market Size มันเยอะ คนไปซื้อสินค้าที่เขากินอยู่ตลอดปี ซื้อเป็น Box ซื้อสบู่เป็น Box ซื้อวิตามินเป็น Box แล้วก็เก็บเพื่อกินทุกวัน แต่ของบ้านเรามันยังไม่ได้ถึงขนาดนี้ I think it's a matter of strategy ถ้าวันนี้เรานั่งคุยเรื่อง Strategy มันจะยาก เรื่องเมลาโทนิน เมลาโทนินภายในประเทศ ตอนนี้เป็นยาอยู่ ทะเบียนยาอย่างเดียว ที่ขึ้นได้ก็ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยา ไม่ใช่ง่าย ยาก ยากอยู่ กลุ่มที่ขายอยู่เรียกว่าตลาด เท่าที่ผมทราบนะ ผมอาจจะผิดก็ได้ ขออนุญาต ถ้าผมผิด ยอมรับ แต่ว่าผมคิดว่าเมลาโทนินที่ขายอยู่ไม่ได้ใบอนุญาต ไม่ได้รับอนุญาต ที่อยู่ในตลาด ไม่มีเลขทะเบียน นอกจากว่าทะเบียนยา ยี่ห้อซิกาเบี้ย อันนี้เป็นทะเบียนยา ถามว่าเราพัฒนาอยู่ไหม พัฒนาอยู่ อันนี้มันอยู่ใน Pipeline ตอนนี้เราพูดเรื่อง Pipeline ให้ไม่ได้ ตอนนี้ มันก็ยากที่เราจะอธิบายว่าเรามีอะไรบ้างใน Pipeline But yes it's a product ที่น่าสนใจด้วย เราไม่ทำ เราไม่ได้ขายที่ไม่มีใบอนุญาต เท่าที่ผมทราบตอนนี้เมลาโมนินไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นอาหาร ยังไม่มีในภายใต้อาหาร


6. BOI ปัจจุบันจะหมดปีไหน แล้วก็มีแผนในการขอ BOI ฉบับใหม่หรือไม่ อย่างไร?
คุณสุจินตนา : ก็คือ BOI จะหมดประมาณกลางปี 2569 ซึ่งถามว่าบริษัทมีแผนที่จะ Apply ตรงนี้ไหม เราก็มองอยู่ว่ามีตรงไหนที่เราสามารถที่จะ Apply BOI ได้ ตอนนี้ก็กำลังอยู่ในแผนที่เรากำลังจะ Apply


7. ในช่วง Q1 ปีนี้ คาดว่าจะมีขาดทุนจากค่าเงินประมาณเท่าไหร่ แล้วก็เกิดจากสาเหตุอะไร?
คุณวิเวก : จริง ๆ ราคาในไนจีเรีย เมื่อก่อนแบงก์มี Rate หนึ่ง แล้วก็ราคาเวลาเราซื้อในตลาดก็อีก Rate หนึ่ง ตอนนี้แบงก์ Rate วันนี้ราคามันเท่ากันแล้ว ฉะนั้นการที่ Revenue ที่มันต่างกันเยอะ มันจะน้อยลง เพราะว่าน่าจะแค่ 30-40 เวลาไปซื้อจริงในตลาด and pricing เราก็ทำสูงกว่าตลาด So, I think actual lost อาจจะไม่เกิดขึ้น แต่ว่า Book lost ต้องเห็นเพราะว่าตลาด แบงก์เกรดอยู่ตรงนี้ แต่จริง ๆ เวลาซื้อมันต่างกัน 30-40 อาจจะแค่ 3-4% สุดท้าย Revenue look at the same รับเงินเสร็จ เก็บตังค์ มันก็สูงกว่านี้อยู่แล้ว Now Pricing is higher. It isn't one day 1,600 เหรียญเป็น 3,200 วันหนึ่งเราตื่นขึ้นมา อันนี้อีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่น่าจะอย่างนั้น เพราะว่ารัฐบาลมัน Set rate Banking Rate กับ Working Rate ที่เราซื้อจากแบงก์ มันเท่ากันแล้วตอนนี้ เวลาเราซื้อกับอัตราแบงก์ มันดริปมันต่างกันอยู่แล้ว ทุกครั้งเรา Price สูงกว่า แล้วก็ของที่อยู่ในสต๊อก เราก็เปลี่ยนราคาขายได้


8. Key Success Factor ที่ทำให้ Mega ประสบความสำเร็จในการแข่งขันที่ผ่านมา มีปัจจัยอะไรบ้าง?
คุณวิเวก : มันใช้เวลานาน 35-36 ปี ทำอะไร ทำเหมือนเดิม เพราะว่าตอนที่เราเริ่มปี 86 เราก็ค่อย ๆ ทำพัฒนาสินค้าเยอะในตลาด แล้วก็ขออนุญาตด้วย ขึ้นทะเบียนด้วย แล้วก็ใบโรงงานเราได้มาตรฐานจาก Australia TGA ก่อนเพื่อน I think willing a good company ที่มีทีมงาน ทีมร่วมแข็งแกร่งด้วย ในแต่ละประเทศ แล้วก็เราไม่ได้ขายแค่ในประเทศ เราก็ขยายไปหลาย ๆ ประเทศด้วย I think it's a team it's the willing of the business model ที่อยู่ในตลาด แล้วก็เรายัง Success ได้ Ownership Model ที่เจ้าของหลาย ๆ คนในหลาย ๆ ประเทศมาสร้างตลาด โดยเราก็ทำ พยายามแข่งกับทุกคนได้ It's a teamwork Business มันก็เหมือนกัน ธุรกิจยาเหมือนกัน ทำไมเรา Success ได้ในหลาย ๆ ประเทศ เพราะว่าเราจะไปก่อนแล้วก็ลงทุนในการสร้างแบรนด์ คิดระยะยาวด้วย ไม่ใช่คิดสั้น ๆ สำหรับแต่ละ Quarter อย่างเดียว We look at business long-term อยู่ มัน Growth มันมาอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ต้อง Invest เราก็ต้อง Create Business เพื่ออนาคต The growth take time ถ้าเรา Chase growth อย่างเดียว แล้วก็ไม่มองว่าจะสร้างแบรนด์ ลูกค้าเชื่อ ลูกค้าได้กินสินค้าเราต่อเนื่องไหม I think it's a lot thing that coming. The key is people and a long-term thinking strategy เพื่อ building brand พอเราลงทุน you could win แต่เราไม่ได้ Win ทั้งหมด We'll lose some เราก็เฟลบ้าง บางประเทศเราไป เราจะไม่ Success แต่บางครั้งถ้าเราไปก่อน มันก็มีโอกาสสูงกว่า ถ้าไปหลัง ไป Red มันก็ต้องหนักหน่อย ยากหน่อย คุยเรื่อง Strategy มันจะยากนิดหนึ่ง


9. รายได้แอฟริกาจะโตมากกว่านี้ไหม แล้วก็ Target Growth ในแอฟริกาจะ Double Digit Growth หรือไม่?
คุณวิเวก : Growth Double เพราะ Population Growth มันสูง แล้วก็ถ้าตลาดโต อุปสรรคไม่มีอีก Ukraine War Gaza War เรื่องปัญหาอะไรต่าง ๆ ไม่ขึ้นมา เพราะว่าประเทศพวกนี้มัน Sensitive to international ปัญหาที่จะสร้างค่าเงินอะไร ทำให้ตัวยา ก็เหมือน Economy เขา Depend on commodity เขา Depend on export กับ income ต่าง ๆ แต่ตอนนี้ แล้วก็อันที่สองที่ Depend on good leadership อันนั้นมีในแอฟริกา หลาย ๆ ประเทศแล้วมันดีขึ้น ที่เราเจอใน 10-15 ปีนี้ They improve a lot but in a long ถ้าปัญหาอย่างนี้มาปุ๊บ จะเริ่มมีปัญหา ทำให้ลำบาก เท่าที่เราดูก็ มีน้ำมันเข้ามา Resources เขาเพิ่มขึ้น So, Dependency เขาก็ไม่อยากจะซื้อจากรัสเซีย แอฟริกา will get some and ตอนนี้สหรัฐอเมริกาอยากจะ balance แอฟริกาด้วย เพื่อไม่อยากจะให้แอฟริกาอยู่ฝั่งนี้ จีนก็ไปลงทุนแอฟริกาเยอะด้วย ถ้าเรามองแค่ปีเดียว เราไม่ได้ ต้องมองระยะยาว 5 ปี 10 ปี They should be good opportunity because Nigeria become 300 ล้านกว่าคน แอฟริกา ยูโทเปีย 400 ก็ดูแต่ละประเทศ แล้วก็ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นหน่อยหนึ่ง แบรนด์เราติดตลาด but it's not going to be straight line ไม่ใช่ straight line เพราะว่าแอฟริกามันจะขึ้นลงบ้าง แล้วก็เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง เดี๋ยวก็ค่อย ๆ ขึ้น แต่ว่านั่นก็อีกปัญหาหนึ่ง ที่นู่นมัน Political Stability ก็อีกเรื่องหนึ่ง ที่มันเรื่องสำคัญ ถามว่าไนจีเรียมีน้ำมัน น้ำมันเขามีเยอะ แต่มัน Export ไม่ได้ มีปัญหาภายในประเทศเยอะด้วย Let's see what happens. It's the challenge of Africa.
คุณสุจินตนา : โอเค คำถามน่าจะหมดแล้วนะคะ ถ้านักลงทุนท่านใดมีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อมายังบริษัทได้ หรือว่าสามารถที่จะทิ้งคำถามไว้ใน IR ในเว็บไซต์ของบริษัท หรือว่าส่งอีเมลมาที่ investor@megawecare.com ได้นะคะ วันนี้ทางทีมงานแล้วก็ทางผู้บริหารก็ขอขอบคุณท่านนักลงทุนทุกท่านที่สนใจในบริษัท Mega นะคะ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ
คุณวิเวก : ครับ Thank you สวัสดีครับ

--------------------------------------------
***Oppday Q4/2023 MEGA เป็นข้อมูลถาม-ตอบ Q&A โดยหวังว่าจะเป็นความรู้และให้ประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกๆ ท่าน และกรุณาตรวจสอบข้อมูลก่อนนำไปใช้ทุกครั้ง หากมีข้อผิดพลาดประการใด ทาง ThaiVI ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้***
ขอแสดงความนับถือ
สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3779
ผู้ติดตาม: 75

Re: NEO

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ธุรกิจเพื่อนบ้าน

อุทัย ธเนศวรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอ.พี. วัน จำกัด Business Class EP33
phpBB [video]
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <⁠(⁠ ̄⁠︶⁠ ̄⁠)⁠> ...
PK-TYW
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2776
ผู้ติดตาม: 210

Re: SPALI

โพสต์ที่ 27

โพสต์

งบq1ชะลอตัวต่อเนื่องนะครับ ดอกเบี้ยสูงกระทบกลุ่มลูกค้าSpaliชัดเจน

ว่าแต่อยากให้ทุกบริษัทยกเลิกanalyst previewจริงๆ รู้งบกันเหมือนตาเห็น
IMG_2455.jpeg
ภาพประจำตัวสมาชิก
ThekopChamp
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 456
ผู้ติดตาม: 154

Re: ADVICE

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ถ้าตามนิยามในปัจจุบัน และโครงการบรรลุใช้ได้จริง น่าจะใช้ได้ประมาณนี้
1.สาขาตัวเองที่เป็น Stand Alone มีราวๆ 75 สาขา (ในห้าง 35 สาขาใช้ไม่ได้)
2.สาขาแฟรนไซส์ ราวๆ 220 สาขา ผมเข้าใจว่าแฟรนไชส์ เป็น Stand Alone เกือบหมด
ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ตามต่างอำเภอ ในต่างจังหวัด (ลองกดแผนที่ดูสาขาค่อนข้างกระจาย)
รายได้ส่วนนี้ปกติ Advice รับรู้ตรงรายได้ค้าส่ง ซึ่งอยู่ราวๆ 35%
advice1.jpg
advice2.jpg
ampare
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2095
ผู้ติดตาม: 230

Re: BLC

โพสต์ที่ 29

โพสต์

BLC ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น Nichi-Iko ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายยาคุณภาพสูง


บมจ.บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC) ส่งบริษัทในเครือ บริษัท บางกอกดรัก จำกัด (BDC) ทำข้อตกลงในการได้รับสิทธิจำหน่ายยาแผนปัจจุบันของบริษัท นิชิอิโคะ (Nichi-Iko) ผ่านช่องทางร้านขายยาแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้าเพิ่มการเข้าถึงยาคุณภาพดี พร้อมมุ่งเน้นจำหน่ายยาด้วยมาตรฐานระดับสากล ในราคาที่จับต้องได้ให้แก่ผู้ป่วยชาวไทย รุกสร้างการเติบโตผ่านการ Synergy โดยใช้ความเชี่ยวชาญตลาดยาในประเทศไทยของ BLC ผสานรวมกับนวัตกรรม และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น เล็งเพิ่มขนาดพอร์ตผลิตภัณฑ์ยาต่อเนื่อง เร่งขยายตลาดรุกสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLC เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ วางเป้าหมายในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญขององค์กร คือ การสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจ หรือ Alliance เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน

ล่าสุด BDC ภายใต้กลุ่มบริษัท BLC ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับ Nichi-Iko ในการได้รับสิทธิจำหน่ายยาแผนปัจจุบันผ่านช่องทางร้านขายยาแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านทีมการตลาดและทีมขายที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยาในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน รวมทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับเครือข่ายร้านขายยาทั่วประเทศ โดยจะเริ่มจัดจำหน่ายตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ในระยะแรกมุ่งเน้นการจัดจำหน่ายกลุ่มยาลดไขมันในเลือด ยาป้องกันและรักษาโรคหอบหืดระยะยาว ยาลดความดันโลหิต ยาปฏิชีวนะชนิดหยอดตา เป็นต้น และมีแผนจะขยายพอร์ตสินค้าอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ที่รอขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเพื่อจัดจำหน่ายอย่างน้อย 5-10 รายการ เพื่อวางจำหน่ายภายใน 5 ปี

ทั้งนี้ Nichi-Iko จะยังเป็นผู้จำหน่ายในช่องทางสถานพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน และ คลินิกแพทย์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLC กล่าวเพิ่มเติมว่า การได้รับสิทธิจัดจำหน่ายในช่องทางร้านขายยาแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรในอนาคต ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการเป็นอย่างดี ตลอดจนโอกาสในการเสริมพลังความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยี และยกระดับมาตรฐานการผลิตผ่านโรงงานผลิตที่มีมาตรฐานระดับสากลของ BLC รวมทั้งช่วยเพิ่มการลงทุนในประเทศมากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาคุณภาพดีของผู้ป่วยชาวไทยและในภูมิภาค รวมทั้งจะช่วยสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมยา

ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตจากความร่วมมือในครั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ ได้จัดตั้งทีมดำเนินธุรกิจเพิ่มอีก 1 กลุ่ม ประกอบด้วยทีมบุคลากรที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ม.ค.67 เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

สำหรับ Nichi-Iko ถือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสามัญชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มุ่งเน้นภารกิจสำคัญคือสนับสนุนคุณภาพชีวิต สุขภาพและความสุขของผู้คนทั่วโลก จึงได้ขยายธุรกิจมาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 ที่จะเป็นฐานของธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยในประเทศไทย มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ยาลดไขมันในเลือด ยาป้องกันและรักษาโรคหอบหืดระยะยาว ช่วยบรรเทาอาการเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ยาลดความดันโลหิต ยาปฏิชีวนะ ชนิดหยอดตา และยารักษาโรคมะเร็งปอด ซึ่งมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีมาตรฐานระดับสากล GMP/PICS

และยังมีเทคโนโลยีในการผลิตเพื่อช่วยในเรื่องการติดตามความปลอดภัย เช่น การนำเทคโนโลยี laser printing ลงบนเม็ดยาที่มีความปลอดภัยในการรับประทาน ทำให้บนเม็ดยามีเครื่องหมายที่บ่งชี้ว่าเป็นยาอะไร และมีเลขแสดงความแรงของยา ตลอดจนเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้ป่วย เช่น การปรับแผงยาแบบ unit dose มีรอยประ เพื่อให้ง่ายต่อการแบ่งเม็ดยาแบบพกพา การพัฒนาขวดยาหยอดตาให้เป็นเหลี่ยมมุม ลดการกลิ้งกระเด็นของขวดยาที่อาจหลุดมือผู้ป่วยตกพื้น เป็นต้น

“ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี BLC ดำเนินธุรกิจด้วยจุดมุ่งหมายที่จะสร้างสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชนทุกภาคส่วน การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นบริษัทยาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Nichi-Iko ที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการผลิตที่ทันสมัย รวมกับความเชี่ยวชาญในตลาดยาของประเทศไทยของ BLC จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงยาคุณภาพดี มีมาตรฐานระดับสากล ในราคาที่เหมาะสมให้กับประชาชนชาวไทย เพื่อสร้างความมั่นคงทางสุขภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาว” ภก.สุวิทย์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 67)
Time is the friend of the wonderful company, the enemy of the mediocre.
A43005

Re: KLINIQ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

1000004448.jpg
โพสต์โพสต์