จัดพอร์ตลงทุนในปีหนูทอง/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1890
ผู้ติดตาม: 311

จัดพอร์ตลงทุนในปีหนูทอง/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินจีนแล้ว ก็ขอถือโอกาสสวัสดีปีใหม่จีนกับท่านผู้อ่านค่ะ ปีนี้โหราศาสตร์จีนถือว่าเป็นปี หนูโลหะ ซึ่งโลหะของจีนมีสองสีคือ สีขาวกับสีทอง บางท่านจึงเรียกปีนี้ว่าเป็นหนูขาว บางท่านก็เรียกว่าหนูทอง

ทางโหราศาสตร์จีนถือว่าหนูเป็นผู้ปกป้อง และเป็นผู้นำความมั่งคั่งมาให้ ทำนายว่า ปีนี้จะเกิดสถานการณ์ที่เป็นประโยชน์ นำโอกาสการพบกับคนพิเศษ โชคลาภ และช่วยลดระดับความขัดแย้ง ทางสองแพร่ง หรือการเปลี่ยนแปลงให้มาอยู่ในระดับพอรับได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ความสามารถและจุดแข็งของตัวเองในการแก้ไขปัญหา หรือใช้โอกาสนั้นๆให้เป็นประโยชน์อย่างไรค่ะ

ในปี 2562 ที่ผ่านมา สินทรัพย์การลงทุนเกือบทุกประเภทให้ผลตอบแทนดีมาก โดยข้อมูลที่รวบรวมและคำนวณโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยแสดงให้เห็นว่า ค่าความผันผวนในปีที่แล้ว ยังค่อนข้างต่ำอีกด้วย โดยน้ำมันให้ผลตอบแทนสูงที่สุดคือ 34% แต่ก็มีค่าความเสี่ยงวัดโดยค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสูงถึง 28.41% ขณะที่หุ้นทั่วโลกวัดจากดัชนี MSCI World ให้ผลตอบแทน 27.67% และมีค่าความผันผวนเพียง 8.61% กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โลก ให้ผลตอบแทนถึง 24.49% ในขณะที่มีค่าความผันผวนเพียง 7.75% หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา วัดโดยดัชนีดาวน์โจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.34% และมีค่าความผันผวน 10.42%

ทองคำให้ผลตอบแทนค่อนข้างดีมากในปีที่แล้ว โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.73% และมีค่าความผันผวน 9.73% หุ้นของตลาดเกิดใหม่ วัดโดยดัชนี MSCI Emerging Markets ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.42% มีค่าความผันผวน 9.71% ตามติดๆมาด้วยตลาดหุ้นญี่ปุ่น ที่ดัชนีนิเคอิ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 18.20% และมีค่าความผันผวน 11.3%

พันธบัตรรัฐบาลไทย ให้ผลตอบแทนในปีที่แล้วถึง 15.25% มีค่าความผันผวนเพียง 2.77% โภคภัณฑ์(ซึ่งดิฉันแนะนำให้ไม่จัดเข้ามาเป็นสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนในปีที่แล้วเพราะคาดว่าผลตอบแทนไม่คุ้มค่าความผันผวน) ให้ผลตอบแทน 9.41% แต่มีค่าความผันผวนสูง 10.87% และที่ตามมาในอันดับสุดท้ายของกลุ่มสินทรัพย์การลงทุนหลักๆที่ดิฉันแนะนำ คือหุ้นไทยของเรา ในปีที่แล้วให้ผลตอบแทนเพียง 1.02% และมีค่าความผันผวน 7.73%

โดยรวมแล้วพอร์ตการลงทุนที่ดิฉันแนะนำในปีที่แล้วให้ผลตอบแทนดังนี้
Picture1.png

พอร์ตแบบอนุรักษนิยม ได้ผลตอบแทน 12.17% มีค่าความผันผวน 3.72% พอร์ตแบบเสี่ยงปานกลาง ให้ผลตอบแทน 12.81% มีค่าความผันผวน 4.93% พอร์ตแบบเสี่ยงได้เพิ่ม ให้ผลตอบแทน 12.1% มีค่าความผันผวน 5.18% พอร์ตแบบเสี่ยงได้สูง ให้ผลตอบแทน 13.17% มีค่าความผันผวน 5.62% และพอร์ตแบบเสี่ยงได้สูงมาก ได้ผลตอบแทน 14.5% และมีค่าความผันผวน 10.54%

สรุปแล้วในปีที่แล้ว ผู้ที่ได้ผลตอบแทนต่อหนึ่งหน่วยความเสี่ยงที่มากที่สุด คือกลุ่มอนุรักษนิยมค่ะ เพราะได้มาถึง 3.2691% ขอแสดงความยินดีกับผู้ลงทุนทุกท่านค่ะ

สำหรับการลงทุนในปีนี้ ความผันผวนยังคงมีต่อเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง การถอนตัวจากอียูของสหราชอาณาจักร และปัญหาเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศ และสงครามทางการค้าที่อาจสงบชั่วคราว แต่ก็ไม่ยุติง่ายๆ และปัญหาใหม่คือโรคระบาดที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

การลงทุนจึงยังต้องลงทุนแบบระมัดระวัง และคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เพื่อให้เราสามารถทนต่อความผันผวนระหว่างทางได้ และโดยทั่วไป หลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีจะไม่ปรับตัวลดลงมากนักในยามที่ตลาดมีการตื่นตกใจ

การจัดพอร์ตโดยรวมในปีนี้ ดิฉันแนะนำให้ลดสัดส่วนของพันธบัตรและหุ้นกู้ลงเล็กน้อย และนำมาเพิ่มน้ำหนักให้กับทองคำค่ะ แม้ว่าราคาในปีที่แล้วจะขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว แต่ในปีนี้คาดว่ายังจะไปต่อได้อีกนิดหน่อยค่ะ รอจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัวหน่อยนะคะ

นอกจากนี้ แนะนำให้ปรับน้ำหนักหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และสุขภาพ และอย่าลืมเลือกหุ้นในกลุ่มที่เป็นมิตรต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาลที่ดีนะคะ หุ้นกลุ่ม ESG ไม่ว่าในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆค่ะ

พอร์ตที่แนะนำในปีนี้จะมีหน้าตาและผลตอบแทนที่คาดหวัง พร้อมกับประมาณการความเสี่ยง (ความผันผวน) ตามตารางด้านล่างค่ะ
โดยในปีนี้ ดิฉันคาดการณ์ผลตอบแทนไว้ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากปีที่แล้วราคาสินทรัพย์ทางการเงินได้ขึ้นไปค่อนข้างมาก โดยได้อานิสงส์จากการที่ดอกเบี้ยมีอัตราต่ำมากๆเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดพฤติกรรม “วิ่งไล่ล่าหาผลตอบแทน” อะไรที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากก็จะพุ่งเข้าไปลงทุน ทำให้ราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้น แต่ปีนี้ไม่เหมือนกัน เพราะผู้ลงทุนได้กำไรมาพอสมควรแล้ว ก็พร้อมที่จะขายทำกำไร แล้วไปยืนดูที่ขอบสนามสักพัก หากราคาปรับตัวลงไปถึงจุดที่น่าสนใจจึงจะกลับเข้ามาใหม่ เพราะฉะนั้นแม้กระทั่งพอร์ตที่รับความเสี่ยงได้สูงที่สุด ดิฉันทำประมาณการผลตอบแทนเอาไว้เพียง 6.53% เท่านั้น

ขอให้ท่านลงทุนประสบผลสำเร็จด้วยดีในปีหนูทองค่ะ แล้วปีหน้าเรามาดูกันว่า ผลจะออกมาใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้หรือไม่
“ซินเหนียนไคว่เล่อ”
โพสต์โพสต์