อนาคตกลับหัว ธุรกิจกลับหาง โดย วีระพงษ์ ธัม

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
always24
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 854
ผู้ติดตาม: 10

อนาคตกลับหัว ธุรกิจกลับหาง โดย วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

อนาคตกลับหัว ธุรกิจกลับหาง

การพูดถึงโลกอนาคตเป็นกระแสหลักหนึ่งที่อยู่ในบทสนทนาของมนุษย์ทุกสมัย ผมเชื่อในคำพูดของปีเตอร์ ดรักเกอร์ ที่บอกว่า การทำนายอนาคตที่ดีที่สุดคือการสร้างมันเอง ดังนั้น ผมคงไม่มาทำนาย แต่จะลองมาดูแนวโน้มอนาคตว่าทิศทางสิ่งที่เรากำลังสร้างอยู่มีหน้าตาอย่างไรบ้าง

อนาคตที่ผมเห็นมีลักษณะกลับหัว เหตุผลหนึ่งคือ วิถีการใช้ชีวิตของคนนั้นเริ่มกลับทิศ ในอดีตยุคหินคนทำงานล่าสัตว์วันละ 3 ชั่วโมง หลังจากปฏิวัติอุตสาหกรรม เรารู้จักการทำงาน 8 ชั่วโมงเป็นมาตรฐาน และการทำล่วงเวลา OT เป็นเรื่องปกติ พอมีช่วงหนึ่งเราเบื่องานประจำก็เกิดกระแส freelance คือ “งานอิสระ” สุดท้ายงาน freelance ก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามันไม่ free สมชื่อ ต้องรับโทรศัพท์ ทำงานตลอด ตามวลีที่ว่า ห้ามป่วย ห้ามพัก

การสร้างธุรกิจก็ไม่ใช่สิ่งที่ง่าย ธุรกิจขนาดเล็กมีแนวโน้มเสียเปรียบและอยู่ยาก มีเพียงบางธุรกิจและบางกลยุทธ์เท่านั้นที่ “เล็ก” จะอยู่รอดได้ ดังนั้น วิถีการทำงานของมนุษย์จะกลับมาเริ่มเป็นรูปแบบองค์กรขนาดใหญ่เหมือนเดิม ยุโรปเป็นแนวโน้มนี้นานแล้ว อเมริกันที่เคยมีชนชั้นกลาง ธุรกิจขนาดเล็กที่เบ่งบานในแถบตะวันตกของประเทศก็กำลังถูกครอบงำจากธุรกิจขนาดยักษ์ แต่งานประจำจะกลับมารูปแบบใหม่ คือทำโดยหวังผลของงาน ทำงานแบบผนวกกับ “การใช้ชีวิต” ไม่ใช่ทำแบบเช็กชื่อเช็กเวลา งานที่เป็นงานอุตสาหกรรมจะหายไปเมื่อหุ่นยนต์มาทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ จะเกิดงาน “บริการ” จำนวนมาก ความหมายในอนาคตของงานคืองานที่สร้างสิ่งที่ “ยิ่งใหญ่” กว่าตัวเอง มนุษย์นอกจากจะมี “เชื้อชาติ” ยังจะต้องมีตรา “บริษัท” (ที่น่าภูมิใจ) ประจำตัว

วิถีการศึกษาในอดีตนั้นเรียบง่าย พอถึงยุคอุตสาหกรรมเริ่มมีการออกแบบให้เป็นขั้นตอน เหมือนสายพานการผลิต จนระยะเวลาการศึกษาของมนุษย์ยืดยาวนานเกือบ 20 ปี ซึ่งสิ่งที่เรียนมาแทบจะมาประยุกต์กับงานไม่ได้ แนวโน้มการศึกษาที่เรียนตามระบบจะหดสั้นลง และเปลี่ยนเป็น “การเรียนตลอดชีวิต” ในลักษณะเรียนไปทำไปมากขึ้น การศึกษาอาจจะพลิกโฉม เราเริ่มเห็นปรากฏการณ์เรียนออนไลน์ของมหาวิทยาลัยระดับโลก การยกเลิกคณะวิชาเป็นการเรียนแบบสหวิชาคืออยากเรียนอะไรก็เรียนได้ ศาสตร์ความรู้ของคนหลากหลาย

ด้วยวิถีการศึกษาใหม่ จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นอาชีพทับซ้อนมากมาย ตัวอย่างการทับซ้อน เช่น ธุรกิจสื่อ ยุคนี้ที่ Media is queen., Content is king. แต่อนาคตกำลังกลับหัว คือคนทำ content ที่เหมือนจะเข้าถึงคนอ่านง่ายในยุคอินเทอร์เน็ตกำลังจะเข้าถึงคนอ่านยากขึ้น สาเหตุคือ “ปริมาณเนื้อหา” ที่สร้างขึ้นมาแต่ละวันมากมายมหาศาลจาก “อาชีพทับซ้อน” คือใครก็เป็นนักเขียนได้ ใครก็จัดรายการทีวีได้

รูปแบบความทับซ้อน ทำให้เกิดธุรกิจที่ “หาเงินทางอ้อม” บางครั้งเราอาจจะเห็นธุรกิจบางอย่างทำสิ่งหนึ่งอยู่ ขาดทุน แต่เขากำลังคาดหวังทำกำไรกับสิ่งอื่น ๆ การเกิดของ Google, Facebook ก็เกิดจากสิ่งเหล่านี้ การหารายได้หรือกำไรในอนาคตจะไม่ตรงไปตรงมาเหมือนเช่นอดีต เช่น ธนาคารก็เป็นธุรกิจที่อาจจะกลับหัวกลับหาง ธุรกรรมของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดกำลังตกอยู่ในมือของผู้ที่ไม่ใช่ธนาคารอย่าง Alipay ธนาคารต้องไปทำในสิ่งที่ธนาคารไม่เคยทำ เช่น ขายของ ขายบริการอื่น ๆ ธุรกิจธนาคาร ที่เคยได้เปรียบเรื่องจำนวนสาขา กำลังปรับตัว อนาคตอาจจะไม่ใช่แข่งกันใหญ่ แต่แข่งกันเรื่องความสะดวกและต้นทุนที่ถูกกว่า

วิถีการลงหลักปักฐานในแหล่งที่อยู่ของมนุษย์เริ่มตั้งแต่เข้าสู่ยุคหินใหม่เมื่อ 10,000 ปี เดิมมนุษย์ชอบ “ย้ายที่อยู่” ดังที่หลงเหลือมาอยู่ในยีนมนุษย์ที่ชอบการท่องเที่ยวอันเป็นกระแสหลักอย่างหนึ่ง หมื่นปีที่ผ่านมามนุษย์ชอบ “อยู่เป็นหลักแหล่ง” ธุรกิจอสังหาฯก็จะรู้ว่าคนไม่ค่อยย้ายทำเลไปไหน คือจะอยู่ทำเลที่เคยอยู่ แต่อนาคตมีแนวโน้มที่คนจะกลับไปเป็นแบบเดิม คือชอบเปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ เกิดการเคลื่อนย้ายของคน โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองขนาดใหญ่ทั่วโลก ทำไมธุรกิจเฟอร์นิเจอร์แบบใช้เร่งด่วนและอายุการใช้งานใช้ได้ไม่นานอย่าง IKEA จึงโตวันโตคืน ทำไมเกิดธุรกิจเช่า time sharing แทนที่จะเป็นเจ้าของ นี่คือกระแสของคนในยุคนี้ คนไม่อยู่บ้านก็เกิดธุรกิจนอกบ้านมากมาย

วิถีชีวิตที่เห็นเด่นสุด คือ การที่มนุษย์หมุนกลับหา “ธรรมชาติ” ประเทศอย่างสิงคโปร์เห็นแนวโน้มนี้มานานแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงริเริ่มวันปลูกต้นไม้แห่งชาติอย่างจริงจังมาเกือบครึ่งศตวรรษ ลี กวนยู บอกว่าการทำให้สิงคโปร์สะอาดและ “เขียว” คือวิธีที่เราจะก้าวจากประเทศโลกที่สามเป็นประเทศชั้นหนึ่งของโลก แนวโน้มนี้เป็นไปทั่วโลก บ้านเล็กลง แต่สวนใหญ่ขึ้น เมืองหนาแน่นแนวสูงแต่เหลือพื้นที่แนวราบเป็นสวน คนเริ่มกลับไปสู่ความเรียบง่ายกับธรรมชาติ มนุษยชาติเดินทางมาไกลมากจากจุดเริ่มต้น และเราเริ่มรู้ตัวแล้วอนาคตของพวกเราก็อยู่ที่จุดเริ่มต้นที่เราเดินมานั่นเอง
โพสต์โพสต์