ลงทุนปี 2561 โดย วีรพงษ์ ธัม

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
always24
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 854
ผู้ติดตาม: 10

ลงทุนปี 2561 โดย วีรพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ลงทุนปี 2561

ปี 2560 กำลังจะจบลง แม้ว่าจะเป็นปีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นมากเป็นปีที่สองติดต่อกัน แต่ดูเหมือนกับว่าดัชนีหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น เป็นการปรับตัวสูงขึ้นเฉพาะหุ้นบางกลุ่ม คือผลตอบแทนจะขึ้นกับการเลือกหุ้นเป็นสำคัญ และมีหุ้นหลายตัวที่เสียหายอย่างรุนแรง สำหรับนักลงทุน การมองความผิดพลาดและเรียนรู้เป็นบทเรียนเพื่อวางแผนจัดพอร์ตหุ้นสำหรับปีข้างหน้านั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เหมือนทุกปีที่ผมจะมาสรุปภาพใหญ่สำหรับการลงทุนปี 2561 ที่จะมาถึง

1.”ปีแห่งการเติบโต” ปีหน้าจะเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกเดินหน้าพร้อมกันอีกครั้ง ปี 2560 คือปีที่เศรษฐกิจโลกเติบโตสูงสุดในรอบเกือบสิบปี ภายหลังจากวิกฤตซับไพรม และสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผ่านสภาวะทุลักทุเลเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้ว เศรษฐกิจโลกเริ่มตั้งตัวได้ และปี 2561 คือปีที่คาดหวังว่าจะเดินหน้าเต็มกำลัง ภาวะดอกเบี้ยตกต่ำที่สุดผ่านจุดต่ำสุดไปเมื่อสองปีที่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือภาวะดอกเบี้ยจะเข้าสู่ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าช่วงเปลี่ยนผ่านนี้จะเกิดความผันผวนอย่างมากทั้งในเรื่องสภาพคล่องการเงิน ราคาโภคภัณฑ์ จะมีอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์

ประเทศไทยจะได้อานิสงส์จากการเติบโตของการส่งออกเมื่อเศรษฐกิจโลกกลับมา และถ้าการบริโภคในประเทศและการลงทุนเอกชนกลับมาดีขึ้น ก็จะเป็นการเดินหน้าพร้อมกันอีกครั้ง แต่การเติบโตน่าจะเป็นไปตามแนวโน้มของโลก คือ ผู้ที่แข็งแรงจะได้เปรียบ winner takes all ธุรกิจรายย่อยหรือเอสเอ็มอีจะยังเหนื่อย เพราะความสามารถในการแข่งขัน ยกเว้นแต่ว่าจะอยู่ในตลาดเฉพาะของตัวเอง

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจขาขึ้นไม่ได้มากับโอกาสเพียงอย่างเดียว นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการครบรอบวัฏจักรเศรษฐกิจและนำมาซึ่งปัญหาเศรษฐกิจครั้งใหม่ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองโลกที่ยังคงต้องติดตามทุกภูมิภาค

2.”ปีแห่งความสมดุล” เนื่องจากช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจในเอเชียหลายแห่งเติบโตอย่างรวดเร็ว หลายประเทศจึงเริ่มตั้งเป้าที่จะเน้นที่ “คุณภาพการเติบโต” หรือเน้นนวัตกรรมมากกว่าเน้นปริมาณ นี่เป็นสัญญาณของการเข้าสู่ยุค aging ของเศรษฐกิจโลก คืออายุเฉลี่ยคนสูงขึ้น ทุกอย่างช้าลง แต่เน้นคุณภาพ กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีคนอายุมากกว่า 65 ถึง 16% และกำลังมากถึง 1 ใน 4 ภายในไม่กี่สิบปีข้างหน้า จีนประกาศวิถีการเติบโตใหม่ซึ่งอาจจะไม่เน้นความเร็วเหมือนเดิมอีกต่อไป การรักษาสภาพเงินให้อ่อนไว้บ้าง เพื่อรักษาแรงงานที่ยังอยู่ในภาคการผลิตเพื่อการส่งออก ดูแลสมดุลสภาพสิ่งแวดล้อม ทยอยลดการเป็นโรงงานผลิตสินค้าราคาถูก และนี่อาจเป็นช่วงที่จีนจะกลายเป็นผู้บริโภคมากขึ้น และเป็นผู้ส่งออกน้อยลง และส่งไม้ต่อไปยังประเทศที่มีแรงงานถูกกว่า เช่น เวียดนาม อินเดีย บังกลาเทศ หรือกระทั่งแอฟริกา

3.”ปีแห่งการถดถอยเรื่องประชากร” ปีหน้าจะเป็นปีที่ประชากรเด็กเติบโตลดลงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์เคยบันทึกเอาไว้ แม้ว่าอัตราการให้กำเนิดบุตรต่อประชากรหญิงจะลดลงมาหลายสิบปีแล้ว แต่ก็ถูกชดเชยด้วยจำนวนประชากรหญิงที่ยังอยู่ในขาขึ้นอยู่ ประชากรที่น้อยลงในอดีตอาจแสดงถึงสภาวะถดถอยของความเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจ แต่ในอนาคตประชากรลดลงก็หมายถึงคุณภาพที่มากขึ้น นี่เป็นอีกปัจจัยที่เศรษฐกิจจะมุ่งเน้นประสิทธิผลต่อประชากรมากกว่าการเน้นที่จำนวน

4.”ปีแห่งความเปลี่ยนแปลง” ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรอบตัวโดยที่เราไม่ทันสังเกต เช่น ยอดขายรถทั่วโลกสำหรับรถแบบ SUV กำลังมียอดขายแซงรถซีดาน ซึ่งเป็นกระแส “ครอบครัว” ที่เติบโตชัดเจน รวมไปถึงรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (EV) กำลังเข้ามาอย่างรวดเร็ว บริษัทเทสล่ากำลังส่งมอบรถจำนวนมากในปีหน้า และยังมีคู่แข่งจากญี่ปุ่นหรือจีนที่พัฒนาเทคโนโลยี EV อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีโดรนก้าวหน้าและให้ประโยชน์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่นักสำรวจ กระทั่งบุรุษไปรษณีย์ การรับชมทีวีแบบตอบรับสมาชิกเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่แบบเคเบิลทีวี จะเป็นแบบ streaming online ตลาดค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือเอเชียจะเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดของ e-Commerce ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยการใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือซึ่งสูงถึง 79% และแน่นอนย่อมเกิดการโจรกรรมทางไอทีครั้งใหญ่ และธุรกิจป้องกันการโจรกรรมก็จะขยายตัวอย่างมาก

5.”ปีแห่งความล้าสมัยของมนุษย์” ความท้าทายใหม่ของมนุษย์คือการให้กำเนิดหุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์ แต่ถ้าดูจากแนวโน้มที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ ดูเหมือนมนุษย์ยังมีเวลามากกว่า 100 ปีที่หุ่นยนต์จะเอาชนะคนได้ทุกเรื่อง แต่ก็แปลว่ามนุษย์กำลังนับถอยหลังที่จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความล้าสมัยเหมือนไดโนเสาร์ แต่ข่าวร้ายยิ่งกว่าคือ งานบางอย่างจะถูกทดแทนในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า งานที่บางอาชีพทำมาตลอดหรือใช้เวลาเรียนเป็นสิบปีอาจจะไร้ค่าได้ในไม่ช้า คนบางกลุ่มจะ “ล้าสมัย” อย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำได้คือ การพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ดูเหมือนกับว่ากระแสการเรียนรู้ตลอดชีวิตจะเริ่มเข้ามาทดแทน แต่ก็เป็นการแข่งกับเทคโนโลยีและเวลา

6.”ปีแห่งความสุข” ขณะที่เศรษฐกิจย่ำแย่และเติบโตช้า ก็เกิดความทุ่มเทศึกษาศาสตร์หนึ่งเป็นอย่างมาก คือความสุขศาสตร์ มนุษย์ยุคใหม่ไม่ทำงานหนักเพื่อผลักดันเศรษฐกิจเหมือนคนยุคเบบี้บูม แต่แสวงหาความสมดุลในชีวิตและการทำงาน หาความเป็นตัวของตัวเอง และความหมายของชีวิต หาซื้อประสบการณ์อย่างที่ไม่เคยเป็น นี่เป็นโอกาสทางธุรกิจ พร้อม ๆ กับความยากในการดูแลทรัพยากรมนุษย์

ผมคิดว่าปีหน้าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่น่าตื่นเต้นทีเดียว ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุน สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ
Buntam
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 112
ผู้ติดตาม: 0

Re: ลงทุนปี 2561 โดย วีรพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากครับคุณหลิน
โพสต์โพสต์