ยูนิคุโระ (UNIQLO)/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1892
ผู้ติดตาม: 313

ยูนิคุโระ (UNIQLO)/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    ยังติดพันเรื่องบริษัทในญี่ปุ่นอยู่ จึงขออนุญาตเขียนถึงบริษัทญี่ปุ่นอีกหนึ่งบริษัทนะคะ บริษัทนั้นคือบริษัทที่เป็นเจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ “ยูนิโคล่” หากอ่านตามภาษาอังกฤษ หรือ “ยูนิคุโระ” หากอ่านตามภาษาญี่ปุ่น 

    ชื่อในภาษาญี่ปุ่นคือ “คะบุชิกิ ไกชะ ยูนิคุโระ” เป็นแบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่น ของบริษัท ฟาสต์รีเทลริ่ง (Fast Retailing) จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว รหัสหุ้นคือ 9938 ราคาปิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2560 คือ 35,200 เยน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ในรหัส 6288 ราคาปิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน คือ 24.80 ฮ่องกงดอลลาร์

    ยูนิโคล่ เริ่มจากเป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้าผู้ชาย ชื่อ โอโกริ โชจิ ก่อตั้งในปี พ.ศ.2492 ในจังหวัด ยามะกุจิ และต่อมาขยายเปิดร้านเสื้อผ้าของทั้งชายหญิง ภายใต้ชื่อ Unique Clothing Warehouse โดยชื่อของแบรนด์มาจากคำว่า “unique” คือ มีความเป็นเอกลักษณ์ และ “clothing” คือเสื้อผ้า หมายถึงเสื้อผ้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ตั้งใจจะจดชื่อเป็น UNI-CLO แต่ตอนไปจดทะเบียน เจ้าหน้าที่ของบริษัทมองตัว “C” เป็นตัว “Q” จึงออกมาเป็น “UNIQLO” บริษัทจึงได้เปลี่ยนขื่อร้านใหม่เป็น UNIQLO ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก โอโกริ โชจิ เป็น Fast Retailing ในปี 2534

    บริษัทฟาสต์รีเทลริ่ง เข้าจดทะเบียนในกระดานรองของตลาดหลักทรัพย์โตเกียวในปี 2540 และย้ายเข้ากระดานหลักในปี 2542 และในปี 2548 เปลี่ยนโครงสร้างเป็นบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ

    ไตรมาสที่แล้วคือไตรมาส กันยายน ถึงพฤศจิกายน 2559 มีรายได้จากร้านในญี่ปุ่น 238,800 ล้านเยน ร้านในต่างประเทศ 196,500 ล้านเยน และจากแบรนด์อื่นๆ เช่น Theory, Comptori des Cotonniers และ Princesse tam.tam J Brand 92,700 ล้านเยน โดยมีกำไรรวมกัน 85,200 ล้านเยน หรือประมาณ 27,300 ล้านบาท

    ในปีบัญชีสิ้นสุด 31 สิงหาคม 2560 นี้ บริษัทคาดการณ์ว่าจะมียอดรายได้ 1.85 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 592,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีกำไร 100,000 ล้านเยน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 942 เยน ณ ราคาหุ้นที่ 35,200 เยน คิดเป็นอัตราส่วน ราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) 37.36 เท่า ถือว่าราคาหุ้นไม่ถูก แต่ก็ไม่แพงมาก หากบริษัทมีการเติบโตได้ตามที่วางแผนไว้

    บริษัทพยายามไม่ลดเงินปันผลแม้กำไรในปีที่ผ่านมาจะลดลง คือกำหนดไว้ว่าจะจ่ายปันผล 350 เยนต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน เท่ากับ 1% โดยแบ่งจ่ายสองงวด งวดละ 175 เยนเท่ากัน สำหรับผู้ลงทุนชาวญี่ปุ่นที่อัตราดอกเบี้ยติดลบนั้น ผลตอบแทนเงินปันผล 1% ถือว่าไม่เลวค่ะ

    ฟาสต์รีเทลริ่ง ยังเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า GU ซึ่งเน้นเสื้อผ้าหน้าหนาว โดยในปีก่อนอากาศไม่หนาว ยอดขายจึงน้อยกว่าที่คาด แต่มาปีนี้ญี่ปุ่นอากาศหนาว จึงขายดีขึ้นค่ะ

    ปัจจุบัน ร้านยูนิโคล่ เปิดในต่างประเทศมากพอสมควร โดยเน้นเอเชียแปซิฟิกค่ะ มีร้านในจีน 457 แห่ง ในเกาหลีใต้ 155 แห่ง ไต้หวัน 63 แห่ง ฟิลิปปินส์ 40 มาเลเซีย 35 ไทย 30 สิงคโปร์ 25 และ อินโดนีเซีย 10 แห่ง

    ส่วนในซีกโลกตะวันตก มีร้านในสหรัฐอเมริกา 49 แห่ง ฝรั่งเศส 15 รัสเซีย 14 สหราชอาณาจักร 10 เยอรมนี 4 เบลเยียมและแคนาดา ประเทศละ 2 ร้าน

    ยูนิโคล่ เน้นการมีนวัตกรรม ได้พัฒนานวัตกรรม heat tech ทำให้เสื้อผ้ามีความบาง แต่ให้ความอบอุ่น เสื้อผ้าหน้าหนาวจึงไม่จำเป็นต้องหนาเทอะทะอีกต่อไป สามารถสวมใส่อุ่นและยังคงความสวยงามได้

    บริษัทมีแผนที่จะย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ชั้นบนของแวร์เฮาส์ในย่าน อะริอะเกะ (Ariake)ซึ่งจะมีพื้นที่ 16,529 ตารางเมตร และคาดว่าจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และประธานของบริษัท คือคุณ ทาดาชิ ยาไน (Tadashi Yanai)ให้วิสัยทัศน์ว่า บริษัทจะเป็นผู้ค้าปลีกที่ใช้พลังจากโลกดิจิตอล

    ครอบครัว ยาไน ของคุณทาดาชิ ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ โดยถือรวมกัน 30.69% ผู้ถือหุ้นอันดับสองคือ กองทรัสต์ของธนาคารกลางญี่ปุ่นค่ะ

    หวังว่าท่านผู้อ่านทุกท่านจะมีความสุข สนุกสนานกับเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา และขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขตลอดปีระกานี้นะคะ

    หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง บทความนี้เป็นกรณีศึกษา มิได้มีจุดมุ่งหมายจะเชิญชวนให้ลงทุนหรือไม่ลงทุนในบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด
[/size]
โพสต์โพสต์