Curiosity กับการลงทุน/เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1892
ผู้ติดตาม: 313

Curiosity กับการลงทุน/เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Curiosity หรือความอยากรู้อยากเห็นเป็นนิสัยที่ติดตัวผมมาตั้งแต่เด็ก ผมพิจารณาพฤติกรรมของตัวเองพบว่า Curiosity เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆที่ผลักดันให้เป็นคนแบบผมในทุกวันนี้ เป็นคนชอบสงสัยในสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สงสัยว่าสถานที่ต่าง ๆ ในโลกนี้เป็นแบบไหนผู้คนเป็นอย่างไร อาหารการกิน รวมถึงไลฟ์สไตล์ แนวคิด วัฒนธรรมของผู้คนในแต่ละที่เป็นเช่นไร เหมือนหรือแตกต่างกับเราขนาดไหน

Curiosity ส่งผลให้ผมชอบเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ รอบโลก โดยเฉพาะที่ที่ผมยังไม่เคยไป ชอบลองชอบชิมอาหาร และชอบสัมผัสประสบการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ

Curiosity ทำให้ผมชอบอ่านหนังสือที่หลากหลาย โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เช่น Julius Caesar ใช้ชีวิตอย่างไร Adam Smith มองโลกอย่างไร เพื่อตอบสนองความอยากรู้ของผม

Curiosity ทำให้ผมรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากหลากหลายวัฒนธรรม หลายครั้งทำให้รู้ว่าแนวคิดหลัก ๆ บางอย่างของคนต่างวัฒนธรรมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่น คนเอเชียเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ขณะที่คนฝั่งตะวันตกเชื่อว่าคนเรามีชีวิตเดียว การเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่หลากหลาย ประกอบกับการวิเคราะห์ที่มาที่ไปและแรงจูงใจ ทำให้ผมเข้าใจโลกมากขึ้น

Curiosity ทำให้ผมมีความเข้าใจโลก ทำให้ผมมีความสุข ใช้ชีวิตได้คุ้มค่า ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ทำให้ผมกล้าเสี่ยง กล้าคิดต่างจากกรอบธรรมเนียมไทย ๆ ทำในสิ่งที่มีความสุข ไม่สนใจคนภายนอกจะมองหรือคิดกับผมยังไง

Curiosity ทำให้ผมมีแนวคิดและปรัชญาในการดำเนินชีวิตในแบบของผมเอง ผมมักมองระยะยาว ขณะเดียวกันใช้ชีวิตในปัจจุบัน ผมมองว่าชีวิตเราแสนสั้น ควรใช้เวลาให้คุ้มค่า ผมมักเลือกทำในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ใช้เวลากับคนที่เราอยากใช้ด้วย คนเรามีเวลาน้อยมากอย่าไปเสียเวลาจมอยู่กับความทุกข์หรืออยู่กับคนที่เราไม่อยากอยู่ด้วย อะไรที่เราทำแล้วมีความสุขทำซะ โดยที่การกระทำดังกล่าวไม่ไปเบียดเบียนใคร หรือทำให้ใครเดือดร้อน

ในแง่การลงทุน Curiosity ทำให้ผมเข้าใจโลก เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ เข้าใจแรงจูงใจ ส่งผลให้ผมมีความสามารถในการตัดสินใจได้ดีขึ้น หลายครั้ง Curiosity และการสังเกตพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ ตลอดจนการพูดคุยกับคนต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม ต่างเพศ ต่างวัย ต่างเจเนอเรชั่น ทำให้ผมสังเกตเห็นแนวโน้มบางอย่างโดยบังเอิญ เช่น ผู้หญิงจำนวนมากหมดเงินไปกับเครื่องสำอางและเครื่องประดับ ประมาณว่าซื้อแล้วซื้ออีก ซื้อไม่หยุด ทำให้เห็นโอกาสในการลงทุนในหุ้นดังกล่าวก่อนใคร ๆ

Curiosity ทำให้ผมสังเกตเห็นสินค้าและบริการหลายอย่างที่เป็นที่ต้องการ เช่นความนิยมบริโภคน้ำมะพร้าวไทยในหลายประเทศ บางครั้งได้ความรู้ใหม่ เช่น ยี่ห้อน้ำมะพร้าวที่ขายดีที่สุดในสิงคโปร์เป็นยี่ห้อไทยที่คนไทยมองว่าเป็นยี่ห้อโบราณมาก ๆ

สุดท้าย Curiosity ทำให้ผมคิดต่างจากคนส่วนใหญ่ในสังคม เช่น ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่คนเราอาจมีแค่ชีวิตเดียว คล้าย ๆ กับที่ May West เคยกล่าวไว้ว่าเรามีแค่ชีวิตเดียว แต่ถ้าเราใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ชีวิตเดียวก็เพียงพอแล้ว

การที่ผมมองต่าง ทำให้ผมมักเลือกหุ้นที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ เรียกง่าย ๆ ว่าหุ้นแบบ The Road Less Traveled By ซึ่งการเลือกหุ้นแบบนี้ มีข้อดีหลัก ๆ คือถ้าผมคิดถูกในขณะที่คนส่วนใหญ่มองผิด ผลตอบแทนจะสูงมาก หลายครั้งเป็น 10 เด้ง เพราะเป็นหุ้นที่ Under Value มาก ๆจากการที่ไม่มีคนสนใจมาก่อน

ข้อดีอีกข้อคือหุ้นแบบนี้มักราคาไม่แพง ราคาอาจจะเป็น New Low หรือ Sideway มานาน บางทีเป็น 10 ปี ซึ่งการลงทุนในหุ้นแบบนี้ถ้าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นแบบที่ผมคิดผลตอบแทนมหาศาล แต่ถ้าผมคิดผิดราคาหุ้นมักจะไม่ไปไหน แต่ไม่ลดลงรุนแรงเพราะคนอยากขายคงขายกันหมดแล้ว เข้าทำนองออกหัวเรารวย ออกก้อยเสมอตัว

Happy Investing
[/size]
ภาพประจำตัวสมาชิก
Loby
Verified User
โพสต์: 1650
ผู้ติดตาม: 3

Re: Curiosity กับการลงทุน/เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

Thai VI Article เขียน:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Curiosity หรือความอยากรู้อยากเห็นเป็นนิสัยที่ติดตัวผมมาตั้งแต่เด็ก ผมพิจารณาพฤติกรรมของตัวเองพบว่า Curiosity เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆที่ผลักดันให้เป็นคนแบบผมในทุกวันนี้ เป็นคนชอบสงสัยในสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สงสัยว่าสถานที่ต่าง ๆ ในโลกนี้เป็นแบบไหนผู้คนเป็นอย่างไร อาหารการกิน รวมถึงไลฟ์สไตล์ แนวคิด วัฒนธรรมของผู้คนในแต่ละที่เป็นเช่นไร เหมือนหรือแตกต่างกับเราขนาดไหน

Curiosity ส่งผลให้ผมชอบเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ รอบโลก โดยเฉพาะที่ที่ผมยังไม่เคยไป ชอบลองชอบชิมอาหาร และชอบสัมผัสประสบการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ

Curiosity ทำให้ผมชอบอ่านหนังสือที่หลากหลาย โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เช่น Julius Caesar ใช้ชีวิตอย่างไร Adam Smith มองโลกอย่างไร เพื่อตอบสนองความอยากรู้ของผม

Curiosity ทำให้ผมรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากหลากหลายวัฒนธรรม หลายครั้งทำให้รู้ว่าแนวคิดหลัก ๆ บางอย่างของคนต่างวัฒนธรรมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่น คนเอเชียเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ขณะที่คนฝั่งตะวันตกเชื่อว่าคนเรามีชีวิตเดียว การเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่หลากหลาย ประกอบกับการวิเคราะห์ที่มาที่ไปและแรงจูงใจ ทำให้ผมเข้าใจโลกมากขึ้น

Curiosity ทำให้ผมมีความเข้าใจโลก ทำให้ผมมีความสุข ใช้ชีวิตได้คุ้มค่า ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ทำให้ผมกล้าเสี่ยง กล้าคิดต่างจากกรอบธรรมเนียมไทย ๆ ทำในสิ่งที่มีความสุข ไม่สนใจคนภายนอกจะมองหรือคิดกับผมยังไง

Curiosity ทำให้ผมมีแนวคิดและปรัชญาในการดำเนินชีวิตในแบบของผมเอง ผมมักมองระยะยาว ขณะเดียวกันใช้ชีวิตในปัจจุบัน ผมมองว่าชีวิตเราแสนสั้น ควรใช้เวลาให้คุ้มค่า ผมมักเลือกทำในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ใช้เวลากับคนที่เราอยากใช้ด้วย คนเรามีเวลาน้อยมากอย่าไปเสียเวลาจมอยู่กับความทุกข์หรืออยู่กับคนที่เราไม่อยากอยู่ด้วย อะไรที่เราทำแล้วมีความสุขทำซะ โดยที่การกระทำดังกล่าวไม่ไปเบียดเบียนใคร หรือทำให้ใครเดือดร้อน

ในแง่การลงทุน Curiosity ทำให้ผมเข้าใจโลก เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ เข้าใจแรงจูงใจ ส่งผลให้ผมมีความสามารถในการตัดสินใจได้ดีขึ้น หลายครั้ง Curiosity และการสังเกตพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ ตลอดจนการพูดคุยกับคนต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม ต่างเพศ ต่างวัย ต่างเจเนอเรชั่น ทำให้ผมสังเกตเห็นแนวโน้มบางอย่างโดยบังเอิญ เช่น ผู้หญิงจำนวนมากหมดเงินไปกับเครื่องสำอางและเครื่องประดับ ประมาณว่าซื้อแล้วซื้ออีก ซื้อไม่หยุด ทำให้เห็นโอกาสในการลงทุนในหุ้นดังกล่าวก่อนใคร ๆ

Curiosity ทำให้ผมสังเกตเห็นสินค้าและบริการหลายอย่างที่เป็นที่ต้องการ เช่นความนิยมบริโภคน้ำมะพร้าวไทยในหลายประเทศ บางครั้งได้ความรู้ใหม่ เช่น ยี่ห้อน้ำมะพร้าวที่ขายดีที่สุดในสิงคโปร์เป็นยี่ห้อไทยที่คนไทยมองว่าเป็นยี่ห้อโบราณมาก ๆ

สุดท้าย Curiosity ทำให้ผมคิดต่างจากคนส่วนใหญ่ในสังคม เช่น ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่คนเราอาจมีแค่ชีวิตเดียว คล้าย ๆ กับที่ May West เคยกล่าวไว้ว่าเรามีแค่ชีวิตเดียว แต่ถ้าเราใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ชีวิตเดียวก็เพียงพอแล้ว

การที่ผมมองต่าง ทำให้ผมมักเลือกหุ้นที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ เรียกง่าย ๆ ว่าหุ้นแบบ The Road Less Traveled By ซึ่งการเลือกหุ้นแบบนี้ มีข้อดีหลัก ๆ คือถ้าผมคิดถูกในขณะที่คนส่วนใหญ่มองผิด ผลตอบแทนจะสูงมาก หลายครั้งเป็น 10 เด้ง เพราะเป็นหุ้นที่ Under Value มาก ๆจากการที่ไม่มีคนสนใจมาก่อน

ข้อดีอีกข้อคือหุ้นแบบนี้มักราคาไม่แพง ราคาอาจจะเป็น New Low หรือ Sideway มานาน บางทีเป็น 10 ปี ซึ่งการลงทุนในหุ้นแบบนี้ถ้าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นแบบที่ผมคิดผลตอบแทนมหาศาล แต่ถ้าผมคิดผิดราคาหุ้นมักจะไม่ไปไหน แต่ไม่ลดลงรุนแรงเพราะคนอยากขายคงขายกันหมดแล้ว เข้าทำนองออกหัวเรารวย ออกก้อยเสมอตัว

Happy Investing
[/size]
ข้อดีอันสุดท้าย แนวทางดันโดเลย
อย่าปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบชี้นำการกระทำ
แต่ไม่ควรปล่อยโอกาสดีๆให้ผ่านไป เมื่อพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
วิมานดิน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 170
ผู้ติดตาม: 0

Re: Curiosity กับการลงทุน/เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
RnD-VI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 6440
ผู้ติดตาม: 615

Re: Curiosity กับการลงทุน/เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
โพสต์โพสต์