เมกะเทรนในอนาคต/วีระพงษ์ ธัม

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1892
ผู้ติดตาม: 313

เมกะเทรนในอนาคต/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

    การมองเทรนใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะกระแสความนิยมจะนำไปสู่ “ความต้องการ”  ของลูกค้าในธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรนใหญ่หรือเมกะเทรน เป็นแนวโน้มที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นแนวโน้มที่มีระยะเวลายาวนาน ส่งผลให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนทางธุรกิจ หนังสือเล่มใหม่ของ Chunka Mui และ Paul B. Carrol เรื่อง Killer App ให้มุมมองเมกะเทรนในอนาคตด้านเทคโนโลยีหกอย่าง ที่ผมคิดว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
    เมกะเทรนแรก คือ “Mobile Devices” หรืออุปกรณ์พกพา ที่เห็นได้ชัดที่สุดในปัจจุบันคือโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ที่เราสามารถพกพาความสามารถระดับคอมพิวเตอร์ และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตติดตัวได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ดีอุปกรณ์พกพาไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นเพียงโทรศัพท์มือถือเท่านั้น เพราะมันอาจจะพัฒนาไปในหลาย ๆ รูปแบบ เช่นเป็นแว่นตา นาฬิกา ฯลฯ และมีการคาดการณ์จากอิริคสันว่า อนาคตจะมี Mobile Devices จำนวนมากกว่า 50,000 ล้านเครื่องบนโลก ซึ่งการเชื่อมต่อ 80% จะเป็นการคุยกันเองของเครื่องมือเหล่านี้ โดยที่ไม่มีมนุษย์มาเกี่ยวข้อง นั่นหมายถึงจะมีโอกาสเกิดขึ้นจำนวนมากจากเครื่องมือที่ติดตัวผู้คนเหล่านี้ และมีการสื่อสารระหว่างกันตลอดเวลาบนต้นทุนที่ต่ำมาก
    เมกะเทรนที่สอง คือ “Social Media” ตั้งแต่ยุคที่มีเทคโนโลยีส่งคลื่นวิทยุเกิดขึ้นมาเมื่อหลายสิบปีก่อน การกระจายข่าวหรือกระจายข้อมูลก็มีอิทธิพลสูงตลอดมา และเกิดสื่อขึ้นมากมาย เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ในอดีตนั้นการกระจายข่าวจะเป็นลักษณะกระจายจากหนึ่งข้อความ ไปสู่ผู้ชมจำนวนมาก ๆ แต่พอเข้าถึงยุคโซเชียลมีเดีย การใช้ E-mail, Instant messenger และยุคหลังคือ Facebook, Instagram, Twitter ทำให้สื่อประเภทนี้ก็ยิ่งมีอิทธิพลสูงขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะเราสามารถส่งข้อความ “ระหว่างกลุ่ม” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจ คือเกิดธุรกิจใหม่เช่น P2P (People to People) นั่นคือการทำธุรกิจระหว่างคนสองคน แทนที่ธุรกิจโมเดลแบบเก่าคือ B2B หรือ B2C ในสินค้าบางอย่าง รวมไปถึงเกิดการทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือการขายสินค้าเฉพาะกลุ่มที่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าเดิม
    เมกะเทรนที่สาม คือ “กล้อง” ที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในทุก ๆ ส่วนของสังคมและธุรกิจ กล้องถูกแทรกลงไปในอุปกรณ์จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ที่เริ่มมีในเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค อุปกรณ์มือถือตั้งแต่รุ่นแพงจนถึงรุ่นประหยัดก็มีกล้องแล้ว แทปเล๊ต นาฬิกา อุปกรณ์ฟังเพลง กล้องเริ่มใกล้ตัวคนมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีอยู่ในทุกมุมเมือง ทำให้ธุรกิจบางอย่าง ใช้ประโยชน์จากกล้องเหล่านี้ เช่น ร้าน Walmart ให้ลูกค้าส่งภาพราคาสินค้าที่ถูกกว่าร้าน Walmart และสามารถเคลมส่วนต่างได้ วิธีการนี้ทำให้ร้าน มีลูกค้าจำนวนมากเป็นคนคอยสอดส่องราคาคู่แข่งให้ตัวเองตลอดเวลา รวมถึงศึกษาปฏิกิริยาลูกค้าในขณะที่หยิบหรือวางวางบนชั้นวางในห้าง ในอนาคตกล้องจะมีอยู่ในทุกที่ และสามารถบันทึกทุกมุมมอง ทุกช่วงเวลา ภาพเหล่านี้จะแปรเป็นมูลค่าทางธุรกิจมหาศาล
    เมกะเทรนที่สี่ คือ “เซนเซอร์” หรืออุปกรณ์ตรวจจับ เช่น GPS, การตรวจจับการเคลื่อนไหว เซนเซอร์ในรถยนต์เพื่อตรวจจับอุณหภูมิ เซนเซอร์บางอย่างก็ฝังเข้าไปอยู่ในตัวสินค้า เช่นเทคโนโลยี RFID เพื่อตรวจจับสินค้า ว่าอยู่ตำแหน่งไหน และสินค้าถูกวางบนชั้นนานแค่ไหนก่อนจะถูกขาย บ้านสมัยใหม่ก็มีเซนเซอร์มากขึ้นมาก เช่นตรวจวัดความสว่างความมืด ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น อัตราการใช้ไฟฟ้า หรือตรวจจับว่ามีคนอยู่ในห้องหรือไม่ อนาคตมนุษย์ทุกคนอาจจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดสภาวะสุขภาพตัวเอง และส่งสัญญาณไปที่โรงพยาบาลหรือหมอประจำตัวได้ทันที แปลว่าทุกสิ่งทุกอย่างในอนาคตจะสามารถตรวจวัดได้ และธุรกิจสามารถ “เลือก” ต้องตรวจวัดสิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจตัวเอง
    เมกะเทรนที่ห้า คือ Cloud Computing ซึ่งหมายถึงการแบ่งปันกันใช้ทรัพยากรข้อมูล และความสามารถ “ใช้ที่ไหนก็ได้” ในอดีตเราต้องติดกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัว แต่ในอนาคตหมายถึงการเข้าถึงข้อมูลตัวเองที่ไหนก็ได้ ข้อจำกัดด้านสถานที่และเครื่องมือต่าง ๆ ก็จะหมดไป Cloud จะทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจลดลงและยืดหยุ่นขึ้นมาก และทำให้ความเป็นเครือข่ายมีพลังมากขึ้น
    เมกะเทรนที่หก คือ Emerging Knowledge หรือองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่เกิดจากเมกะเทรนทั้ง 5 ข้างต้น เราจะได้ข้อมูลมากมายซึ่งสามารถนำมาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในอดีตเราอาจจะต้องใช้แบบสอบถาม แต่ในอนาคต ข้อมูลเหล่านี้จะเป็น Real Time ความรู้เดิมที่เราคิดว่าเรากำลังอ่านหนังสือออนไลน์ กำลังอ่าน Facebook แต่อันที่จริง E-Book กำลังอ่านคุณต่างหาก เพราะมันสามารถเรียนรู้สิ่งที่คุณชอบอ่าน จากการความเร็วในการเลื่อนหน้า จากการคลิ๊กเม้าส์ และเก็บเป็นฐานข้อมูล เพื่อนำเสนอเฉพาะสิ่งที่คุณสนใจในอนาคต
    เมกะเทรนเหล่านี้ จะเกิดธุรกิจต่อเนื่อง รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นอีกมากมาย เช่น รถยนต์ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง หรือเกิดพฤติกรรมหรือความต้องการใหม่ ๆ ของผู้บริโภค  และจะทำให้ธุรกิจบางอย่างจะต้องยากลำบากขึ้นในอนาคต เทคโนโลยีสมัยใหม่มีพฤติกรรม “ทำลายล้าง” หรือล้มระบบดั้งเดิมที่ปรับตัวไม่ทันทิ้งไปทั้งหมด ในอดีตธุรกิจอาจจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของหุ้นเทคโนโลยีได้บ้าง แต่มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ในอนาคต ดังนั้นผู้ที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้ จะสามารถเติบโตในคลื่นเมกะเทรนด้านเทคโนโลยีได้อย่างก้าวกระโดดครับ
[/size]
ลูกหิน
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 1

Re: เมกะเทรนในอนาคต/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
SE7EN
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 13
ผู้ติดตาม: 1

Re: เมกะเทรนในอนาคต/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ
“The most important thing in investing is to avoid mistakes.” - HOWARD MARKS
อินทรีคอนกรีต เชือกใยยักษ์
rattypor
Verified User
โพสต์: 82
ผู้ติดตาม: 1

Re: เมกะเทรนในอนาคต/วีระพงษ์ ธัม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับ
โพสต์โพสต์