ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก/ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1892
ผู้ติดตาม: 313

ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก/ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ปัจจุบันมีปัจจัยหลายประการที่ทำให้เศรษฐกิจโลกผันผวนในขาลง เห็นได้จากการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงทั้งนี้ ตลาดหุ้นในประเทศตลาดเกิดใหม่ปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว กรณีของไทยราคาหุ้นปรับลงประมาณ 15% จากระดับสูงสุดของปีเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม คำถามต่อมาคือปัจจัยอะไรบ้างที่อ้างว่ากำลังส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทั้งในส่วนของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโดยรวม

ปัจจัยที่กำลังเป็นข่าวในเชิงลบที่ทำให้นักลงทุนกังวล คือ

1. ความเป็นห่วงว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดการพิมพ์เงินลงโดยอาจเริ่มลดการพิมพ์เงินเพื่อซื้อพันธบัตรตั้งแต่กันยายนนี้เป็นต้นไป และจะหยุดการพิมพ์เงินทั้งหมดภายในกลางปีหน้า การพิมพ์เงินดังกล่าวได้ทำให้เกิดสภาพคล่องล้นทั่วโลกและกดดอกเบี้ยทั้งระยะสั้นและระยะยาวลงต่ำผิดปกติ ทำให้เงินทุนไหลเข้าประเทศกำลังพัฒนาเช่นไทย เพื่อลงทุนในตลาดหุ้นและพันธบัตร แต่เมื่อมีสัญญาณว่าการพิมพ์เงินจะชะลอลง เงินก็ไหลออกอย่างรวดเร็วทำให้เกิดความผันผวนต่ออัตราแลกเปลี่ยน ดอกเบี้ยและราคาหุ้นอย่างมาก แต่หลายคนยังเชื่อว่าการลดการพิมพ์เงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้นเป็นเรื่องดี เพราะธนาคารกลางสหรัฐจะลดการพิมพ์เงินตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แปลว่าแม้จะมีสภาพคล่องในเศรษฐกิจลดลง แต่เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว ประเทศอื่นๆ (รวมทั้งไทย) ก็จะได้อานิสงส์ในทางบวก แต่หากเศรษฐกิจสหรัฐไม่ฟื้นตัวตามที่ธนาคารกลางสหรัฐประเมินเอาไว้ สหรัฐก็จะพิมพ์เงินออกมาเช่นเคยเพื่อประคองเศรษฐกิจเอาไว้ 

กล่าวโดยสรุปคือ การพิมพ์เงินนั้นอาจจะเพิ่มและลดก็ได้ขึ้นกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ทำให้ดอกเบี้ย ตลาดหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลกในช่วงนี้ผันผวน โดยอาจบวก-ลบวันละ 2-3% จนกลายเป็นเรื่องปกติก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ นายเบอร์นันเก้บอกนักลงทุนให้ทราบชัดเจนแล้วว่ายุคของการพิมพ์เงินอย่างมหาศาลซึ่งช่วยอุ้มราคาหุ้นนั้นกำลังจะจบลง และดอกเบี้ยระยะยาวจะต้องปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะกระทบต่อประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างมีนัยสำคัญ

2. การปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของดอกเบี้ยนโยบาย (ดอกเบี้ยระยะสั้น 1 สัปดาห์) ของจีน ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางของจีนกำลังบีบให้สภาพคล่องตึงตัวอย่างมากเพื่อ “ลงโทษ” สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้อย่างหละหลวมและเกิน เพราะในอดีตแม้ทางการจะตักเตือนและออกกฎเกณฑ์มาควบคุม ก็มีความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงและละเมิดอยู่เสมอ ทำให้การปล่อยกู้นอกระบบที่เรียกกันว่าระบบธนาคารเงา (shadow banking) นั้นขยายตัวออกไปอย่างมาก ทำให้บริษัทจัดอันดับความเสี่ยงออกมาตักเตือนว่าหนี้สินภาคเอกชนจีนและรัฐบาลท้องถิ่นนั้นได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 2 เท่าของจีดีพีแล้ว (ของไทยประมาณ 90% ของจีดีพี) หากเป็นเช่นนั้นจริงการ "ทำโทษ" ดังกล่าวอาจเป็นเพียงปัญหาชั่วคราว แต่ก็เป็นไปได้ว่า ผู้นำซึ่งเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะต้องการจัดการกับปัญหาการขยายตัวของสินเชื่อและฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างเสร็จสรรพ โดยจะยอมเจ็บในระยะสั้นซึ่งสามารถอ้างได้ว่าเป็นผลพวงจากรัฐบาลก่อนหน้า ดีกว่าการปล่อยให้ปัญหาลามเป็นฟองสบู่ขนาดใหญ่ที่แตกในอีก 3-4 ปีข้างหน้า 

ซึ่งหากเป็นกรณีหลังนี้เศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับปัญหาความฝืดเคืองของสภาพคล่องไปอีกนานหลายเดือนและเสี่ยงต่อการล่มสลายของสถาบันการเงินขนาดเล็ก (หรือรุนแรงกว่านั้น) ทั้งนี้เพราะนักลงทุนยอมรับว่า ปัญหาการปล่อยกู้หละหลวมของจีนนั้นเป็นปัญหาใหญ่ไม่แตกต่างจากปัญหา Subprime ของสหรัฐเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ที่จะแตกต่างกันคือทางการจีนคงจะไม่ยอมให้สถาบันการเงินล่มสลายลง เช่นกรณีการปิดตัวลงของ Bear Stearns และ Lehman Brother ของสหรัฐ โดยนักลงทุนเชื่อว่าจีนมีทุนสำรองมากถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ ดังนั้น จึงจะมีเงินที่จะอุ้มสถาบันการเงินไม่ให้ล่มสลายได้ อย่างไรก็ดี การชะลอตัวลงของจีนย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญได้ เพราะกำลังเกิดขึ้นในจังหวะเดียวกันกับการลดทอนการพิมพ์เงินของสหรัฐ เห็นได้จากการที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมทั้งทองคำปรับตัวลดลงอย่างมากและประเทศที่พึ่งพาสินค้าดังกล่าว เช่น แอฟริกาใต้ ออสเตรเลียและบราซิล ได้รับผลกระทบอย่างแรง ประเทศไทยเองก็พึ่งพาจีนเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของไทยและจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

3. เมื่อดอกเบี้ยระยะยาวทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น 0.7-1.0% ก็เป็นการเพิ่มต้นทุนทางการเงินแม้ว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวมมิได้แข็งแกร่งมากนัก เศรษฐกิจยุโรปซึ่งยังอยู่ในสภาวะถดถอยอาจทรุดตัวลงไปอีกก็ได้ โดยเฉพาะประเทศในตอนใต้คือ กรีก สเปน อิตาลีและโปรตุเกส ซึ่งยังไม่สามารถหยุดยั้งความตกต่ำทางเศรษฐกิจได้

สำหรับผลกระทบต่อประเทศไทยนั้นก็ต้องยอมรับว่าเป็นผลกระทบในเชิงลบมากกว่าบวก ทั้งนี้เป็นไปได้ว่า เงินบาทที่อ่อนค่าลงในขณะนี้จะอ่อนค่าลงไปอีกเพราะต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรและขนเงินออก ในขณะที่การส่งออกยังไม่ฟื้นตัว นอกจากนั้นการอ่อนตัวของค่าเงินบาทย่อมจะเพิ่มความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเท่ากับเป็นการปิดโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดดอกเบี้ยลงได้อีก ทั้งนี้หากพิจารณาจากผลการประเมินเศรษฐกิจไทยระหว่างทางการไทยกับไอเอ็มเอฟที่ผมเขียนถึงในครั้งที่แล้วก็จะเห็นได้ว่าข้อแนะนำของไอเอ็มเอฟ คือให้ธปท.เตรียมตัวปรับดอกเบี้ยเข้าสู่สภาวะปกติ (แปลว่าให้ปรับดอกเบี้ยขึ้น) หากมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ทั้งนี้ หากมองเศรษฐกิจไทยอย่างอนุรักษนิยม ก็จะมองได้ว่าอัตราการว่างงานที่ต่ำและการขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยเดินเครื่องอย่างเต็มกำลังแล้วและเสี่ยงที่จะเกิดการใช้จ่ายเกินตัวด้วยซ้ำ

ในส่วนของนโยบายการคลังนั้นก็ต้องยอมรับว่า รัฐบาลกำลังจะต้องจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการจำนำข้าว ซึ่งใช้เงินไปกว่า 6 แสนล้านบาท ทำให้ความยืดหยุ่นทางการคลังมีอยู่เหลืออย่างจำกัดและดอกเบี้ยระยะยาวของไทยก็กำลังปรับตัวสูงขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนทางการคลัง ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงไปอีกกำลังเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากสหรัฐจะแสดงท่าทีว่ากำลังจะลดการพิมพ์เงินใน 3-6 เดือนข้างหน้า ประเทศจีนเองก็ดูเหมือนจะต้องการดำเนินนโยบายการเงินที่รัดกุมยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แรงกระตุ้นจากมาตรการทางการคลังของรัฐบาลก็กำลังหมดแรงลง ทั้งนี้ สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามดูมากที่สุดคือการชะลอตัวลง (หรือไม่) ของจีนและหากชะลอตัวลงจนกระทั่งเงินหยวนอ่อนค่าลง (จากที่เคยแข็งค่าอย่างต่อเนื่องมาในหลายปีที่ผ่านมา) ก็จะยิ่งส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจไทยครับ
ที่มา นสพ.กรุงเทพธุรกิจ 1/7/56
[/size]
naijan
Verified User
โพสต์: 5011
ผู้ติดตาม: 1

Re: ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก/ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากๆครับ

--------------------------------------
บุญอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว ขอเชิญบริจาคคลิก ไลค์ และ แชร์ เพื่อทุนการศึกษาได้ที่นี่..
http://thorfun.com/#chanchai/story/51ba ... 050c004b8c
โพสต์โพสต์