Megatrend2:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
PERFECT LUCKY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 795
ผู้ติดตาม: 0

Megatrend2:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Value Way ฉบับวันที่ 25 ตุลาคม 2553
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ

Megatrend (2)

ต่อไปเป็นเนื้อหาการสัมมนาเรื่อง Megatrend ต่อจากฉบับที่แล้ว

คุณนรินทร์ : กระแสหลักที่กล่าวไว้คือ คนแก่มากขึ้น จีนใหญ่ขึ้น มีเมืองมากขึ้น นอกจากนั้นอาจมีคนอยากทำงานไม่เอาเงินเดือนมากแต่อยากมีเวลาให้ครอบครัว วันนี้ขอพูดถึงสองกลุ่มแรก

1) คนสุงอายุมากขึ้น ทุกวันนี้ประชากรโลกเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ามากและในปี 2050 นอกจากประชากรโลกจะไม่เพิ่มขึ้นล้วแต่มีแนวโน้มว่าประชากรโลกจะลดลงเป็นครั้งแรกด้วย ทั้งที่แต่เดิมคนกลัวว่าอนาคตคนจะล้นโลกแต่ในความเป็นจริงกับเกิดสิ่งตรงข้าม เรื่องที่ว่าประชากรลดลงเกิดมาจากสาเหตุดังนี้

        1.1) ประเทศที่เจริญแล้ว คนมีรายได้มากขึ้นนิยมมีลูกน้อยลงหรือมีลูกคนเดียว แล้วทุ่มเทเลี้ยงดูลูกมากขึ้นต่างจากคนจนที่มีลูกมาก

       1.2) การแพทย์เจริญรุดหน้าไปมาก คนอายุยืนขึ้น ในปี 1900 อายุเฉลี่ยของคนยุโรปอยู่ที่ 47 ปีเท่านั้น แต่ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของคนเพิ่มขึ้นเป็น 70-80 ปี คนเกิดน้อยลง คนตายช้าลง คนเลยมากขึ้น มีการแบ่งว่าในประเทศไหนที่มีคนอายุเกิน 60 ปีเกิน 25% ของประชากรจัดว่าประเทศนั้นเป็นสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดแล้วในญี่ปุ่นและในยุโรปตะวันตก ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดกับไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า คนอายุเกิน 60 ปีจะเพิ่มเป็น 2 เท่าแล้วเราจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ที่จะเกิดตามมาคือ โลกจะขาดแคลนแรงงาน ประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วมีคนวัยทำงานลดลงครั้งแรกแล้วในตอนนี้

จีนเองก็เช่นกันแต่จีนที่คนวัยทำงานลดลงเพราะนโยบายให้มีลูกครอบครัวละ 1 คน ซึ่งจีนวางแผนจะใช้ต่อจนถึงปี 2015 แล้วจะเลิก มองในแง่ดีคืออนาคตลูกหลานเราไม่ตกงาน แต่จะกระทบกับเศรษฐกิจเพราะคนวัยทำงานลดลงการจัดเก็บภาษีจะน้อยลง ตอนนี้ก็แก้ปัญหาด้วยการเลื่อนการเกษียณอายุออกไป

2) การเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนและประเทศใหม่ๆ ปี 1900-2000 คนในประเทศที่พัฒนาแล้วมีจำนวน 20% ของประชากรโลก แต่คนกลุ่มนี้ใช้ทรัพยากรถึง 80% ของที่มีอยู่ แต่ด้วยโลกาภิวัฒน์และเทคโนโลยีต่างๆทำให้พรมแดนและการขยับชนชั้นง่ายขึ้น คนอีก 80% ที่เหลือจะมีการใช้ทรัพยากรมากขึ้นแย่งคนกลุ่มแรกใช้ จะส่งผลให้ทรัพยากรที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ แม้ว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีเงินมากกว่า แต่ก็มองข้ามประเทศบริก (BSIC) หรือ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนไปไม่ได้ มีการคาดว่าว่าประเทศเหล่านี้ในอนาคตจะมีจีดีพีสูงกว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหมดรวมกัน ทั้งนี้เกิดมาจากประเทศพวกนี้มีปัญหาภายในโดยเฉพาะการเมือง พอปรับตัวเองเข้ากับโลกาภิวัฒน์ได้เช่นจีนเปิด

ประเทศรับการลงทุนทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว  ประเทศอื่นๆทำเช่นกันแต่ละประเทศที่ว่ามีจุดแข็งต่างกันเช่น จีนมีประชากร อินเดียมีประชากรแถมใช้ภาษาอังกฤษได้ บราซิลมีทรัพยากรธรรมชาติมาก รัสเซียเช่นกัน อินโดนีเซียเป็นต้น ประเทศเหล่านี้ถ้าเปิดรับการลงทุนคนในประเทศจะมีรายได้มากขึ้น บริโภคมากขึ้น ทรัพยากรจะถูกใช้ในอัตราเร่ง อย่างจีนแต่ก่อนใช้จักรยาน ถ้ามีเงินก็ซื้อรถใช้น้ำมัน คิดดูว่าจะใช้น้ำมันขนาดไหนแล้วคนที่เคยมีรถถ้าเศรษฐกิจไม่ดีคงไม่กลับไปใช้จักรยาน มันจึงเป็นเทรนที่ใช้แล้วมีแต่จะใช้มากขึ้น

จากมุมมองดังกล่าวมาเข้าประเด็นที่ว่า ธุรกิจหรือหุ้นอะไรน่าสนใจ ซึ่งก็มองกลุ่มเฮลแคร์ ถ้าในอเมริกาเช่นกลุ่มบริษัทยา หรือประกันสุขภาพ ในไทยคงมีแต่กลุ่มโรงพยาบาลกับประกัน โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนที่มีศักยาพในการแข่งขันระดับโลก ส่วนเรื่องเทรนด์ของประเทศเกิดใหม่ธุรกิจที่น่าสนใจจึงเป็นพวกวัตถุดิบ เช่นน้ำมัน ถ่านหิน วัสดุก่อสร้าง พลังงาน โลหะต่างๆ หรือพวกคอมโมนิตี้ แต่พวกนี้ต้องดูเพราะมีรอบ ถือระยะยาวอาจกำไรน้อย เช่น โลหะ อย่างทองแดง นิเกล สังกะสี ที่มีการเพิ่มความต้องการใช้มาก แต่พบว่าราคาทองแดงขึ้นมา 4-5 เท่า อลูมิเนี่ยมไม่เปลี่ยน นิเกิลตะกั่วขึ้นมา 1 เท่า ทั้งนี้เป็นเพราะความต้องการเพิ่ม แต่ทองแดงสามารถเพิ่มกำลังผลิตแบบตัวอื่นๆได้น้อยมาก ราคาเลยแพง อลูมิเนี่ยม ต้องการมากสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายราคาเลยไม่ไปไหน  

น้ำมันก็น่าสนใจ สาเหตุเพราะน้ำมันแพงที่แพงเกิดจากความต้องการมาก น้ำมันดิบในโลกบ่อใหญ่ๆอยู่ในช่วงท้ายอายุ กำลังการดูดน้ำมันลดลง ต้องหาหลุมใหม่ๆทดแทน คาดว่าในปี 2030 กำลังการผลิตน้ำมันจะหายไป 25% ซึ่งเป็นจุดที่เพิ่มกำลังการผลิตได้ไม่ทันกับความต้องการที่ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 45% น่าจะทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นมาก ไม่ใช่เพราะน้ำมันหมดโลกเพียงแต่ขุดหลุมใหม่ไม่ทันความต้องการของคนใช้

ถ่านหินเป็นพลังานทดแทนที่น่าสนใจเพราะมีราคาถูก จีนมีความต้องการถ่านหินมาก ทั้งที่จริงๆแล้วจีนมีเหมืองอยู่เยอะแต่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน การขนส่งลำบากจึงลดการส่งออกและนำเข้าถ่านหุ้นจากออสเตเรียมาใช้ ทำให้แย่งจากตลาดโลก

พลังงานทางเลือก พวกไบโอต่างๆ เช่น แสงอาทิตย์ เอาเข้าจริงๆยังแข่งขันด้านต้นทุนไม่ได้ คิดคร่าวๆคือถ้าไบโอดีเซลทั้งหลายจะคุ้มค่าลงทุนน้ำมันต้อง 90เหรียญ หรือพลังงานลมแดด น้ำมันต้อง 100 เหรียญถึงคุ้ม ดังงั้นถ้ามองว่าพลังงานทางเลือกดี แสดงว่าพลังานทางหลักต้องแพงมากๆ ดังนั้นเลือกลงทุนหุ้นพลังงานหลักๆดีกว่า
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว" :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดอยเต่า
Verified User
โพสต์: 114
ผู้ติดตาม: 0

Megatrend2:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณนะครับ คุณ PERFECT LUCKY
whiteknight_p
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 315
ผู้ติดตาม: 1

Re: Megatrend2:ValueWay วิบูลย์พึงประเสริฐ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลดีๆ ที่แบ่งปัน
โพสต์โพสต์