แนะนำลู่ทางเรียนอสังหาริมทรัพย์ระดับปริญญาโท-เอก

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
pornchokchai
Verified User
โพสต์: 96
ผู้ติดตาม: 0

แนะนำลู่ทางเรียนอสังหาริมทรัพย์ระดับปริญญาโท-เอก

โพสต์ที่ 1

โพสต์

แนะนำลู่ทางเรียนอสังหาริมทรัพย์ระดับปริญญาโท-เอก
 
ดร.โสภณ พรโชคชัย*
 
ใครที่ต้องการศึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยอยากได้ปริญญาโทนั้น  ท่านเชื่อหรือไม่ว่า ในเมืองนอก มีให้เรียนมากมาย แถมค่าเรียนสุดถูก  ที่สำคัญ ท่านจะได้พบประสบการณ์อสังหาริมทรัพย์ที่ซับซ้อนกว่าในประเทศไทย  เรามาลองดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

สถาบันการศึกษาในเอเซีย
กลุ่มแรกที่ขอแนะนำก็คือ มหาวิทยาลัยในภาคพื้นเอเซียใกล้ประเทศไทย ซึ่งล้วนเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกทางด้านอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยเหล่านี้ยังได้รับการรับรองอย่างกว้างขวาง ประกอบด้วยคณาจารย์ที่มีความรอบรู้ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจริง ๆ ที่สำคัญภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ก็ ใกล้เคียงกับประเทศไทย นำความรู้มาปรับใช้ได้ง่าย

มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (www.rst.nus.edu.sg) มีหลักสูตรปริญญาโทอสังหาริมทรัพย์ เรียน full time 1 ปี จบ ค่าเล่าเรียนเพียง 150,000 บาทตลอดหลักสูตร  รวมค่ากินอยู่ก็คงไม่เกิน 350,000 บาท  แถมยังอาจได้ทำงานประเทืองปัญญาช่วยอาจารย์ นอกจากนี้ยังสามารถขอทุนเรียนฟรีด้วย เป็นทุนสำหรับนักศึกษาในอาเซียนโดยเฉพาะ (มีโอกาสได้ทุนสูง)   มหาวิทยาลัยแห่งนี้รวมอาจารย์ที่ทรงความรู้และประสบการณ์จริง สอนเองจริง ๆ  และสอนถึงระดับปริญญาเอกเช่นกัน

มหาวิทยาลัยมาลายา (http://fbe.um.edu.my) หลักสูตรปริญญาโทของที่นี่ในคณะ Faculty of Built Environment) เรียนจบภายใน 1 ปี ค่าเรียนเพียง 136,000 บาท  นอกจากนี้ยังมี Master of Science . สมัครเรียนช่วงไหนก็ได้ เพราะเป็นการทำ research มีอาจารย์คอยแนะนำ ปีหนึ่งมี 2 เทอมเท่านั้น มหาวิทยาลัยนี้แม้เป็นประเทศเพื่อนบ้านเรา แต่เขามีวิทยาการทางด้านนี้นานแล้ว สะสมประสบการณ์มากมาย เรียนแล้วมีศักดิ์ศรีระดับนานาชาติเหมือนกัน และยังสอนปริญญาเอกด้วย

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาเลเซีย (www.fksg.utm.my/postgraduate.htm) หลักสูตรปริญญาโทอสังหาริมทรัพย์ จัดสอนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี มีทั้งการสอนในลักษณะเรียนในห้องเรียน ทำวิจัย และแบบผสมผสาน สอนเป็นภาษาอังกฤษ ที่สำคัญมีเรียนถึงระดับปริญญาเอกด้านอสังหาริมทรัพย์เสียด้วย อาจารย์ที่นี่ส่วนมากจบมาจากอังกฤษ  สำหรับค่าเรียนถูกมาก ไม่เกิน 100,000 บาทเท่านั้น

มหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค (http://www.bre.polyu.edu.hk) ที่ฮ่องกงถือเป็นหนึ่งในสุดยอดด้านการศึกษาอสังหาริมทรัพย์ อาจารย์หลายคนก็เคยมาเมืองไทย หลักสูตรปริญญาโทปีเดียวจบและมีหลายสาขาทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง และการจัดการทรัพย์สิน  ค่าเรียน 190,000 บาท ส่วนอาจารย์ก็ล้วนแต่สุดยอด  มีทั้งฝรั่งและจีนฮ่องกง  ไปเรียนปริญญาเอกก็ใช้เงินไม่มาก

มหาวิทยาลัยฮ่องกง (http://hkusury2.hku.hk) เป็นหลักสูตรปริญญาโทที่ได้รับการรับรองสถาบันชั้นนำเช่นกัน ที่สำคัญเรียนปีเดียวก็จบแล้ว ที่ฮ่องกงนี้ดีมากอย่างหนึ่งก็คือ มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กว้างไกลกว่าประเทศไทยมาก ถ้าสนใจไปศึกษา อาจได้มีโอกาสดี ๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน สำหรับค่าเรียนก็ถูกมาก ขึ้นเครื่องบินไปกลับทุกสัปดาห์ยังคุ้ม


สถาบันการศึกษาในอเมริกา
ในสหรัฐอเมริกา มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากมาย ปัญหาสำคัญก็คือ ค่าใช้จ่ายแพงมากนั่นเอง สถาบันที่มีชื่อเสียงด้านนี้ได้แก่ MIT ซึ่งมี Center for Real Estate ส่วนในนิวยอร์คก็มี NYU ซึ่งก็มี Real Estate Institute และอีกแห่งคือ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่ง เก๋า มากด้านการสอนอสังหาริมทรัพย์  นอกจากนี้ยังมี University of Pennsylvania ซึ่งเราอาจคุ้นเคยกับ the Wharton School  มหาวิทยาลัยนี้มีปริญญาดุษฎีบัณฑิตด้านอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ รวมทั้ง Cornell University  ซึ่งมีหลักสูตร 2 ปี ปริญญาโทอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกับ Florida Atlantic University, Johns Hopkins University และ Georgia State University (College of Business Administration Real Estate) ซึ่งยังสอนปริญญาเอกด้วย

ที่เป็นในเชิงการประเมินค่าทรัพย์สินได้แก่ University of Wisconsin - Madison (School of Business) และที่ Texas A and M University ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ต่างก็เปิดสอนด้านเศรษฐศาสตร์ที่ดินเมืองโดยมอบวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต และที่ Virginia Commonwealth University กับ University of Saint Thomas ก็เปิดสอนเป็นวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตด้านประเมินค่าทรัพย์สิน เช่นกัน

และที่เป็นในเชิงการพัฒนาที่ดินโดยตรงได้แก่ University of Southern California และ University of Texas at Arlington (ปริญญาโทด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์) สำหรับทางด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยที่เน้นทางด้านนี้ ได้แก่ University of Denver (ปริญญาโทที่เน้นด้านการจัดการงานก่อสร้าง) Webster University ที่เมืองเซ็นต์หลุยส์ มลรัฐมิสซูรี่

สถาบันการศึกษาในอังกฤษ
ว่ากันว่าความแตกต่างระหว่างอเมริกันและอังกฤษก็คือ อเมริกันมุ่งเน้นด้านวิชาการ การวิเคราะห์อย่างกว้างขวางมากกว่าอังกฤษ โดยเฉพาะในด้านของตัวเลขต่าง ๆ

City University, London เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอน สอนระดับปริญญาโทด้านการประเมินค่าทรัพย์สิน, การจัดการทรัพย์สินและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยอีกแห่งในกรุงลอนดอนก็คือ South Bank University, London (Faculties of Built Environment) ซึ่งเปิดการสอนในทางด้านวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตด้านอสังหาริมทรัพย์ (เน้น Asset Management)

บางแห่งมุ่งเน้นควาามรู้ในภูมิภาคเช่น Kingston University สอนปริญญาโทด้านอสังหาริมทรัพย์ในภาคพื้นยุโรป โดยเฉพาะ ทั้งนี้สังกัด Faculty of Design, European Real Estate Studies ส่วนใครที่อยากเรียนอสังหาริมทรัพย์ในเอเซียอาคเนย์ ไปเรียนได้ที่ University of Portsmouth (Dept of Land & Construction Management) แต่ก็ยังสอนในสาขานโยบาย การลงทุนและการศึกษาอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
Oxford Brookes University เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างในระดับปริญญาโทโดยถือเป็นหนึ่งในสาขาของ MBA. ส่วนที่จะได้ M.A. (Master of Art) ก็คือ University of the West of England, Bristol ทั้งนี้สอนภายใน Faculty of the Built Environment

ภาคพื้นยุโรปก็มีศึกษาอสังหาริมทรัพย์
เราอาจคุ้นเคยกับอังกฤษ แต่ในภาคพื้นยุโรปมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่น่าสนใจเช่นกัน และยังมักจะมีทุนให้เรียนฟรี ต่างจากอังกฤษที่หวังค่าเรียนจากนักศึกษาเป็นหลัก ที่สำคัญในยุโรปก็เรียนเป็นภาษาอังกฤษ จึงน่าสนใจมากเช่นกัน

แห่งแรกที่ขอแนะนำก็คือ Swedish School of Economics and Business Administration ซึ่งอยู่ประเทศฟินแลนด์ โดยสอนระดับปริญญาโท (M.A.) ด้านการเงินอสังหาริมทรัพย์ ส่วนที่สวีเดนก็มี KTH Royal Institute of Technology ใน Department of Infrastructure นอกจากนี้ยังมีสถาบันที่น่าสนใจในเนเธอร์แลนด์ (IHS) เยอรมนี และเบลเยียม (Katholieke Universiteit Leuven)

ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์
ออสเตรเลียก็ใกล้บ้านเรา ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่าไปยุโรป-อเมริกา อากาศก็ดี จึงน่าสนใจอีกเช่นกัน ในกรณีของนครซิดนีย์ได้แก่ University of New South Wales, University of Western Sydney, University of Technology, Sydney เป็นต้น

ในนครอื่น ๆ อาจจะกระจัดกระจายเช่น ควีนส์แลนด์ มี University of Queensland, อดีเลท มี University of South Australia, เพิร์ท มี Curtin Univerisity และเมลเบอร์นมี RMIT (ส่วน Monash และ University of Melbourne อาจมีโปรแกรมที่ไม่แพร่หลายนัก)

และในนิวซีแลนด์ เกาะเหนือก็ได้แก่ University of Auckland และ Massey University ส่วนเกาะใต้ก็มี Lincoln University ใกล้เมืองไครส์เชิร์ช

แต่ถ้าจะเรียนให้ทำงานเป็น
กลับมาในเมืองไทย เรามีโปรแกรมปริญญาโททั้งที่ธรรมศาสตร์ จุฬาฯ ธุรกิจบัณฑิต เอแบค ศรีปทุม เป็นต้น  แต่ถ้าอยากจะเรียนด้านการประเมินค่าทรัพย์สิน-การวิเคราะห์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่ใช้งานได้จริง  วิเคราะห์ราคาได้จริง ๆ เพราะเรียนภาคทฤษฎีที่ถ่ายทอดมาจากสถาบันนโยบายที่ดินลินคอล์น และเป็นประกาศนียบัตรที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง ก็ควรพิจารณา โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.trebs.ac.th)

โรงเรียนแห่งนี้สอนให้ทำประเมินตั้งแต่ต้นจนจบตั้งแต่ไปหัดประเมินที่ดินเปล่า บ้านเดี่ยว หอพัก อพาร์ทเมนท์ โรงแรม อาคารสำนักงาน และออกดูงานตามหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อการประสานงานด้านข้อมูลในอนาคต เช่น กรมที่ดิน สำนักประเมินราคาทรัพย์สิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรุงเทพมหานคร และอื่น ๆ  สำหรับค่าเรียนถูกมากเพียง 29,000 บาทต่อเวลาเรียน 250 ชั่วโมง รวมค่าที่พักและดูงานพัทยาแล้ว

เรียนมารับใช้ชาติ
ขอส่งท้ายด้วยการยกพระบรมราโชวาทของในหลวงเรื่องความสำคัญของการศึกษา ผลอันพึงประสงค์ของการศึกษา กล่าวโดยสั้นแต่โดยเนื้อแท้มีสองสถาน สถานหนึ่งคือ ความรู้แจ้งในวิทยาการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนำไปทำกิจการงาน สร้างตัว สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่บ้านเมือง แก่ส่วนรวมและแก่มนุษยชาติ อีกสถานหนึ่งได้แก่ ความคิดจิตใจ ที่ฝึกฝน กล่อมเกลาแล้วอย่างถูกต้องให้คล่องแคล่วและสุจริตยุติธรรม (http://library.stou.ac.th/odi/king9&sto ... ory-02.htm)

หมายเหตุ
ขออนุญาตแนะนำข้อมูล
1. บัญชีราคาค่าก่อสร้างอาคารมาตรฐาน: http://www.thaiappraisal.org/Thai/Value/Value.php และฟังคำชี้แจงสำคัญ: http://www.thaiappraisal.org/English/Mo ... nthlyE.php
2. อัตราผลตอบแทนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์: http://www.thaiappraisal.org/Thai/Stand ... dard10.php
โพสต์โพสต์