มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
oatty
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2444
ผู้ติดตาม: 1

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โลกในมุมมองของ Value Investor               20 ม.ค. 52


วิกฤติตลาดหุ้นและเศรษฐกิจรอบนี้น่าจะทำให้  Value Investor จำนวนมากเสียกำลังใจไปไม่น้อย   หลายคนก็แทบจะฝันสลายหลังจากที่เคยทำกำไรมาได้มากมายจนคิดว่าตนจะร่ำรวยมากในเวลาไม่นาน    แต่ผมคิดว่าเราอย่าเพิ่งเสียกำลังใจ   วิกฤติรอบนี้อาจจะเป็นแค่การหยุดหรือชะงักไปชั่วคราวจากการเดินทางไปสู่เป้าหมายของเราที่จะเป็นอิสระทางการเงินหรือร่ำรวยมากในอนาคต    ลองตรึกตรองดูว่าสถานะของเราเป็นอย่างไรในปัจจุบันและเราจะเดินไปข้างหน้าอย่างไรในอนาคต    อย่ามองกลับไปยังอดีตที่เราแก้อะไรไม่ได้   ผมเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังมี     “อนาคต”  อีกมาก    และที่ผมพูดถึง “อนาคต”  นั้น   ผมหมายถึง  “ทรัพยากร”  ต่าง  ๆ  ที่เรายังมีอยู่ที่จะนำมาสร้าง  “อนาคต”  อย่างที่เราฝันหรือตั้งความหวังไว้ได้

ผมเคยพูดไว้ต่างกรรมต่างวาระมาหลายครั้งว่า   การที่เราจะมีความมั่งคั่งมากหรือน้อยในชีวิตนั้น  ขึ้นอยู่กับทรัพยากรหลัก  3  อย่างที่เรามีอยู่   หนึ่งก็คือ  เงินเริ่มต้นและเงินที่เราจะได้มาเพิ่มเติมจากการเก็บออมที่เหลือจากน้ำพักน้ำแรงหลังหักค่าใช้จ่ายส่วนตัวตลอดชีวิต    สำหรับคนที่อายุยังน้อย    เงินเริ่มต้นนั้นมักจะมีน้อยหรือเป็นศูนย์    แต่เงินที่จะได้มาเพิ่มเติมจากการทำงานจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ  เดือนแล้วเดือนเล่าปีแล้วปีเล่า   ถ้าเรารู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัดและคุ้มค่าเงินแบบที่ Value Investor มักจะเป็น   เงินส่วนนี้ก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ   ดังนั้น  สำหรับคนที่ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ร่ำรวยแล้ว   วิธีที่จะทำให้ตนเองกลายเป็นคนที่ร่ำรวยได้ทางหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ   อย่าหยุดทำงานและเก็บเงินให้ได้มากที่สุด  ยิ่งทำงานนานมาก   เงินเดือนหรือรายได้จากการทำงานก็ยิ่งมากตามประสบการณ์

ทรัพยากรอย่างที่สองก็คือ  เวลาของการลงทุน  นี่เป็นทรัพยากรที่ทุกคนมีอยู่แต่ไม่เท่ากัน   คนที่อายุยังน้อย   เช่น  คนที่จบมหาวิทยาลัยและเริ่มทำงานพร้อมกับเริ่มการลงทุน   เขาจะมีเวลาถึงเกือบ  40  ปีกว่าที่จะเกษียณอายุและอาจจะมากถึง  60  ปี ก่อนที่จะตายหรือหมดความสามารถในการลงทุน   ดังนั้น   ในโลกของการลงทุนและการสร้างความมั่งคั่งในชีวิต   คนหนุ่มสาวจะได้เปรียบคนอายุมากมหาศาล   และถ้าคนเหล่านั้นใช้เวลาที่เป็นทรัพยากรสำคัญนั้นกับการลงทุน   เขาก็จะสามารถสร้างความร่ำรวยได้ไม่ยาก  เพราะเวลา  50  ปีนั้น  ถ้าได้ลงทุนและทำผลตอบแทนได้ปีละ 10% ทบต้นโดยเฉลี่ยก็จะสามารถทำให้เงินเพิ่มขึ้นได้ประมาณ  100  เท่า   ดังนั้น  สำหรับคนหนุ่มสาวที่มุ่งมั่น  โอกาสที่เขาจะร่ำรวยมีเงินเป็นร้อยล้านบาทก่อนตายนั้น   เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากเลย   ประเด็นสำคัญก็คือ  ต้องมีเงินเก็บและต้องลงทุนให้ยาวหรือตลอดเวลา

ทรัพยากรอย่างที่สามก็คือ   ฝีมือในการลงทุน  นี่คือความรู้เกี่ยวกับการลงทุนและภาวะอารมณ์ที่ถูกต้อง   นี่คือสิ่งที่ต้องศึกษาค้นคว้าและเรียนรู้จากประสบการณ์   โดยทั่วไป  ถ้าเราไม่มีฝีมือเหนือกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไปและยอมรับมัน   อีกทั้งยังกลัวเรื่องความผันผวนของผลตอบแทนหรือกลัวการ  “ขาดทุน”  มาก  เราก็จะต้องลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงไปในทรัพย์สินหรือหลักทรัพย์หลาย ๆ  อย่าง ทั้งหุ้น  พันธบัตร  เงินฝาก และทรัพย์สินอื่น ๆ  อีกมาก   แบบนี้   ผมคิดว่าเราคงได้ผลตอบแทนประมาณ  5%  ต่อปีโดยเฉลี่ย

ถ้าเราไม่มีฝีมือในการเลือกหุ้นลงทุนแต่เราเชื่อมั่นในผลตอบแทนระยะยาวของหุ้นว่าจะดีกว่าหลักทรัพย์อย่างอื่น   เราก็สามารถลงทุนในกองทุนรวมหุ้นโดยเฉพาะที่อิงกับดัชนี  แบบนี้  เราก็น่าจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ  7-8%  ต่อปี  แต่ถ้าเรามีความรู้เกี่ยวกับหุ้นบ้าง   เราก็อาจจะสามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอที่เลียนแบบใกล้เคียงกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและค่าบริหารจัดการให้กับบริษัทจัดการกองทุนรวม  แบบนี้  เราอาจจะได้ผลตอบแทนประมาณ  10%  ต่อปีโดยเฉลี่ย   ทั้งสองกรณี   เราจะต้องมีความอดทนพอที่จะถือหุ้นตลอดเวลาแม้ว่าในบางช่วงหุ้นอาจจะตกลงมาถึงครึ่งหนึ่ง  

ถ้าเรามีความสามารถสูงพอสมควร   และมีความมุ่งมั่นเป็น  Value Investor เราอาจจะสามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้ถึง  12-15 %  ต่อปีโดยเฉลี่ย  จากการลงทุนในหุ้น   และถ้าทำได้ผมเชื่อว่าเขาจะต้องเป็นคนรวยหรือเศรษฐีอย่างแน่นอนถ้าเขามีเวลาเป็น 40-50 ปีในการลงทุน   เพราะในระยะยาวแล้ว  ความแตกต่างระหว่างผลตอบแทน  5%  กับ  10%  หรือ  15%  ต่อปีก็คือ  ในเวลา  50 ปีนั้น   ถ้าได้ผลตอบแทน  5%  ต่อปี  เงินจะโตขึ้นเพียง  10 เท่า   ถ้า  10%  เงินจะโตขึ้น  100 เท่า  และถ้าเป็น  15%  เงินจะโตขึ้นเป็น  1,000  เท่า

ดังนั้น  สำหรับคนที่กำลังเสียกำลังใจจากการขาดทุนในหุ้นรอบนี้    ผมแนะนำว่า   ลองมาตรวจสอบดูว่าเรายังมีทรัพยากรเหลืออยู่เท่าไรอย่างใด    สิ่งที่เราควรทำก็คือ   ทุกครั้งที่เริ่มต้นปีใหม่   เราควร  “นับหนึ่ง”  ใหม่และมองไปข้างหน้า    เริ่มตั้งแต่เม็ดเงิน  “เริ่มต้น”  ว่าเป็นเท่าไรหรือจริง ๆ   ก็คือเหลือเท่าไรหลังจากที่มันตกลงมาอย่างแรงในปีที่ผ่านมา   หลังจากนั้นก็มาดูปีของการลงทุนที่เรามีอยู่   ในกรณีที่เราตั้งเป้าหมายหลักไมล์ในชีวิตเช่นจะมีเงินถึงสิบล้านหรือร้อยล้านบาทเมื่ออายุเท่าไร   ในกรณีนี้  ถ้าพอร์ตของเราลดลงไป 30%  เป้าหมายอายุที่เราจะไปถึงก็อาจต้องเลื่อนไป 3-4 ปี เป็นต้น    เช่นเดียวกัน  ในส่วนของผลตอบแทนในอนาคตที่เราจะทำได้  เราก็ต้องประเมินใหม่โดยคำนึงถึงผลตอบแทนที่ผ่านมาและบทเรียนที่เราได้รับจากวิกฤติ   เป็นไปได้ว่าผลตอบแทนนับจากปีนี้ไปน่าจะดีกว่าช่วงที่ผ่านมาเร็ว ๆ  นี้   อย่างไรก็ตาม   ไม่ควรตั้งเป้าผลตอบแทนเกิน  15% ต่อปีในช่วง 4-5 ข้างหน้า

เมื่อกำหนดเป้าหมายใหม่หมดแล้ว   เราก็อาจจะพบว่ามันอาจจะแตกต่างจากเดิมไม่มากนักหรือถึงจะมากแต่เราก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญเช่น  การเป็นอิสระทางการเงิน ได้ในช่วงเวลาที่ไม่สายจนเกินไป   และเมื่อเราพบความจริงอย่างนั้นแล้ว   เราก็จะรู้สึกสบายใจขึ้นและมั่นใจในการที่จะ  “เดินทางต่อไป”    ว่าที่จริง   สำหรับคนที่ยังอายุน้อยหรือยังไม่เกินสี่สิบปีโอกาสที่เขาจะ  “แก้ตัว”  มีอยู่เสมอ  เพราะ  เวลา  นั้น  คือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดสำหรับการลงทุน
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ตลาดยังไม่เจ๊ง ก็ยังมีโอกาสแก้ตัวครับ สู้ต่อไป
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

โชคดีที่ข้าน้อยยังมีโอกาสแก้ตัว  :bow:

"จงหาโอกาสในวิกฤตให้พบ" ซุนวู

ผู้ที่เข้าใจศาสตร์แห่งการลงทุนอย่างแท้จริงเมื่อกาลเวลาผันผ่านไปขุมทรัพย์รอท่านอยู่เบื้องหน้า  :)
areliang
Verified User
โพสต์: 432
ผู้ติดตาม: 1

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เรื่องเงินทบต้นนะครับ
ลองคิดจาก เวลา 50 ปี เท่าๆกันกับผลตอบแทนที่ต่างกันนะครับ
การที่คิดจาก 50 ปีเพราะว่า สมมุติคนเราเริ่มตั้งหลักทำงานได้ตอนอายุสัก 25 ปี และมีอายุถึงสัก 75 ปี นี่จะเป็นเวลา 50 ปี

เงินต้น 1 บาท
ถ้าในเวลา 50 ปี ได้ผลตอบแทน 5% ต่อปี จะเท่ากับ 11.47 บาท

10% จะเท่ากับ       117.39 บาท
15% จะเท่ากับ     1,083.66 บาท
20% จะเท่ากับ    9,100.44 บาท
25% จะเท่ากับ  70,064.xx บาท
50% จะเท่ากับ 637,621,500.xx บาท

ขอย้ำนี่เริ่มจากเงินต้นเพียง 1 บาท แต่ถ้าเงินต้นเริ่มที่ 1 ล้านบาท
ก็เอา 1 ล้าน คูณเข้าไปได้เลยนะครับ

เยอะป่ะ 555
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 3

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณมากคร๊าบ........
ภาพประจำตัวสมาชิก
PrasertsakK
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 292
ผู้ติดตาม: 0

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอบคุณมากครับ ผมว่ามันมีประโยชน์มาก ๆ เลย
สู้ต่อไป..... :8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ปีนี้ผมขาดทุนหนัก -50%
แต่ก็คิดว่าเป็นบทเรียนที่ยังไงเราก็ต้องเจอถ้าเราลงทุนในตลาดหุ้น
เคยคิดว่าทำไมเราดวงไม่ดี ถึงมาใส่เงินจำนวนมากกับตลาดในปีที่เกิดวิกถต
แต่ก็คิดว่าตัวเองยังโชคดีที่ได้เจอบทเรียนนี้ตอนที่เรายังอายุไม่มาก
ยังมีโอกาสแก้ตัวอีกนาน ตอนนี้เลยไม่คิดถึงอดีตว่า ทำไมเราไม่ทำอย่างโน้นในตอนโน้น แต่มองไปข้างหน้าอย่างเดียว เอาบทเรียนในอดีตมาใช้สำหรับอนาคต โดยไม่เอาอดีตมาทำร้ายความตั้งใจของเราที่จะก้าวต่อไป

อดีตมันผ่านไปแล้ว มันจบลงแล้ว สิ่งที่เราเก็บเกี่ยวจากอดีตได้ ก็คือบทเรียนที่มีค่าเหมือนขุมทรัพย์สำหรับอนาคต

เราต้องวางภาระในจิตใจที่เกิดจากอดีตลงให้ได้ แล้วก้าวไปข้างหน้า
ให้เหมือนกับหุ้นที่มันไม่เคยสนใจอดีตของมันเลย  มันสนใจแต่อนาคตของกิจการของมันเท่านั้น ถ้าอนาคตมันดี ราคามันก็ขึ้น ถ้าอนาคตมันแย่ ราคามันก็ลง
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 21

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 8

โพสต์

พึ่งได้เข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ อาจารย์ :bow:

ยังให้กำลังใจพวกเราตลอดมา

เพื่อนๆ อยากแชร์ ความฝัน (เป้าหมาย) ตามไปกระทู้นี้ครับ
(promote กระทู้ตัวเองซะหน่อย :lol: )

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... c113f2672b
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
holidaytours
Verified User
โพสต์: 349
ผู้ติดตาม: 0

มองไปข้างหน้า / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 9

โพสต์

เรามีตาอยู่ข้างหน้า ก็เพื่อให้คนเรามองไปข้างหน้าคับ  :D
โพสต์โพสต์