ว่าด้วยเรื่องของหวย

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
bigsby111
Verified User
โพสต์: 50
ผู้ติดตาม: 0

ว่าด้วยเรื่องของหวย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

"รายได้จากหวยบนดินนี้เยอะเอาการอยู่  สามารถนำไปทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้มากมาย  โดยเฉพาะให้กับเด็กยากจนและด้อยโอกาส  ถ้าไม่มีหวยบนดินแล้วคนไทยจะเล่นการพนันหรือเสี่ยงโชคน้อยลงหรือเปล่า?   คือไอ้การพนันเสียงโชคนี่มันอยู่คู่วิถีชีวิตคนไทยมานานแล้ว  ถ้ามีการยกเลิกหวยบนดินไป  ต้องมีพวกผู้ประกอบการหวยบนดิน  รวมถึงผู้เล่นหวยบนดินทั้งหลายออกมาประท้วงแน่ๆ"

จากข้อความข้างต้นผมเชื่อว่าคงมีหลายคนที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับบทความดังกล่าว  แต่หลังจากที่ผมได้อ่านบทความนี้แล้ว  ทำให้ผมนึกถึงตอนตอนหนึ่งของหนังสือพุทธประวัติ  ซึ่งเป็นตอนที่หลังจากพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้เรียบร้อยแล้ว  พระองค์ทรงดำหริขึ้นในพระทัยว่า "สิ่งที่เราได้รู้แล้วนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก  คนที่มีปัญญาแจ่มใสจริงๆเท่านั้น  จึงจะสามารถจับฉวยเอาใจความได้อย่างถูกต้องจนได้รับผล  แต่คนที่มีปัญญาแจ่มใสจริงๆนั้นอยู่ที่ไหน?  คนส่วนมากไม่ประสงค์จะทนความลำบากในการคิดและพิจารณาอย่างลึกซึ้ง  เขาชอบกันแต่สิ่งง่ายๆ  ชอบกันแต่สิ่งที่ทำความสนุกสนานเพลิดเพลินให้แก่ตนเอง  หัวใจของเขาเอียงไปในสิ่งซึ่งเขาเห็นว่าจะนำความสนุกสนานบันเทิงเริงรื่นให้แก่เขาเท่านั้น  เขาทั้งหมดพากันปล่อยตัวไปในเรื่องความเพลิดเพลินทางกามารมณ์  หากเราจะสอนเรื่องนั้ให้แก่เขา  เขาก็จักไม่เข้าใจว่าเราพูดถึงเรื่องอะไร  เขาจักไม่สนใจ  แล้วเราก็จะเหนื่อยเปล่า"

พระพุทธเจ้าทรงดำหริในพระทัยเช่นนี้  จนมีพระทัยไปในทางที่จะไม่ทรงสั่งสอนสิ่งซึ่งพระองค์ได้ตรัสรู้แก่ผู้ใด  เพราะไม่ทรงเห็นว่าจะมีผู้ใดในโลกจะทราบหรือจะพอใจในเมื่อพระองค์บอกสิ่งเหล่านี้แก่เขา  แต่อย่างไรก็ตาม  ดำหริของพระองค์หาได้หยุดแต่เพียงเท่านี้  เพราะถ้าเป็นดังนั้นแล้ว  ใครๆก็จะมิได้รู้ธรรมะของพระองค์ ดังเช่นทุกวันนี้  พระองค์ได้ทรงพยายามตีปัญหาเรื่องนี้ต่อไปอีก  จนกระทั่งเกิดความคิดใหม่แก่พระองค์ดังต่อไปนี้

"ถูกแล้ว  แม้ว่าเขารักแต่สิ่งที่ง่ายๆ สนุกสนาน และไม่ทำให้เขาได้ยุ่งยากในการคิด  แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ทุกคนบนโลกไม่เหมือนกัน  มีคนบางจำพวก  แม้จะมีไม่มากนัก  ซึ่งกำลังไม่พอใจกับวิถีชีวิตที่เขาดำเนินอยู่  เขาต้องการจะรู้มากไปกว่าที่เขารู้อยู่ในตอนนี้  เขาไม่พอใจที่จะดำเนินตนไปในความเพลิดเพลิน  มันจะเป็นไรถ้ารู้ธรรม  ซึ่งสามารถนำความสุขกายสุขใจมาให้แก่คนประเภทนี้ได้"

"มันเหมือนกับในสระบัว  ซึ่งมีบัวหลายๆชนิดเกิดอยู่  บัวส่วนมากมีดอกอ่อนโผล่ขึ้นมาจากกอ  ซึ่งยังจมอยู่ใต้ดินได้หน่อยหนึ่ง  พอพ้นจากโคลนบ้าง  บัวส่วนหนึ่งขึ้นมาได้ระหว่างพื้นดินกับผิวน้ำ, อีกส่วนหนึ่งโผล่มาถึงผิวน้ำบ้าง, บัวบางส่วนถูกสัตว์กัดกินก่อนที่จะได้บาน  ส่วนบัวที่โผล่พ้นน้ำเบิกบานรับแสงแดดนั้น  มีจำนวนน้อยกว่าก็จริง
,แต่ก็ยังมีอยู่  ฉันใดก็ฉันนั้น  บางพวกใจของเขาจมอยู่ในโคลนแห่งกิเลสตัณหา  แต่บางพวกมิได้จมอยู่ในโคลนมากเหมือนอย่างนั้น เขามีกิเลสตัณหาครอบงำแต่เพียงเล็กน้อย    คนจำนวนหลังนี้เองจะสามารถเข้าใจคำสั่งสอนของเราเมื่อเขาได้ยินได้ฟัง  เราจักออกไปเดี๋ยวนี้  จะต้องให้เขาได้ยินได้ฟัง  และสอนคนทุกคนที่ควรสอน"

อยากให้ทุกคนลองพิจารณาดูครับ  อาจจะเข้าใจยากไปสักหน่อยแต่ก็มีความหมายที่ลึกซึ้งทีเดียว  เพราะในบางทีเราอาจจะหลงลืมสิ่งใดไปบางอย่าง  หรืออาจจะพิจารณาอย่างไม่ถี่ถ้วนพอ  ทุกอย่างมีเหตุและมีผล  เราเป็นคนเลือกเองครับ  ว่าเราจะเป็นบัวชนิดใด?
โพสต์โพสต์