เงินหยวนดิจิตัล/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1890
ผู้ติดตาม: 311

เงินหยวนดิจิตัล/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ดิันเขียนถึงเงินดิจิตัลครั้งแรก ลงตีพิมพ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 ก่อนราคาของบิทคอยน์ปรับตัวลดลงไปครั้งใหญ่ไม่กี่วัน ด้วยความเป็นห่วงว่ามีผู้ลงทุนเข้าไปลงทุนโดยไม่เข้าใจ และเกิดการเก็งกำไรกันอย่างมากมายเกินไป

ในครั้งนั้น ดิฉันเขียนไว้ว่า “ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะหยิบวัตถุ หรือสัญลักษณ์ใดมาเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน หากคนทั่วไปยอมรับ หากมีความน่าเชื่อถือพอ ย่อมสามารถทำได้ทั้งสิ้น หากไม่ขัดกับกฎหมายของบ้านเมือง การที่ต้องมีกฎเกณฑ์และกฎหมายเข้ามากำกับ ก็เนื่องจากมีผู้ฉวยประโยชน์จากความไม่รู้ ไม่เข้าใจของคนอื่นๆ ดังนั้น ทางการของประเทศต่างๆจึงต้องเป็นตัวกลางในการทำให้คนของประเทศนั้นๆเกิดความมั่นใจ และสร้างความมั่นใจให้ขยายขอบเขตไปยังประเทศอื่นๆที่ค้าขายกันด้วย” และทิ้งท้ายว่า “คาดว่าในอนาคต ธนาคารกลางของแต่ละประเทศก็คงจะมีสกุลเงินดิจิตัลของตัวเองออกมาค่ะ”

วันนี้ ประเทศจีนประกาศเป็นประเทศแรกที่จะเปิดทดลองใช้ เงินหยวนดิจิตัล ซึ่งเป็นเงินดิจิตัลที่ออกโดยรัฐบาล หรือเรียกว่า Legal Digital Currency ในสี่เมืองคือ ซูโจว เสินเจิ้น เฉินตู และเสียงอัน

ณ ปัจจุบัน เงินดิจิตัลมีสามแบบค่ะ แบบแรกเป็นเงินที่ใช้เทคโนโลยีแบบ peer to peer เรียกว่า Blockchain Digital Cryptocurrency ทุกคนสอดส่องดูแลกันและกัน โดยไม่มีคนกลาง และแบบที่สอง จะตั้งองค์กรกลางขึ้นมาดูแล ในลักษณะ Trusted Institution Digital Currency ซึ่งเป็นลักษณะที่ เฟซบุ้ค จะใช้กับลิบรา (LIBRA) และแบบที่สามคือ ควบคุมดูแลโดยธนาคารกลาง เรียกว่า Legal Digital Currency เช่น เงินหยวนดิจิตัลของจีนในครั้งนี้

ธนาคารกลางของจีนได้ใช้เวลาศึกษามามากกว่า 5 ปี โดยธนาคารกลางของจีนจะเป็นผู้ควบคุมดูแลออกเงินดิจิตัล และจะประสานกับธนาคารพาณิชย์ในการนำเงินไปให้ประชาชนใช้ทำธุรกรรมต่างๆ

Aditi Kumar ได้เขียนไว้ใน Foreign Affairs ฉบับเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2563 ว่า “การออกเงินดิจิตัลมีอุปสรรคใหญ่ๆ 3 เรื่องคือ 1. การรักษาเสถียรภาพของราคา หรือมูลค่า 2. การเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปในการใช้ชำระเงิน 3. การเป็นที่ยอมรับของรัฐบาลและหน่วยงานกำกับต่างๆ”

ทั้งนี้ ท่านคงได้ยินข่าวมาบ้างแล้วว่า เงินดิจิตัลลิบรา ของค่ายเฟซบุ้ค สะดุดไปนิดหน่อย เพราะประเด็นเรื่องการยอมรับของหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานกำกับนี่แหละค่ะ

Aditi Kumar ให้ความเห็นว่า เงินหยวนดิจิตัล จะเพิ่มอิทธิพลของจีน ในอัฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังจะทำให้การบอยคอต หรือห้ามทำการค้าขายกับประเทศนั้นๆ อย่างเช่น ในกรณีอิหร่าน มีผลน้อยลง เพราะประเทศที่ถูกบอยคอต สามารถทำธุรกรรมด้วย เงินหยวนดิจิตัลได้ โดยไม่ต้องใช้เงินดอลลาร์ ผ่านธนาคารอเมริกันเลย ทั้งยังเตือนรัฐบาลสหรัฐด้วยว่า หากไม่เร่งกระบวนการศึกษาการออกเงินดิจิตัลของตัวเองแล้วปล่อยให้จีนออกแซงหน้าไปก่อนนานๆแบบนี้ ในที่สุด เงินดอลลาร์อาจจะมีบทบาทในการค้าของโลกน้อยลง

อดีตประธาน Bank of China ลี่ลี่ฮุ่ย ได้แสดงความเห็นไว้ว่า เงินดิจิตัลจะใช้แทนเงินสดได้ หากมีคุณสมบัติครบเงื่อนไข 4 ประการ คือ มีประสิทธิภาพดีกว่า มีค่าใช้จ่ายในการทำรายการต่ำกว่า ใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้กว้างขวางมากพอ และเป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยได้กล่าวเสริมอีกว่า ที่กลัวๆกันว่า เงินดิจิตัลออกมาล้นหลามแล้วจะก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อนั้น Bank of China ได้ศึกษาแล้วคิดว่า เงินดิจิตัลไม่น่าจะก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงกว่าปกติค่ะ

ก็ต้องรอดูกันนะคะว่า ประชาชนของสี่เมืองที่จะได้ทดลองใช้เงินหยวนดิจิตัลนั้น จะนิยมใช้เงินดิจิตัลมากกว่าเงินสดหรือไม่ ได้ข่าวว่า ร้านสตาร์บัคส์ ซับเวย์แซนวิช และร้านแมคโดนัลส์ (ร้านสัญชาติอเมริกันทั้งนั้น)ในสี่เมืองนี้ ตอบรับเข้าร่วมรับและใช้เงินหยวนดิจิตัลแล้วค่ะ ซึ่งการทดลองใช้จะเริ่มในปลายปี 2563 หรือต้นปี 2564 หากได้ผลดี หลังจากนี้อีกไม่กี่ปี คงจะมีการใช้ไปทั่วประเทศจีน และคงต้องขยายมาใช้ในประเทศที่คนจีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ เช่น ประเทศไทยเราด้วย
อย่างไรก็ดี ดิฉันเชื่อว่า วิกฤติโควิดนี้ จะทำให้คนอยากใช้เงินดิจิตัลมากขึ้น เพราะปัจจุบันเราก็ไม่ค่อยอยากสัมผัสเงินสดอยู่แล้ว เพราะพิสูจน์แล้วว่า เชื้อไวรัสโควิด ติดอยู่บนธนบัตรได้ถึง 5 วัน เพราะฉะนั้น วันนี้ไม่อ้อมค้อมเหมือนสามปีก่อนแล้วค่ะ ดิฉันอยากจะเห็นประเทศไทยเรามีเงินบาทดิจิตัลใช้ด้วยเหมือนกันค่ะ แต่อยากให้ดูเทคโนโลยีให้ดี ไม่ให้เป็นภาระของผู้ด้อยโอกาส และไม่เปิดช่องให้มิจฉาชีพมาหาประโยชน์จากผู้ด้อยโอกาสนะคะ


หมายเหตุ : เคยไปอ่านมาจากที่ไหนไม่ทราบว่า การจัดการประเทศในอนาคต หากจะได้ผลดี ในด้านความมั่นคงทางสุขภาพ ประชาชนต้องยอมสละความเป็นส่วนตัวออกไปบ้าง เช่น การยอมให้รัฐ รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนด้วยการ “เช็คอิน” “เช็คเอ้าท์” นี่แหละค่ะ เพื่อประโยชน์กับส่วนรวมแล้ว เราต้องยอมค่ะ เพราะฉะนั้น อย่าบ่นเลยนะคะ
miracle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 18396
ผู้ติดตาม: 75

Re: เงินหยวนดิจิตัล/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อันนี้สำคัญมากครับ ตั้งแต่ตอนที่ FB ทำ libra ออกมา ตอนนั้นโดนเบรกจากสภาของ US เรียกไปให้สัมภาษณ์ในสภาเลย
จีนเห็นโอกาสทองในการแข่งขันด้นเทคโนโลยี และ ผู้นำทางด้านการเงินพร้อมๆกัน เลย ออกดิจิตอลหยวนออกมา
ดังนั้นมันคือ สงครามระหว่างจีนกับสหรัฐ เพื่อแข่งกันว่า ใครเป็นผู้นำของโลกในด้านนี้

มันจะออกเป็นความเย็นกันมากขึ้น ณ เวลานี้
:)
โพสต์โพสต์