หน้า 2 จากทั้งหมด 4

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 23, 2012 1:09 am
โดย nut776
ซื้อหุ้นคืนก็เป็นการลดทุนจดทะเบียนอยู่แล้วนี่คับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 23, 2012 1:20 am
โดย nut776
แต่ถ้าหมายถึง กรณีพิเศษ เช่น
นำสินทรัพย์ทางฝั่งซ้ายมาแจกจ่าย คืน ผถห (อาจจะขายสินทรัพย์ได้เงินสด หรือ จ่ายเงินสดในมือ)
แล้ว off set กับ การลดทุน โดยการลด พาร์ ลดหุ้นหรือสองอย่าง ก็สามารถทำได้
ผมเคยอ่านเจอ มีบ. ทำแต่จำชื่อไม่ได้
ส่วนทำไปเพื่ออะไร ต้องการอะไรจริงๆ ไม่ทราบ
แต่เจอไม่บ่อย

รออ. ต่างๆคอนเฟิร์มอีกที แต่ทางทฤษฎีน่าจะทำได้

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 23, 2012 1:26 am
โดย nut776
แต่ถ้าจะให้เดา
คือ บ. อาจจะ fair exit ให้ ผถห รายย่อยไม่เจ็บมาก
เพื่อรองรับการเพิ่มทุนครั้งใหญ่จาก ผถหรายใหญ่รายใหม่

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 23, 2012 9:39 pm
โดย parporn
nut776 เขียน:ซื้อหุ้นคืนก็เป็นการลดทุนจดทะเบียนอยู่แล้วนี่คับ
การซื้อหุ้นคืนไม่ถือเป็นการลดทุนโดยอัตโนมัติจนกระทั่งบริษัทถือไว้จน 3 ปีโดยไม่มีการขายออกไป หุ้นซื้อคืนนั้นจึงจะเท่ากับเป็นการลดทุน

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 23, 2012 9:42 pm
โดย parporn
nut776 เขียน:แต่ถ้าจะให้เดา
คือ บ. อาจจะ fair exit ให้ ผถห รายย่อยไม่เจ็บมาก
เพื่อรองรับการเพิ่มทุนครั้งใหญ่จาก ผถหรายใหญ่รายใหม่
บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนมาเพื่อนำมาลดทุนได้อยู่แล้ว เหตุผลที่ทำไมบริษัทจึงลดทุน เหมือนอาจารย์สรรพงศ์เคยตอบไปแล้วในกระทู้ใดกระทู้หนึ่ง ลองตามอ่านกระทู้อื่นๆ ดูนะคะ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 23, 2012 10:19 pm
โดย Stock lover
ได้ยินว่า ถ้าบริษัทซื้ือหุ้นคืนจะทำให้bv ลดลงจริงๆรึเปล่าครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 24, 2012 1:28 am
โดย nut776
parporn เขียน:
nut776 เขียน:แต่ถ้าจะให้เดา
คือ บ. อาจจะ fair exit ให้ ผถห รายย่อยไม่เจ็บมาก
เพื่อรองรับการเพิ่มทุนครั้งใหญ่จาก ผถหรายใหญ่รายใหม่
บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนมาเพื่อนำมาลดทุนได้อยู่แล้ว เหตุผลที่ทำไมบริษัทจึงลดทุน เหมือนอาจารย์สรรพงศ์เคยตอบไปแล้วในกระทู้ใดกระทู้หนึ่ง ลองตามอ่านกระทู้อื่นๆ ดูนะคะ
ขอบคุณคับ
แต่ผมหมายถึง เคยมีบ.ลดทุน โดยการเอาสินทรัพย์ มาแจกจ่ายคืน ผถห อะคับ
ปกติจ่าย inter rim ก็จะใช้กำไรสะสมใช่ไหมคับ
แต่รู้สึกผมเคยอ่านเจอมี บาง บ. ใช้การลดทุนแทน
ประเด็นนี้แหละคับ ที่เดา ว่าทำเพราะ อะไร

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 24, 2012 12:01 pm
โดย sun_cisa2
cyber-shot เขียน:อยากสอบถามเพิ่มเติมครับ บริษัทที่มีกำไร หรือกำไรสะสมอยู่แล้วสามารถลดทุนจดทะเบียนได้รึเปล่า มีคนเขาทำกันรึเปล่าครับ
อาจลดทุนได้กรณีมีการซื้อหุ้นคืน แล้วไม่ได้ขายกลับในระยะเวลาที่กำหนด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 3 ปี) บริษัทต้องลดทุนในหุ้นที่ซื้อคืน รายละเอียดต่างๆ เข้าไปอ่านได้ที่หัวข้อ หุ้นซื้อคืน หุ้นปันผล... ครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 24, 2012 1:53 pm
โดย Financeseed

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 24, 2012 2:18 pm
โดย ACME49
sun_cisa2 เขียน:
cyber-shot เขียน:อยากสอบถามเพิ่มเติมครับ บริษัทที่มีกำไร หรือกำไรสะสมอยู่แล้วสามารถลดทุนจดทะเบียนได้รึเปล่า มีคนเขาทำกันรึเปล่าครับ
อาจลดทุนได้กรณีมีการซื้อหุ้นคืน แล้วไม่ได้ขายกลับในระยะเวลาที่กำหนด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 3 ปี) บริษัทต้องลดทุนในหุ้นที่ซื้อคืน รายละเอียดต่างๆ เข้าไปอ่านได้ที่หัวข้อ หุ้นซื้อคืน หุ้นปันผล... ครับ
ในความคิดน่าจะมีความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากเป็นการทำจ่ายเงินปันผลทางอ้อมหรือเปล่า เพราะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง ผมคิดว่าสรรพากรสามารถประเมินภาษีของผู้ถือหุ้นได้ ไม่แน่ใจกรณีที่บริษัทยังทำธุกิจอยู่? ส่วนถ้าเลิกกิจการถ้ามีกำไรสะสมเหลืออยู้โดนแน่นอน 10% ของกำไรสะสม และไม่สามารถเครดิตภาษีได้

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 24, 2012 7:33 pm
โดย INDEPENDENT82
ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น สิทธิออกเสียง 1 : 1
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 เม.ย. 2555 2,973,095,330 หุ้น
ณ วันที่ 31 มี.ค. 2555 2,973,095,330 หุ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลของบริษัท ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครับรบกวนช่วยอธิบายด้วยครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 24, 2012 11:28 pm
โดย winnermax
ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น สิทธิออกเสียง 1 : 1
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 เม.ย. 2555 2,973,095,330 หุ้น
ณ วันที่ 31 มี.ค. 2555 2,973,095,330 หุ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลของบริษัท ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครับรบกวนช่วยอธิบายด้วยครับ
สรุป บริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้น ดังนั้นยังมีส่วนที่ไม่ได้ออกจำหน่าว 4997.45-2973.09 ล้านหุ้น หุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายนี้ บริษัทสามารถออกจำหน่ายได้เมื่อต้องการระดมทุนจากนักลงทุน หากการจำหน่ายหุ้นสามัญสูงกว่า หรือต่ำกว่าราคาพาร์ บริษัทก็จะบันทึกส่วนต่างนี้ไว้เป็นส่วนเกินหรือส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นสามัญครับ ในส่วนของผู้ถือหุ้นในงบแสดงฐานะการเงิน หุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วเมื่อนำไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ก็จะสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งไม่เหมือนกับทุนจดทะเบียนอันนั้นเป็นไปตาม พรบ.มหาชน ที่ต้องไปจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ขออภัยหากคำตอบเกาไม่ถูกที่คัน เพราะไม่ทราบท่านผู้ถามสงสัยในประเด็นใด ที่อยากให้อธิบายครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 25, 2012 11:53 am
โดย sun_cisa2
INDEPENDENT82 เขียน:ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น สิทธิออกเสียง 1 : 1
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 เม.ย. 2555 2,973,095,330 หุ้น
ณ วันที่ 31 มี.ค. 2555 2,973,095,330 หุ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลของบริษัท ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครับรบกวนช่วยอธิบายด้วยครับ
ง่ายๆนะครับ แสดงว่าไม่มีการซื้อหุ้นคืน เพราะจำนวนหุ้นชำระแล้ว = จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ที่เขียนว่าจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน เป็นภาษาทางบัญชีว่าถ้าหักหุ้นซื้อคืนจะเหลือเท่าไร เหลือเท่าเดิมแปลว่าหุ้นซื้อตืน = 0 หุ้นครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 26, 2012 2:39 am
โดย INDEPENDENT82
winnermax เขียน:
ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น สิทธิออกเสียง 1 : 1
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 เม.ย. 2555 2,973,095,330 หุ้น
ณ วันที่ 31 มี.ค. 2555 2,973,095,330 หุ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลของบริษัท ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครับรบกวนช่วยอธิบายด้วยครับ
สรุป บริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้น ดังนั้นยังมีส่วนที่ไม่ได้ออกจำหน่าว 4997.45-2973.09 ล้านหุ้น หุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายนี้ บริษัทสามารถออกจำหน่ายได้เมื่อต้องการระดมทุนจากนักลงทุน หากการจำหน่ายหุ้นสามัญสูงกว่า หรือต่ำกว่าราคาพาร์ บริษัทก็จะบันทึกส่วนต่างนี้ไว้เป็นส่วนเกินหรือส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นสามัญครับ ในส่วนของผู้ถือหุ้นในงบแสดงฐานะการเงิน หุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วเมื่อนำไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ก็จะสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งไม่เหมือนกับทุนจดทะเบียนอันนั้นเป็นไปตาม พรบ.มหาชน ที่ต้องไปจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ขออภัยหากคำตอบเกาไม่ถูกที่คัน เพราะไม่ทราบท่านผู้ถามสงสัยในประเด็นใด ที่อยากให้อธิบายครับ

ขอบคุณ คุณ winnermax มากครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 26, 2012 2:40 am
โดย INDEPENDENT82
sun_cisa2 เขียน:
INDEPENDENT82 เขียน:ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น สิทธิออกเสียง 1 : 1
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 เม.ย. 2555 2,973,095,330 หุ้น
ณ วันที่ 31 มี.ค. 2555 2,973,095,330 หุ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลของบริษัท ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครับรบกวนช่วยอธิบายด้วยครับ
ง่ายๆนะครับ แสดงว่าไม่มีการซื้อหุ้นคืน เพราะจำนวนหุ้นชำระแล้ว = จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ที่เขียนว่าจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน เป็นภาษาทางบัญชีว่าถ้าหักหุ้นซื้อคืนจะเหลือเท่าไร เหลือเท่าเดิมแปลว่าหุ้นซื้อตืน = 0 หุ้นครับ
ขอบคุณ คุณsun_cisa2 มากครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 9:13 am
โดย parporn
nut776 เขียน:
parporn เขียน:
nut776 เขียน:แต่ถ้าจะให้เดา
คือ บ. อาจจะ fair exit ให้ ผถห รายย่อยไม่เจ็บมาก
เพื่อรองรับการเพิ่มทุนครั้งใหญ่จาก ผถหรายใหญ่รายใหม่
บริษัทอาจซื้อหุ้นคืนมาเพื่อนำมาลดทุนได้อยู่แล้ว เหตุผลที่ทำไมบริษัทจึงลดทุน เหมือนอาจารย์สรรพงศ์เคยตอบไปแล้วในกระทู้ใดกระทู้หนึ่ง ลองตามอ่านกระทู้อื่นๆ ดูนะคะ
ขอบคุณคับ
แต่ผมหมายถึง เคยมีบ.ลดทุน โดยการเอาสินทรัพย์ มาแจกจ่ายคืน ผถห อะคับ
ปกติจ่าย inter rim ก็จะใช้กำไรสะสมใช่ไหมคับ
แต่รู้สึกผมเคยอ่านเจอมี บาง บ. ใช้การลดทุนแทน
ประเด็นนี้แหละคับ ที่เดา ว่าทำเพราะ อะไร
ยิ่งอ่านยิ่งงงค่ะ

พวกเราชอบพูดอะไรคร่าวๆแต่ใจความให้ความหมายลึกกว่าที่พูดไป

การลดทุนทำได้ 2 แบบ แบบที่ต้องเอาสินทรัพย์ (ส่วนใหญ่คือเงินสด) มาจ่ายเพื่อซื้อหุ้นคืนกลับมาแล้วยกเลิกหุ้นนั้น นั่นเป็นการลดทุนแบบหนึ่ง ส่วนอีกแบบหนึ่งไม่ต้องเอาสินทรัพย์ไปแลก (เพราะสินทรัพย์ของหุ้นนั้นได้จ่ายออกไปแล้วผ่านทางขาดทุนสะสม) นั่นเป็นการลดทุนอีกแบบหนึ่ง

ในทางบัญชี เรามักพูดว่า การจ่ายปันผลต้องจ่ายกำไรสะสม เนื่องจากก่อนที่บริษัทจะประกาศจ่ายปันผลได้ บริษัทต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า บริษัทต้องมีกำไรสะสมเป็นบวก (จะมีขาดทุนสะสมไม่ได้) เมื่อบริษัทประกาศจ่ายปันผล บริษัทต้องบันทึกหนี้สินคือเงินปันผลค้างจ่าย ในขณะที่บันทึกเพิ่มเงินปันผล เงินปันผลนี้เป็นรายการหักจากส่วนของกำไรสะสม นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไม เราจึงพูดว่า บริษัทจ่ายปันผลจากกำไรสะสม แต่ในอีกรายการหนึ่ง บริษัทตั้งเงินปันผลค้างจ่ายไว้รอเวลาจ่ายเงินสดออกไป เมื่อบริษัทจ่ายเงินสดให้ผู้ถือหุ้น หนี้สินเงินปันผลค้างจ่ายจะหายไป สรุปว่า ในกระบวนการจ่ายปันผล เงินสดจะหายไป ในขณะเดียวกับที่กำไรสะสมลดลง

เรื่องของการลดทุนก็คล้่ายกับการจ่ายปันผล ในการลดทุนแบบที่หนึ่งที่บริษัทต้องจ่ายสินทรัพย์ออกไป ในที่สุด เงินสดของบริษัทจะลดลง ในขณะเดียวกับที่หุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วลดลง

แต่ในการลดทุนแบบที่สอง ซึ่งบริษัทมีขาดทุนสะสมเป็นกอบเป็นกำ บริษัทจะบันทึกลดหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว (ไม่ว่าจะลดทุนด้วยการลดพาร์หรือลดจำนวนหุ้น) ในขณะที่ขาดทุนสะสมลดลง ซึ่งตามปกติจะลดลงจนเป็น 0 จึงจะได้ประโยชน์ต่อการจ่ายปันผลในอนาคต เพราะปันผลจะจ่ายได้ก็ต่อเมื่อกำไรสะสมเป็นบวกเท่านั้น (หมายถึงมีขาดทุนสะสมไม่ได้)

ทีนี้คำถามของคุณที่ว่่า
"แต่ผมหมายถึง เคยมีบ.ลดทุน โดยการเอาสินทรัพย์ มาแจกจ่ายคืน ผถห อะคับ
ปกติจ่าย inter rim ก็จะใช้กำไรสะสมใช่ไหมคับ
แต่รู้สึกผมเคยอ่านเจอมี บาง บ. ใช้การลดทุนแทน
ประเด็นนี้แหละคับ ที่เดา ว่าทำเพราะ อะไร"

คำถามของคุณทำให้คนอ่านงงเป็นกำลัง เพราะการลดทุนแบบที่หนึ่ง อย่างไรๆ บริษัทก็ต้องเอาสินทรัพย์มาแจกคืน (ตัวอย่างคือการซื้อหุ้นคืนเพื่อนำมายกเลิก)

ส่วนที่คุณว่า ปกติจ่าย interrim ก็จะใช้กำไรสะสม นั่นน่าจะเป็นเรื่องการจ่ายปันผล ไม่ใช่การลดทุน เพราะการลดทุนแบบที่ไม่ต้องจ่ายซื้อหุ้น (แบบที่สอง) ทำเมื่อบริษัทมีขาดทุนสะสม จะมาแตะกำไรสะสมไม่ได้ มันเป็นคนละบัญชีกัน

ไม่รู้ตอบตรงคำถามหรือเปล่า?

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 12:12 pm
โดย nut776
ขอบคุณคับ

แล้วเกิด บ. มีกำไรสะสม ไม่ได้ขาดทุนอะไร แต่อยากลดทุนจดทะเบียนเฉยๆ
สามารถทำได้ไหมคับ ( อาจจะลดจำนวนหุ้น หรือลดพาร์ ก็ได้)

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 27, 2012 1:52 pm
โดย sun_cisa2
nut776 เขียน:ขอบคุณคับ

แล้วเกิด บ. มีกำไรสะสม ไม่ได้ขาดทุนอะไร แต่อยากลดทุนจดทะเบียนเฉยๆ
สามารถทำได้ไหมคับ ( อาจจะลดจำนวนหุ้น หรือลดพาร์ ก็ได้)
อย่างที่ ดร.ภาพรกล่าวไว้ก่อนหน้า บางคำถามดูงงๆ ว่าคืออะไร ในทางทฤษฎีดูแล้วก็ทำได้ กลับรายการทุนกับกำไรสะสมออกเท่าๆกัน เดบิตกับเครดิตออกแค่นั้น แต่ในทางปฏิบัติยากมากหรือแทบไมทำหรือไม่สามารถทำ ถ้าบริษัทใดทำแปลว่ากิจการมีปัญหาแน่นอน การลดทุนไม่ใช่จู่ๆ ผู้บริหารก็สั่งลดทุน ต้องประชุมกรรมการถกประเด็นนี้ แล้วยังต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้น ปกติประชุมผู้ถือหุ้สสามัญทำปีละครั้ง ถ้าเรื่องนี้ต้องเรียกประชุมวิสามัญ มติต่างๆ ในเรื่องทุนนี้กฎหมายมีการบังคับไว้ ต้องเรียกก่อนกี่วัน ต้องแจ้งกี่วัน ต้องมีเสียงเท่าไรจึงเรียกประชุมวิสามัญได้ แค่นี่ก็ไม่อยากทำแล้วถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่คอขาดบาดตาย ยกเว้นการลดทัน เพราพต้องปรับโครงสร้างหนี้ไม่อย่างนั้นตายยกทั้งบริษัทเป็นต้น

จะเห็นว่าบริษัทที่เป็นเจ้าของถือโดยตรงเช่น SME บริษัทนอกตลาดอาจทำง่าย เพราะถือเองล้วนๆ แต่จะทำอย่างนั้นทำไกของเรา ลดทุนคืนเงินกำไร ก็เงินเรา คิดจะเลิกบริษัทก็เปล่า ถ้าจะเลิกก็เลิกไปเลยไม่ต้องมาทำเรื่องที่ งง ๆ เอง เอาเงินตัวเองจ่ายตัวเอง แต่ถ้าเป็นบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดเรื่องนี่ไม่ง่ายดังคิด ดีไม่ดี ติดคุกได้ เพราะอาจถูกฟ้องว่า บริหารงานไม่โปร่งใส ลดทุนโดยไม่มมีเหตุอันควร ทำใหผู้ถือหุ้นเสียหายโดยไม่จำเป็น

คิดว่าคงจะพอตอบคำถามได้นะครับ ว่าสมารถทำได้หรือไม่และควรทำหรือไม่

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 28, 2012 2:53 pm
โดย parporn
nut776 เขียน:ขอบคุณคับ

แล้วเกิด บ. มีกำไรสะสม ไม่ได้ขาดทุนอะไร แต่อยากลดทุนจดทะเบียนเฉยๆ
สามารถทำได้ไหมคับ ( อาจจะลดจำนวนหุ้น หรือลดพาร์ ก็ได้)
ทำได้ค่ะ บางบริษัทก็ทำกัน แต่ปกติทำโดยการซื้อหุ้นคืนมายกเลิก ไม่ใช่การลดจำนวนหุ้นหรือลดพาร์ การลดจำนวนหุ้นหรือลดพาร์มักทำเมื่อมีขาดทุนสะสม

แต่ในทางทฤษฎี ทำได้ค่ะ แต่ต้องมานั่งดูว่าทำแล้วได้อะไร และมีผลกระทบกับใคร เช่น การลดพาร์ ลดแล้วก็มีผลเท่าเดิมต่อผู้ถือหุ้น เพราะสิ่งเดียวที่เปลี่ยนคือตัวเลขในงบดุล (ย้ายจากหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วไปส่วนเกินมูลค่าหุ้น ในขณะที่สถานะทุกอย่างยังเหมือนเดิม) การลดจำนวนหุ้นก็เหมือนกัน ถ้าลดจริงต้องเป็นไปตามสัดส่วน สถานะทุกคนก็จะยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เลยไม่เข้าใจว่าจะลดไปทำไม

แต่การซื้อหุ้นคืนมายกเลิก (เป็นการลดทุนแบบหนึ่ง) หมายความว่าบริษัทต้องนำเงินสดไปซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิมแล้วนำหุ้นซื้อคืนนั้นมายกเลิก ผลในทางบัญชีคือ เงินสดของบริษัทจะลดลงในขณะที่หุ้นซื้อคืนซึ่งเป็นบัญชีหักจากทุนเรือนหุ้นจะเพิ่มขึ้น (หมายถึงทุนเรือนหุ้นสุทธิจะลดลง) ต่อมาเมื่อบริษัทยกเลิกหุ้นซื้อคืน บริษัทก็จะล้างบัญชีหุ้นซื้อคืน ขณะเดียวกับที่ล้างบัญชีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วด้วยราคาพาร์ ส่วนจำนวนที่สูงกว่าพาร์จะนำไปลดส่วนเกินมูลค่่หุ้นที่มีอยู่ การยกเลิกหุ้นจะไม่ทำให้เกิดกำไรหรือขาดทุนขึ้นกับบริษัท แต่จะมีผลกระทบกับส่วนเกินหรือส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น

นั่นเป็นในทางบัญชี ส่วนในทางกฎหมายก็ว่าไปตามที่ อ.สรรพงศ์พูดไปแล้ว

ส่วนผลที่เกิดขึ้นจากการลดทุน ลองวาดภาพตามนะคะ

เรามีเค้กกลมๆ อยู่ชิ้นหนึ่ง แบ่งให้คนสิบคน แต่ละคนได้ 1 ส่วน
คน 2 คนรับเค้กแล้วเดินออกจากห้องไป ถามว่าคนที่เหลืออยู่ 8 คน ได้ส่วนแบ่งเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นหรือลดลง

คำตอบตามทฤษฎีก็น่าจะเป็นว่า คนที่เหลืออยู่ก็ต้องได้ส่วนแบ่งเท่าเดิมคือ 8 ส่วนต่อ 8 คน แต่ในทางปฎิบัติแล้ว อาจไม่เท่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่า 2 คนที่เดินจากไป ได้เค้กชิ้นใหญ่หรือเล็กกว่าคนที่เหลืออยู่หรือไม่ เพราะราคาหุ้นขึ้นลงในตลาด เวลาบริษัทซื้อหุ้นคืน ถ้าซื้อราคาต่ำ ผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่ก็ได้ส่วนแบ่งมากขึ้น (คนที่จากไปได้เค้กก้อนเล็ก) แต่ถ้าเป็นในทางตรงข้ามคือราคาหุ้นที่ซื้อคืนสูงกว่าปกติ (ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อบริษัทซื้อหุ้นคืนจากผู้บริหารหรือเจ้าของเดิม ซึ่งจะทำให้เกิดการโอนถ่ายความมั่งคั่ง wealth transfer ระหว่างผู้ถือหุ้นที่เดินจากไปกับผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่) ผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่ก็จะได้ส่วนแบ่งลดลงเพราะคนที่จากไปได้เค้กชิ้นที่ใหญ่กว่า

หลังจากที่เหลือผู้ถือหุ้น 8 คน บริษัทก็ต้องหาเค้กมาเพิ่ม เพิ่มได้มากน้อยเท่าไร ก็แบ่งกันแค่ 8 ส่วน เพราะอีก 2 คนจากไปแล้ว

โปรดสังเกตว่า รายการลดทุนนี้ไม่มีผลกระทบต่อกำไรสะสม แต่มีผลกระทบต่อสินทรัพย์ (หรือตัวเค้ก) กับทุนเรือนหุ้นที่ลดลง กำไรสะสมยืนเฉยๆ เพราะกำไรสะสมเกิดจากการดำเนินงาน ไม่ได้เกิดจากการซื้อขายหุ้น

จำไว้ว่า สองสิ่งที่กระทบกำไรสะสมคือ 1. กำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานทุกๆ งวด 2. เงินปันผลที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้น เพราะถือว่าบริษัทนำกำไรที่เคยทำมาหาได้มาจ่ายผู้ถือหุ้นคือ การคืนผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นนั่นเอง

หวังว่าจะชัดเจนนะคะ รายการที่เกิดกับผู้ถือหุ้นไม่มีผลกระทบกับกำไรขาดทุนหรือกำไรสะสมของบริษัท (ยกเว้นการจ่ายกำไรคืนผู้ถือหุ้นหรือการจ่ายปันผลนั่นเอง)

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 29, 2012 6:57 pm
โดย INDEPENDENT82
winnermax เขียน:
ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น สิทธิออกเสียง 1 : 1
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 เม.ย. 2555 2,973,095,330 หุ้น
ณ วันที่ 31 มี.ค. 2555 2,973,095,330 หุ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลของบริษัท ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครับรบกวนช่วยอธิบายด้วยครับ
สรุป บริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้น ดังนั้นยังมีส่วนที่ไม่ได้ออกจำหน่าว 4997.45-2973.09 ล้านหุ้น หุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายนี้ บริษัทสามารถออกจำหน่ายได้เมื่อต้องการระดมทุนจากนักลงทุน หากการจำหน่ายหุ้นสามัญสูงกว่า หรือต่ำกว่าราคาพาร์ บริษัทก็จะบันทึกส่วนต่างนี้ไว้เป็นส่วนเกินหรือส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นสามัญครับ ในส่วนของผู้ถือหุ้นในงบแสดงฐานะการเงิน หุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วเมื่อนำไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ก็จะสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งไม่เหมือนกับทุนจดทะเบียนอันนั้นเป็นไปตาม พรบ.มหาชน ที่ต้องไปจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ขออภัยหากคำตอบเกาไม่ถูกที่คัน เพราะไม่ทราบท่านผู้ถามสงสัยในประเด็นใด ที่อยากให้
อธิบายครับ
1. จากข้อความข้างบนที่บอกว่าบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว
2973.09 ล้านหุ้น ที่ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้นนี้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าให้ใครครับ

2. ส่วนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย 4997.45-2973.09 ล้านหุ้น หุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายนี้บริษัทสามารถออกจำหน่ายได้เมื่อต้องการระดมทุนจากนักลงทุน
(ที่ว่าระดมทุนจากนักลงทุนนี้ใช่นักลงทุนรายย่อยที่เป็นประชาชนทั่วๆไปใช่ไหมครับ ถ้าไม่ใช่เป็นการระดมทุนจากนักลงทุนประเภทไหนครับ)

3. ส่วนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย 4997.45-2973.09 ล้านหุ้น หุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายนี้บริษัทสามารถออกจำหน่ายได้เมื่อต้องการระดมทุนจากนักลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่าครับ

4. การจำหน่ายหุ้นสามัญจะต้องสูงกว่าราคาพาร์ หรือ ต่ำกว่าราคาพาร์ เท่านั้นหรือครับ เท่ากับราคาพาร์ได้ไหม
(และการจำหน่ายจะจำหน่ายให้ใครและจะต้องจำหน่ายผ่านตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่าครับ)

5. จากข้อมูลข้างบนรบกวนช่วยอธิบายตั่งแต่บริษัทไปจดทะเบียนกับกระทรวงพานิชย์เท่าไหร่ยังงัย ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้วเท่าไหร่ยังงัย ส่วนที่ยังไม่ได้จำหน่ายเท่าไหร่ อธิบายไปทีละขั้นตอนไปจนถึงเข้าตลาดหลักทรัพย์ยังงัยขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ยังงัย ขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเท่าไหร่ยังงัยจนถึงขั้นตอนสุดท้ายเลยได้ไหมครับ
(แบบที่สรุปมาข้างบนนั่นแหละครับแต่ขอละเอียดนิดนึงครับ)




Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 30, 2012 10:07 am
โดย winnermax
winnermax wrote:
Quote:
ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น สิทธิออกเสียง 1 : 1
จำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง หัก หุ้นซื้อคืน
ณ วันที่ 24 เม.ย. 2555 2,973,095,330 หุ้น
ณ วันที่ 31 มี.ค. 2555 2,973,095,330 หุ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลของบริษัท ADVANC : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครับรบกวนช่วยอธิบายด้วยครับ


สรุป บริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้น ดังนั้นยังมีส่วนที่ไม่ได้ออกจำหน่าว 4997.45-2973.09 ล้านหุ้น หุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายนี้ บริษัทสามารถออกจำหน่ายได้เมื่อต้องการระดมทุนจากนักลงทุน หากการจำหน่ายหุ้นสามัญสูงกว่า หรือต่ำกว่าราคาพาร์ บริษัทก็จะบันทึกส่วนต่างนี้ไว้เป็นส่วนเกินหรือส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นสามัญครับ ในส่วนของผู้ถือหุ้นในงบแสดงฐานะการเงิน หุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วเมื่อนำไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ก็จะสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งไม่เหมือนกับทุนจดทะเบียนอันนั้นเป็นไปตาม พรบ.มหาชน ที่ต้องไปจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ขออภัยหากคำตอบเกาไม่ถูกที่คัน เพราะไม่ทราบท่านผู้ถามสงสัยในประเด็นใด ที่อยากให้
อธิบายครับ


1. จากข้อความข้างบนที่บอกว่าบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว
2973.09 ล้านหุ้น ที่ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้นนี้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าให้ใครครับ

2. ส่วนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย 4997.45-2973.09 ล้านหุ้น หุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายนี้บริษัทสามารถออกจำหน่ายได้เมื่อต้องการระดมทุนจากนักลงทุน
(ที่ว่าระดมทุนจากนักลงทุนนี้ใช่นักลงทุนรายย่อยที่เป็นประชาชนทั่วๆไปใช่ไหมครับ ถ้าไม่ใช่เป็นการระดมทุนจากนักลงทุนประเภทไหนครับ)

3. ส่วนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย 4997.45-2973.09 ล้านหุ้น หุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายนี้บริษัทสามารถออกจำหน่ายได้เมื่อต้องการระดมทุนจากนักลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่าครับ

4. การจำหน่ายหุ้นสามัญจะต้องสูงกว่าราคาพาร์ หรือ ต่ำกว่าราคาพาร์ เท่านั้นหรือครับ เท่ากับราคาพาร์ได้ไหม
(และการจำหน่ายจะจำหน่ายให้ใครและจะต้องจำหน่ายผ่านตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่าครับ)

5. จากข้อมูลข้างบนรบกวนช่วยอธิบายตั่งแต่บริษัทไปจดทะเบียนกับกระทรวงพานิชย์เท่าไหร่ยังงัย ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้วเท่าไหร่ยังงัย ส่วนที่ยังไม่ได้จำหน่ายเท่าไหร่ อธิบายไปทีละขั้นตอนไปจนถึงเข้าตลาดหลักทรัพย์ยังงัยขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ยังงัย ขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเท่าไหร่ยังงัยจนถึงขั้นตอนสุดท้ายเลยได้ไหมครับ
(แบบที่สรุปมาข้างบนนั่นแหละครับแต่ขอละเอียดนิดนึงครับ)
1. เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามส่วนจำนวนที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนมีอยู่แล้วก่อน หรือจะเสนอขายต่อประชาชนหรือ บุคคลอื่นไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ ตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น
2. เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป (Public Offerring) หรือเสนอขายต่อนักลงทุนกลุ่มเฉพาะเจาะจง (Private Placement) ก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของบริษัท
3. ถ้าเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่แล้ว เมื่อจำหน่ายหุ้นออกครั้งแรกไปแล้ว(Primary Market) ก็จะนำหุ้นไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์เพื่อผู้ถือหุ้นสามารถซื้อขายในตลาดรองได้ (Secondary Market)
4. บริษัทมหาชน สามารถจำหน่ายหุ้นในราคาต่ำหรือสูงกว่ามูลค่าได้ หรือจะจำหน่ายในราคาตามมูลค่าก็ได้ การขายหุ้นต่ำกว่ามูลค่าต้องระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนด้วยครับ
5. ขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด
ขั้นตอนที่ 1 จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
1. ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาอย่างน้อย 15 คนขึ้นไปจัดทำหนังสือ
บริคณห์สนธิ
2. หนังสือบริคณห์สนธิ ต้องมีรายการดังต่อไปนี้ เป็นอย่างน้อย
(1) ชื่อบริษัท ต้องมีคำว่า “บริษัท” นำหน้า และมีคำว่า “จำกัด (มหาชน)” ต่อท้าย หรือจะ
ใช้อักษรย่อว่า “บมจ.” แทนก็ได้
(2)
ความประสงค์ของบริษัทที่จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชน
(3) ทุนจดทะเบียนต้องแสดงชนิด จำนวน และมูลค่าของหุ้น
(4) ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ต้องระบุว่าจะตั้งอยู่ ณ ที่ใด ในประเทศไทย
(5) ชื่อ วัน เดือน ปีเกิด สัญชาติ ที่อยู่ของผู้เริ่มจัดตั้งบริษัท และจำนวนหุ้นที่แต่ละคนจอง
ไว้ และลายมือชื่อของผู้เริ่มจัดตั้งบริษัท
3. เอกสารที่ใช้
3.1 คำขอจดทะเบียน (แบบ บมจ.101)
3.2 หนังสือบริคณห์สนธิ (แบบ บมจ.001)
3.3 วัตถุประสงค์ (แบบ บมจ.002)
3.4 แบบจองชื่อนิติบุคคล
3.5 หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
ขั้นตอนที่ 2 การเสนอขายหุ้น
วิธีที่ 1 เสนอขายหุ้นทั้งหมด ต่อผู้เริ่มจัดตั้ง หรือ
วิธีที่ 2 เสนอขายหุ้นต่อประชาชน
(1) ต้องขออนุญาตจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ก่อน
(2) ส่งเอกสารเสนอขายหุ้นที่ยื่น สำนักงาน ก.ล.ต. ให้นายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ส่งให้แก่หน่วยงานดังกล่าว
ขั้นตอนที่ 3 การนัดผู้จองหุ้นประชุมตั้งบริษัท
1. ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทต้องเรียกประชุมจัดตั้งบริษัท ภายใน 2 เดือน นับแต่มีการจองซื้อหุ้นครบ
จำนวนที่กำหนดไว้ ในหนังสือชี้ชวน และไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วันที่นายทะเบียนรับจด
ทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
2. ถ้าไม่สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นภายใน 2 เดือนได้ ผู้เริ่มจัดตั้งอาจทำหนังสือขอ
ขยายกำหนดระยะเวลาต่อนายทะเบียนออกไป ได้อีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3
เดือน (ต้องยื่นต่อนายทะเบียนก่อนครบกำหนดไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน)
3. การนัดผู้จองซื้อหุ้นเพื่อประชุมจัดตั้งบริษัท มีวิธีดำเนินการดังนี้
3.1 ส่งหนังสือนัดประชุมให้ผู้จองซื้อหุ้น ไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนวันประชุม
3.2 ส่งหนังสือนัดประชุม ไปยังนายทะเบียนไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนวันประชุม
3.3 ต้องมีระเบียบวาระการประชุม ดังนี้
(1) การพิจารณาข้อบังคับ
(2) ให้สัตยาบัน แก่กิจการที่ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทได้ทำไว้ และอนุมัติค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปใน
การจัดตั้งบริษัท
(3) กำหนดจำนวนเงินที่จะให้แก่ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัท (ถ้าระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน)
(4) กำหนดลักษณะของหุ้นบุริมสิทธิ (ถ้ามี)
(5) กำหนดจำนวนหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิ
(6) เลือกตั้งกรรมการ /อำนาจกรรมการ
(7) เลือกตั้งผู้สอบบัญชี และกำหนดจำนวนเงินค่าสอบบัญชี
ขั้นตอนที่ 4 จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
4.1 ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัท ต้องมอบงานแก่คณะกรรมการที่ได้รับเลือกตั้ง ภายใน 7 วัน นับแต่วัน
ประชุมจัดตั้งบริษัท
4.2 คณะกรรมการต้องเรียกให้ผู้จองหุ้นชำระเงินค่าหุ้นเต็มจำนวน
4.3 คณะกรรมการต้องยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ภายใน 3 เดือน นับแต่วันประชุมจัดตั้งบริษัท
4.4 เอกสารที่ต้องใช้
- คำขอจดทะเบียน (แบบ บมจ. 101)
- รายการจดทะเบียนบริษัท (แบบ บมจ.005)
- บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท (แบบ บมจ.006)
- ข้อบังคับของบริษัท
- สำเนารายงานการประชุมตั้งบริษัท
- หนังสือของธนาคาร แสดงว่าได้รับชำระเงินค่าหุ้น
- สำเนาหนังสือแจ้งให้โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินให้บริษัท (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)

หน้าที่ของบริษัทมหาชนจำกัด
1. บริษัทต้องยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น วันประชุมสามัญประจำปีต่อนายทะเบียนภายใน 1 เดือน นับแต่วันเสร็จการประชุม
2. บริษัทต้องจัดส่งรายงานประจำปี สำเนางบการเงิน สำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับ อนุมัติงบการเงิน การจัดสรรกำไร และการแบ่งเงินปันผลไปยังนายทะเบียนภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติงบการเงินนั้นและต้องโฆษณาทางหนังสือพิมพ์อย่างน้อย 1 วัน
3. บริษัทต้องจัดทำป้ายชื่อไว้หน้าสำนักงานแห่งใหญ่และสำนักงานสาขา
4. บริษัทต้องแสดงชื่อ ที่ตั้งสำนักงาน และเลขทะเบียนไว้ในจดหมายประกาศใบแจ้งความ ใบส่งของและใบเสร็จรับเงิน
5. บริษัทต้องจัดทำใบหุ้นมอบแก่ผู้ถือหุ้นภายใน 2 เดือน นับแต่วันที่ได้รับจดทะเบียนเป็น บริษัทมหาชนจำกัด หรือนับแต่วันที่ได้รับเงินค่าหุ้นครบและได้จดทะเบียนเพิ่มทุนแล้ว
6. บริษัทต้องจัดทำทะเบียนผู้ถือหุ้น ทะเบียนกรรมการ รายงาน การประชุมคณะกรรรมการ และรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เก็บไว้ ณ สำนักงานแห่งใหญ่หรือเก็บไว้ที่บุคคลอื่นที่ได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบแล้ว
7. บริษัทต้องจัดทำและเก็บรักษา บัญชี งบดุล บัญชีกำไรขาดทุน รวมทั้งให้ผู้สอบบัญชี ตรวจสอบ และนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ
8. บริษัทต้องจัดส่งรายงานประจำปีของคณะกรรมการ งบดุล บัญชีกำไรขาดทุนที่ผู้สอบบัญชี ตรวจสอบแล้ว ให้ผู้ถือหุ้นพร้อมหนังสือนัดประชุมสามัญประจำปี
9. บริษัทต้องโฆษณาทางหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเอกสารดังต่อไปนี้
9.1 หนังสือนัดประชุมตั้งบริษัท
9.2 หนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น
9.3 การจ่ายเงินปันผล
9.4 งบดุลที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติ
9.5 การเพิ่มทุนและลดทุน ภายหลังได้รับจดทะเบียนแล้ว

กิจการที่กฎหมายกำหนดระยะเวลาในการยื่นจดทะเบียน
1. ส่งเอกสารการขายหุ้นหรือหุ้นกู้ต่อประชาชนให้นายทะเบียนภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
2. ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทต้องส่งหนังสือนัดประชุม ระเบียบวาระการประชุม เอกสารที่จะให้ที่ประชุม จัดตั้งบริษัทพิจารณาให้สัตยาบันหรืออนุมัติ โดยมีผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทสองคนรับรองว่าถูกต้องพร้อมด้วยร่าง ข้อบังคับของบริษัทไปยังนายทะเบียนไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนวันประชุม
3. ให้คณะกรรมการดำเนินการขอจดทะเบียนบริษัทภายใน 3 เดือน นับแต่วันประชุมจัดตั้ง บริษัทเสร็จ
4. ให้คณะกรรมการดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระ กรรมการ อำนาจกรรมการ สำนักงานแห่งใหญ่และสำนักงานสาขาของบริษัท ภายใน 14 วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
5. บริษัทเพิ่มทุนหรือลดทุนได้ โดยนำมติที่ประชุมไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน ภายใน
14 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมลงมติ
(1) จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้ว (เพิ่มทุน) ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับชำระ เงินค่าหุ้นครบ
(2) จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้ว (ลดทุน) ภายใน 14 วัน เมื่อพ้นกำหนดเวลาการ คัดค้าน
ของเจ้าหนี้
6. จดทะเบียนควบบริษัท ภายใน 14 วัน นับแต่วันเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกัน
7. ผู้ชำระบัญชีต้องจดทะเบียนเป็นผู้ชำระบัญชี จดทะเบียนเลิกบริษัทและโฆษณาการเลิก บริษัททางหนังสือพิมพ์ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
8. ผู้ชำระบัญชีต้องส่งงบการเงินที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติพร้อมด้วยรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ให้นายทะเบียนภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ
9. ผู้ชำระบัญชีต้องจัดทำรายงานการชำระบัญชีพร้อมกับบัญชีรายจ่ายในการชำระบัญชี ต่อนายทะเบียนทุกระยะ 3 เดือน นับแต่วันได้รับการแต่งตั้งจนกว่าจะเสร็จสิ้นการชำระบัญชี
10. ผู้ชำระบัญชีต้องจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติรายงานผลการชำระบัญชี พร้อมกับส่งมอบบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชี
11. กรณีบริษัทเอกชนประสงค์จะแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด คณะกรรมการที่ได้รับ แต่งตั้งใหม่ ต้องจดทะเบียนแปรสภาพบริษัทเอกชนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ภายใน 14 วัน นับแต่วัน เสร็จสิ้นการประชุม

หุ้นสามัญฯ
การที่บริษัทจำกัดจะสามารถระดมเงินทุนจากประชาชนได้จะต้องดำเนินการแปรสภาพให้เป็นบริษัทมหาชนจำกัดก่อน ภายใต้พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 โดยพระราชบัญญัติดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนผู้ถือหุ้น

ในการยื่นคำขอจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทอาจยื่นคำขอภายหลังจากได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และเสนอขายหุ้นต่อประชาชนแล้ว หรืออาจยื่นคำขอต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมกันก็ได้ (ยื่นแบบคู่ขนาน) โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งผลการพิจารณาภายใน 30 วันนับแต่วันที่เอกสารครบถ้วน ทั้งนี้ในการยื่นคำขอต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องมีที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และมีความเป็นอิสระจากบริษัทผู้ยื่นคำขอร่วมจัดทำคำขอด้วย

หมายเหตุ :
• รายชื่อที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับความเห็นชอบจาก สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สามารถหาได้ที่ http://www.sec.or.th
• การแปรสภาพบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัดสามารถหารายละเอียดได้ที่กรมทะเบียนการค้ากระทรวงพาณิชย์ http://www.moc.go.th
• การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนสามารถหารายละเอียดได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต http://www.sec.or.th

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 30, 2012 6:14 pm
โดย INDEPENDENT82
รบกวนขอถาม คุณ winnermax ครับ

1. รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

(จากข้อมูลข้างบนบริษัทนี้ไปจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพานิชย์ใช่ไหมครับ ยังไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ และจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้นนี้ก็จำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้วนอกตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ)

2. รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

(จากข้อมูลข้างบนที่บอกว่าบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว
2973.09 ล้านหุ้นนี้จำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าตามราคาพาร์หรือเปล่าครับ สูงกว่าราคาพาร์ได้ไหม หรือต่ำกว่าได้ไหมครับ)

3. รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น

จากข้อมูลข้างบนจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ 2,973,095,330 หุ้นนี้เกิดจากการที่นำหุ้นที่ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2,973,095,330 หุ้นนอกตลาดมาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ
และจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น(ตัวหนังสือสีน้ำเงิน) นี้ก็ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้วผ่านตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ

4. % การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 80.86 หมายถึงอะไรครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 30, 2012 10:43 pm
โดย winnermax
0
UpvoteDownvote
รบกวนขอถาม คุณ winnermax ครับ

1. รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

(จากข้อมูลข้างบนบริษัทนี้ไปจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพานิชย์ใช่ไหมครับ ยังไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ และจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้นนี้ก็จำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้วนอกตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ)

2. รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

(จากข้อมูลข้างบนที่บอกว่าบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว
2973.09 ล้านหุ้นนี้จำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าตามราคาพาร์หรือเปล่าครับ สูงกว่าราคาพาร์ได้ไหม หรือต่ำกว่าได้ไหมครับ)

3. รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น

จากข้อมูลข้างบนจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ 2,973,095,330 หุ้นนี้เกิดจากการที่นำหุ้นที่ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2,973,095,330 หุ้นนอกตลาดมาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ
และจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น(ตัวหนังสือสีน้ำเงิน) นี้ก็ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้วผ่านตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ

4. % การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 80.86 หมายถึงอะไรครับ


1. ตัวอย่างนี้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครับ แต่หลักทรัพย์หุ้นสามัญหากมีการออกเพิ่มต้องไปนำไปจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดฯ ตามกฎเกณฑ์ของ ตลท.
2. บริษัทนี้ออกจำหน่่ยหุ้น สูง หรือต่ำกว่ามูลค่า นั้นต้องตามไปดูงบแสดงฐานะการเงิน ในส่วนของผู้ถือหุ้น หากจำหน่ายสูงจะมีส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญแสดงอยู่ ในทางตรงข้ามหากขายต่ำกว่ามูลค่า ก็จะมีรายการส่วนต่ำกว่ามูลค่าแสดงอยู่ หากขายได้ตามมูลค่าพอดี จะไม่มีรายการส่วนเกินหรือส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นแสดงครับ
3. การขายออกจำหน่ายหุ้นในครั้งแรกต้องทำนอกตลาดเสมอครับ เพราะตลาดหลักทรัพย์ทำหน้าที่เป็นตลาดรอง(secondary market) ไม่ได้ทำหน้าที่ดป็นตลาดแรก(primary market)
4. หมายถึงหุ้นที่อยู่ในระบบไร้ใบหุ้น (scripless) ซึ่งบริษัทศูนย์รับฝากทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ที่เป็นบริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะทำหน้าที่ดูแลหลักทรัพย์ในส่วนนี้ ส่วนนอกเหนือจากนี้จะเป็นหุ้นสามัญที่มีการออกใบหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเหมือนที่เราพบได้ทั่วไปในบริษัทจำกัด หุ้นในระบบในระบบไร้ใบหุ้นให้ความสะดวกในการซื้อขายและส่งมอบ และสามารถลดขั้นตอนด้านเอกสารการโอนหุ้น ไม่ต้องเสียเวลาการพิสูจน์ว่าใบหุ้นที่นำมาซื้อขายเป็นของจริงหรือไม่

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 01, 2012 7:40 am
โดย INDEPENDENT82
winnermax เขียน:
0
UpvoteDownvote
รบกวนขอถาม คุณ winnermax ครับ

1. รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

(จากข้อมูลข้างบนบริษัทนี้ไปจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพานิชย์ใช่ไหมครับ ยังไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ และจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2973.09 ล้านหุ้นนี้ก็จำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้วนอกตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ)

2. รายละเอียดเกี่ยวกับทุน
ราคาพาร์ 1.00 บาท
หุ้นสามัญ
ทุนจดทะเบียน 4,997,459,800.00 บาท
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,973,095,330.00 บาท

(จากข้อมูลข้างบนที่บอกว่าบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียน 4997.45 ล้านหุ้น ได้ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว
2973.09 ล้านหุ้นนี้จำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าตามราคาพาร์หรือเปล่าครับ สูงกว่าราคาพาร์ได้ไหม หรือต่ำกว่าได้ไหมครับ)

3. รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหุ้น
หุ้นสามัญ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 2,973,095,330 หุ้น
จำนวนหุ้นชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น

จากข้อมูลข้างบนจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ 2,973,095,330 หุ้นนี้เกิดจากการที่นำหุ้นที่ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2,973,095,330 หุ้นนอกตลาดมาจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ
และจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว 2,973,095,330 หุ้น(ตัวหนังสือสีน้ำเงิน) นี้ก็ออกจำหน่ายและชำระเต็มมูลค่าแล้วผ่านตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหมครับ

4. % การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 80.86 หมายถึงอะไรครับ


1. ตัวอย่างนี้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครับ แต่หลักทรัพย์หุ้นสามัญหากมีการออกเพิ่มต้องไปนำไปจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดฯ ตามกฎเกณฑ์ของ ตลท.
2. บริษัทนี้ออกจำหน่่ยหุ้น สูง หรือต่ำกว่ามูลค่า นั้นต้องตามไปดูงบแสดงฐานะการเงิน ในส่วนของผู้ถือหุ้น หากจำหน่ายสูงจะมีส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญแสดงอยู่ ในทางตรงข้ามหากขายต่ำกว่ามูลค่า ก็จะมีรายการส่วนต่ำกว่ามูลค่าแสดงอยู่ หากขายได้ตามมูลค่าพอดี จะไม่มีรายการส่วนเกินหรือส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นแสดงครับ
3. การขายออกจำหน่ายหุ้นในครั้งแรกต้องทำนอกตลาดเสมอครับ เพราะตลาดหลักทรัพย์ทำหน้าที่เป็นตลาดรอง(secondary market) ไม่ได้ทำหน้าที่ดป็นตลาดแรก(primary market)
4. หมายถึงหุ้นที่อยู่ในระบบไร้ใบหุ้น (scripless) ซึ่งบริษัทศูนย์รับฝากทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ที่เป็นบริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะทำหน้าที่ดูแลหลักทรัพย์ในส่วนนี้ ส่วนนอกเหนือจากนี้จะเป็นหุ้นสามัญที่มีการออกใบหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเหมือนที่เราพบได้ทั่วไปในบริษัทจำกัด หุ้นในระบบในระบบไร้ใบหุ้นให้ความสะดวกในการซื้อขายและส่งมอบ และสามารถลดขั้นตอนด้านเอกสารการโอนหุ้น ไม่ต้องเสียเวลาการพิสูจน์ว่าใบหุ้นที่นำมาซื้อขายเป็นของจริงหรือไม่
ขอบคุณ คุณ winnermax มากครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2012 8:58 pm
โดย INDEPENDENT82
1. หุ้น IPO คืออะไรครับ
2. การซื้อหุ้นครั้งแรกนอกตลาดเราจะซื้อได้จากที่ไหนครับ และเราจะรู้ข่าวได้อย่างไรว่าบริษัทเปิดขายหุ้นครั้งแรก

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2012 8:47 am
โดย winnermax
1. หุ้น IPO คืออะไรครับ
2. การซื้อหุ้นครั้งแรกนอกตลาดเราจะซื้อได้จากที่ไหนครับ และเราจะรู้ข่าวได้อย่างไรว่าบริษัทเปิดขายหุ้นครั้งแรก

1.Initial Public Offering หรือ IPO หมายถึง การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนในครั้งแรก
2.ติดตามข่าวสารได้จากเวปไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย www.set.or.th คลิ๊กดูที่หุ้นไอพีโอ แล้วหากเราสนใจหุ้นที่จำหน่ายให้ดูข้อมูลใน Filing ว่าบริษัทแต่งตั้งให้ใครเป็นผู้จัดจำหน่าย (Underwriter) แล้วหากจะซื้อให้ติดต่อไปที่บริษัทผู้จัดจำหน่าย เพื่อขอใบจองซื้อหุ้น ซึ่งหากบริษัทผู้จัดจำหน่ายเป็น Broker ที่เราซื้อขายหุ้นด้วยแล้วจะได้รับความสะดวกอย่างมาก เพราะหุ้นบางตัวอาจมีผู้สนใจมาก จนกระทั่งเราไม่สามารถจองซื้อได้ครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2012 7:02 am
โดย INDEPENDENT82
winnermax เขียน:
1. หุ้น IPO คืออะไรครับ
2. การซื้อหุ้นครั้งแรกนอกตลาดเราจะซื้อได้จากที่ไหนครับ และเราจะรู้ข่าวได้อย่างไรว่าบริษัทเปิดขายหุ้นครั้งแรก

1.Initial Public Offering หรือ IPO หมายถึง การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนในครั้งแรก
2.ติดตามข่าวสารได้จากเวปไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย http://www.set.or.th คลิ๊กดูที่หุ้นไอพีโอ แล้วหากเราสนใจหุ้นที่จำหน่ายให้ดูข้อมูลใน Filing ว่าบริษัทแต่งตั้งให้ใครเป็นผู้จัดจำหน่าย (Underwriter) แล้วหากจะซื้อให้ติดต่อไปที่บริษัทผู้จัดจำหน่าย เพื่อขอใบจองซื้อหุ้น ซึ่งหากบริษัทผู้จัดจำหน่ายเป็น Broker ที่เราซื้อขายหุ้นด้วยแล้วจะได้รับความสะดวกอย่างมาก เพราะหุ้นบางตัวอาจมีผู้สนใจมาก จนกระทั่งเราไม่สามารถจองซื้อได้ครับ
ขอบคุณ คุณ winnermax มากครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2012 7:03 am
โดย INDEPENDENT82
1. หนังสือชี้ชวน คืออะไรครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2012 9:38 am
โดย winnermax
“หนังสือชี้ชวน” หมายความว่า เอกสารใด ๆ ที่ออกโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาชี้ชวนให้บุคคลอื่นจองซื้อหรือซื้อหลักทรัพย์ที่ตนหรือบุคคลอื่นออกหรือเสนอขาย
โดยต้องมีข้อมูลตามที่ กลต. กำหนด เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้สนใจที่จะซื้อหลักทรัพย์ได้ศึกษาเกี่ยวกับกิจการ โครงการ รวมทั้งความเสี่ยง ก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ครับ

Re: "ทุนจดทะเบียน…เรื่องง่ายๆที่หลายคนยังไม่เข้าใจ"

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2012 12:32 pm
โดย INDEPENDENT82
1. หุ้น IPO นี่ใช่หุ้นที่ขายให้ประชาชนเป็นครั้งแรกนอกตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่าครับ แล้วพอขายแล้วก็นำหุ้นที่ขายไปจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์

2. หุ้น : PTT
ราคาจอง : 35
วันแรกที่เข้าตลาด : 6 ธค 44
ราคาเปิดวันแรก : 35.75
ราคา ณ วันที่ 26 มิย. 45 : 35.75
คำถาม
2.1 จากข้อมูลข้างบน ราคาจอง 35 บาทนี่ใช่ราคาพาร์ไหมครับ ถ้าไม่ใช่คือราคาอะไรครับแล้วราคานี้มาจากไหน
2.2 ราคาเปิดวันแรก 35.75 บาทคืออะไรครับ