สัมมนา เจาะลึกตลาดเวียดนามและรัสเซียสำหรับSME

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2608
ผู้ติดตาม: 255

สัมมนา เจาะลึกตลาดเวียดนามและรัสเซียสำหรับSME

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ธุรกิจ SME สู่ ดิจิตัล4.0 เจาะลึก เวียดนาม และ รัสเซีย โดย สสว
วิทยากร
ดร นิ่มนวล รองผอ ฝ่ายอุตสาหกรรมอาเซียน ม ขอนแก่น
คุณ ธาราบดี ผจกทั่วไป ธ กรุงเทพ สาขา โฮจิมินซิตี้
ดร ภานุภัค ผจก All season steak buffet Pattaya

เกริ่นนำ โดยการแนะนำให้ผู้ฟังทราบถึงปูมหลังของวิทยากร

คุณ ธาราบดี อยู่ที่เวียดนาม กับภรรยาซึ่งเป็นคนไทย
เวียดนามขณะนี้เหมือนเมืองไทยสมัยก่อน
ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว อีกยี่สิบปีถึงจะเข้าช่วงสูงวัย
ธุรกิจเปลี่ยนจาก tradition to modern trade รอ sme มาทำ
คนที่นั่นชอบสินค้าไทย หลายคนไปลองตลาดแล้ว
ตลาดมีpotential มาก แต่เข้ายากมาก
ธนาคารกรุงเทพ เราเข้าไปครั้งที่สองตั้งแต่ปี89 และได้ license ธ ต่างชาติแห่งแรกของเวียดนาม
ผมเจอนักลงทุนไทย คำถามที่ถามก็เหมือนกัน
เช่น ไปไหนดี หรือ ทำอะไรดี ผมยินดีแชร์ อย่าไปลองเอง
พฤติกรรมคนเวียดนามไม่เหมือนประเทศอื่นในเอเซีย
เป็นประเทศเดียวในเอเซียที่ทานอาหารใช้ตะเกียบ
อย่าคิดว่าหิ้วของไปขายได้เงินออกมา
ถ้าทำแบบนั้นจะถูกล็อตหมด ต้องจดทะเบียนก่อน ค่อยไปค้าขายได้
ต้องไปแบบformation เท่านั้น
ไม่เหมือนไปขายตามชายแดน ลาว เวียดนาม

โอกาสในการขายเป็นอย่างไร
ก่อนอื่นต้องพูดถึงศก เวียดนามสมัยก่อนเงินเฟ้อ20%กว่า
ดอกเบี้ย20% ตั้งแต่ปี2012 รัฐบาลเปลี่ยนทีมศกใหม่หมด
ศกหลังจากนี้เติบโตอย่างมั่นคง GDP 6-7%
เงินเฟ้อต่ำ เป็นข้อดี
ต่อมา ดูประชากร คนอายุ65ปี แค่7%. ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว 69.4%
Retail market growth 10%กว่า
คนชั้นกลาง บริโภคมากกว่าคนที่มีรายได้ต่ำ และ คนที่มีรายได้สูง
ที่เวียดนาม คนชั้นกลางจะเพิ่มจาก10.ล้านคนเป็น 30ล้านคน
แนะนำต้องรีบไปเดี๋ยวนี้เลย เมื่อก่อนเวียดนามใช้สินค้าจีน
แต่มีปัญหาชายแดน เลยต้องหาสินค้าอื่นมาแทนสินค้าจีน เลยมาซื้อสินค้าไทย
หลายสิบปีที่ผ่านมา สินค้าไทยสร้างภาพพจน์ที่ดี เช่น สินค้าของซีพี หรือ
เครื่องดื่มชูกำลัง เรดบลู เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน

เวลาไปสำรวจตลาด ต้องอยู่อย่างต่ำสามสัปดาห์ ทำให้มีโอกาสในการขายมากขึ้น
และประสบความสำเร็จ แต่ถ้าไม่อยากไป ขายผ่านdistribution ก็ยังต้องไปหาเอง
ว่าเจ้าไหนดี หรือไปหาข้อมูลจาก DITP หรือ กรมส่งเสริมการส่งออก
แนะนำว่าควรลงตลาดเองดีกว่า
สินค้าต้องมีการจดทะเบียนตราสินค้าก่อนขาย ไม่เช่นนั้นถ้ายี่ห้อซ้ำกับที่จดแล้วจะขายไม่ได้
ราคาค่าจดทะเบียนตราสินค้าประมาณ หกถึงเจ็ดหมื่นบาท แต่คุ้มค่ามาก
ถ้าvolumeมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องตั้งtrading companyออกมาขายเอง
เอาคนที่อยู่เวียดนามซึ่งเป็นคนหนุ่มๆ ที่อยากอยู่เวียดนามนานๆ
ให้เรียนรู้ตลาด หรือ เจ้าของมาอยู่เอง เรียนรู้สัก2-3ปี
หลังปีที่สามจะกำไรมหาศาล local connection
เราต้องเอาคนแข็งๆ และ ไม่ควรประหยัดเรื่องคนตอนช่วงเริ่มต้น
โดยใช้คนไทยมาบุกตลาดก่อน หลังจากนั้นค่อยให้คนเวียดนามมาทำต่อ

ขอสลับไปที่รัสเซีย ถามคุณภานุภัค
ปัญหาคือเราไม่ค่อยไปกัน อาจารย์ไปแล้วชอบมาก ยาสีฟันสมุนไพรเป็นสิ่งที่คนรัสเซียชอบมาก
ดร ภานุภัค มีธุรกิจกับรัสเซีย
มีวันนี้ได้เพราะภาษารัสเซีย
ส่วนของที่นิยมเพราะเคยใช้มาก่อน หรือ distributeที่นั่นเคยเอาไปขาย

ประวัติของ ดร ภานุภัค
มีชีวิตอยู่ได้เพราะภาษารัสเซีย ผมจบ ม ราม เอกภาษารัสเซียคนแรกเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว
ผมใช้ภาษารัสเซียมาตลอดยี่สิบปี
เริ่มทำงานมัคคุเทศก์ เคยนำคนรัสเซียไปเที่ยว
ได้ทุนเรียนโทจากรัสเซีย
จบเอกจากม บูรพา วิชาการสอน งานอดิเรก คือสอนหนังสือ
เปิดร้านอาหาร เริ่มจากคนรัสเซีย ผมกำไรจากคนรัสเซีย
มีมุมมองบอกได้ว่า คนรัสเซียชอบอะไร
ไม่แนะนำให้ค้าขายกับคนรัสเซีย เพราะปัญหาจากภาษาเป็นหลัก
การที่ทำอะไรที่คนอื่นไม่ทำ มันจะเเสดงออกมาในช่วงระยะนึง
เช่นตัวผม และในที่สุดมันจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต
เมื่อสิบปีที่แล้ว คนรัสเซียมาเที่ยวไทยมาก จนกระทั่งเกิดวิกฤตค่าเงินเมื่อสองปีก่อน
กงศุลของรัสเซียมีที่พัทยาและภูเก็ต
หลังจากถูกคว่ำบาตรจากยูโร ก็มาสานสัมพันธ์กับทางเอเซีย กฏเกณฑ์ก็ลดหย่อนลง
ต้นปี ทูตจากรัสเซีย หลังจากถูกแซงชั่นจากยูโร ก็มามองเอเซีย
เรามีความสัมพันธ์กับรัสเซียมา120ปี
คนมาเที่ยวเมืองไทยน้อยลงกว่าเดิม แต่ใช้เงินมากขึ้น ได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น
เพราะค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากค่าเงินอ่อนลง

ปี2007 พระราชินีเคยเสด็จไปเยือนรัสเซียจากการทูลเชิญในหลวงของปูติน
และได้รับทุนเรียนเอก จากการเป็นล่ามแปลส่วนพระองค์ช่วงนั้น

คนไทยมองข้ามปัญหาหรือเปล่าเพราะกำแพงภาษา
เราควรไปเรียนภาษาใหม่ๆเพื่อเป็นแต้มต่อในการทำธุรกิจ

คนรัสเซีย รู้จักไทยในเรื่องของมวยไทย และ มะม่วง
ซึ่งเกิดจากการท่องเที่ยวที่พัทยา คนรัสเซียเลยรู้จักสิ่งเหล่านี้
มุมมองส่วนตัว เวลาขายของ เราต้องขายในสิ่งที่เขาอยากได้
ผมเป็นคนช่างสังเกต นักท่องเที่ยวขนอะไรจากไทยกลับไป คือ สิ่งที่เขาต้องการ

คนเวียดนามมาเที่ยว1ล้านคนต่อปี มาเดินcentral world ชอบสินค้าO-Top
นอกจากมะม่วง ยังมีมังคุด เพราะเขาชอบผลไม้ไทย
คนเวียดนามชอบสินค้าไทย ผลไม้ต้องผลไม้ไทย ข้าวต้องเป็นข้าวไทย
ชื่อสินค้า ไต ลาน xxxx
ต้องลองดูว่าตลาดต้องการอะไร ก็ทำแบบนั้นขาย โดยต้องสำรวจตลาดด้วย
ที่เวียดนาม ประเทศเป็นแนวยาวแต่ละภาคชอบไม่เหมือนกัน
คนทางใต้ปกติดูเหมือนเก่ง แต่จริงๆคนภาคเหนือเก่งกว่า คล้ายๆจีน
สินค้าที่ขายดีในภาคใต้ของเวียดนาม อาจไม่ตอบรับถ้าไปขายที่ภาคเหนือ

เวียดนามมีสองตลาด
ประเทศเขายาว3,300กม แต่ละภาคชอบไม่เหมือนกัน
เทรนที่มาแน่นอน เวลาซื้อของของคนไทย ซื้อของในhyper
แต่คนเวียดนามขี่มอเตอร์โซด์ ซื้อของทุกวัน ดังนั้น modern tradeที่นั่นไม่ค่อยโต
แต่convenient store โต เช่น BJC 150แห่ง มีโอกาสโตเหมือน 7-11
Bigc 33 location ,
Robinson 2 location
เราใช้เขาเอาสินค้าไปลองตลาดได้

แต่ที่รัสเซียไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของห้างได้ ได้แต่ส่งสินค้าไปขาย
รัสเซียไม่เหมาะกับให้เราฝากขายผ่านdistribution
คนรัสเซียไม่ค่อยทำอะไรตรงๆ ดังนั้นส่งสินค้าไปให้เขารับผิดชอบในรัสเซีย
เอกสารที่ออกมาก็ให้ทางรัสเซียรับรองว่าถูกต้องก่อนส่งสินค้าให้รัสเซีย
ถ้าเราพูดภาษารัสเซียได้บ้าง ก็จะได้ประโยชน์มาก

Exhibitionทั้งสองประเทศ เราในฐานะเจ้าของต้องไปเอง
จะมีจิตใจสู้มากกว่า ให้ลูกน้องไป
อยู่นานหน่อย
แบ่งเป็นสองพวก
1.ไปให้คุ้มค่าตั๋วก็พอ
2. กลุ่มต่อมา ทำmarket testด้วย

ถ้าเราไม่คุ้นภาษา ก็จ้างเด็กไทยที่เรียนที่นั่นมาเป็นล่ามแปล
นอกจากเป็นล่าม พาเที่ยวให้ด้วย ถือว่าเป็นวิทยาทานให้น้องๆที่ไปเรียนด้วย

คนรัสเซียจะไม่ยิ้มให้กับคนแปลกหน้า
สุภาษิตของเขา พูดไปยิ้มไป เหมือนคนบ้า
เมื่อก่อนเจอคนไทย จะรู้สึกว่าคนไทยไม่จริงใจ ที่เห็นคนไทยที่ชอบทักทายยิ้มไปก่อน
ปัจจุบัน การท่องเที่ยวทำให้คนรัสเซียเข้าใจคนไทยมากขึ้น
แต่ประชากร143ล้านคนจะเข้าใจคนไทยเหมือนกันได้อย่างไร
ช่องทางการตลาดอยู่ที่นักท่องเที่ยวอย่างเดียว
ยาสีฟันดอกบัวคู่ขายดีที่สุด ขายในห้างหรู หลอดละ500กว่าบาท
ยาสีฟันตลับก็ขายดี. โลชั่นก็ขายดี ยิ่งเป็นรสมะม่วง ก็ยิ่งหอม

สินค้าTop5
สังเกตได้จากสินค้าที่ชอบมาจาก สมุนไพร หรือ ผลไม้
ดังนั้นสินค้าอื่นอาจไม่เป็นนิยมของคนเวียดนาม

งานแฟร์ที่เวียดนาม
มีโชว์ข้าวหอมมะลิ และ ผลไม้ไทย
ปรากฏว่างานยังไม่เปิด เจ้าที่นำผลไม้มาขาย เพียง1 ชม ของหมดเกลี้ยง
ส่วนข้าว คนเวียดนามดมกลิ่นแล้ว บอกว่าเป็นข้าวหอมมะลิ
เขาอยากได้มาก แต่เราไม่ได้ขายเพราะเอามาโชว์อย่างเดียว โดนต่อว่าอย่างมาก
ส่วนตระกร้าก็ขายได้ เหมือนซื้อกระเป๋าชาแนล

สินค้าเวียดนามที่survey ได้แก่
การศึกษา โรงเรียน พัฒนาเยาวชน
ร้านอาหาร entertainment ตอนนี้ให้เป็นเจ้าของร้านอาหารได้แล้ว
Personal care
Food and beverage
Household product
Home appliance

เวียดนามเป็นสถานที่เหมาะกับการตั้งโรงงานมากที่สุด
เพราะการเมืองนิ่ง ประชากรเยอะ มีคนหนุ่มสาวเยอะ potentialสูง
Laborหาง่าย และ ต้นทุนแข่งขันได้ ส่งออกภาษี0%
Tuna export to EU tax reduce from 20% to 0%
อินฟราดีขึ้น
เหตุผลที่ปลาสามแม่ครัวไปตั้งโรงงานที่เวียดนามเพราะ หาปลาง่าย ต้นทุนการผลิตถูกกว่า คนบริโภคเยอะ
ยุโรปมีทำFTAกับรัสเซียและเวียดนาม ทำให้ลดต้นทุนภาษีนำเข้า

สินค้าที่รัสเซียชอบและซื้อกลับบ้าน สังเกตจากคนรัสเซียที่มาอยู่ที่นี่ได้แนะนำ
สินค้าไทยผ่านyoutube ได้แก่
หมอนยางพารา
น้ำมันมะพร้าว ยี่ห้อไทยเพรียว
ยาหม่องตราเสือ
เครื่องสำอางหอยทาก snail
แนะนำให้ไปซื้อที่เทสโก้ โลตัส
ส่วนผลไม้ เช่น แตงโม ลำใย มังคุด ลิ้นจี่ มะม่วง
ไข่มุก
น้ำหอม ซื้อในห้างและสามารถทำrefund vatได้ด้วย โดยซื้ออย่างน้อยสองพันบาทขึ้นไป
เหล้าแสงโสม

จากข้อมูลของทางการ คนรัสเซียชอบสิบอันดับแรก
1. พืชผัก ผลไม้
2. ข้าว
3. สับประรดปรุงแต่ง
4. ปลาทูน่า
5. ปลาแช่แข็ง
6. อาหารสุนัข แมว
7. ข้าวโพดกระป๋อง
8. ปลาป่นละเอียด ปลาแมคคาเรว
9. หูฉลาม ปลาช่อน ปลานิลแช่แข็ง
10. กุ้งแช่แข็ง

ส่วนที่เวียดนาม มีคนใช้internet 35 ล้านคน
เราเอาสินค้าลงผ่านfacebook ขายได้
ทำmarket survey โดยทำเป็นภาษาเวียดนาม
30% shopping via online and pay by cash on delivery
E-commerce เป็นช่องทางที่น่าสนใจ

ส่วนรัสเซีย ก็ไม่นิยมจ่ายบัตรเครดิต
นัดชำระเงินสด แต่อย่าเชื่อเขามาก
ต้องได้เงินขั้นต่ำที่เรามั่นใจ ค่อยปล่อยของออก

การขอ อย ต้องทำให้ถูกต้อง รัสเซียใช้เวลาสองสัปดาห์
ส่วนปลา จะต้องเชิญเจ้าหน้าที่รัสเซียมาตรวจสอบที่ก่อนส่ง

สรุป เวียดนาม
1. ขายผ่านexbihition ขายดี แต่ ถ้าขายจริงอาจไม่เหมือนกัน
ปกติคนที่นั่นชอบลองของใหม่และคิดว่าของถูกกว่าปกติ
2. ทุกธุรกิจที่ไปลงทุน จะขาดทุนเฉลี่ย3ปีแรก ทีมงานต้องอยู่ยาวเกินสามปี
3. joint แล้วเจ็งประจำ
4 ตลาดเหนือและใต้ไม่เหมือนกัน
5 คนเวียดนามaggressive คนที่มีประสบการณ์ค่าแรงแพงมาก
6 อย่าใช้nomineeทำ ยกเว้นเถ้าแก่มีเมียเวียดนาม
7 ต้องทำตามกฏหมาย มีกฏลงโทษปรับย้อนหลังห้าปี
8 ถ้าไปเป็นกลุ่ม เป็น clusterจะดีกว่า เช่น Japanมาแบบนี้
9 connection เป็นสิ่งสำคัญ
10 สินค้าไทย เป็นที่นิยม พิมพ์ยี่ห้อเป็นภาษาไทย
11 strategy
12 ขายเป็นเงินสด
13 ไม่ต้องกลัวค่าเงิน ทำเเบบnatural hedgeดีกว่าเสียค่าhedge

ส่วนรัสเซีย
ขายของที่เขาอยากได้ ส่วนการส่งออก หาคนมาซื้อของของเราได้
หาคนที่จ่ายให้เราดี เอาชัวร์ดีกว่าหมด

สุดท้ายขอขอบคุณวิทยากรทุกท่านมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
neuhiran
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 817
ผู้ติดตาม: 9

Re: สัมมนา เจาะลึกตลาดเวียดนามและรัสเซียสำหรับSME

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ :D
โพสต์โพสต์