หน้า 1 จากทั้งหมด 2

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 07, 2003 11:33 pm
โดย chatchai
นักลงทุนชาวอเมริกันนายหนึ่งกำลังยืนอยู่บนท่าเรือ ณ ชายฝั่งหมู่บ้านเม็กซิกันแห่งหนึ่ง ขณะที่มีเรือประมงลำหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาจอด แล้วเขาก็ได้เห็นปลาโอครีบเหลืองตัวโตๆกองอยู่บนเรือลำนั้น

ชาวอเมริกันเอ่ยชมชาวประมงพื้นเมืองที่จับปลาได้เก่ง ก่อนจะถามว่า " คุณใช้เวลาในการจับปลาพวกนี้นานไหม"

ชาวประมงตอบว่า " ครู่เดียวเท่านั้นแหละครับ "

" อ้าว ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่อยู่นานอีกหน่อยเพื่อที่จะได้ปลามามากกว่านี้ล่ะ " เขาสงสัย

คนถูกถามตอบเรียบๆ " นี่ก็พอเลี้ยงครอบครัวในวันนี้แล้วครับ "

นักลงทุนผู้มาเยือนถามใหม่ " แล้วคุณเอาเวลาที่เหลือไปทำอะไร "

" ผมก็ยุ่งทั้งวันแหละครับ นอนตื่นสายๆ จับปลาวันละนิดหน่อย เล่นกับลูกๆ นอนพักกลางวันกับมาเรีย ภรรยาของผม เดินเล่นในหมู่บ้าน จิบไวน์และเล่นกีต้าร์กับเพื่อนฝูงในตอนเย็นๆ "

คนอเมริกันจึงพูดอย่างกระหยิ่มว่า " ผมจบเอ็มบีเอจากฮาร์วาร์ด สามารถให้คำแนะนำคุณได้นะ อันดับแรกก็คือ คุณน่าจะจับปลาให้ได้เยอะกว่านี้ เพื่อที่จะได้ซื้อเรือลำโตๆ ผมจากการมีเรือลำโตก็จะทำให้คุณมีเงินมากพอที่จะซื้อเรือเพิ่มขึ้น จากนั้นคุณก็นำปลาที่จับได้ไปขายที่โรงงานโยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางแต่อย่างในตอนนี้หรือไม่ก็สร้างโรงงานเสียเอง ซึ่งคุณก็จะสามารถควบคุมได้ทั้งหมดนับตั้งแต่กระบวนการผลิต ผลผลิต ตลอดจนการจัดจำหน่าย ถึงตอนนั้นคุณก็สามารถย้ายจากหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆแห่งนี้ไปอยู่ที่เมืองเม็กซิโกซิตี้ จากนั้นก็ขยับขยายย้ายไปแอลเอ แล้วก็ไปนิวยอร์ก ที่ซึ่งคุณจะสามารถขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองได้ยิ่งขึ้น "

เมือฟังมาถึงตอนนี้ ชาวประมงก็ถามว่า " แล้วทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาสักกี่ปี "

" สิบห้าถึงยี่สิบปี "

" จากนั้นละ "

คนอเมริกันหัวเราะร่วนและบอกว่า " ที่นี้ก็จะถึงช่วงที่สำคัญที่สุดในชีวิตละ เมื่อโอกาสเหมาะ คุณก็ควรจะทำหนังสือชี้ชวนขายหุ้น เพื่อขายหุ้นทั้งหมดให้แก่สาธารณะ แล้วคุณก็จะกลายเป็นมหาเศรษฐี อาจทำเงินได้เป็นล้านๆเหรียญเลยก็ได้นะ "

" เป็นล้านๆ.......แล้วยังไงล่ะ "

คนอเมริกันแจกแจงต่ออย่างเพลิดเพลิน

" จากนั้นคุณก็ค่อยเกษียณตัวเอง ย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ นอนตื่นสายๆ ตกปลาวันละเล็กๆน้อยๆ เล่นกับลูกๆ นอนพักกลางวันกับภรรยาที่บ้าน ตอนเย็นก็เดินเล่นในหมู่บ้าน จิบไวน์ และเล่นกีต้าร์กับเพื่อนฝูง..."

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 08, 2003 4:18 am
โดย moo
อย่างไรหรือครับพี่ฉัตรชัย หมายถึงสูงสุดคืนสู่สามัญ ตีความหมายไม่เก่ง โปรดชี้แนะด้วยครับ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 08, 2003 8:13 am
โดย CK
คุณ moo ชาวประมงก็บอกชาวอเมริกันว่า

"ก็ที่ผมทำอยู่นี่ไงครับ (ทำไมต้องเหนื่อยอีก 20 ปีเล่า)"

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 09, 2003 12:30 am
โดย moo
จริงแฮะ พี่ CK นี่สุดยอดจริงๆ ยืนยันอยากให้พี่เขียนหนังสือสักเล่มครับ(หรือว่าเขียนอยู่แล้ว )โปรดแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 08, 2010 10:52 am
โดย cherokee
สมแล้วครับ ที่อยู่ใน คลังกระทู้คุณค่า

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 08, 2010 12:01 pm
โดย VI Wannabe
:bow:
คมจริงๆ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 08, 2010 1:58 pm
โดย ant_vi
:bow: คมกริบ บาดลึกในจิตใจของมนุษย์เงินเดือนคนนี้เลยครับ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 08, 2010 3:32 pm
โดย kabu
ขอบคุณสำหรับบทความดีดีครับ  :)

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 08, 2010 3:36 pm
โดย tritara
แล้วถ้าอีกสองปีต่อมา มาเรียเกิดป่วยเป็นโรคไตล่ะครับ จะปล่อยเธอตายไปเลยรึเปล่า :?:

ผมไม่ได้มาขวางโลกนะครับ แต่รู้สึกว่าในชีวิตเราก็ต้องมี MOS ไว้เหมือนกัน ไม่เพียงแต่ในหุ้นครับ  :8)

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 08, 2010 3:54 pm
โดย chowbe76
ฟังเรื่องนี้แล้วคล้ายๆกับที่เคยได้ยินเรื่องตาแก่นั่งแช่ตีนในสระหลังวัดเลยครับ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 11:31 am
โดย KentaII
แล้วถ้าอีกสองปีต่อมา มาเรียเกิดป่วยเป็นโรคไตล่ะครับ จะปล่อยเธอตายไปเลยรึเปล่า  

ผมไม่ได้มาขวางโลกนะครับ แต่รู้สึกว่าในชีวิตเราก็ต้องมี MOS ไว้เหมือนกัน ไม่เพียงแต่ในหุ้นครับ
เห็นด้วยเลยครับ ขณะที่เขาหาปลาอยู่นั้น ถามว่าเขามีเงินเก็บเท่าไหร่ ถ้าเกิดวันนึง
1. มาเรียป่วยเป็นโรคไต หรือมะเร็ง ที่ต้องใช้เงินรักษามากๆ
2.ลูกของเขาต้องการไปเรียนหนังสือที่ Havard และเขาสามารถสอบเข้าได้...แต่ ไม่มีเงินไปเรียน
    ในความคิดของผม เราควรยอมเหนื่อยในช่วงต้น-กลาง ของชิวิตการทำงานครับ พอเราหาเงินสำรองได้จำนวนนึง ซึ่งเพียงพอกับเหตุการณ์สำคัญๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ แล้วค่อย retire ดีกว่าครับ.....รู้อะไรไม่สู้ รู้งี้....

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 09, 2010 11:04 pm
โดย ส.สลึง
[quote="KentaII"]1. มาเรียป่วยเป็นโรคไต หรือมะเร็ง ที่ต้องใช้เงินรักษามากๆ
2.ลูกของเขาต้องการไปเรียนหนังสือที่ Havard และเขาสามารถสอบเข้าได้...แต่ ไม่มีเงินไปเรียน

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 10, 2010 3:49 pm
โดย Anti-Aircraft
คนที่บอกว่าเงินไม่สำคัญมักมายืมเงินผมครับ เพราะเขาไม่ชอบหาเงิน แต่ชอบใช้เงิน

คนที่เห็นเงินเป็นเรื่องสำคัญมักจะให้ผมยืมเงิน เพราะเขาชอบหาเงิน แต่ไม่ได้ชอบใช้เงิน

โลกเรานี่ก็แปลก :(  (ไม่ได้มาเล่นสำนวนนะ เรื่องจิงทั้งกะบิเลย)

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 11, 2010 10:42 am
โดย Tlk
จริงจริงแล้วมาเรียเป็นตัวแทนขายประกันครับ
แล้วลูกของชาวประมงจบปเอก เป็นอาจารย์ของคนท่ีมาซักลุงน่ันแหละครับ
และลุงคนนั้นก็มีพอร์ตหุ้นขนาด10พันล้านusd

คือผมกําลังจะบอกว่ากิจท่ีควรทําท่านทําแล้วและบรรลุเป้าหมายแล้ว


และคือพี่ฉัตรท่ีเคารพน่ันเอง

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 11, 2010 12:43 pm
โดย O_CHAY
[quote="tritara"]แล้วถ้าอีกสองปีต่อมา มาเรียเกิดป่วยเป็นโรคไตล่ะครับ จะปล่อยเธอตายไปเลยรึเปล่า :?:

ผมไม่ได้มาขวางโลกนะครับ แต่รู้สึกว่าในชีวิตเราก็ต้องมี MOS ไว้เหมือนกัน ไม่เพียงแต่ในหุ้นครับ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 11, 2010 2:23 pm
โดย chatchai
ผมก็เห็นด้วยว่าฐานะทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตอยู่ในยุคสมัยนี้

เราควรสะสมเงินทองเพื่อความมั่นคงของครอบครัว

เพียงแต่หลายคน  ยังคงทำงานอย่างหนัก  จนลืมครอบครัว  ลืมดูแลสุขภาพของตัวเอง  ทั้งๆที่ก็มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงมากแล้ว

ผมว่าการดำเนินชีวิตของอาจารย์ไพบูลย์เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พวกเราดำเนินตามได้เป็นอย่างดี

ดูแลสุขภาพ  ดูแลครอบครัว  ปฎิบัติธรรม  และทำงานเพื่อสังคม   :bow:    :bow:    :bow:

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 11, 2010 5:28 pm
โดย นพพร
ตาแก่ฉลาด

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 12, 2010 1:53 pm
โดย thalucoz
คมจริง ๆ ครับพี่ฉัตรชัย  :shock:

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 16, 2010 7:14 pm
โดย FullStop
เรื่องเล่าเรื่องนี้อ่านทีไร มันประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆนะครับ
ชีวิต เราสามารถทำให้มันง่ายขึ้น ได้ ในทุกๆวัน และทุกเวลา
อยู่ที่จะเลือกทำหรือไม่ทำ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 16, 2010 8:12 pm
โดย sutee_p
[quote="tritara"]แล้วถ้าอีกสองปีต่อมา มาเรียเกิดป่วยเป็นโรคไตล่ะครับ จะปล่อยเธอตายไปเลยรึเปล่า :?:

ผมไม่ได้มาขวางโลกนะครับ แต่รู้สึกว่าในชีวิตเราก็ต้องมี MOS ไว้เหมือนกัน ไม่เพียงแต่ในหุ้นครับ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 16, 2010 11:03 pm
โดย NoNameLFC
[quote="tritara"]แล้วถ้าอีกสองปีต่อมา มาเรียเกิดป่วยเป็นโรคไตล่ะครับ จะปล่อยเธอตายไปเลยรึเปล่า :?:

ผมไม่ได้มาขวางโลกนะครับ แต่รู้สึกว่าในชีวิตเราก็ต้องมี MOS ไว้เหมือนกัน ไม่เพียงแต่ในหุ้นครับ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 27, 2010 9:53 pm
โดย Paul VI
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ พี่ฉัตร  :D

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 28, 2010 10:23 am
โดย คลายเครียด
เรื่องที่คุณฉัตรชัยนำมาเล่า
น่าจะเป็นการต่อยอดมาจากเรื่องสั้นของ Heinrich Böll
นักเขียนรางวัลโนเบลชาวเยอรมันที่ชื่อว่า

Anekdote zur Senkung der Arbeitsmoral ("Anecdote to the Decline of the Work Ethic")

http://en.wikipedia.org/wiki/Anekdote_z ... beitsmoral

เวอชั่นแบบไทยๆ  คุณประสาน มฤคพิทักษ์ก็เคยเอามาดัดแปลง
ให้เป็นคนจับปลากับเศรษฐี  
ถ้าจำไม่ผิด
ใช่วัดปากน้ำ  ภาษีเจริญ  เป็นฉากของเรื่อง



พูดถึง  mos



mos  ของผมคือ  Margin  Of  Satisfaction
ใช้ทั้งในชีวิตจริง  และในการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้น

คือซื้อและถือหุ้น  
เมื่อระดับความพึงพอใจต่อราคาหุ้นตัวนั้นมีมาก
และขาย
เมื่อระดับความพึงพอใจต่อราคาหุ้นตัวนั้นเหลือน้อย



:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 28, 2010 10:25 am
โดย คลายเครียด
ชื่อนักเขียนคือ Heinrich Boll

ไม่รู้ทำไมตัดแปะแล้วกลายเป็น Heinrich Böll

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 28, 2010 10:35 am
โดย aviruth
ส่วนใหญ่คนที่ใช้ชีวิตไม่เครียดมักไม่ค่อยป่วยเป็นโรคอะไรแถวบ้านผมบ้านนอกคนอายุยืนแล้วก็มีความสุข คนเราพอจะถึงที่มีเงินเท่าใหร่ก็ตายอยู่ดี แต่เราก็ควรมืเงินเก็บบ้างแต่อย่าไปเอาเป็นเอาตายกับมันนักหนา ยิ่งเป็น vi เลือกหุ้นดีๆ ถือยาวๆ ผลตอบแทนทบต้นไปเรื่อยๆ อย่าไปเครียด ได้เท่าใหร่ถือเป็นกำไรชีวิต

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 28, 2010 11:49 am
โดย Blueblood
ชอบมากๆเลยครับ กำลังคิดๆอยู่เหมือนกันว่าควรให้ความสำคัญกับเงินน้อยลงได้แล้ว

ขอบคุณพี่ฉัตรมากๆครับ :)

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 28, 2010 1:23 pm
โดย naris
[quote="คลายเครียด"]เรื่องที่คุณฉัตรชัยนำมาเล่า
น่าจะเป็นการต่อยอดมาจากเรื่องสั้นของ Heinrich Böll
นักเขียนรางวัลโนเบลชาวเยอรมันที่ชื่อว่า

Anekdote zur Senkung der Arbeitsmoral ("Anecdote to the Decline of the Work Ethic")

http://en.wikipedia.org/wiki/Anekdote_z ... beitsmoral

เวอชั่นแบบไทยๆ

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 28, 2010 1:30 pm
โดย naris
แต่อยากจะเสริมพี่ฉัตรนิดหนึ่งนะครับ

สิ่งที่พี่ฉัตรสื่อคือคนที่ใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อหากระดาษโดยที่คิดว่ากระดาษจะทดแทนความสุขได้ แต่ไม่ใช่สอนให้คนขี้เกียจ

หลายคนที่ผมเห็น เขาพยายามจะเลียนแบบความสุขเหมือนๆกับคนตกปลา แต่ดันใช้ชีวิตเหมือนกับนายทุน สรุปว่าหาปลาก็ไม่เป็น แต่ใช้เป็นอย่างเดียว 555 คนกลุ่มนี้ต้องขยันให้ถึงที่สุดนะครับ ต้องดึงสายกีต้าร์ให้ตึงก่อน แล้วค่อยผ่อน จึงจะรู้ว่าสายกลางเป็นอย่างไร

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 28, 2010 1:51 pm
โดย booklover
ขออณุญาต copy นะครับ :D

ชาวประมงกับนักลงทุน

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 28, 2010 3:12 pm
โดย CK
naris เขียน: ยกเว้นภรรยามั๊งเฮีย ถึงแม้บางอารมณ์ระดับความพึงพอใจเหลือน้อย ก็ยังต้องถือต่อ 555
ถ้าเป็นภรรยาจริงๆ ระดับความพึงพอใจน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นะ :lol: