ทบทวน...

กระทู้การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น วีไอ มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
tenkafubu
Verified User
โพสต์: 224
ผู้ติดตาม: 0

ทบทวน...

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมว่าเรามาทบทวนแนวคิดและวิธีการของเราในการลงทุนดีกว่าน่ะครับ..ผลตอบแทนการลงทุนของผมปีนี้ได้ 4.52% และเป็นปีแรกที่มาคิด ตอนปี 46 ยังไม่ได้คิดว่าผลตอบแทนจริงเท่าไหร่?? จึงเริ่มเอาปีนี้แล้วกัน..
1..ตอนต้นปีผมตั้งใจว่าจะลงทุนแบบเอาปันผลสูงไว้ก่อนเลย น้ำหนักการลงทุนส่วนใหญ่จึงเป็นหุ้นปันผลสูง ผมเลยตั้งใจซื้อหุ้นประกันครับ pha ครับ พระเอกของเรื่อง
2..การซื้อหุ้นประกันตัวนี้ของผม เกิดจากความอยาก :twisted: ครับ..เห็นคนอื่น เห็นว่าปันผลสูง เขามีหุ้นประกันกัน ทั้งดู ROE เพิ่มขึ้นสูงหลายปีติดครับ.. รวมทั้ง PE ไม่เกิน 10 p/b ~ 1.2 NPM ก็สูงขึ้นตลอด :roll:
3..ตอนซื้อ ผมเข้าซื้อเลย พอดูตัวเลข พวกนี้คร่าวๆ ย้อนหลังจาก set.or.th เสร็จ ซึ่งตอนนั้นเพิ่งประกาศงบประจำปี46 :lol:
4..พองบ Q1/04 ออก EPS ลดลงอย่างมากครับ เมื่อเทียบกับปีก่อน ผมก็คิดว่าเป็นโอกาสแล้ว ซื้อเพิ่มเลย แต่มาดูงบใหม่ครับ eps ลดลงของกำไรจากการลงทุนที่ลดลง ผมเลยคิดว่าอย่าเพิ่ง :(
5..และถือมันมาจนปัจจุบันครับ...ไม่ยอมขาย แม้ว่าจะขาดทุนจากผลต่างราคาอย่างมากครับ..
บทเรียนที่ได้ของผม คือ
1..สูงสุดสู่สามัญ ผลตอบแทนจากตลาดที่สูงมากนั้น จะส่งให้ปีถัดไปทำได้ยากขึ้น
2..อย่าเพิ่งลงทุน จนกว่าจะดูรายละเอียดมากพอแล้ว ประกัน มีรายได้ 2 ทาง คือ เบี้ยประกัน และกำไรจากการลงทุน
3..ความน่าจะเป็นเป็นสิ่งสำคัญ ผมมาคิดความน่าจะเป็นของราคา โดยประมาณราคาหุ้นที่ผลตอบแทน 10% ซึ่งเป็นระดับราคาปีที่EPS ต่ำสุด พบว่า ผมมีโอกาสขาดทุน ถึง 42.5% ที่ระดับราคาที่ผมซื้อ ซึ่งนับว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ ที่มีอยู่
เมื่อขาดทุนแล้ว 5% ผมถามตัวเองว่าถือต่อไหม?? คำตอบคือ ถือ
เมื่อขาดทุนแล้ว 10% ผมถามตัวเองอีกว่าถือต่อไหม?? คำตอบ เหมือนเดิม
ทำไมผมถึง ถือต่อ เพราะการที่จะทำให้ได้ผลตอบแทนเท่าเดิม ต้องทำให้ได้ถึง 11.11% ซึ่งสูงมาก เมื่อมาเทียบกับปันผลที่คาดว่าจะได้ 4% ในปีหน้าแล้วก็ยังขาดทุนอยู่ดี :cry:
คำตอบ คือ ผมตัดใจขายไม่ได้ครับ จึงทำให้ผลตอบแทนทั้งพอร์ทลดลงมาก เนื่องจากสัดส่วนการลงทุนที่สูง :? เทียบไม่ได้กับปีที่แล้ว ที่ผมตัดใจขายหุ้นตัวนึง เมื่อราคาลงมา 5% อย่างไม่ลังเล
เกือบ 1 ปี กับพระ เอกของเรื่อง ที่ผมต้องทำอะไรซักอย่างในวันนึงข้างหน้า?? ครับ :)
3M Only...
Market Cap.
ภาพประจำตัวสมาชิก
house
Verified User
โพสต์: 683
ผู้ติดตาม: 1

ทบทวน...

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ข้อผิดพลาด ปีนี้เพียบเลยครับ ยังดีว่าค่าเรียนไม่แพงเท่าไหร่

ข้อแรก คือ บ้าหุ้น growth ครับ ตัวไหน ประเมินว่าจะโตนี่โดดใส่ ไม่ดูตาม้าตาเรือและยอมรับ PE ที่สูงๆ ซึ่งทำให้ margin of safety ลดลง โดย เชื่อว่าโอกาสได้สูงกว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้น(Overconfident ครับ :( ) บางตัวซื้อมาในราคาที่เรียกว่า PE impossible เลยหันไปดูทีหลังนี่ margin of safety ติดลบไปแล้วแต่ margin of loss เพียบ ที่สำคัญคือความโลภมีอิทธิพลเหนือความรู้ครับ นั่งหา intrinsic value อยู่คืนนึงพบว่าราคามัน over ไปแล้ว ยังดันซื้อเพราะเชื่อว่ามันจะขึ้นไปอีก(ในความเป็นจริงมันลงครับ) เข็ดแล้วอันนี้

ข้อถัดมา คือตัดอารมณ์ตัวเองไม่ขาด พอมันตกมากๆ under value แล้วแต่ดันไม่กล้าเก็บ พอมันขึ้นดันไล่(เพราะยังต่ำกว่าที่คำนวณได้) ข้อนี้เป็นปัญหามาก เพราะทำให้ต้นทุนหุ้นสูงโดยใช่เหตุ หลายๆตัวแทนที่จะได้ margin of safety ที่ 30 ก็เหลือ แค่ 10-15 เท่านั้น

ข้อสามคืออคติเนื่องจากรักในกิจการครับ คืออยากเป็นเจ้าของบริษัทประเภทนี้ก็เลยซื้อ ปัญหาคือ มี bias ในการวิเคราะห์ตั้งแต่ต้นจนจบ คือมองมันในแง่ดีเกินเหตุตลอด และตัดใจขายไม่ได้ (แค่ short againt port ยังทำใจไม่ได้เลยครับ) เพราะในใจลึกๆยังหวังว่าจะกลับมา เค้าแค่เป๋ไป

ข้อสุดท้าย คือขาดความรู้ความเข้าใจในธุรกิจหลายๆประเภท ทำให้ขอบเขตของหุ้นที่ลงทุนได้ถูกจำกัดลงอย่างมาก
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6491
ผู้ติดตาม: 875

ทบทวน...

โพสต์ที่ 3

โพสต์

บทเรียนที่มีค่าสำหรับปีนี้คือการขาดทุนหุ้น grand ครับ

ซื้อตั้งแต่ 3.44 บาท ถึง 1.98 บาท ได้ราคาเฉลี่ย 2.99 บาท
ทยอยขายตัดขาดทุนไปเรื่อยๆ ราคาเฉลี่ย 2.26 บาท
และถือมากถึง 25% ของพอร์ต เฉพาะตัวนี้ตัวเดียวทำเอาพอร์ตขาดทุนถึง 6.25% !! :roll:

ได้รู้จักหุ้นตัวนี้ เพราะกระทู้จากพี่เจ๋ง (แต่ไม่เคยแม้แต่จะคิด ที่จะไปโทษพี่เจ๋งเลยครับ พี่คงทราบดี) :lol:

เห็นว่าราคาลดลงมากจากราคา ipo ที่ 4.85 บาท
เข้าไปดูรายละเอียด ได้รู้ว่าที่ขาดทุนปีที่แล้วเพราะปิดปรับปรุงห้องพักครับ
และที่น่าสนใจที่สุดคือปีหน้าจะมีกำไรจากโครงการคอนโด-ห้องพักวิลล่าที่หัวหินถึง 300-372 ล้านบาท หรือคิดจากหุ้น 600 ล้านหุ้น ได้กำไรต่อหุ้น 0.5-0.62 บาท ที่ราคา 3 บาท พีอีแค่ 5-6 เท่า !!

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีโครงการใหญ่ๆ ที่น่าจะทำเงินอีกหลายโครงการ..คือ

1.โครงการโรงแรมคราวน์พลาซ่า ที่สุขุมวิท 27 เชน Inter Contnental Group 380 ห้อง ระดับ4-1/2 ดาว
2.โครงการโรงแรม เชอราตัน บลูลากูน ด้านหน้าโครงการบลูลากูนคอนโดและวิลล่า เชนเชอร์ราตัน มี 250 ห้อง ระดับ 5 ดาว
3.โครงการโรงแรมโพพ้อย ที่ด้านหน้าจังซีลอน ภูเก็ต เชนเวสติน มี 209 ห้อง ระดับ 4 ดาว
4.โครงการโรงแรมรีเจ้นต์ (ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าเป็น W Hotel) เชนรีเจนต์ มี 340 ห้อง ระดับ 5 ดาว สุขุมวิท 13
5.โครงการเดอะรีเจนต์ เรสซิเดนซ์ คอนโด 350 ห้อง อยู่ด้านหลังโรงแรม เป็นคอนโดระดับบน
6.โครงการเดอะเทรนด์ดี้ เป็นอาคารสำนักงาน 32 ชั้น และคอนโด 19 ชั้น อยู่ที่สุขุมวิท 13 เช่นกัน

เฉพาะแค่โครงการ 4 ถึง 6 ใช้เงินลงทุนถึง 5,000 ล้านบาท !! :shock:


สรุปได้ว่ามูลเหตุที่เข้าซื้อเพราะต้องการเก็งกำไรผลประกอบการที่น่าจะสูงมากในปีนี้

แต่กาลกลับพลิกผัน ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ครับคือ

1.โรงแรมเวสติน ยังคงปิดซ่อมแซมบางส่วน 129 ห้อง
2.โครงการอสังหาคอนโดและวิลล่าที่หัวหิน แม้จะขายได้เกือบหมดแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถรับรู้รายได้

จากเหตุผลข้างต้นทำให้กำไร 9 เดือนทำได้แค่ 28 ล้านบาท เปรียบเทียบกับที่ประมาณการไว้ก่อน IPO ที่ประมาณ 370 ล้านบาท แม้ภายหลังจะปรับลดลงเหลือ 272 ล้านบาท ก็ยังห่างไกลจากเป้าหมายมากครับ เหลือไตรมาสเดียวผมไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่า
ประกอบกับโครงการใหม่ๆ ต่างๆ ต้องการเงินทุนสูงมาก ทั้งต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้าง ดอกเบี้ยก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีเงินกู้สิ้นไตรมาส 3 ประมาณ 2 พันล้านบาทแล้ว ไม่รู้ว่าโครงการใหม่ๆ จะทำให้ D/E ของบริษัทสูงขึ้นอีกเท่าไหร่...
เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมก็ยอมแพ้ครับ ตัดสินใจขายขาดทุนไป

สำหรับเพื่อนๆ ที่ถือ grand นอกจากปัจจัยที่ผมว่ามา ซึ่งอ่านแล้วต้องใช้วิจารณญานนะครับ ก็ยังมีข้อดีบ้าง เช่นยังมีรายได้ที่ยังไม่รับรู้จากโครงการที่หัวหิน ถึง 900 ล้านบาท ซึ่งคงมีกำไรพอสมควรครับ สำหรับโครงการใหม่ๆ หากทำได้ และมีเงินทุนเพียงพอเหมือนที่ผู้บริหารคาดไว้ ก็อาจจะเพิ่มกำไรได้มากในอนาคตครับ

บทเรียนครั้งนี้สอนผมว่า...


1.อย่าซื้อหุ้นที่มีค่าเผื่อความปลอดภัยน้อย เช่นไม่มีปันผล grand มีขาดทุนสะสมประมาณอีก 400ล้าน
2.อย่าเก็งกำไร เหมือนที่หลายท่านว่าไว้ครับ คนเราเชี่ยวไม่เหมือนกัน เอาที่เหมาะกับตัวเราดีกว่า
3.อย่าโลภ ทำให้มองโลกอย่างที่เราอยากให้เป็น และให้กลัวให้มากๆ จะได้ cut loss ไปซะเนิ่นๆ
4.อย่าขาดทุน เพราะเอาคืนยากครับ ขาดทุน 25% ต้องทำผลตอบแทนให้ได้ 33% ถึงจะเท่าทุน!!
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 29

ทบทวน...

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ยอมรับผิดครับ

แต่เอ๊ะ พี่โพสตอน 3.14 นะ ว่าน่าซื้อมาก

http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... rand#28050
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

ทบทวน...

โพสต์ที่ 5

โพสต์

สิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมไม่เคยสนใจบริษัทที่เพิ่งขายหุ้น IPO เลย

ไม่เพียงแต่ตัวเลขประมาณการในอนาคตเท่านั้นนะครับ

หลายบริษัทแต่งตัวเลขทางบัญชีก่อนเข้าตลาดล่วงหน้า 2 ถึง 3 ปี (แต่ถ้าตลาด MAI คงใช้เวลาในการแต่งตัวน้อยกว่าครับ)

แล้วบริษัทที่เป็น FA ที่ประมาณการกำไรแตกต่างจากความจริงมากมายขนาดนี้ จะมีความรับผิดชอบอะไรต่อนักลงทุนบ้าง

รู้สึกว่าถ้าเป็นทางสหรัฐอาจจะฟ้องร้องได้นะครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6491
ผู้ติดตาม: 875

ทบทวน...

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Jeng เขียน:ยอมรับผิดครับ

แต่เอ๊ะ พี่โพสตอน 3.14 นะ ว่าน่าซื้อมาก

http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... rand#28050

นั่นซิครับพี่ ผมจะโทษใครได้ละครับพี่ ถึงแม้ผมซื้อได้ 2 บาท ผมก็ต้องโทษตัวเองอยู่ดีละครับพี่ :lol:

ผมสนับสนุนการโพสต์ลักษณะนี้อยู่แล้วครับ (แนะนำหุ้นพร้อมเหตุผล) คนอ่านต้องมีวิจรณญานอยู่แล้วครับ ลองคิดดูซิครับว่า หากไม่มีใครกล้าที่จะโพสต์แนะนำหุ้นในเวปนี้ จะเป็นอย่างไรครับ ผมคิดว่าประโยชน์เวปบอร์ดคงน้อยกว่านี้มากครับ :?
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
sirivajj
Verified User
โพสต์: 985
ผู้ติดตาม: 0

ทบทวน...

โพสต์ที่ 7

โพสต์

บทเรียนของผมคงจะได้จากการเข้าไปเล่นหุ้นที่หวังผลตอบแทนในแนวเก็งกำไร
จากหุ้น MK, TK ครับ
ถือว่า เป็นการตัดสินใจไปลงทุนในอุตสาหกรรมที่เมื่อก่อนตอนเล่นหุ้นใหม่ๆ
เคยบอกตัวเองไว้นักหนาว่า อย่าเข้าไปยุ่ง
เรียกว่า ปีแรกๆ ของการลงทุน ตั้งการ์ดรัดกุม ทำอะไรก็ระมัดระวัง
ไม่นอกตำรา มองหาเซฟตี้มาร์จินเสมอ
ต่อมาก็เลยคิดว่า ตัวเองแน่ ต้องลองความรู้สักหน่อย
รวมทั้ง ความโลภเข้าครอบงำ ก็เลยแย่ไปตามระเบียบนะครับ
ขาดทุนจาก 2 ตัวนี้ประมาณตัวละกว่า 50%

กับอีกตัวหนึ่งคือ OGC ที่คาดทุนประมาณ 30% กว่า
ตัวนี้ตอนที่ขาดทุนช่วงแรกๆ คิดว่า จะ Cutloss ทิ้งที่ประมาณ 7 - 10%
วันที่จะขายราคามันไหลลงมา ก็เลยคิดว่า เดี๋ยวรอมันกลับขึ้นอีกนิดค่อยขายก็คงได้น่า
ปรากฏว่า มันไหลลงต่ออย่างเร็วมาก และไม่เคยกลับไปตรงที่จะคัด Loss ตรงนั้นก็เลย
ปล่อยเลยตามเลยมาเป็นอย่างที่ว่า

ก็เลยเป็นบทเรียนอีกอันของปี มาเล่าสู่กันฟัง
(ซึ่งยังมีอีก แต่เป็นเรื่องละอันพันละน้อยมารวมกันมากกว่าครับ)

:oops:
What do you mean.?
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 27

ทบทวน...

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ปีที่แล้วสอนให้ผมรู้ว่าอยู่เฉยๆหุ้นก็ขึ้นเอง ดังนั้นผมจึงชื้อขายน้อยครั้งมาก แค่ซื้อ2ขาย1เอง
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6491
ผู้ติดตาม: 875

ทบทวน...

โพสต์ที่ 9

โพสต์

สิ่งที่เป็นกับดักของนักลงทุนหลายๆท่าน
คือซื้อหุ้นที่ปันผลสูงๆ และที่ปันผลสูงๆได้ เพราะมีรายการพิเศษ
หุ้นอย่างนี้ต้องระวังไว้ครับเช่น PHA SAUCE CEI ปีที่ผ่านมา
(แต่ SAUCE ราคาไม่ลดลงมากครับ)
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Viewtiful Investor
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

ทบทวน...

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ของผมเจอกับดัก cash flow เข้าไปครับ เพราะเริ่มลงทุนโดยที่ไม่รู้ว่าดูงบ CF ยังไง เลย Jackpot ไปซื้อบริษัทที่มีกำไรแต่ CF เป็นลบ แถมกู้มาปันผลได้ด้วยอ่ะ มีอยู่ในปอดตั้ง 2 ตัว

ตอนนี้ยังติดอยู่เลยครับ กะว่าประกาศปันผลปีนี้แล้วจะกระโดดหนีแล้ว :cry:

พลาดแล้วจะไม่ซ้ำสองครับ ต้องจำไว้
I do not sleep. I dream.
Unexpected
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 222
ผู้ติดตาม: 0

ทบทวน...

โพสต์ที่ 11

โพสต์

สิ่งที่เป็นกับดักของนักลงทุนหลายๆท่าน
คือซื้อหุ้นที่ปันผลสูงๆ และที่ปันผลสูงๆได้ เพราะมีรายการพิเศษ
หุ้นอย่างนี้ต้องระวังไว้ครับเช่น PHA SAUCE CEI ปีที่ผ่านมา
(แต่ SAUCE ราคาไม่ลดลงมากครับ)
อย่าง sauce นี่มีรายการพิเศษอะไรเหรอครับ? พอดีถือไว้อยู่บ้าง :? (ไปดู 56-1 ก็ไม่สะดุดตาอะไรแปลกๆแฮะ)
expect unexpected
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6491
ผู้ติดตาม: 875

ทบทวน...

โพสต์ที่ 12

โพสต์

กำไรปกติครับ แต่ปันผลมากกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะมีเงินสดค่อนข้างเยอะครับ :D
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 27

ทบทวน...

โพสต์ที่ 13

โพสต์

แต่หุ้นที่ทำให้กำไรให้ผมมากที่สุดในปีนี้กลับเป็นหุ้น IPO ครับ ตัวเดียว กำไร 60%
ไม่ใช่ SINGHA เพราะขายหมูไปแย้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 46

ทบทวน...

โพสต์ที่ 14

โพสต์

:lol: :lol: :lol: :lol:

คุณ CK กำไร 60 % ภายในกี่เดือนครับ ใช่ TOP หรือเปล่าน้าาาา ( ถ้าเดาผิดก็ขออภัยครับ )

:lol: :lol: :lol: :lol:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

ทบทวน...

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ถึงแม้จะมีบริษัท IPO ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีมากในบางบริษัท

แต่ผมก็ยังยึดถือหลักของ Buffett ครับ คือไม่ขาดทุน ซึ่งการลงทุนบริษัท IPO นั้น ผมมีความเห็นว่าเสี่ยงมากพอควร

และถ้างบการเงินมีการตกแต่ง เราก็คงไม่สามารถที่จะคำนวณหาพื้นฐานได้เลย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ต.หยวนเปียว
Verified User
โพสต์: 1688
ผู้ติดตาม: 1

ทบทวน...

โพสต์ที่ 16

โพสต์

โทษครับ ขอทดลองดูภาพหน่อยครับ :D
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 27

ทบทวน...

โพสต์ที่ 17

โพสต์

การลงทุนบริษัท IPO นั้น ผมมีความเห็นว่าเสี่ยงมากพอควร
เห็นด้วยครับ และก็เป็นข้อดีด้วย ที่ทำให้บริษัทพวกนี้ต้องมี discount มากหน่อย
โดยเฉพาะบริษัทที่เพิ่งจะ IPO ในตลาด MAI หลังกรณี ROYNET

แหะๆ เรื่องวิเคราะห์งบไม่ทันกินคนอื่นครับ

ไม่ใช่ TOP ครับพี่สามัญชน TOP ต่อให้ซื้อที่โลว์ ก็ได้แค่ 20% เอง นอกจาก
จะได้ IPO มามากๆ ซึ่งพอร์ตจุ๋มจิ๋มของผม อดได้อยู่แล้วครับ

เป็น UMS ครับ ได้ IPO มาหน่อยที่ 7.95 ตั้งขายที่ 15.90 และมาซื้อคืน
แถวๆ 7.90 - 8.20 บาทครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

ทบทวน...

โพสต์ที่ 18

โพสต์

CK เขียน: เห็นด้วยครับ และก็เป็นข้อดีด้วย ที่ทำให้บริษัทพวกนี้ต้องมี discount มากหน่อย
โดยเฉพาะบริษัทที่เพิ่งจะ IPO ในตลาด MAI หลังกรณี ROYNET
ถ้างบการเงินไม่ได้แสดงฐานะที่แท้จริงของบริษัท แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทไหนขายถูกหรือแพง บริษัทไหน Discount หรือ Premium

ซึ่งกว่าจะรู้ก็คงต้องรอดูผลประกอบการและฐานะทางการเงินของบริษัทหลังเข้าตลาดแล้วมั๊งครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

Re: ทบทวน...

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทบทวน...

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ใครขุดมาให้ผมอ่านเนี่ยะ :D
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
firstee
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2136
ผู้ติดตาม: 257

Re: ทบทวน...

โพสต์ที่ 21

โพสต์

สุดยอดจริงๆ
ความรู้เก่าๆเนี่ย
แลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุนได้ครับ
https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B ... you_manage
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2611
ผู้ติดตาม: 63

Re: ทบทวน...

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ขอบคุณพี่ที่ขุดมาครับเเละพี่ๆในตำนานที่เคยShareประสบการณ์ไว้ครับ
ได้เห็นเลยว่าพี่ๆที่เก่งๆเค้าผ่านความผิดพลาดมาเเล้วทั้งนั้น...เเต่สิ่งที่สำคัญคือการไม่ยอมผิดพลาดซำ้สองอีก
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
viim
Verified User
โพสต์: 551
ผู้ติดตาม: 1

Re: ทบทวน...

โพสต์ที่ 23

โพสต์

มาอ่านกระทู้เก่าๆ เพื่อฟังการทบทวนของรุ่นพี่นักลงทุน ผมมาทีหลังต้องฟังรุ่นพี่เยอะๆ :D
untrataro25
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1053
ผู้ติดตาม: 39

Re: ทบทวน...

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ขอบคุณครับ สุดยอดไปเลย :mrgreen:
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ronnachai
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 167
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทบทวน...

โพสต์ที่ 25

โพสต์

:cry: เสียใจด้วยนะครับ เวลาแลกกับประสบการณ์
ความรู้สำคัญ แต่ความเข้าใจสำคัญกว่า :8)
wwwman
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 337
ผู้ติดตาม: 1

Re: ทบทวน...

โพสต์ที่ 26

โพสต์

:D ขอบคุณพี่ๆนักลงทุนมากเลยคับ...เริ่มต้นเซียนก้อเคยพลาดได้คับ... แต่พลาดแล้วเก็บมาเป็นบทเรียน..พวกผมเลยได้ความรู้ไปด้วยครับ...ขอบคุณอีกครั้งคับ :D เรียนรู้จากประสบการณ์ผิดพลาดของผู้อื่นและของตนเองครับ...
โพสต์โพสต์