หน้า 2 จากทั้งหมด 89

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 10, 2008 9:22 pm
โดย atsu
ผมมีหุ้นที่ติดตามผลกำไรทุกไตรมาสประมาณ 80 ตัว
และหุ้นที่ติดตามแบบห่างๆอีกประมาณ 120 ตัว
รวมๆก็ครึ่งนึงของตลาดพอดี
:shock:  :shock:  :shock:
:bow:  :bow:  :bow:
สุดยอดจริงๆครับ

ผมเข้าใจที่มาราโดน่าเคยบอกไว้แล้วครับ
เค้าบอกประมาณว่า คนชอบพูดกันว่าเค้ามีพรสวรรค์มากถึงเก่งได้อย่างนี้
แต่คนพวกนั้นไม่รู้หรอกว่าเค้าฝึกหนักขนาดไหนถึงมีวันนี้ได้

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 10, 2008 11:09 pm
โดย YONGYEE
ที่คุณลูกอีสานบอกว่าติดตามหุ้นที่อยู่ในร้อยคนร้อยหุ้นแล้วราคาตกลงมามาก อย่างงั้น TR จะอยู่ในความสนใจหรือเปล่า เพราะเคยเป็นตัวที่พูดถึงกันมาก แล้วราคาตกลงมากค่อนข้างเยอะ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 10:53 am
โดย ...
ขอถามพี่ลูกอิสานหน่อยครับว่า ที่ผ่านมาเคยมีหุ้นลักษณะเหมือนกับหุ้นทั้งสามที่พี่ได้เล่ามานี้ แต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้บ้างมั๊ยครับ
ถ้ามี พี่มีวิธีสังเกตหรือรับมือกับผลนั้นอย่างไร

ขอบคุณมากครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 11:10 am
โดย Jimmy
ลูกอิสาน เขียน:
อย่าถ่อมตัวเลยครับ  :twisted:  :twisted:  อย่างน้อยพี่ก็เทพในสายตาพวกผมแหละครับ :)



=========================
ชีวิตมีแค่สองหมื่นกว่าวันจะมัวรอมันไปถึงไหนก้าวเดินออกไปแล้วทำมัน

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 12:12 pm
โดย ลูกอิสาน
zidit เขียน:การติดตามหุ้นนี่ใช้วิธีอย่างไรครับ เสาะหาข่าวสารทั้งวันเลยรึเปล่า พอดีผมทำงานด้วยอ่ะครับ เวลาว่างอาจจะไม่พอ อยากถามพี่ลูกอิสานว่ามีเทคนิคอะไรมั้ยครับ

ผมอ่านหนังสือพิมพ์หุ้นเกือบทุกฉบับทั้งรายวัน สัปดาห์ อ่านงานวิจัยของโบรคเกอร์ อีไผ ข่าวตลาดและ tvi ประมาณนี้ครับ อ่านแบบสแกนถ้าเจอหุ้นที่น่าสนใจจะอ่านแบบละเอียด ไม่อย่างนั้นต้องใช้เวลาเยอะ คือถ้าเราติดตามข่าวสารบ่อยๆเราจะรู้ว่าแหล่งข่าวไหนที่เราควรจะอ่านครับ ที่จริงใช้เวลาวันละ 2 ชม.ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการลงทุนแบบมุ่งเน้น(ผลตอบแทน) หรือวันละ 1 ชม. สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนหุ้นแบบการออม

ผมเคยทำงานประจำมาก่อน ยอมรับว่ามีข้อจำกัดเยอะกว่าคนที่ลงทุนเต็มเวลา และไม่สนับสนุนให้ทุกคนลาออกเพียงเพื่อจะได้มีเวลาหาข้อมูล แต่เราก็ควรให้เวลากับการลงทุนตามสมควร เพราะการใช้เวลาวันละเล็กละน้อยหลังเลิกงานหาข้อมูล อาจจะเปลี่ยนสถานะภาพทางด้านการเงิน เปลี่ยนชีวิตคนๆนึงได้เลย ในขณะที่ถ้าทำงานประจำอย่างเดียวมีโอกาสน้อยกว่ามาก ผมยังจำได้ดร.นิเวศน์เคยเขียนบทความทำนองว่า เราใช้เวลาส่วนใหญ่วันๆไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญและให้เวลาน้อยเกินไปกับเรื่องทีสำคัญที่สุด

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 12:37 pm
โดย ลูกอิสาน
YONGYEE เขียน:ที่คุณลูกอีสานบอกว่าติดตามหุ้นที่อยู่ในร้อยคนร้อยหุ้นแล้วราคาตกลงมามาก อย่างงั้น TR จะอยู่ในความสนใจหรือเปล่า เพราะเคยเป็นตัวที่พูดถึงกันมาก แล้วราคาตกลงมากค่อนข้างเยอะ
tr เป็นหุ้นตัวนึงที่ผมติดตาม และเคยเขียนกระทู้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วครับ

หุ้น2ตัวนี้ไม่มีคำว่าสายหากคิดจะซื้อ


ก่อนที่ราคาจะขึ้นไปปลายปีที่แล้ว ผมถืออยู่นิดหน่อยที่ 35 บ.เพราะเก็งว่าการขยายกำลังการผลิตเสร็จแล้ว กำไรน่าจะเพิ่มขึ้น แต่พอได้กำไร 10% ผมก็ขายไปซะแล้วจำได้เลาๆว่าเจอตัวไหม่ที่น่าสนใจกว่า หลังจากนั้นราคาก็ขยับตัวขึ้นตลอด จนต้นปีนี้ไปถึง 90 บ. สาเหตุที่ราคาหุ้นขึ้นไปมาก ผมก็เดาๆว่ามีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการเช่นกัน เงินเข้ามามากแต่หุ้นไม่มีสภาพคล่อง ราคาก็เลยขึ้นไปเยอะอย่างที่เห็น เผอิญอีกเหมือนกันที่ผลประกอบการช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาดีมากๆ เลยทำให้ทุกอย่างดูดีไปหมด จำได้ว่าประกาศผลประกอบการ ผมยังอยากจะซื้อที่ราคาเปิดเลยครับ คิดง่ายๆว่าเอา q ล่าสุดคูณ 4 เลย ที่ราคา 80บ. P/E ยังต่ำมากเลย แต่ด้วยความระแวดระวังผมอ่านรายงานผลการดำเนินงานของ MD อ่านรายงานประจำปี 56-1 56-2 และฟังจากเพื่อนๆที่ไปประชุม เริ่มมีสัญญานเตือนจากผู้บริหารทำนองว่าที่กำไรเพราะมีสต็อควัตถุดิบราคาต่ำ ผมกลับไปดูผลการดำเนินงานในอดีตปรากฎว่า 5 ปีที่ผ่านมามีปี 2004 ไตรมาสเดียวที่มีกำไรขั้นต้นสูงสุดที่ 34% แต่ปี50 ที่ผ่านมา 2 ไตรมาสล่าสุด tr มีกำไรขั้นต้นถึง 37 และ 40% ตามลำดับ ผมชักลังเลว่าเป็นกำไรที่ too good to be true หรือเปล่าไม่คอ่ยแน่ใจเหมือนกันเพราะนอกจากมีสต็อคราคาต่ำแล้ว อาจเป็นเพราะบริษัทเริ่มผลิตสินค้าที่มีมาร์จินสูงก็เป็นได้ (modal)

ส่วนที่ราคาลงมามากในตอนนี้ ผมก็เดาอีกละว่านักลงทุนที่เคยซื้อ พอเริ่มมีข่าวด้านลบหรืออาจเป็นเพราะต้องการทำกำไร ก็ขายหุ้นออกมา ทั้งแบบมีจริยธรรมและไม่มีจริยธรรม (ไม่รู้เหมือนกันว่าต่างกันอย่างไร :lol: ) ส่วนที่ว่าน่าจะเข้าไปรับหรือเปล่าเพราะราคาลงไปมาก ถ้าสมมุติเป็นผมคงไม่เข้าซื้อหุ้นเพียงเพราะราคาลงมามากเพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามั่นใจว่าบริษัทจะยังทำกำไรได้ดี กำไรไม่ตกหรือตกไม่มาก เราสามารถเข้าถึงราคาเรยอน ราคาวัถตุดิบ ผมก็อาจจะเข้าไปรับครับ แต่ถ้าไม่มีข้อมูล ผมก็คงไม่กล้าเพราะนั่นคือความไม่แน่นอน เป็นความเสี่ยง

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 12:56 pm
โดย ลูกอิสาน
... เขียน:ขอถามพี่ลูกอิสานหน่อยครับว่า ที่ผ่านมาเคยมีหุ้นลักษณะเหมือนกับหุ้นทั้งสามที่พี่ได้เล่ามานี้ แต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้บ้างมั๊ยครับถ้ามี พี่มีวิธีสังเกตหรือรับมือกับผลนั้นอย่างไร
ขอบคุณมากครับ
ผมเคยผิดหวังกับหุ้น turnaround หลายตัว โชคดีที่ไม่ขาดทุนมากเพราะความระแวดระวังนั่นเอง มี 3 ตัวที่จำได้คือ ah preb nvl

ah หลายท่านติดตาม บริษัทมีปัญหาเรื่องอำนาจการต่อรอง ผู้บริหารนำเสนอแต่แง่ดี การตัดสินใจลงทุนที่ยังไม่สร้างกำไร ที่ผมสนใจเพราะยอดขายเกือบหมื่นล้านแต่กำไรแค่ 3-4% แค่นั้นเอง ซึ่งถ้าดูกำไร/ยอดขายผมคิดว่าต่ำเกินไป แต่สิ่งที่มองก็ยังไมเกิดขึ้น กำไรยังไม่เพิ่มขึ้น แถมยังมีความเสี่ยงเรื่องสัญญาหลักที่กำลังจะหมดอายุ

preb เป็นหุ้นรับเหมาที่ผมชอบรองจาก syntec บริษัทขาดทุนหนักเพราะรับงานผิดพลาดไม่มีมาร์จิน หลังจากบริษัทมีบทเรียนทุกอย่างก็ดีขึ้น แต่ปัญหาเฉพาะหน้าคือราคาวัสดุก่อสร้าง น้ำมันเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นผมไม่คิดว่าบริษัทจะดีขึ้นมากอย่างที่หวัง

nvl บริษัทได้ผู้บริหารไหม่ เลิกลดธุรกิจเก่าที่สู้ธนาคารไม่ได้ หันมาสู่ธุรกิจใหม่ที่ไม่มีคู่แข่ง แต่ตอนนี้แบงค์สามารถเข้ามาทำธุรกิจใหม่นี้ได้แล้ว ประกอบกับกำไรยังไม่มาเหมือนที่คุยไว้


หากผมติดตามข่าว ความคืบหน้า แล้วไม่เป็นตามที่ผมคาดหวัง ก็ง่ายๆคือขายทิ้งไปหรือลดสัดส่วนรอความชัดเจนมากกว่านี้ :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 2:27 pm
โดย noooon010
ขอบคุณพี่ลูกอีสานมากๆนะครับผม  :D
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพด้วยนะครับผม

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 3:00 pm
โดย MindTrick
อ่านแล้วได้ข้อคิดหลายจุดเลยพี่โจ :cool:

ช่วยเล่าเรื่องราวของตัวที่ผ่านๆมาต่อเรื่อยๆ นะครับ
(ผ่านมาแล้ว คงไม่ถือว่าเชียร์)

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 3:48 pm
โดย tatandchin
ขอบคุณพี่ลูกอิสานมากครับที่มาเล่าประสบการณ์ที่มีค่าให้ฟัง ช่วยย่นระยะเวลาได้มากเลยครับ  :bow:
พี่ติดตามข่าวสารทาง inter ที่ web ไหนบ้างครับ
ขอบคุณครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 4:25 pm
โดย artvr4
มาอ่าน

สุดยอด มากครับ   ได้มุมมองที่ดีมากทีเดียว

ต้องเก็บเข้าคลังกระทู้คุณค่า ครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 6:50 pm
โดย krisy
ยิ่งอ่านยิ่งเพลิน ความรู้ก็พัฒนา

ขอบคุณที่สละเวลามาให้ความรู้คนใหม่ๆนะคะ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 8:00 pm
โดย zidit
ลูกอิสาน เขียน:
ผมอ่านหนังสือพิมพ์หุ้นเกือบทุกฉบับทั้งรายวัน สัปดาห์ อ่านงานวิจัยของโบรคเกอร์ อีไผ ข่าวตลาดและ tvi ประมาณนี้ครับ อ่านแบบสแกนถ้าเจอหุ้นที่น่าสนใจจะอ่านแบบละเอียด ไม่อย่างนั้นต้องใช้เวลาเยอะ คือถ้าเราติดตามข่าวสารบ่อยๆเราจะรู้ว่าแหล่งข่าวไหนที่เราควรจะอ่านครับ ที่จริงใช้เวลาวันละ 2 ชม.ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการลงทุนแบบมุ่งเน้น(ผลตอบแทน) หรือวันละ 1 ชม. สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนหุ้นแบบการออม

ผมเคยทำงานประจำมาก่อน ยอมรับว่ามีข้อจำกัดเยอะกว่าคนที่ลงทุนเต็มเวลา และไม่สนับสนุนให้ทุกคนลาออกเพียงเพื่อจะได้มีเวลาหาข้อมูล แต่เราก็ควรให้เวลากับการลงทุนตามสมควร เพราะการใช้เวลาวันละเล็กละน้อยหลังเลิกงานหาข้อมูล อาจจะเปลี่ยนสถานะภาพทางด้านการเงิน เปลี่ยนชีวิตคนๆนึงได้เลย ในขณะที่ถ้าทำงานประจำอย่างเดียวมีโอกาสน้อยกว่ามาก ผมยังจำได้ดร.นิเวศน์เคยเขียนบทความทำนองว่า เราใช้เวลาส่วนใหญ่วันๆไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญและให้เวลาน้อยเกินไปกับเรื่องทีสำคัญที่สุด
ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำครับ จะนำไปปฏิบัติตาม ทุกวันนี้อ่านเเค่ฉบับเดียวเองครับ คือ กรุงเทพธุรกิจ ไม่ก้อโพสต์ทูเดย์ เเต่โดยส่วนตัวผมชอบโพสต์ทูเดย์มากกว่า เพราะมันคอลัมเดียวจบไม่ต้องไปต่อหน้าอื่น

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 8:01 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="tatandchin"]ขอบคุณพี่ลูกอิสานมากครับที่มาเล่าประสบการณ์ที่มีค่าให้ฟัง ช่วยย่นระยะเวลาได้มากเลยครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 8:22 pm
โดย ลูกอิสาน
เห็นหลายท่านบ่นว่าลงทุนแบบ vi ไหงขาดทุนได้
ผมคิดว่าทุกคนที่ลงทุน vi ก็เคยขาดทุนกันแทบทุกคน
แต่จะเกิดขึ้นไม่บ่อย และขาดทุนไม่หนัก
แต่เท่าที่ผมมองหุ้นที่ทำให้ vi หลายท่านขาดทุน มองแบบดูอดีตนะครับง่ายดี

1.มีความคาดหวังสูง หุ้นจึงมักซื้อขายที่ P/E ค่อนข้างสูง พอทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คาด ราคาหุ้นจะลงแรง คนที่ยังมองแง่ดี ก็จะซื้อเฉลี่ย ซื้อจนหมดเงินหุ้นก็ยังลง คนที่ถือตั้งแต่ราคาต่ำคงไม่เป็นไร แต่คนที่เข้าไปซื้อตอนราคาสูงๆ ทุกอย่างดูดีไปหมด จะเจ็บมาก คนทีถือตั้งแต่ราคาต่ำๆ พอขึ้นไปสูงๆ P/E สูงไม่ขาย ราคากลับมาเท่าทุนไม่ได้อะไร เปรียบเหมือนนั่งรถเมย์ สองข้างทางดูสวยงามเหลือเกิน นั่งเพลินจนเลยป้าย ลงก็ไม่ทันแล้ว :lol:  ต้องรอให้รถวกกลับ เสียเวลา เสียโอกาสครับ หุ้นพวกนี้เช่น tr uec snc bh team แต่ไม่ได้หมายความว่าหุ้นเหล่านี้ไม่ดีนะครับ เพียงแต่ที่ผ่านมาราคาแซงพื้นฐานไปเท่านั้นเอง

เหมือนที่หลายคนพูดบ่อยๆว่า ไม่มีหุ้น vi ที่แท้จริง เพราะที่ราคาหนึ่งอาจต่ำกว่าพื้นฐานเป็นหุ้น vi พอราคาขึ้นไปมากๆเต็มมูลค่าหรือเกินพื้นฐาน หุ้นนั้นก็ไม่ใช่หุ้น vi แล้ว อย่าลืมหุ้น vi ต้องเปรียบเทียบกับราคาด้วย


2.ต่อจากข้อแรก เนื่องจากเราไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ 100% โดยเฉพาะในตลาดหุ้น ดังนั้นการถือหุ้นตัวเดียวหรือน้อยตัว ต้องระวังให้มาก มือใหม่หลายคนใจร้อนอยากรวยเร็ว พยายามถือหุ้oน้อยตัว ตัวที่คิดว่าดีที่สุด แต่เนื่องจากความรู้อาจจะน้อย วิเคราะห์ผิด ราคาหุ้นลงมาก คนถือก็ขาดทุนหนัก คนที่ถือน้อยตัวควรมีความรู้ในระดับนึงแล้ว ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 9:14 pm
โดย topgun
ขอสอบถามความเห็น อย่างหุ้น sc คุณลูกอีสานมองว่า ความเสี่ยงกับการอาจจะโดนปรับ 2 พันลบ. กับ potential upside return จากราคาปิด ณปัจจุบัน สมควรลงทุนหรือไม่ หรือควรหลีกเลี่ยงไปหาหุ้นตัวอื่นจะดีกว่าครับ

ขอบคุณครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 9:33 pm
โดย ...
ความเห็นพี่ลูกอิสานแต่ละอันโดนๆทั้งนั้น  :cool:

ขอทำหน้าที่ถามต่อนะครับ  :lol:

ปกติแล้วก่อนที่พี่ลูกอิสานจะตัดสินใจซื้อหุ้นสักตัวหนึ่ง ไม่ทราบว่าพี่ลูกอิสานใช้เวลาในการศึกษาทำความเข้าใจหุ้นนั้นๆเฉลี่ยแล้วนานแค่ไหนครับจนมั่นใจที่จะซื้อ
ตัวที่สั้นและยาวที่สุดใช้เวลานานแค่ไหน เพราะเหตุใดจึงใช้เวลาเท่านั้น

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 11:16 pm
โดย yoyo
สุดยอดกระทู้แห่งปีนี้ ...
ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผลตอบแทนผมสู้พี่ลูกอีสานไม่ได้ซะที
ความขยันมันผิดกันนี่เอง
พี่ติดตามหุ้นอยู่ 120 ตัว ดูห่าง 180 ตัว
ผมนี่ดูละเอียดประมาณ 5-6 ตัว.. (ส่วนใหญ่ตัวที่ถือๆอยู่) ดูห่าง 15-20 ตัว (พวกตัวที่เคยๆถือ)
เห็นสัดส่วนก็ผิดกันเยอะแล้ว รางวัลของคนขยันมอบให้ถูกคนแล้วครับ

อ่านกระทู้ของพี่โจแล้วได้อะไรเยอะจริงๆ เขียนต่อเรื่อยนะครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 12:09 pm
โดย investment biker
ขอถามตรง ๆ ครับ

ตอนนี้หุ้นที่พี่ลูกอีสานกำลัง monitro อยู่มีอะไรบ้างครับ ขอสัก 10-15 ตัวนะครับ  จะเอาไปศึกษาต่อครับ

ขอบคุณครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 12:26 pm
โดย ลูกอิสาน
topgun เขียน:ขอสอบถามความเห็น อย่างหุ้น sc คุณลูกอีสานมองว่า ความเสี่ยงกับการอาจจะโดนปรับ 2 พันลบ. กับ potential upside return จากราคาปิด ณปัจจุบัน สมควรลงทุนหรือไม่ หรือควรหลีกเลี่ยงไปหาหุ้นตัวอื่นจะดีกว่าครับ
ขอบคุณครับ
ผมสนใจหุ้นตัวนี้เพราะอ่านคุณ Alastor ในห้องร้อยคนร้อยหุ้นครับ สนใจที่ว่าเป็นบริษัทอสังหาที่มีรายได้ค่อนข้างมั่นคงเพราะมีสัดส่วนรายได้จากการให้เช่าประมาณ 30% สินค้าก็ดีมีกลุ่มเป้าหมาย งบการเงินก็ดีมาก ที่สำคัญซื้อขายกันที่ P/E ต่ำมากประมาณ  4-5 เท่า หากเปรียบเทียบกับบริษัทระดับเดียวกันควรจะซื้อขายที่ PE ประมาณ 8-9 เท่า

สาเหตุที่ตลาดให้ราคาต่ำกว่าปกติ ก็อย่างที่หลายคนรู้คือมีคดีกล่าวว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ปกปิดสัดส่วนการถือหุ้นตอนขาย IPO ทำให้สามารถยับยั้งมติสำคัญๆได้ ประเด็นนี้เป็นความเสี่ยงที่ตลาดให้ราคาหุ้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ผมลองคิดถึงความเสี่ยงข้อนี้ และสรุปเอาเองว่าตลาดอาจจะให้น้ำหนักคดีมากเกินไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้ครับ

- หากผิดจริง ควรจะเป็นความผิดของผู้ถือหุ้นเดิม ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่มีส่วนรับรู้ ทำไมต้องปรับบริษัท ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเสียประโยชน์ไปด้วย
- ค่าปรับ ทำไมต้องปรับสูงสุดที่ 2000 ล.บาท ทำไมไม่ปรับที่ต่ำสุด พิสูจน์ได้อย่างไรว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ประโยชน์จาการทำผิดนั้นเป็นมูลค่า 2000 ล้าน
- ถ้าผิดจริง กว่าจะเอาผิดได้คงใช้เวลานาน
- ถ้าผิดจริง กิจการก็ยังไม่เจ๊ง และสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ แต่กำไรอาจจะลด
- สรปุว่าเป็นว่าข้อกล่าวหาที่ผมคิดว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง และผมคิดว่าพรรคพลังประชาชนน่าจะได้จัดตั้งรัฐบาล

ผมทยอยซื้อ 9-9.7 บ. และขายไปที่ 15-16 บ. ก่อนรับปันผล เพราะราคาถึงเป้าหมายที่ผมคิดว่าเหมาะสมกับพื้นฐานแล้ว เพราะผลประกอบการปีนี้น่าจะโต 20-25% แต่ปีที่แล้วมีกำไรรายการพิเศษด้วย ดังนั้นปีนี้กำไรน่าจะเพิ่มไม่มากครับ ที่ราคาตลาด 13.1 บ. พีอี 6.8 ถ้ารวมรายการพิเศษน่าจะเป็น 7-8 เท่า ปีนี้น่าจะโตอีกนิดหน่อย ก็ยังพอมี upside แต่ผมขายไปเพราะไปซื้อตัวอื่นที่คิดว่าดีกว่าครับ :D

สรุปว่าผมซื้อ SC เพราะเป็นหุ้นสถานการณ์พิเศษ และผมคิดแล้วว่าความเสี่ยงของสถานการณ์นั้นน่าจะลงเอยด้วยดี หรือเสียหายไม่มากครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 12:32 pm
โดย ลูกอิสาน
... เขียน:ปกติแล้วก่อนที่พี่ลูกอิสานจะตัดสินใจซื้อหุ้นสักตัวหนึ่ง ไม่ทราบว่าพี่ลูกอิสานใช้เวลาในการศึกษาทำความเข้าใจหุ้นนั้นๆเฉลี่ยแล้วนานแค่ไหนครับจนมั่นใจที่จะซื้อ ตัวที่สั้นและยาวที่สุดใช้เวลานานแค่ไหน เพราะเหตุใดจึงใช้เวลาเท่านั้น
ถ้าเป็นหุ้นที่ผมตามห่างๆหรือไม่เคยติดตามเลย ผมก็ใช้เวลาหาข้อมูลประมาณ 1-2 ชม.ก็พอจะรู้คร่าวๆว่าน่าสนใจหรือเปล่า อย่าง gfpf เป็นหุ้นที่ผมตามแบบห่างๆมาก ผมทำการบ้านก่อนตลาดเปิด 1 ชม ก็ตัดสินใจซื้อเลย  แต่ถ้าเป็นหุ้นที่ผมไม่เคยติดตามเลย ก็อาจจะใช้เวลาหลายชัว่โมงหรือเป็นวันครับ กว่าจะรู้ว่าน่าซื้อหรือเปล่า

ถ้าเราหาข้อมูลบ่อยๆ เราก็พอจะมีสูตรสำเร็จครับ ว่าเราต้องดูข้อมูลตัวไหนบ้าง และดูได้ที่ไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ที่เราทราบกันครับ เช่น sec.or.th set.or.th settrade.com รายงานการวิจัยของโบรค ประมาณนี้ครับ :o

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 12:34 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="investment biker"]ขอถามตรง ๆ ครับ

ตอนนี้หุ้นที่พี่ลูกอีสานกำลัง monitro อยู่มีอะไรบ้างครับ ขอสัก 10-15 ตัวนะครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 12:45 pm
โดย V_accy
เข้ามาขอบคุณ
:lol:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 12:57 pm
โดย Alastor
ลูกอีสาน เขียน:ผมมีหุ้นที่ติดตามผลกำไรทุกไตรมาสประมาณ 80 ตัว
และหุ้นที่ติดตามแบบห่างๆอีกประมาณ 120 ตัว
รวมๆก็ครึ่งนึงของตลาดพอดี
Meine Gute เยอะขนาดนี้  :shock:   ผมอ่าน 30 กว่าตัวว่าเยอะแล้ว แพ้ราบคาบ :shock:
เหมือนที่หลายคนพูดบ่อยๆว่า ไม่มีหุ้น vi ที่แท้จริง เพราะที่ราคาหนึ่งอาจต่ำกว่าพื้นฐานเป็นหุ้น vi พอราคาขึ้นไปมากๆเต็มมูลค่าหรือเกินพื้นฐาน หุ้นนั้นก็ไม่ใช่หุ้น vi แล้ว อย่าลืมหุ้น vi ต้องเปรียบเทียบกับราคาด้วย
เห็นด้วยคร้าบ ผมว่าระยะหลังคนที่เข้ามาใน web เน้นกลยุทธ์ "ซื้อตามเซียน" พอเจอปัญหา ช้างใหญ่บ่อน้ำเล็ก เข้าก็เจ็บตัวแบบไม่น่าจะเจ็บเลย คงต้องค่อยๆเรียนรู้กันไปนะครับ
[gfpt]ผมสรุปเองว่ากำไรที่ดี น่าจะดีต่อไปอย่างน้อยสัก 2 ไตรมาส
อันนี้ผมก็รอดูอยู่ว่าจะได้จริงหรือเปล่าเพราะหวัดนกจบไปนานแล้วแต่กำไรของ GFPT ก็ขึ้นๆลงๆอยู่เหมือนเดิม
จุดอ่อนของตัวผมเองคือไม่มีเวลาตามข่าวปัจจุบันดูได้แต่ข่าวในอดีต +_+ แต่บริษัทที่งานเลี้ยงจะจบในเวลาไม่ถึง 1 ปีนี่โชคดีก็กำไรโชคร้ายก็ดอยนะครับ ผมได้รับบทเรียนมาแล้วเลยคิดว่าเจ็บแล้วต้องจำ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 1:16 pm
โดย YONGYEE
กลายเป็นกระทู้สอนตกปลาของคุณลูกอีสานไปเลยนะครับ ซึ่งถือว่าดีมากเลย
สำหรับทุกคนที่จะได้เรียนรู้เร็วขึ้น ขอบคุณล่วงหน้าครับ เพราะผมคงมีคำถามอีกเยอะ เริ่มด้วย CSC ก็แล้วกันครับว่า จะมีโอกาส Growth ยังงัยบ้างครับเพราะบริษัทเริ่มกลับมาตั้งลำแล้ว pe ก็ต่ำ หนี้ระยะยาวก็หมดแล้ว (เห็นว่าเป็นที่ที่ติดตามอยู่นะครับ)

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 4:20 pm
โดย topgun
ขอขอบคุณสำหรับความเห็นและการแบ่งปันประสบการณ์ของหุ้น sc จากคุณลูกอีสานอีกครั้งครับ Opportunity comes and goes เราต้องมีการเตรียมพร้อมและมีวินัยในการลงทุน เป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้เพิ่มเติมครับ  :D  :D  :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 5:11 pm
โดย ake3004
thks mak mak kab

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 9:12 pm
โดย ลูกอิสาน
YONGYEE เขียน:ผมคงมีคำถามอีกเยอะ เริ่มด้วย CSC ก็แล้วกันครับว่า จะมีโอกาส Growth ยังงัยบ้างครับเพราะบริษัทเริ่มกลับมาตั้งลำแล้ว pe ก็ต่ำ หนี้ระยะยาวก็หมดแล้ว (เห็นว่าเป็นที่ที่ติดตามอยู่นะครับ)
csc เป็นหุ้นพีอีต่ำจริงครับ ประมาณ 5.6 เท่าที่ราคา 14 บ. งบดุลก็ดีขึ้นมากหลังจากขายสินทรัพย์ใช้หนี้ประหยัดดอกเบี้ยไปได้มาก แต่ยังเหลือเงินกู้ระยะสั้นอีกพอสมควร ไม่รู้สาเหตุนี้หรือเปล่าที่จ่ายปันผลน้อย  ถ้าถามถึงการเติบโตผมมองว่าไม่น่าจะหวือหวา คงไปเรื่อยๆ กินลึกๆสไตร์บริษัทญี่ปุ่นละครับ ถ้าจะหวังอัพไซด์เยอะๆมีประเด็นเดียวคือให้ขายที่ดินไม่ได้ใช้ 300 ล้าน ถ้าขายนี้น่าจะบุ๊คกำไรบ้างและสามารถคืนเงินกู้ได้เกือบทั้งหมด   คนที่ถือตั้งแต่ปีที่แล้วคงผิดหวังพอสมควรกับนโยบายปันผล ผมก็หวังว่าน่าจะปันสัก 1.5 บ. เพราะนโยบายปันผลหากจำไม่ผิดเขียนแบบชัดเจนมากทำนองว่า ...ปันผล 50% ของกำไรหลังจากล้างขาดทุนสะสมหมด... ไม่รู้ว่าทำไมมาเปลี่ยนนโยบายซะเฉยๆเลย  สรุปตามความเห็น ถ้าหวังความมั่นคง ไปได้เรื่อยๆตาม gdp คงไม่ผิดหวังครับ ปัจจัยลบระยะสั้นคือเรื่องวัตถุดิบเหล็กราคาเพิ่มขึ้น คงไม่สามารถผลักให้ลูกค้าได้ทั้งหมด..

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 9:23 pm
โดย mario
พี่ลูกอิสาน ทำให้ผมนึกถึง Peter Lynch ที่รู้จักหุ้นเยอะ และยังเล่นหุ้นได้ทุกรูปแบบ  สุดยอดครับ :bow:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 12, 2008 10:59 pm
โดย AuI_a VI
ขอถามแบบโง่ๆหน่อยครับ ว่า จุดที่พี่ลูกอีสานเริ่มstable คือ อ่านเกมขาด คาดตลาดและผลประกอบการในอนาคตได้ดี  ซื้อแล้วกำไรมากกว่าขาดทุน ตัวไหนให้น้ำหนักในพอร์ตเยอะ็ก็ขึ้นเยอะจริง กว่าจะถึงจุดนี้ ใช้เวลาฝึกวิทยายุทธและศึกษาประมาณกี่ปีครับ  :?:  ผมจะได้บวกเวลาของผมเป็นสักสองสามเท่า  :lol: