Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมขอ อนุญาต นำ จดหมายที่ผมเขียนถึงลุงขวด ใน Taladhoon.com มาลงไว้ใน Web

เผื่อเพื่อนๆ ใหม่ๆที่ยังไม่เคยได้อ่าน ประสบการณ์ชีวิต และ ความคิดความเห็นของผม และของลุงขวด จะได้อ่าน อาจจะมีประโยชน์บ้าง

%%%%%%%%%%%%%

จดหมายฉบับที่ 1 จาก ครรชิต ไพศาล 4/12/45

ลุงขวด ครับ ผมเข้ามาอ่าน จดหมายจาก ลุงขวด บ่อยๆแต่ไม่ได้เขียนมาคุยด้วย เห็น แนวทางการลงทุนของลุง แล้วชอบ เพราะเป็นแนวเดียวกัน ผมเป็น คนสงขลา

เรียน วิศวะ จุฬา รุ่นเดียวกับ ดร. นิเวศน์
ผมก็เก็บหุ้น TR ไว้เหมือนกับ ลุงขวด ตั้งแต่ต้นปี จะเก็บแทนเงินฝากประจำ ราคาเฉลี่ย อยู่ที่ 128 บาท ปีที่แล้ว เขาจ่ายปันผล 7 บาท ประมาณ 23% ของ EPS เก็บเป็นกำไรสะสม 77% ปีนี้ ก็น่าจะจ่าย ไม่น้อย กว่า 23% ก็ตก 40.92*.23 = 9.41 บาท ที่ลุงกะ 10 บาท น่าจะได้นะ กำไรสะสมยังไม่จัดสรรของบริษัทเขาเยาะมาก 2,842,240,834 บาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน เพียง 201,600,000 บาท ผมกะว่าจะค่อยๆ สะสมเพิ่มเรื่อยๆ แต่ต้อง ให้ เงินปันผลออกก่อน ค่อยเอามาสะสมต่อ

ผม ได้อ่าน หนังสือ ตีแตก , เซียนหุ้นพันธุ์แท้ และเป็น แฟน บทความ Value Investor ของ ดร. นิเวศน์ เป็นประจำทุกวัน อังคาร

และหนังสืออีกเล่น ที่อยาก เพื่อนๆ Value Investor อ่าน คือ "วาทะคนแถวหน้า วาทะของ วอร์เรน บัฟเฟทท์" เจเน็ต โลว์ เขียน ศ.ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ แปล อ่านง่าย เข้าใจง่าย วอร์เรน บัฟเฟทท์ เขาสรุปเรื่องวิธีการลงทุน ไว้ว่า

" ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และ ถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี"

ผมได้อ่าน หนังสือ เล่ม นี้ ก่อนอ่าน หนังสือ ตีแตก ของ ดร. นิเวศน์

พอได้อ่าน วรรค ทองตรงนี้ ประกอบกับ ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ธนาคาร มันลงเหลือเกิน เลย ตัดสินใจย้ายเงิน มา ตลาดหุ้น เมื่อ เดือน ก.พ.ต้นปี 45 นี้ ซื้อ AYUD ที่ 105 บาท PPPC ที่ 52 บาท TR เฉลีย 128 บาท GRAMMY ที่ 118 บาท ก่อนแตก พาร์ และจะไม่ขาย เก็บไว้กินปันผลแทนดอกเบี้ยฝากประจำ จากธนาคาร

วันก่อน ผม E-mail ไปถาม ดร. นิเวศน์ ว่า พอร์ตของ ดร. มีมูลค่าเท่าใด แล้ว อาจรย์ บอก ว่า ตอนนี้ ตัวเลข 9 หลักแล้ว 3-4 ปี มานี้ เติบโตขึ้นปีละ 30%-40% และบอกว่า ก่อนตาย จะต้องสะสมทำให้ได้เป็น 10 หลัก

วันนี้ คุยเท่านี้ก่อน นะครับ วันหลังจะเขียนมาคุย กับลุงขวดอีก

:
จดหมาย จากลุงขวด 4/12/45

ยินดี ที่ ได้รู้จัก ครับ อุตส่าห์บอกหลายเรื่องรวมทั้ง เรื่องส่วนตัวด้วย ถ้าคุยมากไปเดี๋ยวเขาบอกทำไมไม่ไปคุยกันส่วนตัว...(ขอโทษด้วย สำหรับคนที่ไม่อยากรู้จัก) บังเอิญผมไม่ชอบแจก อีเมล์ และเบอร์โทรศัพท์ เลยไม่ค่อยได้รู้จักใครเท่าไร.....ยอมรับ มีเพื่อน ในห้องสนทนา pantip รู้จักกัน เพียง 5 คนเท่านั้น(ยังคิดถึงเขาทั้งหลายอยู่นะครับ)....ตอนนี้เก็บตัว ไม่ได้พบใครเท่าไร....กำลังหาความรู้ทางด้านเทคนิคอยู่ แต่ยังไม่สำเร็จสักที พยายามอยู่
ความรู้ส่วนตัวก็ เด็กวัดสุทธิ ระดับมัธยม และไปเรียน อัสสัมชัญพาณิชย์ และ ไปสูงสุดที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เศรษฐฯ สาขา การเงินการธนาคาร (ภาคค่ำ)เข้าไปปี 2511 จบปี 2516 ตามหลักสูตร 6 ปี สำหรับ ภาคค่ำ.......คนจนนะครับ...จึงต้องเรียนพาณิชย์ให้จบไว ๆ แล้ว ก็ทำ งาน ไป เรียนไป....ได้แค่นี้เอง....ยอมรับว่า ทาง อัสสัมชัญพาณิชย์นี่ ให้ความรู้มากจริง ๆ รุ่นเดียวกับผมที่ เก่งและ ได้เป็นเจ้าของกิจการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ถึง 3 คนด้วย กัน (เด็ก ACC อัสสัมชัญพาณิชย์).....อีกคนเป็นเซียนหุ้น เอ่ยชื่อก็รู้จักกันหมด(เสียดายที่ไม่สนิทกับผมเท่าไร)

หุ้นที่บอกมาก 4 ตัว ผมมี สองตัว ก็ ayud กับ tr ส่วน PPPC และ grammy ไม่มีครับ เคยมีแต่ขายไปแล้ว ไม่ได้ถือยาว ในกลุ่มบันเทิง ผมว่า p/e และ p/bv นั้นสูง ๆ กัน ทุกตัว ผมวิเคราะห์กลุ่มบันเทิงไม่เป็น เลยไม่ได้ถือยาว ครับ
ผมเล่นหุ้นมา 13 ปี ขาดทุนส่วนใหญ่ มากำไรก็ 4 ปีหลังนี้เองที่กำไร มาก ๆ ในสองปีหลัง ผมว่าตลาดเมืองไทย แบบ ปลอดภัยก็หุ้นปันผล ถ้าสามารถ ทำกำไรแถวประมาณ 15% ขึ้นไป ทุกปี ก็พอใจ นับว่า สอบผ่านแล้ว ถ้าจะเอา grade A ก็ต้องทำให้ได้ถึง 30% ต่อปี....ผมคิดว่า มีคนทำได้ แต่ผมยังทำไม่ได้นะครับ แค่สอบผ่านเท่านั้นเอง แมงเม่า ที่เอาตัวรอดในแต่ละปี

หุ้นในดวงใจที่ชอบ คือ FANCY MBK LTX (ตอนนี้ ltx ชักจะตื้อ ๆ แล้ว อย่างเก่งก็ไม่น่าเกิน 46 บาท ถ้าถึงระดับราคานั้นก็คงต้องลดลง แต่ถ้ายังปันผลปีละ 3 บาทก็คงถือต่อและดูผลประกอบการแต่ละไตรมาสในกานตัดสินใจต่อไป.....สูงสุดตัวนี้จำได้ว่า แถว 44 ตอนนี้ เห็นมีคนรับตลอดแถว 40 บาท).

หุ้นที่ผมติดอยู่ยอดดอย ก็กลุ่มธนาคาร จะหาทาง ซื้อ ถัวก็ทำไม่ได้ เพราะต้องใช้เงินมาก มันเกิดอาการว่า กำไร ไม่กี่พัน (ทำtrading ) แต่เวลา cut loss ทีหนึ่ง เสียเป็นแสน เลยไม่ได้ทำอะไรกับมัน.......อีกตัว ก็ sta โดนเรื่องที่ว่า ราคายางสูงตั้งนานเมื่อช่วงต้นปี ผมมันเรียนพ่อค้ามา เขาว่า ราคาสินค้าสูงขายสินค้า ง่าย และ ทำกำไรได้ง่าย เลยซื้อไว้ตรึมเลยที่แถว 33-34 บาท ตอนนี้เหลือแค่ 26-27 บาท......โดน จับ นั่งยาง ไปเลย ไหม้เกรียมอยู่นี่แหละ ยังค้างอยู่เลยครับ แต่อย่างไรคงมีปันผล น่าจะ 1.50 บาท มันดีตอนนี้ หละครับ......1.50 จากทุน เฉลี่ย 33.50 ก็ได้ Divident Yield 4.48 % เอ่ย...ยังดีกว่า เงินฝากเสียอีก เลยไม่ทุกข์ร้อนเท่าไร...........มันชักยาวไปแล้วเลยขอหยุดเท่านี้ก่อนนะครับ

:
จดหมายจาก ครรชิต ไพศาล 4/12/45

ฟังจากประวัติ การศึกษาของ ลุงขวดแล้ว น่าจะอายุใกล้ๆ กับผมนะ ผมอายุ 49 ปีแล้วปีนี้ เกิด 2496 เท่ากันหรือเปล่าครับ ลุงขวด ?

หุ้น GRAMMY ผมเห็นเขาเริ่มมีกำไรสะสมดีแล้ว และ น้องๆ ดารา นักร้องเขาก็ร้องเพลง ทำงานหาเงินให้บริษัทกันเก่ง ๆทั้งนั้น โดยเฉพาะ หนุ่ม เบร์ด ออกเพลงทุกชุด ก็กำไรทุกชุด เลยนึกเสียว่า ออกเงิน ซื้อตั๋ว ดูคอนเสริท ขอ เป็น Chairsholder (ยืมมาจากคำ Sharesholder) นั่งดูคอนเสริต แล้วไม่ยอมลุก ตราบใดที่ ลูกสาวผม ยังชอบฟังเพลง และซื้อ CD เพลงของ GRAMMY อยู่ ได้ปันผลมา 5% ก็ดีกว่าฝากธนาคาร

ส่วน PPPC ผมคิดว่า คนเราใช้ กระดาษชำระ และกระดาษ อื่นๆ ใช้แล้วทิ้ง ใช้แล้วทิ้ง อยู่ทุกวัน เมื่อเข้าไปดู กำไรสะสม ก็มีอยู่สูงพอสมควร ดูปันผล กลางปี 2 บาท ปลายปีอีก 4 บาท ได้รับการส่งเสริม ปันผล ไม่ต้องเสียภาษี อีก หนี้ ต่างประเทศก็ไม่มีแล้ว แถมผู้ถือหุ้น ใหญ่ เป็น เยื่อกระดาษสยาม และ กระทรวงการคลัง อีก ราคา ตอนนั้น 52 บาท ผมเลยขอเป็น Chairsholder
อีกบริษัท และ จะนั่งไม่ลุก ตราบใดที่ กระดาษ ยังถูกใช้แล้วทิ้ง อยู่ทุกวัน และ ได้รับปันผล สูงกว่าเงินฝากประจำ

หุ้น เกษตร ผม มี CM อยู่ วันก่อน ลงไปนอนพักผ่อน อยู่ที่ 35 บาท อยากจะซื้อเพิ่ม ก็ไม่มีเงินแล้ว ต้องรอให้เงินปันผลออก ก่อน บริษัทนี้เขา ก็มี กำไรสะสมมาก หนี้ น้อย ผลประกอบการ สม่ำเสมอ ปันผล 8%-9% ทุกปี ผมเลยขอเป็น Chairsholder อีกบริษัทหนึ่ง คอยซื้อ เก็บ หลังปันผลแล้วสักพัก ก็ลงไปนอนพักผ่อน ก็ค่อยๆซื้อเก็บเพิ่ม พอใกล้หน้าจะถึงหน้าปันผล ก็ขึ้นกลับไปใหม่ หุ้น หมวด เกษตร นิสัยเป็นอย่างนี้ทุกตัว

ผมตั้งใจว่า ลงทุนแนวนี้ ได้แค่นี้ ดีกว่า ดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคาร ก็พอใจแล้ว ไม่เอาแนวทาง ซื้อ แล้วขาย ซื้อแล้วขาย บ่อยๆ ไม่ไหว แก่แล้ว เวียนหัว เดี๋ยว หัวใจวาย ค่าคอม กินเข้าไปเรื่อยๆ

หุ้น ที่ผมตั้งใจ ว่าจะไม่เข้าไปเป็น Chairsholder เด็ดขาด คือ ธนาคาร ไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์ และ สื่อสาร

สุดท้ายนี้ ผมขอให้ ลุงขวด ประสบความสำเร็จ ตามแนวทาง Value Investor เพื่อ ได้เป็นตัวอย่างของรุ่นน้องๆ รุ่นหลังๆ ต่อไป นะครับ

:
จดหมาย จากลุงขวด 5/12/45

ผมเกิดปี 2491 เดือน สิงหาคม เดือนเดียวกับ ท่าน ดร. นิเวศน์เลย.....ไม่ได้มั่วนิ่มนะครับ.....ราศี เดียวกันเลยลงทุนแบบเดียวกันมังครับ cm มีเหมือนกัน การเล่นแบบเดียวกับที่บอก แสดงว่า คุณ ครรชิต....สอบเข้าเป็น นักเรียนในโรงเรียน value investor ได้แล้ว ก็คงได้ปันผล สัก 4 บาทเป็นแน่.........ตัวนี้มั่นคงดีในรอบนี้ไม่ลงมากเท่าไร ผมมั่นใจว่า เดือนหน้าหรืออย่างช้าเดือนกุมภาพันธ์ คงได้เห็นสูงขึ้นกว่า 10-15% เป็นแน่แท้ และ น่าจะมีปันผลสัก 4 บาท เช่นเดียวกับปีก่อน

ยินดีครับคุณครรชิตที่ได้รู้จักกัน ที่ยินดีเพราะว่านึกว่าผมแก่ที่สุดซะอีก ยังมีคุณครรชิตแก่กว่าผมอีก2ปี ผมเป็นรุ่นน้องอจ.นิเวศน์2ปีครับ(รุ่นน้องร.ร.เตรียมปี16-17) ื เสียดายไม่ได้เรียนวิศวะจะได้เล่นหุ้นเก่งๆแบบคุณครรชิตและอจ.นิเวศน์ครับ
ผมว่าทางด้านการเงินนี่โดนวิศวะแย่งงานไปหลายตำแหน่งครับ ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการณ์ก็จบวิศวะรุ่นน้องอจ.นิเวศน์ปีนึงเหมือนกันใช่มั้ยครับ(เตรียมอุดมปี15-16) ผู้จัดการกองทุนรวมบัวหลวงก็วิศวะเหมือนกัน (แซวเล่นๆครับ แต่จริงจังครับ)

วิศวะ ไปเอาดีทางด้านการเงินหลายคน นะครับ คุณประสาน ไตรรัตนวรกุล นั้นก็วิศวะ คงเป็นเพราะมีพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ดีอยู่แล้ว เลยเบนเข็มไปทางด้านการเงินง่ายขึ้น

ผมก็จบวิศวฯเหมือนกัน ชอบลงทุน และอ่านหนังสือธรรมะก่อนนอน เพื่อให้นอนหลับสบายเหมือนที่พี่ประจวบแนะนำครับ

ชอบเหมือนกันเลยครับ คุณ มนตรี ช่วงนี้ผมหยิบหนังสือท่านพุทธทาส ชุดลอยปทุม เรื่อง ความหลุดพ้น มาอ่านอยู่เหมือนกัน อ่านแล้วนอนหลับสบายดีใจมันสงบ

คุณมนตรี แวะไปเยี่ยมทาง Web Taladhoon.com บ้างหรือเปล่าครับ

ผมก็คอธรรมมะเหมือนกันครับ และแนวทางที่ผมสนใจก็แนวของท่านพุทธทาสกับพระธรรมปิฎกครับเพราะเป็นวิทยาศาสตร์ ผมว่าพวกvalue นี่คงจะมีอะไรคล้ายกันอยู่หลายอย่าง ทางweb น่าจะทำวิจัยไว้ซักหน่อยก็จะดี เช่นเรื่องรถ หนัง งานอดิเรก.....

ถึงพี่ครรชิตกับพี่ประจวบครับ
วันนี้ผมเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ไปพบลูกค้ามาครับ การพบลูกค้าครั้งนี้ของผมเป็นการพบลูกค้าที่เป็นลูกค้าของผมจริงๆคือเป็นของบริษัทของผมเอง เมื่อก่อนไปพบลูกค้าในนามลูกจ้างเขา การเป็นเจ้าของกิจการนี้มันทำให้ผมคิดแปลกไปจากเดิมมากทั้งในแง่การทำงานและการลงทุน ทำให้เข้าใจถ่องแท้ว่าการลงทุนเหมือนเป็นเจ้าของบริษัทนั้นเป็นอย่างไร การมองสินค้าที่จะนำมาขายนั้นควรเป็นสินค้าที่มีลักษณะแบบใด สินค้าของผมเป็นสินค้าสิ้นเปลื้องใช้แล้วทิ้ง คล้ายๆกับกระดาษทิชชูนั้นแหละครับ การตัดสินใจในการเจรจาในรูปแบบของเจ้าของกิจการต่างไปจากลูกจ้างมากครับต้องคิดหลายอย่างหลายประเด็นแต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีมากทีเดียว หากนำไปใช้ในการพิจารณาเลือกลงทุนในกิจการที่มีลักษณะนี้ได้เชื่อว่าเราลดความเสี่ยงลงไปได้มากทีเดียวครับ

ผมมีอีกเรื่องหนึ่งครับ ผมเกิดวันที่ 25 สิงหาคม 2512 ครับ รถที่ขับเป็น Honda หนังที่ชอบคือหนังจีนประเภท สามก๊ก มังกรหยก อะไรอย่างนี้ งานอดิเรกของผมคืออ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือนิยายประวัติศาสตร์ เช่น ภารตะนิยาย นิทานเวตาล สามก๊ก และอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน เพลงที่ชอบเป็นเพลงลูกทุ่งเก่าๆครับ และของพวกพี่ๆน้องๆละครับ

ผมก็ชอบอ่านพวก สามก๊ก และก็พวก กำลังภายในและนวนิยายเหมือนกันครับ(ถ้ามีเวลา) และก็ชอบฟังสัมมนาหรือเข้าอบรมโครงการต่างๆ รู้สึกvalue investorมักมีอะไรตรงนี้คล้ายๆกันนะครับ

น้อง มนตรี ทำไมชอบอ่านหนังสือแนวเดียวกันเลย ครับ ผมก็ชอบอ่ายประวัติศาสตร์ สามก๊ก วรรณคดี

สำหรับนิทานเวตาล ยังอยู่ที่โต๊ะทำงานของผมเลย ครับ เพิ่งจะเอามาอ่านเล่นเมื่อ วันก่อน

ผมว่าพอเราอายุมากขึ้น เรามักจะชอบ หวนกลับไปสู่ของดีเก่าๆ ที่บรรพบุรุษเขาสะสมไว้ให้ ทำให้เราเข้าใจ เพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น

ตอนเรายังเด็กๆ เรามองแต่ไปข้างหน้า สนใจแต่ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับ วิชาเกี่ยวกับ มานุษยวิทยา ทำให้เวลามาทำงานไม่ค่อยจะมี มนุษยสัมพันธ์ที่ดี พูดกับชาวบ้านทั่วไปเขาไม่รู้เรื่อง คุยเป็นแต่เรื่อง เทคโนโลยีเท่านั้น เลยพอแก่ตัว ต้องหันกลับไปหาของดีเก่าๆ นะครับ

แต่พี่ครรชิตครับ ผมเพิ่ง24นะครับ และผมอ่านสามก๊กตั้งแต่ ม.3ด้วย อย่าเหมาว่าแก่ถึงชอบอ่านสิครับ ผมว่าหนังสือพวกนี้สอนให้คนเป็นคนสุขุมมากกว่า เลยเหมือนสะท้อนภาพvalue investorพอดี

พี่ครรชิตครับไม่ทราบว่าลุงขวดนี่เป็นใครหรือครับ ผมถามพี่จวบแกบอกว่าเป็นลุงขายขวดมั้ง มิทราบใช่หรือเปล่าครับ

ผมเดาเอาครับไม่แน่ใจเหมือนกันว่าลุงขวดแกจะขายขวดรึเปล่า
ผมว่าคอเดียวกันทั้งนั้นแหละครับ ผมก็ชอบอ่านกำลังภายในเหมือนกัน ถ้านิยายจีนก็ต้องกิมย้งกับโกวเล้งอ่านมาตั้แต่เด็กๆ พอมีเงินเก็บก็สะสม ผมมีของกิมย้งทุกเล่มครับ และของโกวเล้งยุคกลางตั้งแต่ฤทธิมีดสั้น เซียวฮื้อยี้ลงมามีทุกเล่มครับ สามก๊กผมอ่านไปประมาณ3-4เที่ยวแล้วครับเพราะงานที่ทำค่อนข้างอยู่กับที่และมีเวลาว่างมากครับ หนังสือธรรมมะของท่านพุทธทาสกับพระธรรมปิฎกมีเป็นส่วนใหญ่ครับ ผมใช้รถแวนของไทยรุ่งอยู่ครับ(ถูกดีเทียบกับรถแวนแบบเดียวกัน) ถ้าเพลงก็ เติ้งลี่เจิน และอรวีชุดแปลไทยของเติ้งลี่เจินครับ

ลุงขวด เป็นเพื่อนนักลงทุนผู้ใหญ่ที่ผมนับถือ ที่คุยกับเพื่อนๆ อยู่ใน Taladhoon.com

ลุงขวดเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ใน FANCY ค่อนข้างมากจำนวนหุ้นเลข 6 หลัก เชียวนะครับ บอกเท่านี้ก็แล้วกันนะครับ

ไม่ใช่คนขายขวด นะจะบอกให้

วันนี้ผมมาดึกหน่อยครับ กว่าจะเสร็จธุระ(เดินทางฝ่ารถติด...พีจวบกับ พี่ครรชิตคงอิจฉาผมมากเลย) มาถึงบ้านก็เกียบ4ทุ่ม กว่าไอ้ตัวเล็กจะหลับก็เกียบ5ทุ่ม เพิ่งทานข้าวเสร็จนี่ละครับ
ผมได้ตามไปอ่านตามที่พี่ครรชิตบอกแล้วครับ ผมว่าเราน่าจะเชิญลุงขวดมาคุยกันที่นี่บ้างนะครับ ผมเห็นในtaladhoon.comมีเรื่องหลากหลายมากไม่แพ้pantip.com แต่พอมาที่นี่มีแต่Value Investor ล้วนๆเลย และผมว่าคนในนี้น้อยมาก หรือValue Investorแท้จะมีน้อยจริงๆ ผมเองก็เคยเป็นแบบพันธ์ทางมาก่อน พอเห็นหุ้นตกมากๆอย่าง2วันนี้ก็ตามขาย แล้วกลับมาเสียใจทุกทีเลยเลิก ผมว่าคล้ายกันหมดละครับ มีน้อยที่เริ่มก็เป็นเลย

อยู่กรุงเทพฯ ปัญหารถติด แก้ไม่ตก ถ้าไม่สามารถออกกฏหมาย ลดจำนวนรถส่วนบุคลลงได้ ต่อให้สร้างถนนลอยฟ้าสักสามสี่ชั้นก็แก้ไม่ได้

อยู่ ต่างจังหวัด อากาศดีรถไม่ติด ผมว่า ถ้าเพื่อนๆที่เป็นนักลงทุน ที่มีพอร์ตใหญ่พอ
ขนาด ปันผลปีละหลายๆ ล้าน ไม่ต้องทำงานอย่างอื่นแล้ว สามารถดูแลพอร์ต ผ่านทาง Internet ได้ ออกมาหาบ้านสบายๆ อยู่ต่างจังหวัดนี้จะดีกว่าอยู่ในกรุงเทพฯเยอะเลยครับ

ลุงขวด เป็น VI พอร์ตส่วนใหญ่ก็ถือยาว แต่ก็มีการซื้อ-ขายช่วงสั้นบ้างเล็กน้อยเหมือนกัน เห็นบอกว่าแก้เหงา แต่ จะซื้อ-ขาย เฉพาะหุ้นที่มีพื้นฐานดีเท่านั้น ครับ

ส่วนผม เป็น VI ประเภทถือยาว จะขายเท่าที่จำเป็นต้องใช้เงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น
แก้เหงาด้วยการอ่านหนังสือ และ เขียน E-mail มาคุยกับพื่อนๆ ครับ

น่าจะเชิญ อาจารย์นิเวศน์ เข้ามาเป็นอาจารย์ตอบคำถามกระทู้ด้วยนะครับ

เอกระทู้นี้มีใครยังไม่ได้อ่านครับเนี่ย คัมภีร์เลยนะเนี่ย

ผมชอบอ่านหนังสือครับ
แต่ไม่ชอบเหมือนหลายๆคนครับ
เคยลองอ่านสามก๊กแล้วไม่ติดใจ
อ่านอะไรที่เป็นเรื่องแต่งผมมักจะไม่ชอบไม่รู้เป็นไร
เรื่องแต่งที่ชอบก็ harry potter เรื่องเดียวเองครับ
ไม่รู้คนอื่นๆอ่านบ้างรึเปล่า
ถ้ายังไม่ได้อ่านไปลองดูนะครับ แล้วจะรู้ว่าทำไมหนังสือเค้าขายดีได้ขนาดนั้น

ผมว่านี้คือสุดยอดตำราที่ไม่ควรมองข้าม ใครยังไม่ได้อ่านก็ควรจะอ่านซะ เรียนรู้จากความสำเร็จและผิดผลาดของคนอื่นจะทำให้เราไปได้เร็วขึ้นมาก

ขออนุญาติ ขุดกระทู้ดีๆๆ  ไปไว้ข้างหน้านะครับ

จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้ว  มีตติ้งสินทร  ได้มีการนำไปพิมพ์ด้วยอ่ะครับ

ดีมากครับ เดี๋ยวจะขึ้นไปอ่านคับ

โอโห ไปขุดมาจากหน้าไหนนี้  
สงสัย คุณ PaZZaHut เป็นนักสำรวจขุดค้น ของโบราณ

จำได้ว่าตอนนั้น TVI เพิ่งเปิดใหม่ๆ
ก็พยายามชวนลุงขวด และเพื่อนๆ
มาคุยกันที่นี้ เพราะตอนนั้นยังมีสมาชิกน้อยอยู่

นี้ก็ 3 ปี แล้วนะ ขอให้ TVI ของเรา เจริญขึ้นไปเรื่อยๆ

[quote="ครรชิต ไพศาล"]โอโห ไปขุดมาจากหน้าไหนนี้

3 ปีแล้วเหรอ เร็วจัง กาลเวลา

ผมเพิ่งศึกษาแนวทาง Value Investors ได้ไม่นาน (ประมาณสองเดือน) อาศัยเก็บความรู้จากกระทู้ พี่ครรชิต , พี่เจ๋ง

แต่พอมาอ่านกระทู้นี้ สงสัยต้องเปลี่ยนสรรพนามเรียกใหม่ซะแล้ว

"คุณอาครรชิต"  ... เพราะรุ่นเดียวกับ ดร.นิเวศน์

ส่วนผมยังไม่เบญจเพศเลยยยยย

ได้อ่านประสพการณ์เหล่านี้แล้ว สำหรับผมคนรุ่นหลัง  ถือเป็นความรู้ที่หาไม่ได้ง่ายนัก ขอให้มั่งคั่งยิ่งขึ้นนะครับ สำหรับนักบุกเบิกทุกท่าน

วันนี้พอดีมีธุระต้องไปให้กำลังใจคนสอบ defend ครับ
เลยได้มีโอกาสว่าง ๆ เงียบ ๆ นั่งอ่านหนังสือในสถานที่ใหม่ ๆ
(แปลกที่สถานการณ์แบบนี้มักจะทำให้ผมมีสมาธิสุด ๆ)

วันนี้ผมเลือกเอาบทความจดหมายระหว่างคุณครรชิตกับคุณลุงขวด
ฉบับที่ลงในบทความของเวปนี้ไปอ่านครับ .....
ซึ่งมันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ที่เป็นวันเดียวกับที่กระทู้นี้เด้งขึ้นมา

ระหว่างอ่าน....ผมได้อะไรมากมายครับ
จึงอยากจะโพสท์ขอบคุณคุณลุงขวดและคุณ(อา)ครรชิต
รวมถึงท่านอื่น ๆ ที่เข้ามาแบ่งปันความรู้ให้กับน้อง ๆ ได้ศึกษาด้วยครับ  :idea:

ขอบคุณครับที่ขุดมาให้อ่าน

ขอบคุณครับที่นำกระทู้เก่ามาให้อ่าน ที่นี่หลายท่านๆมีอายุมากกว่าผมเยอะมากเลย บางคนอายุพอๆกับคุณพ่อของผมได้เลย  อ่านแล้วประทับใจมากครับ ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี ปกติผมก็เป็นคนที่ชอบฟังผู้ใหญ่เล่าประสบการณ์ให้ฟัง ฟังแล้วได้อะไรๆเยอะดี

ก่อนหน้านี้ที่บริษัทเก่าให้ทุกคนเขียนบุคคลต้นแบบงที่ตัวเราเองยึดถือและปฏิบัติตาม ตอนนั้นผมนึกไม่ออกมาเลยจริงๆว่า จะเขียนว่าใครและไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นคนแบบไหน หรือว่าจะยึดถือใครเป็นต้นแบบดี

พอได้มาเจอเวบบอร์ดนี้  ผมจึงเริ่มมองเห็นแนวทางของตัวผมเองแล้วล่ะ

ได้มีโอกาสอ่านจดหมายระหว่างลุงขวดและพี่ครรชิตจากกระทู้ในห้องบทความ

http://thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=886

แต่กระทู้นั้นถูกล๊อคไปแล้ว เลยขอขุดกระทู้นี้ขึ้นมาคารวะอาจารย์ทุกๆท่านนะครับ

และถือโอกาสขออนุญาตพี่ครรชิตนำวรรคทองที่ว่า

" ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี มีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และ ถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี "

มาเป็น Signature ของผมเพื่อใช้เตือนสติตัวเองทุกครั้งเวลากลับมาอ่านด้วยนะครับ


ด้วยความเคารพอย่างสูง