คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

กระทู้การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น วีไอ มีประโยชน์ ความรู้ดีดี เป็นประโยชน์เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน แค่ไหนก็ตาม
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 159

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 31

โพสต์

ผมอ่านของพี่แผ่วเบาแล้วก็เข้าใจผิดจริงๆด้วย
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 159

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 32

โพสต์

:oops:  :oops:  เพิ่งปล่อยไก่ไปให้พี่แผ่ว 1 ตัว
ไม่ทันไรผมปล่อยอีกเป็นเล้าเลย ... อ่านชื่อผ่านๆนึกว่าตอบพี่ธันวา จริงแล้วต้องเป็นพี่ thawatt ...  :oops:  เข้ามาแก้ตัวครับ  :lol:
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 9

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 33

โพสต์

หลังจากแซวคุณ sunrise ตอนต้นกระทู้แล้ว กลับมาอ่านกระทู้นี้อีกที

รู้เลยว่าตัวเอง อ่อนเรื่องการวิเคราะห์หุ้น โมเดลธุรกิจ ดูบัญชี ฯลฯ อย่างรุนแรง รูปภาพ

จะเป็น VI รอดไหมเนี่ย... สงสัยต้องกลับไปสงบเสงี่ยมในห้องมือใหม่ก่อน
wara
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 243
ผู้ติดตาม: 1

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 34

โพสต์

เข้ามาอ่านกระทุ้นี้แล้วได้ความรู้มากขึ้นเลยครับ
เป็นกระทู้ที่น่าสนใจจริงๆ
ผมว่าน่าจะจัดเก็บเข้าคลังกระทู้คุณค่า ซะเลย

ผมว่าการ discuss อย่างนี้เป็นประโยชน์มาก สำหรับ VI มือใหม่
ขอขอบคุณอีกครั้ง   8)
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 1

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 35

โพสต์

[quote="chatchai"]รอบ 9 เดือนที่ผ่านมา

บริษัทมีได้เงินสดจากการดำเนินงานก่อนการลงทุนในสินทรัพย์หมุนเวียน
แผ่วเบา
Verified User
โพสต์: 391
ผู้ติดตาม: 0

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 36

โพสต์

หลังจากอ่านกระทู้นี้แบบผ่านๆ ผมว่า
1.การทำธุรกิจ ถ้าต้องสต๊อคมากๆ ไม่ว่าจะวัฐจักรแบบไหน ก็ไม่เหมาะครับ
ถ้าอย่างนั้นน่าจะเรียกเก็งกำไรมากกว่า ผมว่าถ้าจะเล่นสต๊อคมากๆ
ไปซื้อ future เลยดีกว่า มีสภาพคล่องกว่ากันเยอะ
ไม่ต้องเสียพื้นที่จัดเก็บ
ผมมีความเห็นที่แตกต่างครับพี่นันชัน
ผมจะยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบ
ไม่ตรงกันนักแต่ก็คล้ายๆกัน


นักธุรกิจควรตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจ
ไม่ควรไปยุ่งกับเรื่องการเมือง
แต่เหตุการณ์ในชีวิตจริง
นักธุรกิจก็ต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่ดี
เพราะถึงแม้ตนเองไม่ไปยุ่งเกี่ยว
ตัวการเมืองก็มายุ่งเกี่ยวกับเราจนได้

เช่นเดียวกับการสต็อคของไว้เยอะ
เป็นการเก็งกำไร
แต่แม้เราไม่ไปเก็งกำไร
แต่การเก็งกำไรก็จะมาเยือนเราจนได้เช่นกันในอนาคต

และเมื่อเรื่องเก็งกำไรมาเยือนเราแล้ว
เราควรมีวิธีบริหารความเสี่ยงทั้งสองขา(ขาขึ้นขาลง)
ไม่ใช่ขาเดียวอย่างที่บริษัททำตอนนี้

ที่ผ่านมาบริษัทสต็อคของไว้ประมาณ 1 เดือน
นี่ก็เป็นการเก็งกำไร
แม้โดยธรรมชาติของธุรกิจเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องสต็อคของ
ไม่อย่างนั้นจะเอาของที่ไหนขาย
อาจจะบอกว่าตัวเลข 1 เดือนนี้ พอเหมาะพอดีแล้ว
ตรงนี้ผมไม่เถียงครับ

แต่ว่า
บริษัทก็ควรจะบริหารความเสี่ยงทั้งสองขาอย่างที่ผมบอก
คือซื้อมาราคา x ผ่านไปหนึ่งเดือนราคาเป็น y
บริษัทก็ควรจะขายราคา y
เพราะเมื่อเป็นขาลง
thawattt
Verified User
โพสต์: 1141
ผู้ติดตาม: 1

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ขอบคุณสำหรับความรู้ของคุณ doodeemak และ คุณ Yoyo ด้วยครับ อ่านแล้วทำให้ได้ความรู้ไปต่อยอดดีครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ  :lol:
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 85

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 38

โพสต์

แผ่วเบา เขียน:
ผมมีความเห็นที่แตกต่างครับพี่นันชัน
ผมจะยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบ
ไม่ตรงกันนักแต่ก็คล้ายๆกัน


นักธุรกิจควรตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจ
ไม่ควรไปยุ่งกับเรื่องการเมือง
แต่เหตุการณ์ในชีวิตจริง
นักธุรกิจก็ต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่ดี
เพราะถึงแม้ตนเองไม่ไปยุ่งเกี่ยว
ตัวการเมืองก็มายุ่งเกี่ยวกับเราจนได้

เช่นเดียวกับการสต็อคของไว้เยอะ
เป็นการเก็งกำไร
แต่แม้เราไม่ไปเก็งกำไร
แต่การเก็งกำไรก็จะมาเยือนเราจนได้เช่นกันในอนาคต

และเมื่อเรื่องเก็งกำไรมาเยือนเราแล้ว
เราควรมีวิธีบริหารความเสี่ยงทั้งสองขา(ขาขึ้นขาลง)
ไม่ใช่ขาเดียวอย่างที่บริษัททำตอนนี้

ที่ผ่านมาบริษัทสต็อคของไว้ประมาณ 1 เดือน
นี่ก็เป็นการเก็งกำไร
แม้โดยธรรมชาติของธุรกิจเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องสต็อคของ
ไม่อย่างนั้นจะเอาของที่ไหนขาย
อาจจะบอกว่าตัวเลข 1 เดือนนี้ พอเหมาะพอดีแล้ว
ตรงนี้ผมไม่เถียงครับ

แต่ว่า
บริษัทก็ควรจะบริหารความเสี่ยงทั้งสองขาอย่างที่ผมบอก
คือซื้อมาราคา x ผ่านไปหนึ่งเดือนราคาเป็น y
บริษัทก็ควรจะขายราคา y
เพราะเมื่อเป็นขาลง
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 159

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 39

โพสต์

เรื่องซื้อใจอย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กนะครับ เพราะหลายๆครั้งธุรกิจที่แข่งกันคู่คี่ก็เฉือนกันตรงนี้แหละ

บ้านผมทำธุรกิจขายสกรูน๊อตครับ ซื้อมาขายไปคล้ายๆ gc นี่แหละ สินค้าของแต่ละร้านก็คล้ายๆกันเพราะงั้นแข่งกันที่ราคาดุเดือดเลยครับ

ราคาขายที่บ้านผมขายก็แนวๆนี้ครับ ในช่วงขาขึ้น ถ้ามีของที่ซื้อมาราคาเดิมอยู่ ลูกค้าประจำผมก็ให้ราคาเดิมครับ กำไรไม่ได้ต่างกันมากมายแต่ซื้อใจได้เยอะ ลูกค้าเห็นแบบนี้บ่อยๆครั้งเข้าเค้าก็สั่งเราเจ้าเดียวอยู่บ่อยๆ เพราะเจ้าอื่นบางทีเค้าก็เจอฟันราคาอยู่เนือง หลายๆครั้งที่ของบ้านผมแพงกว่าร้านอื่น ถ้าไม่ได้มากมายเค้าก็ซื้อบ้านผม และยิ่งกรณีที่ต้นทุนมาใกล้ๆกัน ราคาขายเท่าๆกัน คงไม่ต้องสงสัยว่าลูกค้าเค้าจะซื้อร้านไหน

ธุรกิจที่ Margin น้อยๆ แข่งกันที่ราคาหลักๆ เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็มีผลใช่ย่อยนะครับ เพราะส่วนใหญ่คู่แข่งก็ไม่ได้มีต้นทุนต่างกันมาก เพราะงั้นราคามันจะไล่ๆกัน ใครบริการดี จริงใจกว่า เชื่อถือได้มากกว่าก็เอาไปกินครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 159

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

ส่วนช่วงขาลงก็ไม่ได้ serious ครับ ขายราคาแพงนั้นแหละ ขายได้ก็ขาย ขายไม่ได้ก็เก็บไว้ หรือถ้าจำนวน stock มันเยอะไปก็มีขายลดราคาไปบ้าง .. เจ็บนิดเจ็บหน่อย ไม่ serious ครับ ..
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
Luty97
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1555
ผู้ติดตาม: 20

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 41

โพสต์

yoyo เขียน:ส่วนช่วงขาลงก็ไม่ได้ serious ครับ ขายราคาแพงนั้นแหละ ขายได้ก็ขาย ขายไม่ได้ก็เก็บไว้ หรือถ้าจำนวน stock มันเยอะไปก็มีขายลดราคาไปบ้าง .. เจ็บนิดเจ็บหน่อย ไม่ serious ครับ ..
จะไปซีเรียสทำไม... ธุรกิจที่บ้านกำไรน้อยมาเอากำไรในตลาดหุ้นก็ได้ฟระ  กำไรมากกว่ากันอือเลย :lol:

(เข้ามาแซว ขำๆนะครับ)
หลักของความสมดุล
ภาพประจำตัวสมาชิก
abscisic
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 180
ผู้ติดตาม: 0

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 42

โพสต์

แผ่วเบา เขียน:                

Quote:
หลังจากอ่านกระทู้นี้แบบผ่านๆ ผมว่า
1.การทำธุรกิจ ถ้าต้องสต๊อคมากๆ ไม่ว่าจะวัฐจักรแบบไหน ก็ไม่เหมาะครับ
ถ้าอย่างนั้นน่าจะเรียกเก็งกำไรมากกว่า ผมว่าถ้าจะเล่นสต๊อคมากๆ
ไปซื้อ future เลยดีกว่า มีสภาพคล่องกว่ากันเยอะ
ไม่ต้องเสียพื้นที่จัดเก็บ  


ผมมีความเห็นที่แตกต่างครับพี่นันชัน
ผมจะยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบ
ไม่ตรงกันนักแต่ก็คล้ายๆกัน


นักธุรกิจควรตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจ
ไม่ควรไปยุ่งกับเรื่องการเมือง
แต่เหตุการณ์ในชีวิตจริง
นักธุรกิจก็ต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่ดี
เพราะถึงแม้ตนเองไม่ไปยุ่งเกี่ยว
ตัวการเมืองก็มายุ่งเกี่ยวกับเราจนได้

เช่นเดียวกับการสต็อคของไว้เยอะ
เป็นการเก็งกำไร
แต่แม้เราไม่ไปเก็งกำไร
แต่การเก็งกำไรก็จะมาเยือนเราจนได้เช่นกันในอนาคต

และเมื่อเรื่องเก็งกำไรมาเยือนเราแล้ว
เราควรมีวิธีบริหารความเสี่ยงทั้งสองขา(ขาขึ้นขาลง)
ไม่ใช่ขาเดียวอย่างที่บริษัททำตอนนี้

ที่ผ่านมาบริษัทสต็อคของไว้ประมาณ 1 เดือน
นี่ก็เป็นการเก็งกำไร
แม้โดยธรรมชาติของธุรกิจเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องสต็อคของ
ไม่อย่างนั้นจะเอาของที่ไหนขาย
อาจจะบอกว่าตัวเลข 1 เดือนนี้ พอเหมาะพอดีแล้ว
ตรงนี้ผมไม่เถียงครับ

แต่ว่า
บริษัทก็ควรจะบริหารความเสี่ยงทั้งสองขาอย่างที่ผมบอก
คือซื้อมาราคา x ผ่านไปหนึ่งเดือนราคาเป็น y
บริษัทก็ควรจะขายราคา y
เพราะเมื่อเป็นขาลง  บริษัทก็จะถูกบังคับให้ต้องขายที่ราคา y
ซึ่งตอนนั้น y จะต่ำกว่า x และต้องเจ็บตัวเพราะขาดทุน

ช่วงที่ผ่านมาเป็นขาขึ้น
บริษัทก็สบายหน่อยเพราะขายของง่าย
และขายไปในราคา x
ลูกค้าก็ happy

แต่เมื่อเป็นขาลง
จะขายราคา x ได้หรือ
ลูกค้าจะยอมหรือ
ธุรกิจก็คือธุรกิจ

ผมว่าไม่ยอม
ผมอาจจะผิดก็ได้

เพราะถ้ามีเจ้าอื่นขายราคา y
บริษัทก็แย่ใช่ไหมครับ
แล้วบริษัทอื่นทำไมถึงยอมขายขาดทุนที่ราคา y
ก็เพราะตอนนั้น supply ล้นตลาดไงครับ
ถ้าไม่ขาดทุนเพียงเท่านี้
ก็ต้องขาดทุนมากกว่านี้
เป็นธรรมชาติของธุรกิจที่เป็น cyclic


และอนาคตบริษัทจะต้องเจอภาวะคุกคามอย่างนี้แน่นอน

เพราะบริษัทบริหารความเสี่ยงเพียงขาเดียว
ที่จริงแบบนี้เรียกว่าไม่ได้บริหารความเสี่ยงเลยด้วยซ้ำ
อาจจะไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับช่วงขาลงด้วยซ้ำ

จริงๆผมก็ว่า บริษัทเองก็ทราบ

แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้
เพราะมีอำนาจต่อรองกับลูกค้า น้อยกว่ามากนั่นเอง  

คือเท่าที่ผมรู้นะครับจาก Technical representative ของ GC  เค้าบอกว่าลูกค้าของบริษัท GC เป็นโรงงานขนาดเล็กครับ แล้วค้าขายกันมานานแล้ว ไม่ค่อยเปลี่ยนเจ้า เพราะถึงราคาต่างกัน ก็ไม่มากมาย เทียบกับความเชื่อใจที่ค้าขายมานาน ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเค้าบอกว่า บริษัทนี้ไม่มี sale ครับ ใช้ เค้าเป็นทั้ง ฝ่ายบริการ ทั้ง เซลล์ ไม่ค่อยเน้นหาลูกค้าใหม่ๆ เน้นลูกค้าเดิมๆที่ค้าขายมานานรู้ฐานะลูกค้าดี อะไรประมาณนั้น

ส่วนเรื่อง สารaddition(BU3มั้งถ้าจำไม่ผิด) ที่ margin สูงๆ นี่ส่วนมากขายพวก โรงปิโตร โรงกลั่น หนี้ก็ไม่น่าศูนย์นะ เพราะส่วนมากลูกค้ากลุ่มนี้ ก็รายใหญ่ๆทั้งนั้น แต่ลูกค้ากลุ่มนี้แหละที่จะเสี่ยงเรื่องที่อาจเปลี่ยนเจ้าได้ ถ้าราคาถูกกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
abscisic
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 180
ผู้ติดตาม: 0

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 43

โพสต์

เพิ่มเติม หน่อย เท่าที่ทราบ รู้สึกว่า พวก สารaddition นี่ เป็นพวก inorganic compound นะ(ไม่ชัวร์นะครับ มีใครไปopp day รบกวนช่วยถามให้ผมด้วยนะครับ) ราคามันไม่ได้เป็นแบบ พวก Organic ที่มีวัฐจักรนะครับ
Popmc
Verified User
โพสต์: 217
ผู้ติดตาม: 0

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 44

โพสต์

ขอบคุณพี่ฉัตรชัยและเพื่อนๆในกระทู้นี้มากครับ ... สุดยอดเลยครับ นับถือทุกคนมากๆ  :bow: :bow: :bow:

ปกติผมเคยเห็นแต่ธุรกิจที่ยอมลดมาร์จิ้นตัวเองลงเพื่อที่จะดึงดูดเงินสดของลูกค้า ... กรณี GC นี่น่าสนใจจริงๆครับ ... ถ้าหากสามารถบริหารให้บริษัทไม่ต้องเพิ่มทุน หรือสามารถรอดตัวจากเหตุการณ์ผิดปกติได้ ผมว่านี่คือกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจมากๆครับ

พี่ฉัตรชัยและเพื่อนๆพอจะทราบไหมครับว่าลูกค้าของ GC เป็นกลุ่มไหน ... มีฐานะการเงินแข็งแกร่งมากๆเลยหรือเปล่าครับ ... GC จู้จี้ในการเลือกลูกค้าหรือเปล่า

พี่ฉัตรชัยครับ สินค้า specialty ของบริษัทในกลุ่มนี้ ลูกค้ามีโอกาสหันไปหาซัพพลายเออร์รายใหม่หรือเปล่าครับ ... หรือว่าซัพพลายเออร์จะมีลักษณะเกือบผูกขาดในสินค้าประเภทนี้

... อยากได้เป็นข้อมูลประกอบการติดตาม GC ครับ ... ขอบคุณมากๆอีกครั้งครับ สำหรับกระทู้สุดยอดอันนี้  :bow:  :bow:  :bow:
... No more hobbies! Remember!
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 2

คุณ sunrise สนใจ GC ไหมครับ

โพสต์ที่ 45

โพสต์

หนี้ต่อทุนก็ดูใช้ได้นะครับ Q4/50 กำไร +184% เป็นการประกาศผลประกอบการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 8 กระฉูดกันทันที

       2550    2549    2548
Q1    1.62     2.04       -
Q2    1.78     2.06       -
Q3    1.86     2.07       -
Q4    1.58     1.70     2.00

เพิ่มทุน ไม่เพิ่มทุน ข่าวออกมารู้พร้อมกันครับ  :8)