หน้า 4 จากทั้งหมด 6

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2011 4:21 pm
โดย send
ขอบคุณครับ

Re: พี่ BHT

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 16, 2011 11:44 am
โดย wanisa
[quote="BHT"]ผมยังจำได้ เปิดพอร์ตครั้งแรกด้วยเงิน 7000 บาท

ท่านใดต่ำกว่านี้ มาบลัฟเลยครับ 55  :lol:  :lol:

ผมไม่กังวลใดๆทั้งสิ้นครับ ผมศึกษาจากพี่ๆในนี้ ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม เวลาผ่านไป ผมรู้สึกได้เองว่าเก่งขึ้น แต่ก็ยังอ่อนหัดมากอยู่ดี
เรื่องผลตอบแทนนั้น ผมเห็นกับตาในพอร์ทเลยว่า จากทีแรกที่ขาดทุนไปเยอะ แต่ตอนนี้ตัวที่มาซื้อระยะหลังๆ กำไรทุกตัว แต่ถือไว้ไม่ขาย

ของเก่าๆที่ถือไว้มีขาดทุนบ้าง ก็ตามติดสถานการณ์แล้ว เห็นว่ายังโอเค ก็ถือต่อครับ

ดังนั้นอย่าเอาจำนวนเงินมาเป็นที่ตั้งให้กังวลใจครับ ทำงานเก็บเงินเติมเข้าพอร์ตไปเรื่อย ทบกับกำไรที่ทำได้มากขึ้นตามความรู้ที่เก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มั่นใจได้เลยว่าไม่นานจะมีอิสรภาพทางการเงิน สำหรับผมตั้งไว้ตอน 30 ปลายๆครับ[/q
ใช้เวลานานไหมค่ะ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 2:03 pm
โดย chukieat30
ผมว่าคนปอดเล็กเล่นง่ายกว่าปอดใหญ่นะครับ

ถ้าจะเอาขึ้นเร็วก้ต้องลุ้น คอมโม+เทินอะราว จัดหนักๆ 2ตัวพอ 10เด้งตัวเดียวก้ลิ่วละครับ

ถ้าจะไปช้าหน่อย ก้ แนว conserv

สำหรับผมมองว่า คนตัวเล็กสามารถเล่นหุ้น ที่วอลุ่มน้อยๆๆได้

เข้าง่ายออกง่าย

คนตัวใหญ่เข้ายากครับ ออกก้ยาก

คนตัวเล็ก ต้องแนว agresssive สักนิดนึงครับ ไว้ 7-8-9 หลักค่อยเปลี่ยนแนวมา

conserv

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 27, 2011 12:50 am
โดย marcus147
ขอบคุณมากเลยครับ สำหรับบทความดีๆ
แม้จะนานแล้ว แต่ยังคงใช้ได้เสมอ

Re:

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 08, 2011 6:20 am
โดย aurakasa
Boring Stock Lover เขียน:Leverage เป็นหนึ่งในกลยุทธที่นำมาใช้ได้ ซึ่งอาจจะเป็น Margin หรือ derivative อย่างวอแรนท์ พวกนี้จะช่วยทำให้เงินลงทุนเรามีอำนาจมากขึ้น

พวกหุ้นที่ผ่านการคัดสรรของเรามาแล้วแทนที่จะถือหุ้นแม่ ก็ซื้อวอร์แล้วถือแทน
กำลังจะลองทำอยู่ครับ...
ขอบคุณพี่ๆที่ตั้งและตอบกระทู้นี้

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 08, 2011 9:14 am
โดย Nirusl
ขอบคุณครับ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 16, 2011 5:21 pm
โดย znet
ได้อ่านแล้วได้แนวคิดครับ
ขอบคุณมากๆครับ :P

Re: พี่ BHT

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 23, 2011 10:33 pm
โดย อุทยา
wanisa เขียน:
BHT เขียน:ผมยังจำได้ เปิดพอร์ตครั้งแรกด้วยเงิน 7000 บาท

ท่านใดต่ำกว่านี้ มาบลัฟเลยครับ 55  :lol:  :lol:

ผมไม่กังวลใดๆทั้งสิ้นครับ ผมศึกษาจากพี่ๆในนี้ ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม เวลาผ่านไป ผมรู้สึกได้เองว่าเก่งขึ้น แต่ก็ยังอ่อนหัดมากอยู่ดี
เรื่องผลตอบแทนนั้น ผมเห็นกับตาในพอร์ทเลยว่า จากทีแรกที่ขาดทุนไปเยอะ แต่ตอนนี้ตัวที่มาซื้อระยะหลังๆ กำไรทุกตัว แต่ถือไว้ไม่ขาย

ของเก่าๆที่ถือไว้มีขาดทุนบ้าง ก็ตามติดสถานการณ์แล้ว เห็นว่ายังโอเค ก็ถือต่อครับ

ดังนั้นอย่าเอาจำนวนเงินมาเป็นที่ตั้งให้กังวลใจครับ ทำงานเก็บเงินเติมเข้าพอร์ตไปเรื่อย ทบกับกำไรที่ทำได้มากขึ้นตามความรู้ที่เก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มั่นใจได้เลยว่าไม่นานจะมีอิสรภาพทางการเงิน สำหรับผมตั้งไว้ตอน 30 ปลายๆครับ[/q
ใช้เวลานานไหมค่ะ
มาบลัฟครับ :oops:
ผมเปิดพอร์ตครั้งแรก 5000 บาท :P

Re: พี่ BHT

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 06, 2011 12:51 am
โดย tooptup
อุทยา เขียน:
wanisa เขียน:
BHT เขียน:ผมยังจำได้ เปิดพอร์ตครั้งแรกด้วยเงิน 7000 บาท

ท่านใดต่ำกว่านี้ มาบลัฟเลยครับ 55  :lol:  :lol:

ผมไม่กังวลใดๆทั้งสิ้นครับ ผมศึกษาจากพี่ๆในนี้ ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม เวลาผ่านไป ผมรู้สึกได้เองว่าเก่งขึ้น แต่ก็ยังอ่อนหัดมากอยู่ดี
เรื่องผลตอบแทนนั้น ผมเห็นกับตาในพอร์ทเลยว่า จากทีแรกที่ขาดทุนไปเยอะ แต่ตอนนี้ตัวที่มาซื้อระยะหลังๆ กำไรทุกตัว แต่ถือไว้ไม่ขาย

ของเก่าๆที่ถือไว้มีขาดทุนบ้าง ก็ตามติดสถานการณ์แล้ว เห็นว่ายังโอเค ก็ถือต่อครับ

ดังนั้นอย่าเอาจำนวนเงินมาเป็นที่ตั้งให้กังวลใจครับ ทำงานเก็บเงินเติมเข้าพอร์ตไปเรื่อย ทบกับกำไรที่ทำได้มากขึ้นตามความรู้ที่เก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มั่นใจได้เลยว่าไม่นานจะมีอิสรภาพทางการเงิน สำหรับผมตั้งไว้ตอน 30 ปลายๆครับ[/q
ใช้เวลานานไหมค่ะ
มาบลัฟครับ :oops:
ผมเปิดพอร์ตครั้งแรก 5000 บาท :P
ผมขอบลัฟด้วยคนครับ ครั้งแรก 1000 บาท เท่าที่อ่านกระทู้นี้มา ของผมน่าจะน้อยที่สุดแล้ว 555

Re: พี่ BHT

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 06, 2011 3:41 am
โดย aradin
tooptup เขียน: ผมขอบลัฟด้วยคนครับ ครั้งแรก 1000 บาท เท่าที่อ่านกระทู้นี้มา ของผมน่าจะน้อยที่สุดแล้ว 555
ใช้โบรคไหนอ่ะครับ 1000 บาทเนี่ย? เค้ายอมให้เปิดด้วยหรือครับ น้องผมที่ทำงานอยู่ด้วยกัน
กำเงินไปหลักแสน แต่งตัวไม่ค่อยดี ยังไม่มีคนมาบริการเลย สุดท้าย..ยังไม่ได้เปิดพอร์ทเลยครับ

Re: พี่ BHT

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 06, 2011 2:44 pm
โดย Financeseed
aradin เขียน:
tooptup เขียน: ผมขอบลัฟด้วยคนครับ ครั้งแรก 1000 บาท เท่าที่อ่านกระทู้นี้มา ของผมน่าจะน้อยที่สุดแล้ว 555
ใช้โบรคไหนอ่ะครับ 1000 บาทเนี่ย? เค้ายอมให้เปิดด้วยหรือครับ น้องผมที่ทำงานอยู่ด้วยกัน
กำเงินไปหลักแสน แต่งตัวไม่ค่อยดี ยังไม่มีคนมาบริการเลย สุดท้าย..ยังไม่ได้เปิดพอร์ทเลยครับ
ครั้งแรก ผม 50,000 ยังได้เปิดเลยครับ ลงทุนน้อยๆก่อนก็ได้ครับ จะได้เรียนรู้ตลาดไปเรื่อยๆ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 14, 2011 6:07 pm
โดย happyteeth
ขอบคุณค่ะสำหรับบทความดีๆ
:D

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 18, 2011 5:53 pm
โดย maru
เข้ามาอ่านอีกรอบ ขอบคุณครับ :8)

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 18, 2011 8:40 pm
โดย ziannoom
เปิดบัญชีสมัยนี้ไม่ต้องมีเงินก็ได้ครับ ใช้สลิปเงินเดือนกับสำเนาหน้าบัญชี ก็เปิดได้แล้ว
ปล บัญชีเงินสดนะ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2011 4:42 pm
โดย wit163
ทยอยส่วนหนึ่ง สะสมไว้ใช้อีก
กลับมาอ่านที่นี้หลายๆครั้งจะได้ใจเย็นไม่รีบร้อนเกินไป

ขอบคุณครับ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 09, 2011 4:49 pm
โดย ThoShiRo
ขอบคุณครับ คุณลูกอิสาน เป็นแนวทางที่ดีมากๆครับ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 15, 2011 2:43 am
โดย MasternuT
ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 23, 2011 3:45 pm
โดย tessaleetim
ziannoom เขียน:เปิดบัญชีสมัยนี้ไม่ต้องมีเงินก็ได้ครับ ใช้สลิปเงินเดือนกับสำเนาหน้าบัญชี ก็เปิดได้แล้ว
ปล บัญชีเงินสดนะ
ใช่ครับ ผมเปิด port กิมเอ็งก็ไม่ได้ใช่เงินเลยครับ แถมยังมี messenger มารับเอกสารถึงบ้านอีกด้วย

ผมก็ port เล็กครับ
ผมเล่นหุ้นแบบที่เน้นมีการเปลียนแปลงในบริษัทครับ หุ้นตัวนั้นของผมอดีตอาจจะไม่ได้มีประวัตดีก็ได้ แต่ถ้าอนาคตดู "ดีขึ้น" + ผู้บริหารประวัตน่าเชื่อถือ ก็ซื้อครับ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 29, 2011 9:26 pm
โดย prosper
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
ตอนนี้ผมก็พึ่งเริ่มศึกษาและเข้าตลาดมาได้ไม่นาน ก็เจอกับสภาวะเขย่าประสาทซะแล้ว
ยังไงก็ขอลองเอาเคล็ดลับของคุณ พี่ลูกอีกสาน พี่ naris และคนอื่นๆ ทั้งข้อความดีๆที่ทำให้ได้คิดนะครับ

ยังไงจะลองสู้ต่อไป ขอบคุณครับ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2011 7:52 pm
โดย sirimethagul
เหมือนกันครับ เข้ามาช่วงนี้หลอนครับ แต่ได้ครึ่งเด้งมาด้วยความฟลุ๊คล้วนๆ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 21, 2011 9:30 pm
โดย kezuke
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะครับ :8)

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2011 6:11 pm
โดย workart
ขอบคุณมากนะครับ สำหรับบทความดีๆ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 01, 2012 10:34 pm
โดย chefjakky
:D :D
แสนต้นๆครับ เพิ่งได้ 3 เดือนเอง ^^
บทความดีๆครับ เป็นกำลังใจคนปอดเล็กๆ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 09, 2012 3:45 pm
โดย sapirom
ขอบคุณครับ พี่โจ
เพิ่งเข้ามาเว็บนี้
กำลังตามอ่านปรับพอร์ต ได้หน้า 40กว่าแล้ว

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 09, 2012 7:09 pm
โดย nantawat999
1000 บ.ด้วยครับ ...ของsicco ที่เป็นโครงการออมหุ้น

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 09, 2012 10:17 pm
โดย nantawat999
เริ่มต้นแรกๆ 1000 bht ครับ sicco โครงการออมหุ้น ก็เพิ่มสัดสัดส่วนเงินลงทุนมาเรื่อยๆ
1000/2000/5000 /10000ฯลฯ
เงินเดือนตนนั้น 7-8000 บ.
เพิ่งล้านแล้วจ้าเมื่อ มค 2555 ครับ
อยากบอกว่า ตื้นตันใจมากๆครับ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 3:20 pm
โดย torpongpak
ขอบคุณครับ...จำได้ว่าเคยอ่านไปเเล้ว 1 รอบเเต่รอบสองได้อะไรมากกว่าเดิมเยอะเลยครับ ขออนุญาติปักหมุดไว้เผื่อทบทวนอีกหลายๆครั้ง

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2012 4:34 pm
โดย teevalue
ขอบคุณครับพี่โจ ลูกอิสาน อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยครับ

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 25, 2012 9:40 am
โดย snowsand
เอามาฝากครับไม่รู้เคยอ่านกันหรือยัง
ที่มา: http://achikochi1234.blogspot.com/2011/09/72-1.html

กฎของ 72 คุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้

วันนี้ผมมานั่งคิดๆ ดูถึงกฎ 72 กฎข้อนี้บอกว่า ถ้าเราเอาเงินก้อนหนึ่งไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเป็น x% ต่อปีทบต้น เราจะใช้เวลาทั้งหมดเท่ากับ 72/x ปี ในการที่จะทำให้เงินที่เราลงไปนั้นโตเป็นสองเท่า เช่น

ถ้าเราเอาเงินไปฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยทบต้น 2% ต่อปี (ประมาณจากดอกเบี้ยเงินฝากประจำตอนนี้) เงินทุนเราจะเป็นสองเท่าก็หลังจากที่เวลาผ่านไปเท่ากับ 72/2 = 36 ปี

แต่สมมติเราเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 6% ต่อปี เงินลงทุนของเราจะเป็นสองเท่าเมื่อเวลาผ่านไปเท่ากับ 72/6 = 12 ปี

จากตัวอย่างนี้ จะเห็นได้ว่าแค่เราเพิ่มผลตอบแทนให้ได้จาก 2% เป็น 6% (หรือเพิ่มขึ้น 4%) ต่อปี เราก็สามารถย่นระยะเวลาในการทำให้เงินลงทุนโตขึ้นสองเท่าได้ถึง 24 ปี (36 – 12 = 24 ปี) ซึ่งถ้าคิดว่าคนเราแก่ตายที่อายุสัก 72 ปี เวลา 24 ปีที่ได้มานั้นมันเท่ากับช่วงเวลา 1 ใน 3 ของชีวิตเลยทีเดียว

กฎนี้ไม่ธรรมดาแฮะ... ผมจึงลองพล็อตกราฟ y = 72/x เมื่อ y เป็นจำนวนปีที่ใช้ในการทำให้เงินลงทุนโตเป็นสองเท่า และ x เป็นเปอร์เซ็นต์ของอัตราผลตอบแทนทบต้นที่เราทำได้ มาลองดูกัน



(หลายคนอาจสงสัยว่ากฎ 72 นี้ใช้คำนวณได้แม่นยำจริงๆ หรือเปล่า ใช่ครับ กฎ 72 นื้เป็นเพียงการประมาณค่า ใช้เพื่อความสะดวกในการคำนวณให้ง่ายขึ้น แต่เมื่อผมลองตรวจสอบดูด้วยการพร็อตกราฟของ y = (log(2)) / (log(1+x/100)) ซึ่งเป็นสูตรที่แท้จริงของการคำนวณ (ไม่ขออธิบายรายละเอียดนะครับ) ก็ปรากฎว่ากราฟทั้งสองนั้นใกล้เคียงกันมากจนเราสามารถใช้แทนกันได้)

จากกราฟเส้นสีน้ำเงินจะเห็นว่ายิ่งตัวเปอร์เซ็นต์ของอัตราผลตอบแทนทบต้น (แกนนอน) มากขึ้นเท่าไหร่ ระยะเวลาที่ใช้เพื่อทำให้เงินลงทุนเป็นสองเท่า (แกนตั้ง) ก็จะลดน้อยลงเท่านั้น คือยิ่งเปอร์เซ็นต์เยอะก็ยิ่งเร่งผลตอบแทนได้เร็วขึ้น ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้กันอยู่แล้ว แต่เมื่อสังเกตให้ดีๆ จะพบว่าเส้นกราฟนี้มันตกดิ่งลงมาอย่างรุนแรงเฉพาะในช่วงแรก แต่ในตอนท้ายๆ มันจะตกลงในอัตราที่ช้าลงเรื่อยๆ จนแถวๆ ที่อัตราผลตอบแทนประมาณ 20-30% เส้นกราฟนี้ก็เกือบจะเป็นแนวนอนอยู่แล้ว

ทีนี้มาลองดูเส้นประสีแดงกับเจ้าแท่งสีชมพูกันบ้าง (ดูกราฟไปด้วยนะครับ) ตัวเลขที่เขียนในแท่งสีชมพูนั้นหมายถึงจำนวนปีที่เราสามารถเร่งผลตอบแทนในการทำให้เงินเราโตเป็นสองเท่าได้ในแต่ละช่วงของเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทน โดยเริ่มจากที่อัตราผลตอบแทน 2% เพิ่มไปทุกๆ 4% เป็นที่ 6%, 10%, 14%, 18%, และ 22% ซึ่งสรุปได้ดังนี้ครับ

เมื่อเราเพิ่มอัตราผลตอบแทนจาก 2% ไปเป็น 6% เราสามารถลดเวลาในการทำเงินเป็นสองเท่าได้ 24 ปี
จาก 6% ไป 10% ลดได้ 5 ปี
จาก 10% ไป 14% ลดได้ 2 ปี
จาก 14% ไป 18% ลดได้ 1 ปี
และสุดท้ายจาก 18% ไป 22% ลดได้ 0.7 ปี

ถามว่าทำไมถึงหยุดที่ 22% ครับ ก็เพราะว่าค่านี้เป็นสถิติโลกนั่นเอง ซึ่งคนที่สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นได้ขนาดนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett – นักลงทุนในหุ้นคุณค่า บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในครึ่งแรกของปี 2008 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์) นั่นเอง

ทีนี้มันหมายความว่ายังไง ? มันแสดงให้เห็นว่า การเพิ่มอัตราผลตอบแทนในช่วงเปอร์เซ็นต์ต่ำๆ (ที่เราสามารถทำได้ง่าย) จะเร่งผลตอบแทนหรือลดระยะเวลาได้มาก ในขณะที่การฝืนเพิ่มอัตราผลตอบแทนในช่วงเปอร์เซ็นต์สูงๆ (ซึ่งเราทำได้ยาก) จะไม่ค่อยมีผลต่อการเร่งผลตอบแทนในรูปของการลดระยะเวลาได้อีกสักเท่าไหร่

ยกตัวอย่างนะครับ คนที่เคยฝากประจำอย่างเดียวที่เคยได้ 2% อยู่แล้วสามารถทำให้ผลตอบแทนตัวเองเพิ่มเป็น 6% ได้ไม่ยากและไม่เสี่ยงมาก เช่นเอาไปซื้อทอง ซื้อหุ้นกู้ แล้วทำให้ลดเวลาในการเร่งผลตอบแทนได้ถึง 24 ปี ในขณะที่คนที่เคยเล่นหุ้นได้อยู่ 18% ต่อปี จะเป็นเรื่องที่ยากและเสี่ยงขึ้นอย่างมากถ้าเขาพยายามจะทำให้มันเป็น 22% เพียงเพื่อที่จะเร่งผลตอบแทนให้เร็วขึ้นได้อีกแค่ 0.7 ปี

สังเกตตัวเลข 24 ปี (2% ไป 6%), 5 ปี (6% ไป 10%), 2 ปี (10% ไป 14%), 1 ปี (14% ไป 18%), และ 0.7 ปี (18% ไป 22%) สมมติเราพอใจตัดเอาที่ 10% ต่อปี จะเห็นว่าเราสามารถลดเวลาที่เงินเราจะโตเป็นสองเท่าได้ (มากกว่าการฝากประจำเฉยๆ ที่ 2%) เท่ากับ 24 + 5 = 29 ปี ในขณะที่ถ้าเราจะเอาให้เท่าสถิติโลกหรือที่ 22% เราจะลดเวลาได้เท่ากับ 24 + 5 + 2 + 1 + 0.7 = 32.7 ปี ซึ่ง 32.7 ปี กับ 29 ปี นั้นต่างกันไม่ถึง 4 ปี หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว เราก็ห่างจากสถิติโลกแค่สิบกว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง

ผมถึงบางอ้อก็ตรงนี้ครับ เมื่อก่อนเคยคิดว่าการเล่นหุ้นทำไม่เราไม่ตั้งไว้สัก 40-50% ต่อปี นั่นบ้าไปแล้วครับ มันเหมือนกับการที่เราไปท้า ยูเซน โบลต์ (Usain Bolt – เจ้าของสถิติโลกวิ่ง 100 เมตร ที่ 9.58 วินาที) ให้มาวิ่งแข่งกับเรา แล้วบอกเขาว่า “โบลต์... ผมว่าผมวิ่งเร็วกว่าคุณ 5 วิ ไม่เชื่อมาพนันกันมั้ย!”

ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ว่า “แรงที่มีกำลังมากที่สุดในโลก คือ ดอกเบี้ยทบต้น” (Compound interest is the most powerful force on Earth.) คำกล่าวนี้เป็นความจริงไม่เกินเลย แต่มันก็แฝงไปด้วยหลักธรรม...

ตัวเลข 2% ของการไม่ทำอะไรนอกจากการฝากเงินไว้เฉยๆ กับตัวเลข 22% ของนักลงทุนอันดับหนึ่งของโลกนั้น ค่าตรงกลางของมันก็อยู่แถวๆ 10% กว่าๆ นี่เอง ซึ่งการที่เราพอใจที่ 10% นั้นแม้ว่าเราจะแพ้ที่หนึ่งอยู่ 4 ปี แต่มันก็ทำให้เราชนะที่สุดท้ายได้ถึง 29 ปี คนที่ยังได้ 2% อยู่จึงควรพยายามทำให้ได้ 10% (หรือสัก 6% ก่อนก็ยังดี) ส่วนคนที่ได้เกิน 10% ไปแล้ว แค่รักษาผลตอบแทนขนาดนั้นเอาไว้อย่างสม่ำเสมอก็ถือว่าเยี่ยมยอดแล้ว การพยายามวิ่งไล่ 22% นอกจากจะเป็นเรื่องที่ยากและเสี่ยงแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้รับกลับมาอาจไม่คุ้มค่าแรงนัก

หลักธรรมที่ว่านั้นคืออะไรครับ... ใช่แล้ว! มันคือ “ทางสายกลาง” นั่นเอง ระหว่างการที่เราไม่ทำอะไรเลยกับการที่เราดิ้นรนมันเต็มที่ ของที่ดีและเหมาะสมที่สุดกลับมาอยู่ตรงกลาง ข้อคิดนี้ทำให้ผมรู้ว่า เราไม่จำเป็นต้องวิ่งให้เร็วเท่า ยูเซน โบลต์ ก็ได้ เพราะตราบใดที่เราตื่นเช้าสักหน่อย เราก็ไปทำงานทัน (อิอิ...เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) กฎของ 72 บอกผมอยู่อย่างหนึ่งว่า “ในชีวิตจริงคุณไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ก็ได้”

ต้องขอขอบคุณเจ้าของบล็อกด้วยครับ
ในช่วงการลงทุนแรกๆ คงต้องพยายามรักษาเงินต้น และพยายามให้ทำได้ผลตอบแทนระดับปีละ10%(ลงทุนแบบอนุรักษ์นิยม)นี้ไปก่อน พอมีความรู้ตามที่พี่ลูกอีสานแนะนำไว้ ก็เริ่มแบ่งเงินในพอร์ตที่ทำได้ระดับปีละ10%นี้ ไปลงทุนแบบที่พี่ลูกอีสานแนะนำ(ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าลงทุนแบบไหนดี งั้นเรียก แบบตีแตกนิยม แล้วกันครับ) ลองก่อนสัก10%ของพอร์ตทั้งหมด เมื่อเริ่มเก่งขึ้นทำผลตอบแทนได้ดีขึ้นค่อยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนมากขึ้นเรื่อย โดยส่วนตัวก็ยังคงรักษาการลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมไว้อยู่ สัก20%ของพอร์ต แต่ก็แล้วแต่ความสามารถของแต่ละคน

สมมุติว่าเราลงทุนด้วยเงิน 150,000บาททำผลตอบแทนได้สม่ำเสมอ ปีละ10%เป็นเวลา50ปี เงินจะกลายเป็น19,000,000บาทเลยทีเดียว แบบเงินก้อนแรกไม่ได้เติมเงินเข้าไปอีกเลยนะครับ อย่างบางบริษัทนี่ปันผลก็ปีละ7-8%แล้วขอราคาหุ้นเพิ่มแค่ปีละ3-5%ต่อปี ก็ได้ปีละ10%แล้วนะครับ ลงทุนเอาไว้ให้ลูกหลานเลย แต่ลูกหลานเราไม่ได้เริ่มต้นที่ 150,000แบบเรา เขาเริ่มต้นด้วยหลักหลายล้านน่าจะไปได้สวยกว่ารุ่นเรา ^^

Re: กลยุทธ์การลงทุน กรณีเริ่มต้นเงินทุนน้อยๆ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 07, 2012 7:38 pm
โดย wwwman
อ่านเป็นรอบที่ 2
ขอบคุณ คุณโจ ลูกอิสาน มากคับ..หวังว่า คงได้เจอตัวจริงสักครั้งครับ ตามอ่านและดูรายการ money talk ที่คุณโจ
มาออกแล้วได้แนวคิด ดีคับ สมกับฉายา ที่พี่ๆ ตั้งให้เลยคับ..