การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI

การลงทุนอื่นๆนอกจากหุ้น วีไอ กองทุนรวมชนิดต่างๆ RMF LTFตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ อนุพันธ์ และเกษตรล่วงหน้า

โพสต์ โพสต์
Green
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2896
ผู้ติดตาม: 236

การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เช่นตอนนี้ หากผมลงทุนในหุ้นหมดเลย 100% แต่ก็กังวลว่ายุโรปจะเกิดวิกฤติทำให้หุ้นจะร่วง เยอะๆ แบบตอนซับพาร์มอีก  ผมเลยทำประกันความเสี่ยงโดยการ  Long Set50 Put Option โดยซื้อราคาใช้สิทธิที่มีค่า พรีเมี่ยม ต่ำๆ (2-3 จุด ) อายุ 3 เดือน ( อยากซื้อมีอายุมากกว่านั้น แต่สภาพคล่องไม่ค่อยมี ) คือซื้อไตรมาสละประมาณ 1% ของพอร์ทการลงทุนและซื้อทุกไตรมาส ซึ่ง 1 ปี ก็จะมีต้นทุนการประกันความเสี่ยงอยู่ไม่เกิน 4 %

หากหุ้นเพิ่มขึ้น หรือ ร่วงแต่ไม่เยอะ (ร่วงไม่เกิน 10-15 %)  ผมก็จะเสียเงินค่าประกันความเสียง จากพรีเมี่ยมนี้ ไปปีละ 4 % ของพอร์ทการลงทุน ฟรีๆ

แต่หากเกิดวิกฤติอะไรขึ้น หุ้นร่วงขนาด 30 %  พอร์ททั้งหมดของผมก็จะ ปลอดภัย มูลค่าไม่ลดลงเพราะได้รับ เงินจาก Option ที่ถืออยู่

คือผมคิดเหมือนกับว่าเราเอาเงิน ปันผล เราไปประกันความเสี่ยง ว่าหากเกินอะไรขึ้นมา พอร์ท เราจะร่วง ไม่เยอะและไม่กระทบมาก หน่ะครับ

มีใครทำอยู่หรือไม่ครับไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันจะได้ผลในทางปฎิบัติมากน้อยแค่ไหน และจะคุ้มกันหรือไม่
MindTrick
Verified User
โพสต์: 1288
ผู้ติดตาม: 0

การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ไอเดียคุณมาดีแล้วครับ

รัะวังพลาดสองจุดครับ

1. value ไม่เท่า... การประกัน ต้องซื้อ options ให้มีค่า value เท่ากับ value ของหุ้น หรือของพอร์ต ...ซึ่งถ้าพอร์ต8หลัก ขึ้นไป ณ ตอนนี้วอลุ่มออปชั่นบางเกินไป

2. ประกันผิดคู่....สมมติคุณมีหุ้น TNH, WG, SNC, CPF , IVL, HANA แต่คุณประกันด้วย set50 ออปชั่นที่อิงจากหุ้น50ตัวไม่ตรงกัน หรือตรงกันก็แค่บางตัว

สิ่งสำคัญคือ หุ้นคุณ มีเป็นตัว ๆ ตัวเล็ก ตัวไหญ่ ตัวไหนไม่รู้ อาจจะอยู่ นอก set50

set50 ลง 30% ......ไม่ได้หมายความว่า ...หุ้นของคุณมี จะลง 30% เท่ากัน อาจจะขึ้น32% หรือ ลง 70% เลขอื่นๆ เ่ท่าไหร่ก็ได้


แปลง่ายๆ ว่าคุณ ซื้อรถ แต่ทำประกันไฟไหม้บ้าน ....มันคนละอัน กันครับ


ฉะนั้น จากที่คุณบอก ตามเนื้อผ้า แล้ว...

ไม่ถือเป็นการประกันความเสี่ยงครับ

เป็นการเก็งทิศทาง แยกกัน ครับ....
อันนึง เก็งว่า ตลาดรวมๆ set50 จะลง
อีกอัน เก็ง ว่าหุ้นตัวที่เรามี จะขึ้น

ถ้าโชคดี ก็กำไร หักล้างกัน เหลือ เจ๊าๆ

ถ้าโชคดีมากๆ set50 ลง แต่ หุ้นในพอร์ต กลับขึ้น...รวยสองขา

******แต่ฟังดีๆครับ******
โลกความจริง probability สิ่งที่มักจะเกิด บ่อยสุด คือ...ขาดทุนสองขาครับ

set50 ไม่ลง หรือขึ้น คุณขาดทุนค่าซื้อประกัน long put options
และ..
หุ้นคุณลง หรือไม่ขึ้น....คุณขาดทุน หุ้น เป็นตัวๆ ในพอร์ต



ถ้าจะประกันจริงๆ
1. ต้องใช้ options ของหุ้นรายตัว options ตรงตัวกับที่คุณถือไว้ เช่น CPFU10P20
หน้าตาบ้านเราคง ต้อง รอเกิน 5ปี ถึงจะมี  แถมออกมีแต่หุ้นดังๆก่อน พวก ptt, pttep, bbl, scc ไรยังงี้

หากไม่ชอบรอ คงต้องไปหาทางเล่นของนอก เค้ามี opotions iายตัวหมดเลย volume เยอะกว่าบ้านเรามาก จะเล่นหุ้น google, apple, GM,  มีoptionsให้ประกันตรงตัว เพียบ

ลองเข้าไปดูเพิ่มนะครับ

http://moneycentral.msn.com/investor/op ... p?Symbol=C
http://moneycentral.msn.com/investor/op ... Symbol=AIG

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... ght=option

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... ght=option
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
Green
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2896
ผู้ติดตาม: 236

การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณ คุณ Mindtrick มากครับ ที่ช่วยชี้แนะ

ผมคิดไป คิดมา แล้วความเสี่ยงอีกจุดเลย คือ ถ้าหุ้นมันไม่ลงเยอะๆ ก่อนที่สัญญามันหมดอายุ ผมก็เสียเงินแน่นอน และ สัญญาที่มีสภาพคล่อง ก็มักจะมี่อายุไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น พอสัญญาครบ สาม เดือน ผมก็ต้องซื้อประกันใหม่ในเงื่อนไขราคาสัญญาใหม่ ซึ่งประกันได้แค่ช่วงสั้นๆ คือ เท่านั้นเอง

ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกันกับความเสี่ยงที่ต้องซื้อประกันไปเรื่อยๆ ก็ได้ คงต้องรออีกยาวกว่าตลาดจะมีสภาพคล่องมากกว่านี้
MindTrick
Verified User
โพสต์: 1288
ผู้ติดตาม: 0

การประกันความเสี่ยงโดย Options กับการลงทุนแบบ VI

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะลดความเสี่ยง ด้วยการกระจายหุ้นด้วยสัก 6 sector ขึ้นไป แยก จำนวนเงินเท่ากันได้จะดีมากครับ
สมมติว่ามีพอร์ตขนาด 6ล้านบาท ซื้อ sector ละ 1ล้านบาท แยกไป 6ธุรกิจต่างกัน

เพราะพอแยก sector มากพอแล้ว  จะแกว่งไม่ตามตลาดเสมอไป

และ
ไม่แกว่งขึ้นลงตามกัน

(ตำราเรียกว่า correlation )

แล้วจะไม่กังวล เลยว่ามันจะตกพร้อมกัน

เวลาตก มันจะสลับกันตก สลับกันขึ้น
....เมื่อคุณลงทุนระยะยาว >> เลือกหุ้นรอบคอบแล้ว >>กระจายsector แล้ว นอนหลับ สบายใจแน่นอนครับ

เอามาเสริมครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=26032

[quote="chartchai madman"]กลยุทธ์การจัดพอร์ตอย่างเซียน
บทความโดย CHARTCHAI MADMAN
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
โพสต์โพสต์