TDEX

การลงทุนอื่นๆนอกจากหุ้น วีไอ กองทุนรวมชนิดต่างๆ RMF LTFตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ อนุพันธ์ และเกษตรล่วงหน้า

โพสต์ โพสต์
manuel
Verified User
โพสต์: 347
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สรุปข้อสนเทศ : TDEX04/09/2550 14:09

     TDEX : สรุปข้อสนเทศ : TDEX
                                     - สรุปข้อสนเทศ -


                        โครงการกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ
             (Mutual Fund Project of ThaiDex SET50 Exchange Traded Fund)



สำนักงานของบริษัทจัดการ                   บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด
                                     989 อาคารสยามทาวเวอร์ ชั้น 24
                                     ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
                                     โทรศัพท์ 0-2659-8888 โทรสาร 02-659-8860-1



วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน                 เมื่อวันที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ.2550
                                     (เริ่มทำการซื้อขาย 6 เดือน กันยายน พ.ศ.2550)



ประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียน                 หน่วยลงทุน 880,281,690 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 5.68 บาท
                                     รวม 5,000 ล้านบาท (ห้าพันล้านบาท)



ประวัติความเป็นมาโดยสรุป                
    บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บริษัทจัดการ)ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ให้จัดตั้งและจัดการกองทุนเปิดไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ ตามหนังสือที่กลต.น. 1819/2550 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2550
โดยได้ดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่อผู้สนใจลงทุนทั่วไป ในระหว่างวันที่ 21 - 28 สิงหาคม 2550
และได้ดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนในระหว่างวันที่ 21 - 29 สิงหาคม 2550 และได้รับอนุมัติ
การจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อ
วันที่ 4 กันยายน 2550


ลักษณะโครงการ    : กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ประเภทกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่ลงทุนในตราสารแห่งทุน
ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ

อายุโครงการ                            ไม่กำหนดอายุโครงการ

วัตถุประสงค์การลงทุน  :  
   โครงการมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index)
โดยจะพยายามดำรงค่าความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิง (tracking error)
ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อปี ทั้งนี้ บริษัทจัดการและผู้ดูแลผลประโยชน์ไม่ต้องรับผิดชอบหากค่าความผันผวนของผลตอบแทน
ของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิง (tracking error) จะมีค่าเกินร้อยละ 1.0 ต่อปี อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีเหตุจำเป็น
หรือสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย หากกองทุนไม่สามารถดำรงส่วนต่างดังกล่าวนั้นได้ บริษัทจัดการจะแจ้งผ่านทางเว็ปไซด์
ของบริษัทจัดการในวันทำการถัดไป โดยไม่ถือว่าบริษัทจัดการหรือผู้ดูแลผลประโยชน์ดำเนินการขัดหรือแย้งต่อโครงการ

นโยบายการลงทุน  
   กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ จะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (passive management strategy)
โดยลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ จะเน้น
ลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออก
จากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน
หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของ
กองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้
ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง
    ดัชนีอ้างอิง หมายถึง ดัชนีเซ็ท 50 (SET50 Index) หรือดัชนีอื่นใดที่บริษัทจัดการกำหนด ในกรณีที่มีการยกเลิกการ
ใช้ดัชนีเซ็ท 50 โดยดัชนีอื่นใดที่จะใช้แทนดัชนีเซ็ท 50 จะมีลักษณะที่เหมาะสมหรือใกล้เคียงกับดัชนีเซ็ท 50 ทั้งนี้ บริษัทจัดการ
ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงดัชนีอ้างอิงเป็นดัชนีอื่นใด โดยจะขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
และให้ถือว่าได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้วโดยไม่ถือว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการ


การเลิกโครงการ    
  1. หากปรากฏว่ากองทุนเปิดใดมีมูลค่าหน่วยลงทุนหรือมีผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นจำนวนดังนี้
    1.1) มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน
    1.2) มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่
50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน
    1.3) มีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้
ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด
    1.4) จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่
กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
  2. เมื่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สั่งให้บริษัทจัดการเลิกกองทุนเปิดในกรณีที่บริษัทจัดการกระทำการหรือ
งดเว้นกระทำการจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่กองทุนเปิด หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตน
  3. เมื่อได้รับความเห็นชอบตามมติเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้
เเล้วทั้งหมดของโครงการจัดการ


การดำเนินการเมื่อมีการเลิกกิจการ    
    บริษัทจัดการจะดำเนินการดังต่อไปนี้เพื่อเลิกกองทุนเปิดดังกล่าว
       (ก) ยุติการรับคำสั่งซื้อและคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนตั้งแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้ว
ทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วย
ลงทุนติดต่อกันหรือตั้งแต่วันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ มีคำสั่งขายคืน
หน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการ
ถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
       (ข) แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนทราบ โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนรวมทั้งแจ้งเป็น
หนังสือให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบ ทั้งนี้ภายใน 3 วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุน
ที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขาย
หน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือวันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ มีคำสั่งขายคืนหน่วย
ลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการ
ถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
      (ค) จำหน่ายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของกองทุนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า
มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็น
เวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือวันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตาม
มูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ
มีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูล
2000
ค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน
ลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด
ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อรวบรวมเงินเท่าที่สามารถกระทำได้และชำระ
ค่าขายคืนหน่วย ลงทุน ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
      (ง) ชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนจำนวนเงินที่รวบรวมได้ตาม (ค) ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
ภายใน 5วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือภายใน 10 วันทำการนับแต่วัน
ทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือมีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วย
ลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ
จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ

     เมื่อได้ดำเนินการตาม (ก) ถึง (ง) แล้ว หากมีหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินคงเหลืออยู่จากการดำเนินการตาม (ค)
บริษัทจัดการจะดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และ
วิธีการชำระบัญชีของกองทุนรวม


ผู้ดูแลผลประโยชน์          ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพมหานคร


นายทะเบียน              บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด


ผู้ดูแลสภาพคล่อง           บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
                      323 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ชั้น 9, 23-25
                      ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
                      โทรศัพท์ 0-2231-1111
                      ทั้งนี้ ผู้ดูแลสภาพคล่อง มีหน้าทีในการเสนอซื้อและเสนอขาย
                      หน่วยลงทุนในตลาดรอง เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้
                      ลงทุน

ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน         บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
                      323 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ชั้น 9, 23-25
                      ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
                      โทรศัพท์ 0-2231-1111


                      บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
                      999/9 ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์
                      ชั้น 20 - 21 ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน
                      กรุงเทพมหานคร 10330
                      โทรศัพท์ 0-2658-6300

                      บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
                      191 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์
                      ชั้น 29 ถนนสีลม เขตบางรัก
                      กรุงเทพมหานคร 10500
                      โทรศัพท์ 0-2231-3777,0-2632-0777


                      บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
                       444 อาคารเอ็มบีเค ทาวเวอร์
                       ชั้น 14, 18 โซนซีดี และชั้น 19 โซนเอ
                       ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน
                       กรุงเทพมหานคร 10330
                       โทรศัพท์ 0-2217-8888,0-2611-9222


                       บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด
                       82 อาคารแสงทองธานี ชั้น18 และ 29
                       ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก
                       กรุงเทพมหานคร 10500
                      โทรศัพท์ 0-2232-2200
                       หรือบุคคลอื่นที่บริษัทจัดการจะทำการแต่งตั้งให้เป็นผู้ร่วมค้า
                       หน่วยลงทุนต่อไป โดยบริษัทจัดการจะแจ้งให้สำนักงาน
                       คณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบ

                       ทั้งนี้ ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน มีหน้าที่ในการส่งคำสั่งซื้อและคำสั่ง
                       ขายคืนหน่วยลงทุนเพิ่มเติมกับบริษัทจัดการ ดังนั้น หน่วยลงทุนจะ
                       เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการซื้อขายหน่วยลงทุนของผู้ร่วมค้า
                       หน่วยลงทุน


ที่ปรึกษากองทุน       Samsung Investment Trust Management Co., Ltd
                 Samsung Life Bldg. 36-1,
                 Yeouido-Dong, Yeoungdeungpo-Gu,
                 Seoul, Korea 150-886
                 Telephone : 822-3774-7927 Fax : 822-3774-7876
                 หรือบุคคลอื่นที่บริษัทจัดการจะทำการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา
                 กองทุนต่อไป โดยบริษัทจัดการจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ
                 ก.ล.ต. ทราบ

                 ทั้งนี้ ที่ปรึกษากองทุนมีสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาแต่งตั้งที่
                 ปรึกษากองทุน (ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ ฯลฯ)อย่างไรก็ตาม ที่
                 ปรึกษากองทุนจะไม่มีอำนาจควบคุมการดำเนินการของบริษัท
                 จัดการแต่ประการใด โดยบริษัทจัดการมีอำนาจในการตัดสินใจแต่
                 เพียงผู้เดียวในการจัดการกองทุนรวม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย
                 หลักทรัพย์หรือการจัดการด้านอื่นใดก็ตาม ทั้งนี้ที่ปรึกษากองทุน
                 ไม่มีสิทธิที่จะรับทราบถึงการตัดสินใจดังกล่าว

ผู้สอบบัญชี           นายประวิทย์ วิวรรณธนานุตร์ หรือ นายอธิพงศ์ อธิพงศ์สกุล
                 บริษัท เอเอ็นเอส ออดิท จำกัด
                 100/72 ชั้น 22 100/2 อาคารว่องวานิช บี
                 ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง
                 กรุงเทพมหานคร 10320
                 โทรศัพท์ 0-2645-0107-9


รอบระยะเวลาบัญชี           วันที่สิ้นสุดรอบบัญชี วันที่ 31 เดือนธันวาคม
                        วันที่สิ้นสุดรอบบัญชีครั้งแรกวันที่ 31 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2551


นโยบายการจ่ายเงินปันผล      
   โครงการมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนจากกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิ เมื่อกองทุนมีกำไรสะสม
หรือกำไรสุทธิในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผล และการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะไม่ทำให้กองทุนมีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นใน
งวดบัญชีที่มีการจ่ายเงินปันผลนั้น ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยจะพิจารณาจ่ายในอัตรา
ไม่เกินร้อยละ 100 ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธินั้นๆ ทั้งนี้ ตามที่บริษัทจัดการพิจารณาเห็นสมควร
   อนึ่ง ในกรณีที่มีการจ่ายเงินปันผล บริษัทจัดการจะดำเนินการจ่ายเงินปันผลโดยปฏิบัติตาม
   1) ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลต้องเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฏอยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
ณ วันปิดสมุดทะเบียนหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการจะกำหนดขึ้นภายใน 30 วันทำการนับจากวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
   2) บริษัทจัดการจะประกาศการจ่ายเงินปันผล วันปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อการจ่ายเงินปันผลและอัตราเงินปันผล
โดยปฏิบัติดังต่อไปนี้
      (ก) ประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อย 1 ฉบับ
      (ข) ปิดประกาศไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ทำการทุกแห่งของบริษัทจัดการ และจัดให้มีประกาศดังกล่าวไว้ ณ สถานที่ติดต่อ
ทุกแห่งของตัวแทนขายหรือรับซื้อคืน ที่ใช้ในการซื้อขายหน่วยลงทุน
      (ค) ส่งหนังสือแจ้งผู้ดูแลผลประโยชน์ และผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
   3) บริษัทจัดการจะจ่ายเงินปันผลเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะสั่งจ่าย ในนามผู้ถือหน่วยลงทุนทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ผู้ถือหน่วย
ลงทุนระบุไว้ในแบบคำขอเปิดบัญชีกองทุนเปิด หรือจ่ายเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถือหน่วยลงทุนตามที่ระบุไว้ในแบบ
คำขอเปิดบัญชีกองทุนเปิดทั้งนี้ บริษัทจัดการจะดำเนินการให้มีการจ่ายเงินปันผลภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันปิดสมุดทะเบียน
พักการโอนหน่วยลงทุน
   4) ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันปิดสมุดทะเบียนหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลซึ่งถือเป็น
เงินได้พึงประเมิน ซึ่งต้องนำไปคำนวณภาษี เงินปันผลที่จ่ายนี้ย่อมทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนลดลงเท่าจำนวน
เงินปันผล บริษัทจัดการอาจจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนด้วยวิธีการที่ต่างกันสำหรับหน่วยลงทุนที่ขายในช่วงระยะเวลา
ที่ต่างกันก็ได้โดยปฏิบัติเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในกรณีที่ผู้ถือหน่วย
ลงทุนไม่ใช้สิทธิขอรับเงินปันผลจำนวนใดภายในอายุความใช้สิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัทจัดการ
จะไม่นำเงินปันผลจำนวนดังกล่าวไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากเพื่อประโยชน์ของกองทุน


วิธีการลดเงินกองทุน            (ไม่มี)


การเสนอขายหน่วยลงทุน      
 1) การเสนอขาย (การแลก) หน่วยลงทุน สำหรับผู้สนใจลงทุนทั่วไป โดยสั่งซื้อ (แลก) หน่วยลงทุนของกองทุนโดยผ่าน
ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน ด้วยวิธีการส่งมอบตะกร้าหลักทรัพย์ ตามขั้นตอนและวิธีการสั่งซื้อที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนกำหนด ทั้งนี้
ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน ขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการสั่งซื้อ (การแลก) หน่วยลงทุน ในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการสั่งซื้อ
(การแลก)ดังกล่าวมีผลกระทบต่อการลงทุนของกองทุนหรือต่อผู้ถือหน่วยลงทุนหรือต่อชื่อเสียงหรือต่อความรับผิดชอบทางกฎหมาย
ของผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้สนใจลงทุนทั่วไปทราบล่วงหน้า
 2) การซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  โดยผู้สนใจลงท
2000
ุนทั่วไปและผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนสามารถ
ซื้อและขายหน่วยลงทุนของกองทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติของ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ

การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน        
  1) การรับซื้อคืน (การแลก) หน่วยลงทุน สำหรับผู้สนใจลงทุนทั่วไป ด้วยวิธีการรับมอบตะกร้าหลักทรัพย์ตามขั้นตอน
และวิธีการรับซื้อคืนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนกำหนด
  2) การซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการลงทุนให้กับผู้ลงทุนทั่วไป
โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อและขายหน่วยลงทุนของกองทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และ
วิธีปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์ฯ

ตะกร้าหลักทรัพย์ (Portfolio Depository File: PDF) หมายถึง
    รายการของหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงทรัพย์สิน และหรือเงินสด ตามที่บริษัทจัดการกำหนด
ซึ่งบริษัทจัดการจะใช้สำหรับการรับมอบเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุน หรือส่งมอบเป็นค่าขายคืนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บริษัทจัดการ
จะประกาศตะกร้าหลักทรัพย์ก่อนเวลาทำการของวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนนั้นๆ


ระยะเวลาในการรับซื้อคืน       ทุกวันทำการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


การออกและส่งมอบเอกสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน
    กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ จะใช้ระบบไร้ใบหน่วยลงทุน (Scripless) ดังนั้น ผู้ลงทุนที่สั่งซื้อหน่วยลงทุน
ในตลาดรอง จะมีชื่อเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนต่อเมื่อบริษัทจัดการได้ทำการปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
    ทั้งนี้ เงื่อนไขในการออกเอกสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุนระยะเวลาการส่งมอบ และอื่นๆ จะเป็นไปตามกฎ ระเบียบ
และวิธีปฏิบัติของนายทะเบียนหน่วยลงทุน


การคำนวณและการประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
   1) คำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิและมูลค่าหน่วยลงทุนทุกสิ้นวันทำการ
   2) คำนวณราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนทุกสิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ในกรณีราคาขาย
หน่วยลงทุน จะใช้มูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันสิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนเป็นตัวคำนวณราคาขายหน่วยลงทุน ในกรณี
ราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน จะใช้มูลค่าหน่วยลงทุน ณ สิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน นั้นเป็นตัวคำนวณราคารับซื้อคืน
หน่วยลงทุน
   3) ประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน ราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของวันที่รับคำสั่ง
ซื้อขายหน่วยลงทุนล่าสุด ภายในวันทำการถัดไป โดยการประกาศราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะใช้
ตะกร้าหลักทรัพย์ที่กำหนดโดยบริษัทจัดการแทน
   4) ประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และมูลค่าหน่วยลงทุนของวันปิดทะเบียนเพื่อการจ่ายเงินปันผล ภายในวันทำการถัดจาก
วันปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อการจ่ายเงินปันผล


มูลค่าหน่วยลงทุนอ้างอิง (INAV)  
   หมายถึง ราคาปัจจุบันของตะกร้าหลักทรัพย์ ณ ขณะที่คำนวณหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนของกองทุนที่เป็นส่วนประกอบ
ของหน่วยของการซื้อขาย ซึ่งผู้ลงทุนสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ณ ขณะนั้นๆ โดยเบื้องต้นบริษัทจัดการจะเป็นผู้คำนวณ
และเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ในเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ


หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการในกรณีที่มูลค่าหน่วยลงทุนไม่ถูกต้อง            
  1) ในกรณีที่ราคาหน่วยลงทุนที่ไม่ถูกต้องต่างจากราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้องน้อยกว่าหนึ่งสตางค์ หรือต่างจากราคาหน่วย
ลงทุนที่ถูกต้องตั้งแต่หนึ่งสตางค์ขึ้นไป แต่ไม่ถึงร้อยละ 0.5 ของราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้อง บริษัทจัดการจะจัดทำและส่งรายงาน
ให้ผู้ดูแลผลประโยชน์ทราบถึงความผิดพลาดภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่พบว่าราคาหน่วยลงทุนไม่ถูกต้อง และจัดให้มี
สำเนารายงานดังกล่าวไว้ ณ ที่ทำการของบริษัทจัดการเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สามารถตรวจสอบได้
  2) ในกรณีที่ราคาหน่วยลงทุนที่ไม่ถูกต้องต่างจากราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้องตั้งแต่หนึ่งสตางค์ขึ้นไป และคิดเป็นอัตรา
ตั้งแต่ร้อยละ 0.5 ของราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้อง บริษัทจัดการจะคำนวณราคาหน่วยลงทุนย้อนหลังนับแต่วันที่พบราคา
หน่วยลงทุนไม่ถูกต้องจนถึงวันที่ราคาหน่วยลงทุนถูกต้อง


สิทธิประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน  
   1) สิทธิในการขายคืนหน่วยลงทุน : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการขายคืนหน่วยลงทุนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
   2) สิทธิในการรับเงินปันผล : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการได้รับเงินปันผลตามที่ระบุไว้ในโครงการ
   3) สิทธิในการโอนหน่วยลงทุน : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการโอนหน่วยลงทุนโดยไม่มีข้อจำกัด
   4) สิทธิในการลงมติเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนหรือแก้ไขวิธีจัดการ : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิลงมติเพื่อ
ทำการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการหรือแก้ไขวิธีจัดการ โดยบริษัทจัดการจะทำการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมได้
ต่อเมื่อได้รับมติโดยเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งคิดตามจำนวนหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุน
ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทั้งนี้ เป็นไปตามหัวข้อ  วิธีการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมหรือแก้ไขวิธีจัดการ
   5) สิทธิในการได้รับเงินคืนเมื่อเลิกโครงการ : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิที่จะได้รับหลักทรัพย์หรือเงินคืนหากกองทุนรวม
ต้องเลิกไปโดยบริษัทจัดการจะจัดให้มีผู้ชำระบัญชีที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบเป็นผู้ชำระบัญชีโดยจะได้
ดำเนินการให้มีการจำหน่ายทรัพย์สินของโครงการ ชำระภาระหนี้สินของโครงการและแจกจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
เฉลี่ยตามจำนวนหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดในขณะที่เลิกกองทุนรวม


ความเสี่ยงในการลงทุนของกองทุนรวม      
   : กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ มีนโยบายที่ลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง
(SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของ
ดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย
ในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจ
ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง
ดังนั้น มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในช่วงเวลาต่างๆได้ตามดัชนีอ้างอิงซึ่งกองทุนได้ลงทุนไว้
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยความเสี่ยงในการลงทุนของกองทุนได้แก่
      (1) ความเสี่ยงจากตลาด (Market Risk) คือ
          ความเสี่ยงที่เกิดจากราคาหรือผลตอบแทนของหลักทรัพย์มีการปรับตัวขึ้นลง อันเนื่องมาจากการ
เปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง อุตสาหกรรม ตลาดทุน และตลาดเงิน เป็นต้น เนื่องจากกองทุนนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง จึงไม่สามารถลดความเสี่ยงของตลาดได้ เช่น ในกรณี
ที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับตัวลดลง ก็จะส่งผลทำให้ราคาหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุนปรับตัวลดลงด้วย
      (2) ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ (Company Risk) คือ
          ความเสี่ยงอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์แต่ละตัวในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นผลมา
จากการดำเนินงานของบริษัทเอง โดยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนปัจจัยอื่นๆ
ที่มีผลต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือต่ออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งโดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะการกระจาย
การลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียน ประมาณ 50 ตัว เพื่อกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อสร้างผลตอบแทน
ใกล้เคียงกับดัชนี SET 50 รวมทั้งดำเนินการติดตามและวิเคราะห์ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อระดับราคาของหลักทรัพย์
อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
      (3) ความเสี่ยงด้านราคาซื้อขาย (Trading price) กับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนต่อหน่วยลงทุน
(NAV per unit) แตกต่างกัน เนื่องจากกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟเป็นกองทุนที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ดังนั้น จึงทำให้กองทุนดังกล่าวมี 2 ราคา คือ ราคาซื้อขาย (Trading price) ของหน่วยลงทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียน
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนต่อหน่วยลงทุน (NAV per unit) แต่เนื่องจากกองทุนมี
ผู้ดูแลสภาพคล่องของตลาดที่มีหน้าที่จะช่วยสร้างดุลยภาพของราคา เพื่อให้ราคาอยู่ ณ ราคาดุลยภาพ (Equilibrium price) ซึ่งต้องพยายามไม่ให้ราคาหน่วยลงทุนใน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ แตกต่างจากมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV/หน่วย)เกินกว่า 1%
      (4) ความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทนเนื่องจากกองทุนอาจเข้า
ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยมีวัตุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงดัชนีเซ็ท50 เช่น SET 50 INDEX FUTURE
หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอื่นใด เป็นต้น ความเสี่ยงจะแตกต่างตามประเภทของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแต่ละประเภทดังนี้
         - สัญญาออปชั่น คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะของการให้สิทธิแก่ผู้ซื้อสัญญา (Long Position)
ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying) ในอนาคต โดยผู้ซื้อสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้ โดยผู้ซื้อต้อง
จ่ายค่าธรรมเนียม(Premium) ในการได้มาซึ่งสิทธิดังกล่าวด้วย ซึ่งในกรณีที่สภาวะการณ์ลงทุนคาดการณ์ผิดไป ผู้ซื้ออาจ
ไม่ใช้สิทธิภายในเวลาที่กำหนด ทำให้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมไปโดยไม่ได้รับผลตอบแทน อย่างไรก็ตาม บริษัทจัดการจะ
วิเคราะห์สถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และลงทุนให้เหมาะสม
กับความเสี่ยงของกองทุน
         - สัญญาฟิวเจอร์ส คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะของการเป็นภาระผูกพันที่คู่สัญญาต้องปฏิบัติตามสัญญาเมื่อถึง
ระยะเวลาที่กำหนดไว้ ดังนั้นหากความผันผวนของม
1990
ูลค่าทรัพย์สินอ้างอิงเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ทำให้มูลค่าของสัญญาฟิวเจอร์ส
มีผลขาดทุน กองทุนจะมีภาระผูกพันที่ต้องปฏิบัติตามตามสัญญาที่ตกลงไว้ แม้ว่ากองทุนจะขาดทุนก็ตาม เช่น กองทุนรวมเข้าไปทำ
สัญญาฟิวเจอร์ส ซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท ถ้าครบกำหนดสัญญาราคาหุ้นในวันนั้นอยู่ที่ 80 บาท กองทุนรวมจะขาดทุน 20 บาท
และกองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของคู่สัญญา (Counterparty Risk) ได้เช่นกัน โดยในกรณีมูลค่าของ
สัญญาฟิวเจอร์สมีผลทำให้กำไร เช่น เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท ถ้าราคาหุ้นในวันนั้นอยู่ที่ 125 บาท กองทุนรวมจะ
มีกำไร 25 บาท แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสัญญาฟิวเจอร์ส สามารถซื้อขายกันได้ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Future Market)
โดยมีสำนักหักบัญชี (Clearing House) ทำหน้าที่ในการเรียกหลักประกันเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงให้ทั้ง 2 ฝ่ายปฏิบัติ
ตามสัญญา ซึ่งทำให้สามารถลดความเสี่ยงจากคู่สัญญาดังกล่าวได้
     (5) ความเสี่ยงจากการขยายฐานเงินลงทุน (Leverage Risk) การลงทุนในสัญญาออปชั่นที่ซื้อขายในตลาด
(Organized Exchange) หรือสัญญาฟิวเจอร์ส ซึ่งกองทุนรวมสามารถลงทุนได้โดยการวางเงินประกัน (Margin)
เพื่อป้องกันการไม่ปฏิบัติตามสัญญา โดยการวางเงินประกันเพียงเล็กน้อยสามารถลงทุนในสัญญาที่มีมูลค่ามากได้
เช่น ตลาดอาจกำหนดให้วางเงินประกันเพียงแค่ 5% ของมูลค่าสัญญา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทน (กำไร/ ขาดทุน) เกิดขึ้น
ในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่ลงทุน ซึ่งในกรณีที่กองทุนคาดการณ์ถูกต้อง การวางเงินประกันเพียงเล็กน้อย กองทุนก็จะได้
กำไรเป็นจำนวนมาก แต่ในทางตรงกันข้ามถ้ากองทุนคาดการณ์ผิดการวางเงินประกันเพียงเล็กน้อย กองทุนก็อาจขาดทุนเป็น
จำนวนมากได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจัดการจะวิเคราะห์สถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ และพิจารณาโอกาสผลกำไร
ขาดทุนเพื่อไม่ให้เกินเพดานที่บริษัทกำหนด
      (6) ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากกองทุนไม่สามารถซื้อหรือขายหลักทรัพย์
ได้ภายในระยะเวลาหรือราคาตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากโอกาสในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์มีจำกัด แต่เนื่องจากกองทุนนี้จะมี
ผู้ดูแล สภาพคล่องของกองทุนคอยทำหน้าที่เป็นผู้เสนอซื้อหรือเสนอขายหน่วยลงทุนในตลาดรอง จึงทำให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้
ตลอดเวลา ดังนั้น ความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่องจึงต่ำมาก



ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุนหรือกองทุนรวม
 1.ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน (unitholder?s expenses)
    1.1 ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน เรียกเก็บจากผู้สนใจลงทุนทั่วไปสำหรับการเสนอขาย
ภายหลังการเสนอขายครั้งแรก (หลัง IPO) ด้วยวิธีการส่งมอบตะกร้าหลักทรัพย์ - ไม่เกิน 0.05 ของมูลค่าหน่วยลงทุน
    1.2 ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนเรียกเก็บจากผู้สนใจลงทุนทั่วไป ด้วยวิธีการ
รับมอบตะกร้าหลักทรัพย์ - ไม่เกิน 0.05 ของมูลค่าหน่วยลงทุน
    1.3 ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ในกรณีที่ซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ) -ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด                      

 2.ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน (unitholder?s expenses)
    2.1      ค่าธรรมเนียมการโอนหน่วยลงทุน - ตามอัตราที่นายทะเบียนหน่วยลงทุนกำหนด
    2.2      ค่าธรรมเนียมการออกเอกสารสิทธิในหน่วยลงทุน -  ตามอัตราที่นายทะเบียนหน่วยลงทุนกำหนด
 3. ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม (fund?s direct expenses)
    3.1      ค่าธรรมเนียมการจัดการ (management fee) ไม่เกิน 0.40 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
    3.2      ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ (trustee fee) ไม่เกิน 0.025 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
    3.3      ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน (registrar fee) ไม่เกิน 0.01ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
    3.4      ค่าใช้จ่ายอื่นๆ - ตามที่จ่ายจริง
 4.ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการขายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวมภายหลังเสนอขาย
   หน่วยลงทุนครั้งแรก  - ไม่เกิน 0.30ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อปี
 หมายเหตุ
  1) ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นเป็นอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีอื่นใดในทำนองดียวกัน
  2) บริษัทจัดการสามารถเพิ่มค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นได้ไม่เกินร้อยละ 25 จากที่ระบุไว้
     ภายในรอบระยะเวลา1  ปี  ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน
     โดยประกาศผ่านทางหนังสือพิมพ์ ปิดประกาศ ณ สำนักงานของบริษัทจัดการ และ website ของบริษัทจัดการ


จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนและการกระจายการถือหน่วยลงทุน  ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2550
                                                    จำนวนราย     จำนวนหน่วย      ร้อยละ
                                                                  ลงทุน        ของหน่วย
                                                                                                       ที่ออกจำหน่าย

       ผู้ถือหน่วยลงทุนเกินกว่า 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด    9        147,933,800       83.11

       ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกิน 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด    769        30,066,200       16.89
           และไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย

       ผู้ถือหน่วยลงทุนต่ำกว่าหนึ่งหน่วยการซื้อขาย              -              -              -

                        รวม                        778       178,000,000        100.00

ผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่          ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2550
                                                  จำนวนหน่วยที่ถือ                 ร้อยละ
1. ธนาคารออมสิน                                         52,763,900               29.64
2. บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)          46,188,100               25.95
3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย                             17,587,900                9.88
4. สำนักงานประกันสังคม                                    17,587,900                9.88
5. บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด                               4,133,100                2.32
6. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)                      3,517,500                1.98
7. บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด                            2,638,000                1.48
8. นายสัจจา ตรีวานิช                                       1,758,700                0.99
9. น.ส.พรเพ็ญ เดชวิไลศรี                                   1,758,700                0.99
10. บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)                       879,300                0.49

สถิติ
       วันที่             มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ            การกระจายการลงทุนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
                                                            (หน่วย : พันบาท)
                      ต่อ           รวม           เงินฝาก       หลักทรัพย์          หนี้สินอื่น
                     หน่วย       (พันบาท)                         ที่ลงทุน
                    (บาท)
29 สิงหาคม 2550        5.68     1,010,968.80     5,443.774    1,005,525.026          -


จัดทำโดย            บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด
manuel
Verified User
โพสต์: 347
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ตลาดหลักทรัพย์เพิ่มสินค้า : TDEX04/09/2550 14:08

     TDEX : ตลาดหลักทรัพย์เพิ่มสินค้า : TDEX
ตลาดหลักทรัพย์เพิ่มสินค้า : TDEX


          ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขอแจ้งว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้รับ
หน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2550 เป็นต้นไป
          ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรกำหนดให้หน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ
(TDEX) จำนวน 880,281,690 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 5.68 บาท มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท
เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2550 โดยจัดอยู่ในหมวดหน่วยลงทุนและ
ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า  TDEX  ทั้งนี้จำนวนหน่วยลงทุนที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและซื้อขายใน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยอัตโนมัติตามจำนวนที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ
จำกัด ขายเพิ่มหรือรับซื้อคืนในแต่ละวัน
         อนึ่ง TDEX เป็นหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดซึ่งผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อขายหน่วยลงทุนได้
2 ระบบ คือ ผู้ลงทุนสามารถทำรายการซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน (Participating
Dealers :PD) ด้วยวิธีส่งมอบตะกร้าหลักทรัพย์ ตามขั้นตอนและวิธีการที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนกำหนด
และผู้ลงทุนสามารถทำรายการซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน TDEX โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในหนังสือชี้ชวน
เสนอขายหน่วยลงทุนที่ www.one-asset.com และติดตามข้อมูลเกี่ยวกับประกาศมูลค่าหน่วยลงทุนต่อหน่วย
และมูลค่าหน่วยลงทุนรวม ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด จะประกาศผ่านระบบ SETSMART
และ www.set.or.th หรือเว็บไซด์ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัดที่ www.one-asset.com
เพื่อผู้ลงทุนจะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม และเพียงพอ


หมายเหตุ : ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลหน่วยลงทุนได้จากสรุปข้อสนเทศของ TDEX ในระบบบริการข้อมูล
ตลาดหลักทรัพย์ (SETSMART)
manuel
Verified User
โพสต์: 347
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ตลท.อนุมัติให้กองทุน TDEX เข้าเทรดได้ 6 ก.ย.นี้

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขอแจ้งว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์
ได้สั่งให้รับหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ เป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2550 เป็นต้นไป
          ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรกำหนดให้หน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทย
เด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) จำนวน 880,281,690 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ
5.68 บาท มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้
ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2550 โดยจัดอยู่ในหมวดหน่วยลงทุนและใช้ชื่อย่อในการซื้อ
ขายหลักทรัพย์ว่า  TDEX  ทั้งนี้จำนวนหน่วยลงทุนที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและ
ซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยอัตโนมัติตามจำนวนที่บริษัท
หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณจำกัด ขายเพิ่มหรือรับซื้อคืนในแต่ละวัน
          อนึ่ง TDEX เป็นหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดซึ่งผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อ
ขายหน่วยลงทุนได้2 ระบบ คือ ผู้ลงทุนสามารถทำรายการซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านผู้
ร่วมค้าหน่วยลงทุน (ParticipatingDealers :PD) ด้วยวิธีส่งมอบตะกร้าหลักทรัพย์ ตาม
ขั้นตอนและวิธีการที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนกำหนด และผู้ลงทุนสามารถทำรายการซื้อ
ขายหน่วยลงทุนผ่านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นตลาด
หลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน TDEX โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม
ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนที่ www.one-asset.com และติดตามข้อมูล
เกี่ยวกับประกาศมูลค่าหน่วยลงทุนต่อหน่วยและมูลค่าหน่วยลงทุนรวม ซึ่งบริษัทหลัก
ทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด จะประกาศผ่านระบบ SETSMARTและ
www.set.or.th หรือเว็บไซด์ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัดที่
www.one-asset.com เพื่อผู้ลงทุนจะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่าง
เหมาะสม และเพียงพอ
manuel
Verified User
โพสต์: 347
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ของเล่นใหม่มาแล้ว TDEX คาดวันนี้ร้อน!

         บลจ.วรรณ-ตลท. มั่นใจ TDEX ของเล่นใหม่ชาวหุ้นร้อนสุดขีดวันนี้ หลังได้แรงหนุนจาก
แบงก์ชาติ ที่ประกาศยกเลิกเกณฑ์กันสำรอง 30% ขณะที่นักวิเคราะห์ลังเล ขอดูสถานการณ์ก่อน
จับตา KGI เดือดรับอานิสงส์ในฐานะเป็นมาร์เก็ตเมคเกอร์ และที่พลาดไม่ได้ หุ้นเล็กเลือดลมดี
อาจอาศัยจังหวะเหมาะแอบมาเป็นพรวน ต้องระวังเป็นหนังม้วนเดียวจบ เพราะของที่มาแรงมักไป
แรงเช่นเดียวกัน

* 6 ก.ย. ดีเดย์เปิดเทรด TDEX
         วันนี้ 6 กันยายน 2550 ถือเป็นฤกษ์ดีที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ต้อน
รับน้องใหม่ “ThaiDEX SET50 ETF” อิควิตี้ อีทีเอฟ กองแรกของไทย ที่จะเข้าซื้อขายเป็นวัน
แรกในหมวดหน่วยลงทุน (Unit Trust) โดยใช้ชื่อย่อว่า “TDEX” ที่สามารถซื้อขายได้ real
time ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่ง
         โดย ETF มี บลจ.วรรณ เป็นผู้จัดการกองทุน มีหน้าที่บริหารพอร์ตการลงทุนให้ได้ผลตอบ
แทนการลงทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง SET50 และมี บล.เคจีไอ (มหาชน) เป็นผู้ดูแลสภาพ
คล่องหรือ มาร์เก็ต เมคเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่สร้างสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อทำให้ได้รับ
ความนิยมอย่างรวดเร็วและแพร่หลายในที่สุด
         'ThaiDEX SET50 ETF' ถูกระบุว่า เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ผสมผสานจุดเด่นทั้ง
ของหุ้นและกองทุนรวม นับเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็น
กองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และสามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่งซึ่งอ้างอิง
กับดัชนี SET50 โดยการลงทุนแบบตะกร้าหุ้น ที่อำนวยความสะดวก เพิ่มศักยภาพ และตอบ
สนองความต้องการในการลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน

* บลจ.วรรณ คุย นลท.จองไอพีโอ ได้กำไรแล้ว
         ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า นักลงทุนทั้งรายย่อยและ
สถาบันที่ได้จองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน ETF หรือชื่อย่อในการซื้อขาย TDEX มีโอกาสสูงที่จะ
ได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุนทันทีในวันแรกที่เข้าซื้อขาย เพราะกองทุนดังกล่าว
อ้างอิงกับดัชนี SET50 การเคลื่อนไหวของราคาหน่วยลงทุนจึงควรเป็นไปในทิศทางเดียวกับ
ดัชนี SET50
         ทั้งนี้ ราคาไอพีโอของหน่วยลงทุน ETF อยู่ที่ 5.68 บาท คำนวณจาก SET 50 ปิดทำการ
ณ วันที่ 29 ส.ค.ที่ระดับ 567 จุด ขณะที่ปัจจุบันระดับดัชนี SET50 ได้รับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อ
เนื่อง ซึ่งวานนี้ปิดที่ระดับ 588.15 จุด ดังนั้นหากวันนี้ดัชนีอ้างอิงไม่ผันผวนมากจนเกินไปก็จะเป็น
ประโยชน์กับผู้ลงทุน
         'การขึ้นหรือลงของราคา ETF ค่อนข้างจะขึ้นอยู่กับดัชนีอ้างอิงมากกว่าปริมาณการซื้อขาย
หน่วยลงทุนซึ่งเราคำนวนต้นทุน ณ สิ้นวันที่ 29 ส.ค. ได้ 5.6798 โดยเอาค่า SET50 มาหารด้วย
100 ดังนั้นถ้าเทียบกับราคาปัจจุบันที่ดัชนีฯ อยู่ที่ 588.15 จุดแล้วหารด้วย 100 ก็จะได้ 5.88
บาทต่อหน่วย ย่อมถือว่าผู้ลงทุนมีกำไรทันที' ดร.สมจินต์ กล่าว

* ตลท. เชื่อ นลท.สนใจล้น เหตุซื้อขายสะดวก-ค่าธรรมเนียมต่ำ
         นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
กล่าวว่า เชื่อว่า ETF จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั้งสถาบันและผู้ลงทุนบุคคลอย่างแน่นอน
เนื่องจากซื้อขายได้สะดวก ติดตามราคาได้แบบ real time มีผู้ดูแลสภาพคล่อง เหมาะสำหรับผู้ลง
ทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นแต่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นโดยตรง รวมทั้ง ช่วยให้
ผู้ลงทุนสถาบันบริหารจัดการทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเสียค่า
ธรรมเนียมในการซื้อขายเพียงร้อยละ 0.10 เท่านั้น
         ทั้งนี้ กองทุน ETF ทั่วโลกมีการขยายตัวของมูลค่าทรัพย์สิน (asset under
management) ในอัตราการเติบโตแบบสะสม (Compound Annual Growth Rate)
ประมาณร้อยละ 70 หรือเกือบเท่าตัวทุกปีตั้งแต่ปี 2536 โดย ณ พฤษภาคมปี 2550 มูลค่า
สินทรัพย์ของทุกกองทุน ETF ทั่วโลกมีรวมกันกว่า 22 ล้านล้านบาท โดยทุกตลาดหลักทรัพย์ใน
ภูมิภาคเอเชียไม่ว่าจะเป็นตลาดเกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ หรือแม้กระทั่งตลาดใหม่อย่างจีน ได้มี
การจัดตั้งและซื้อขาย ETF แล้ว

* แบงก์ชาติผ่อนเกณฑ์สำรอง 30% หนุนอีกแรง
         ล่าสุดบ่ายวานนี้ นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย (ตลท.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนผันโดยยก
เว้นเกณฑ์สำรอง 30% สำหรับเงินทุนไหลเข้าระยะสั้น กรณีต่างชาติจะลงทุนใน ETF โดยให้มี
ผลในทางปฏิบัติ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.นี้ซึ่งเป็นวันแรกที่หน่วยลงทุน ETFจะเข้าซื้อขายในตลาดหลัก
ทรัพย์ฯ
         โดย ธปท. ได้ระบุในหนังสือที่ส่งถึงธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งว่า ตลท. ได้ออกผลิตภัณฑ์ทาง
การเงินประเภทใหม่คือ กองทุนรวม ETF ซึ่งจดทะเบียนใน ตลท.และมีหลักเกณฑ์ในการซื้อขาย
เช่นเดียวกับหุ้นที่จดทะเบียนในตลาด ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการซื้อขายกองทุนรวม
ETF เจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินจึงพิจารณาให้นำหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับ
การกันเงินสำรองบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศมาใช้กับหน่วยลงทุนของกองทุน
รวม ETF เฉพาะที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้น โดยให้ถือปฏิบัติเป็นตราสารทุน
         กรณีจะได้รับยกเว้นการกันเงินสำรอง หากนำเงินเข้าบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่
นอกประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะการลงทุนในตราสารทุนและสัญญาล่วงหน้า (SNS) ทั้งนี้ ให้
นิติบุคคลรับอนุญาต นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของบัญชี SNS มาใช้ปฏิบัติกับเงินลงทุนในกอง
ทุนรวม ETF ด้วย

* เชื่อ ETF ขยายตัวเต็มมูลค่า 5 พันลบ. ใน 1 ปี
         ดร.สมจินต์ มั่นใจว่า การที่ ธปท. ยินดีที่จะยกเว้นเกณฑ์มาตรการกันสำรอง 30% กับผู้ลง
ทุนต่างประเทศที่ซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุน ETF นั้น จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับ TDEX
เพราะจะทำให้รูปแบบการลงทุนสอดคล้องกับสถานะที่แท้จริงของ ETF ซึ่งมีลักษณะเข้าเกณฑ์
หุ้นมากกกว่ากองทุน การถือครองหน่วยลงทุนจะทำได้สะดวกขึ้น
         'การยกเลิกมาตรการ 30% นับว่าสอดคล้องกับตัว ETF เพราะรูปแบบการถือครองเป็น
แบบหุ้น ซึ่งการอนุญาตตรงนี้จะช่วยให้นักลงทุนต่างชาติที่รอลงทุนจะเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนมาก
ขึ้นส่งผลดีอย่างมีนัยสำคัญ' ดร.สมจินต์ กล่าว
         ทั้งนี้ประเมินการขยายตัวของกองทุนเปิด ETF ว่า จะสามารถขยายตัวจนเต็มมูลค่า
โครงการ 5 พันล้านบาทได้ ภายใน 1 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันมีมูลค่ากองทุนประมาณ 1 พันล้าน
บาท
         เพราะนอกเหนือจากกองทุน ETF จะได้รับผลดีจากการยกเว้นมาตรการกันสำรอง 30%
แล้ว ด้วยรูปแบบการลงทุนซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกเพราะมีความ
เสี่ยงต่ำ แต่ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำไม่สูงมีค่าธรรมเนียมการดำเนินงานน้อย จะเป็นตัวหนึ่งที่ดีสำหรับผู้
ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯมาก่อนให้มาลงทุน
ได้
         ดร.สมจินต์ กล่าวด้วยว่า หากกองทุน TDEX ประสบความสำเร็จตามคาดทางบริษัทฯ จะมี
การออกกองทุน ETF รูปแบบใหม่เพิ่มเติมโดยอาจอ้างอิงดัชนีหลักทรัพย์เฉพาะหมวด เช่น ที่
เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานหรือธุรกิจเฉพาะด้านอื่นๆ

* โบรกฯ ไม่ฟันธง ETF คึกหรือไม่ ขอดูสถานการณ์ก่อน
         ฟากโบรกเกอร์เอง มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ทั้งเชื่อว่า ETF จะคึกคัก และไม่มั่นใจว่า
จะคึกคักหรือไม่ เพราะเป็นสินค้าใหม่ โดยนายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย
กลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต เปิดเผยว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ETF จะได้รับความสนใจจาก
นักลงทุนมากน้อยแค่ไหน หลังจากที่ ธปท. ยกเลิกเกณฑ์กันสำรอง 30% เนื่องจากต้องรอดู
สถานการณ์ก่อน นอกจากนี้ ยังไม่ทราบว่านักลงทุนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนรูปแบบใหม่
มากน้อยแค่ไหน
         'ยังบอกไม่ได้ว่า ETF วันนี้จะยืนเหนือไอพีโอ ที่ 5.68 บาท/หน่วย หรือไม่ เพราะเราจะ
ต้องดูว่านักลงทุนเข้าใจมากน้อยแค่ไหน และทฤษฎีอาจจะแตกต่างจากปฎิบัติก็ได้ ซึ่งคงต้องรอดู
พรุ่งนี้ถึงจะบอกได้ว่าจะทำให้สภาพคล่องของตลาดหุ้นไทยดีขึ้นหรือเปล่า' นายแสงธรรม กล่าว
         ขณะที่ นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.
เอเซียพลัส กล่าวว่า เชื่อว่าการเปิดซื้อขายวันแรกของกองทุน ETF ภายใต้ชื่อ TDEX วันแรกน่า
จะมีการซื้อขายคึกคัก และเปิดการซื้อขายเหนือจองได้ เพราะถือว่ากองทุน ETF เป็นสินค้าใหม่
และทางการได้เปิดให้ต่างชาติเข้ามาซื้อลงทุนได้โดยที่ไม่ต้องถูกหักสำรอง 30%
         นอกจากนี้ ราคาไอพีโอของหน่วยลงทุน ETF อยู่ที่ 5.68 บาท ซึ่งคำนวณจาก SET 50 ที่
ระดับ 567 จุด (29 ส.ค.) นั้น เมื่อเทียบกับปัจจุบันระดับดัชนีของ SET 50 อยู่ที่ 590 จุด ดังนั้น
นักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าวในตอนนี้ถือว่ามีกำไรแล้ว และจะส่งผลให้การซื้อขายในวันพรุ่งนี้
คึกคักอย่างแน่นอน
         ทั้งนี้ แนะนำ 'ซื้อ' เมื่ออ่อนตัวที่ระดับราคา 5.80 บาท
         ส่วนนายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า มองว่า
กองทุน ETF หรือ TDEX ถือว่ามีความน่าสนใจพอสมควร เนื่องจาก ETF เป็นเครื่องมือหนึ่งที่
จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับตลาดหุ้นไทยโดยรวมได้ ซึ่งหากนักลงทุนสนใจจะเข้าซื้อควรจะรอ
จังหวะให้ตลาดโดยรวมอ่อนตัวลงก่อน
         ด้านนายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า
การซื้อขาย ETF จะคึกคักหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของนักลงทุนต่อสินค้าตัวดังกล่าว ซึ่งหาก
วันนี้เปิดซื้อขายคึกคัก ภายในวันเดียวกันนั้นก็น่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนเข้ามามาก แต่หากเปิด
ซื้อขายไม่คึกคัก หลังจากนั้นแรงซื้อเข้ามาก็อาจจะมีน้อย

* หวังช่วยหนุนหุ้นไทยคึกยามไร้ปัจจัยบวกหนุน
         การเปิดซื้อขาย TDEX วันนี้ ทำให้นักลงทุนมีความคาดหมายว่า น่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทย
คึกคักได้บ้าง ในยามที่ตลาดฯ ไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ หนุน ขณะที่นักลงทุนยังฝากความหวังไว้กับ
ดัชนีดาวโจนส์ และตลาดหุ้นภูมิภาค ราคาน้ำมันในตลาดโลก และการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคาร
กลางสหรัฐ หรือ เฟด ในการประชุม 18 กันยายนนี้
         นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยความกังวลด้านการเมืองในประเทศเข้ามาแทรกเป็นระยะ โดย
เฉพาะล่าสุดข่าวการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนใหม่ว่าจะเป็นใคร ซึ่งประเด็นนี้ได้
รับคำยืนยันจาก พลเอกบุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วว่า ไม่เกินวันพรุ่ง
นี้ (7 ก.ย.) จะได้ข้อสรุป
         โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ระดับ 814.50 จุด เพิ่มขึ้น 3.64 จุด หรือ
0.45% พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 12,458.89 ล้านบาท

* จับตา KGI วิ่งรับอานิสงส์ในฐานะมาร์เก็ตเมคเกอร์
         TDEX ยังทำให้หุ้น บล.เคจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ได้รับความสนใจจากนักลงทุน
อีกครั้ง ในฐานะที่เคยเป็นตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ และปัจจุบันยังทำหน้าที่เป็นมาร์เก็ตเม
คเกอร์ของ TDEX ซึ่งในประเด็นนี้ ทำให้ บล.เอเซีย พลัส มีบทวิเคราะห์ให้คำแนะนำซื้อสะสม
KGI ([email protected]) เนื่องจากผลดีดังกล่าว
         ส่วนราคาหุ้น KGI ปิดตลาดวันที่ 5 กันยายน 2550 ที่ระดับ 2.86 บาท ลดลง 0.06 บาท
หรือ 2.06% มูลค่าการซื้อขาย 201.67 ล้านบาท

* หุ้นเล็กรอจังหวะบวก แต่ต้องระวังมาแบบม้วนเดียวจบ
         ที่ขาดไม่ได้ในยามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยจะคึกคัก คือ หุ้นเล็กๆ ซื้อง่ายขาย
คล่องที่มักจะมาในเวลาอันรวดเร็ว แต่ต้องระวังให้มาก เพราะการมาในลักษณะเช่นนี้อาจเป็นหนัง
ม้วนเดียวจบ คือ วิ่งกระฉูดในวันเดียวแบบไม่มีปัจจัยใดๆ สนับสนุน และวันรุ่งขึ้นไม่มีการซื้อขาย
ที่คึกคักตามมา
         หนึ่งในหุ้นที่เข้าข่ายเตะตานักลงทุนแบบที่ว่ามานี้ อาจดูตัวอย่างได้จากหุ้น บริษัท เอ.เจ.
พลาสท์ จำกัด (มหาชน) (AJ) ที่วานนี้วิ่งไปทำราคาสูงสุดที่ระดับ 3.30 บาท ก่อนจะปิดอ่อนตัวลง
ที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.38 บาท หรือ 13.97% มูลค่าการซื้อขาย 70.93 ล้านบาท โดยบริษัทฯ
เอง ยังไม่ทราบสาเหตุหุ้นพุ่ง และกำลังตรวจสอบอยู่
         โดยแหล่งข่าวระดับสูงจาก AJ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นใน
รอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดยในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและสอบถามไปยังโบรกเกอร์
แต่ในด้านของปัจจัยพื้นฐานบริษัทฯ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังไม่ข่าวบวกใหม่ๆ เข้า
มาสนับสนุน
         ขณะที่นักวิเคราะห์เทคนิค บล.ฟิลลิป เปิดเผยว่า การปรับราคาเพิ่มขึ้นของ AJ ตั้งแต่เปิด
ตลาดช่วงบ่ายของวัน มาจากจากสัญญาณทางเทคนิคที่เหวี่ยงตัวค่อนข้างแรง แต่ไม่แนะนำให้นัก
ลงทุนเข้าซื้อ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นการปรับราคาขึ้นแบบไร้ปัจจัยหนุน ประกอบกับ
เป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีมูลค่าการซื้อขาย โดยคาดว่านักลงทุนจะเทขายภายใน 1-2 วันนี้ โดยประเมิน
แนวรับไว้ที่ 3.00-2.80 บาท แนวต้านที่ 3.30-3.52 บาท

* LIVE ครบกำหนดห้ามเน็ตฯ-มาร์จิ้นรอบ 2
         ในวันเดียวกันนี้ นักลงทุนต้องไม่ลืมว่าจะครบกำหนด 30 วันที่ ตลท. สั่งห้ามซื้อขายใน
ลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement)
และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ในรอบที่ 2 ของ บริษัท
ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LIVE
         โดยหลายฝ่ายเชื่อว่า LIVE จะไม่โชคร้ายถูกห้ามเน็ตฯ-มาร์จิ้น รอบ 3 เพราะในช่วงระยะ
เวลา 30 วันรอบ 2 นี้ ไม่มีปรากฏว่าราคาหุ้น LIVE จะเคลื่อนไหวผิดปกติแต่อย่างใด และมีความ
คาดหวังว่าหุ้น LIVE จะค่อยๆ หวนคืนสู่วงการหุ้นเก็งกำไรแบบค่อยเป็นค่อยไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
dunkphunkorn
Verified User
โพสต์: 161
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 5

โพสต์

วันนี้วอลุ่มคึกETFหนุนธปท.เว้น30% โดย กระแสหุ้น


วันนี้ อีทีเอฟหนุนวอลุ่มตลาดหุ้นคึก ได้แบงก์ชาติปล่อยผีเกณฑ์ 30% เปิดทางต่างชาติไหลเงินเข้ามาซื้อ ด้านรายย่อย-สถาบันที่ซื้อหน่วยลงทุนช่วงไอพีโอยิ้มแก้มปริ กำไรบานเบอะตั้งแต่กองทุนยังไม่เข้าเทรด เหตุราคาไอพีโออยู่ที่ระดับ 5.68 บาท แต่ล่าสุดราคาอยู่ที่ 5.88 บาท


ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้(6 ก.ย.)น่าจะมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น เนื่องจากมีกองทุนอีทีเอฟ(Equity Exchange Traded Fund:ETF) เข้าซื้อขายเป็นวันแรก โดยคาดว่าจะมีนักลงทุนรายย่อยและสถาบันจำนวนมากเข้ามาซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าว เนื่องจากตอนขายหน่วยครั้งแรก(ไอพีโอ)มีนักลงทุนที่ผิดหวังไม่ได้หน่วยลงทุนจำนวนมาก ทำให้เชื่อว่านักลงทุนเหล่านี้จะเข้ามาซื้อขายในตลาด


ขณะเดียวกันล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ผ่อนผันเกณฑ์กันสำรอง 30% ในอีทีเอฟเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวแน่นอน ประกอบกับการซื้อขายหน่วยลงทุนอีทีเอฟมีผู้เที่สามารถซื้อขายหน่วยได้หลายฝ่าย ทั้งนักลงทุน ผู้ดูแลสภาพคล่อง(มาร์เก็ตเมกเกอร์) และ ดีลเลอร์ อีกหลายแห่ง ซึ่งจะทำให้มีธุรกกรรมการซื้อขายที่คึกคัก


นอกจากนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่านักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรหน่วยช่วงไอพีโอได้กำไรจากการลงทุนเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากราคาไอพีโอที่ได้มาอยู่ในระดับ 5.68 บาท โดยคำนวณจากดัชนี SET50 ที่ระดับ 568 จุด ขณะที่ราคาในปัจจุบันอยู่ในระดับ 5.88 บาท โดยคำนวณจากดัชนี SET50 ที่ระดับ 588 จุด(5 ก.ย.)


นางสาวนิตยา พิบูลย์รัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่าธปท.ได้ส่งหนังสือเวียนแจ้งไปยังธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ธอท.) ธนาคารออมสิน และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ธปท. ได้ผ่อนผันให้กองทุนอีทีเอฟไม่ต้องกันสำรอง 30% เนื่องจากกองทุนดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีหลักเกณฑ์ในการซื้อขายเช่นเดียวกับหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)


ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการซื้อขายกองทุนอีทีเอฟ ดังนั้น ธปท.จึงพิจารณาให้นำหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกันเงินสำรองบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นฐานที่อยู่นอกประเทศมาใช้กับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ตลท.เฉพาะที่อ้างอิงดัชนีราคาหุ้น โดยให้ถือเป็นตราสารทุน ซึ่งจะได้รับการยกเว้นการกันเงินสำรองหากนำเงินเข้าบัญชีเงินบาทของผู้มีถิ่นฐานอยู่นอกประเทศ


นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ สายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า การที่ ธปท.ผ่อนผันให้กองทุนอีทีเอฟไม่ต้องกันสำรอง 30% เพราะ ก.ล.ต.ได้มาชี้แจงว่า กองทุนอีทีเอฟถือว่าเป็นหุ้น เมื่อ ธปท.กลับไปพิจารณาแล้วเห็นว่า ใช่ และเป็นอย่างที่ ก.ล.ต.ชี้แจง ดังนั้น ธปท. จึงได้อนุโลมให้


ส่วนกรณีหลายฝ่ายกังวลว่า หาก ธปท.อนุญาตให้กองทุนดังกล่าวไม่ต้องกันสำรอง 30% จะทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทนุในกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งอาจจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาจำนวนมาก และทำให้ค่าเงินบาทผันผวนนั้น เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อตลาดเงิน เนื่องจากยอดขายอีทีเอฟ ในช่วงเสนอขายแก่นักลงทุนในวันแรกนั้น มีเพียง 1,000 ล้านบาท เมื่อคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินไม่มาก

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า เชื่อว่าการซื้อขายกองทุน ETF บนกระดานวันนี้ น่าจะเป็นการซื้อขายของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนในประเทศก่อน ส่วนนักลงทุนต่างประเทศอาจจะเข้ามาบ้างเล็กน้อย


ส่วนประเด็นที่มีบทวิเคราะห์ออกมาว่าเดือนกันยายนจะมีปริมาณการซื้อขายต่ำที่สุดในรอบปีนั้นเท่าที่ประเมินยังถือเป็นการซื้อขายปกติ และไม่มีแนวโน้มอย่างที่มีกระแสข่าวออกมา และเชื่อว่าการซื้อขายของนักลงทุนที่มีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ทั่วโลกมองในเรื่องพื้นฐานของการลงทุน แต่ยอมรับว่าโดยปกติในเดือนสิงหาคมของทุกปีจะมีปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นวันหยุดพักร้อนของนักลงทุนต่างประเทศ

ด้านดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ในฐานะแกนนำในการจัดตั้งกองทุนอีทีเอฟ กล่าวว่า การที่ธปท.ยกเว้นมาตรการกันสำรอง 30% ให้กับผู้ลงทุนต่างประเทศที่ซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุน ETF จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับกองทุน เพราะจะทำให้รูปแบบการลงทุนสอดคล้องกับสถานะที่แท้จริงของ ETF ซึ่งมีลักษณะเข้าเกณฑ์หุ้นมากกกว่ากองทุน การถือครองหน่วยลงทุนจะทำได้สะดวกขึ้น

การยกเลิกมาตรการ 30% นับว่าสอดคล้องกับตัว ETF เพราะรูปแบบการถือครองเป็นแบบหุ้น ซึ่งการอนุญาตตรงนี้จะช่วยให้นักลงทุนต่างชาติที่รอลงทุนเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนมากขึ้นส่งผลดีอย่างมีนัยสำคัญ' ดร.สมจินต์ กล่าว


ทั้งนี้ประเมินการขยายตัวของกองทุนเปิดอีทีเอฟว่าจะะสามารถขยายตัวจนเต็มมูลค่าโครงการ 5 พันล้านบาทภายใน 1 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันมีมูลค่ากองทุนประมาณ 1 พันล้านบาท เพราะนอกจากกองทุน ETF จะได้รับผลดีจากการยกเว้นมาตรการกันสำรอง 30% แล้ว ด้วยรูปแบบการลงทุนซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกเพราะมีความเสี่ยงต่ำ แต่ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำไม่สูง มีค่าธรรมเนียมการดำเนินงานน้อย ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ที่ไม่เคยลงทุนในหุ้นมาก่อน


นอกจากนี้ หากกองทุนอีทีเอฟประสบความสำเร็จตามคาดทางบริษัทจะมีการออกกองทุน ETF รูปแบบใหม่เพิ่มเติมโดยอาจอ้างอิงดัชนีหลักทรัพย์เฉพาะหมวด เช่น ธุรกิจพลังงานหรือธุรกิจเฉพาะด้านอื่นๆ


ดร.สมจินต์ กล่าวต่อว่า นักลงทุนรายย่อยและสถาบันที่ได้จองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน ETF มีโอกาสสูงที่จะได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุนทันทีในวันแรกที่เข้าซื้อขาย เพราะกองทุนดังกล่าวอ้างอิงกับดัชนี SET50 การเคลื่อนไหวของราคาหน่วยลงทุนจึงควรเป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนี SET50


นอกจากนี้ราคาไอพีโอของหน่วยลงทุน ETF อยู่ที่ 5.68 บาท คำนวณจาก SET 50 ปิดทำการ ณ วันที่ 29 ส.ค.ที่ระดับ 567 จุด ขณะที่ปัจจุบันระดับดัชนี SET50 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 590.01 จุด ดังนั้นหากในวันนี้ ถ้าดัชนีอ้างอิงไม่ผันผวนมากจนเกินไปก็จะเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุน


การขึ้นหรือลงของราคา ETF จะขึ้นอยู่กับดัชนีอ้างอิงมากกว่าปริมาณการซื้อขายหน่วยลงทุน ซึ่งเราคำนวนต้นทุน ณ สิ้นวันที่ 29 ส.ค. ได้ 5.6798 โดยเอาค่า SET50 มาหารด้วย 100 ดังนั้นถ้าเทียบกับราคาปัจจุบันที่ดัชนีอยู่ที่ 588.15 จุดแล้วหารด้วย 100 ก็จะได้ 5.88 บาทต่อหน่วย ย่อมถือว่าผู้ลงทุนมีกำไรทันทีตั้งแต่ยังไม่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น'ดร.สมจินต์ กล่าว


นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้คาดว่าน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องจากวานนี้เนื่องจากหน่วยลงทุน ETF จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก และการที่แบงก์ชาติผ่อนปรนเกณฑ์ 30% ให้ถือเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการลงทุน ETF อย่างมาก เนื่องจากประเมินว่าจะมีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนอย่างคึกคัก เพราะการลงทุนใน ETF อยู่ในความสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ


นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า กองทุน ETF ที่จะเข้าซื้อขายในวันนี้น่าจะทำให้มีกระแสเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้น ซึ่งก็น่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่นกว่าวานนี้ แต่ในส่วนของบรรยากาศตลาดหุ้นไทยมองว่าไม่น่าส่งผลอะไรมากนัก
นักลงทุนฝึกหัดครับ
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ค่ะ น่าสนใจอยู่เหมือนกัน
เอาไว้ เวลาบางจังหวะ(เช่นแพนิค :lol: )อยากซื้อบิ๊คแคป แต่คิดไม่ออกจะซื้อตัวไหน เพราะไม่ค่อยได้ติดตามดูบิ๊คๆเขาเท่าไหร่

ดูเข้าท่ากว่าฟิวเจอร์ อันนั้นไม่ค่อยกล้าเลย กลัว  :oops:
vivitawin
Verified User
โพสต์: 1922
ผู้ติดตาม: 1

TDEX

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ค่าธรรมเนียม ถูกกว่าซื้อหุ้นปกติด้วยนะครับ
เมื่อวานโทรถามมาร์บอกว่า 0.1%+vat ทั้งผ่านมาร์ และ ผ่านเน็ต

เหมาะมากสำหรับคนเอาไว้ฝึกซื้อขายหุ้นทางเทคนิค
และ vi ที่ไม่ได้ติดตามรายบริษัท แล้วไม่รู้จะซื้อตัวไหนดีตอนตลาดpanicมากๆ
boy2t
Verified User
โพสต์: 243
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เค้าว่าลงทุนในหุ้น 50 ตัว มีปันผลให้ด้วย วันนี้ก็ซื้อเก็บ 5.84 ซื้อปุ๊บ ร่วงอีกสงสัยว่าจะเป็น VI หรือพวกติดยอดดอยกันแน่นะเรา
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 2

TDEX

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ไม่ทราบว่าสามารถนำไปหักภาษีได้เหมือน RMF & LTF ไหมครับ
ขอบคุณนะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
conseto
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1187
ผู้ติดตาม: 5

TDEX

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ปันผลสามารถเครดิตภาษีได้มั๊ยครับ
ทำ..เพื่อไม่ต้องทำ
Boring Stock Lover
Verified User
โพสต์: 1301
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ไม่ลดหย่อนภาษีแน่นอน

น่าจะโดนหักภาษีในรูปกองทุน กองทุนไม่ต้องเสียภาษี เราก็คงเครดิตได้แค่ เงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย เท่านั้น
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 2

TDEX

โพสต์ที่ 12

โพสต์

noooon010 เขียน:ไม่ทราบว่าสามารถนำไปหักภาษีได้เหมือน RMF & LTF ไหมครับ
ขอบคุณนะครับ
ถามเอง ตอบเองครับ

พอดีพึ่งได้คำตอบวันนี้เอง  :D

ETF หักภาษี แบบ RMF/ LTF ไม่ได้นะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
boy2t
Verified User
โพสต์: 243
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 13

โพสต์

มูลค่าของ TDEX จะเพิ่มขึ้นตามเวลาประมาณ 10 %  เพราะหุ้น 50 ตัวมีการจ่ายปัญผลแล้วสะสมในตัวหุ้น  และบางตัวไม่มีการจ่ายปัญผล ราคากองทุนต้องเพิ่มขึ้นสิครับ หรือว่า จะอิง ดัชนี set50 ตลอดเวลาเหรอครับ
vivitawin
Verified User
โพสต์: 1922
ผู้ติดตาม: 1

TDEX

โพสต์ที่ 14

โพสต์

[quote="boy2t"]มูลค่าของ TDEX จะเพิ่มขึ้นตามเวลาประมาณ 10 %
ภาพประจำตัวสมาชิก
thalucoz
Verified User
โพสต์: 658
ผู้ติดตาม: 0

TDEX

โพสต์ที่ 15

โพสต์

TDEX มีจ่ายปันผลด้วยครับ อาจจะจ่ายทุกไตรมาสหรือครึ่งปี ปันผลคงจะไม่สะสมอยู่ใน TDEX ตลอดไปหรอกครับ ขึ้นลงตาม set50 เกือบจะเป๊ะ ถ้าไม่เป๊ะ นักลงทุนสถาบันก็จะ arbitage อาจจะใช้ tfex หรือ ซื้อหุ้น50ตัวมาแลก tdexแล้วขายทิ้ง หรือ ซื้อtdex แล้วไปแลกหุ้น50ตัว แล้วขายทิ้ง ก็ได้กำไรส่วนต่าง

ไม่ค่อยเข้าใจครับ รบกวนผู้รู้ ช่วยขยายความอีกสักหน่อย เห็นแก่ลูกเจี๊ยบตาดำ ๆ เถอะครับผม :oops:
โพสต์โพสต์