เกณฑ์ในการยกเว้นภาษีเงินได้ในกรณีขายอสังหาริมทรัพย์

การลงทุนอื่นๆนอกจากหุ้น วีไอ กองทุนรวมชนิดต่างๆ RMF LTFตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ อนุพันธ์ และเกษตรล่วงหน้า

โพสต์ โพสต์
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 2

เกณฑ์ในการยกเว้นภาษีเงินได้ในกรณีขายอสังหาริมทรัพย์

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สอบถามท่านผู้รู้เกี่ยวกับเกณฑ์ในการยกเว้นภาษีเงินได้ในกรณีขายอสังหาริมทรัพย์ครับ

ยกตัวอย่างเช่น คอนโดที่ผมอาศัยปัจจุบัน ผู้ขายได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แต่บ้านทาวน์เฮ้าส์ ผู้ขายกลับต้องเสียภาษี 2.5% ของราคาประเมิน

ผมสงสัยว่า มีกฎเกณฑ์อย่างไรในการยกเว้นภาษีเงินได้ครับ
ขึ้นอยู่กับประเภทอสังหา (อาคารชุด, ทาวน์เฮ้าส์, ฯลฯ) หรือเปล่า
หรือมีเกณฑ์อย่างไรครับ?
"Winners never quit, and quitters never win."
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 2

เกณฑ์ในการยกเว้นภาษีเงินได้ในกรณีขายอสังหาริมทรัพย์

โพสต์ที่ 2

โพสต์

case ที่ผมเจอ ผู้ขายเขาไม่ต้องเสียภาษีเงินได้เลยอ่ะครับ ใบเสร็จของสำนักงานที่ดินไม่มีรายการนี้เลย ...
แล้วเขาก็ไม่ได้มีชื่อในทะเบียนบ้านด้วย (มีแต่ชื่อเขาที่เป็นเจ้าของโฉนด)
เลยยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ...

เท่าๆที่ไปลองค้นดู
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 457 บัญญัติว่า "ค่าฤชาธรรมเนียมทำสัญญาซื้อขายนั้น ผู้ซื้อ ผู้ขายพึงออกใช้เท่ากันทั้งสองฝ่าย" ดังนั้น ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ผู้ซื้อและผู้ขาย จึงมีหน้าที่ออกกันคนละครึ่งตามกฎหมาย สำหรับค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร กำหนดให้ผู้มีเงินได้ (ผู้ขาย) เป็นผู้เสีย ผู้ซื้อมีหน้าที่หักและนำส่งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
สำหรับการจดทะเบียนขายอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดิน เสียค่าใช้จ่าย ดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมอัตราร้อยละ 2 คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ (ถ้าเป็นการขายอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน ซึ่งในสารบัญจดทะเบียนหลังโฉนดที่ดินจะมีหมายเหตุว่า ที่ดินแปลงนี้อยู่ภายใต้การจัดสรรที่ดิน ได้รับลดค่าธรรมเนียมเหลือร้อยละ 0.01 จากราคาประเมินทุนทรัพย์ ซึ่งอัตรานี้จะใช้บังคับไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2546)
2. ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ตามวิธีการที่กำหนดตามประมวลรัษฎากร ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน จะเป็นผู้คำนวณและเรียกเก็บในขณะจดทะเบียน

3. ค่าอากรแสตมป์ใบรับ อัตราร้อยละ 50 สตางค์ คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่ผู้ขอแสดง แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า
4. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับกรณีบุคคลธรรมดาขายอสังหาริมทรัพย์ไปภายใน 5 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียนได้มา อัตราร้อยละ 3.3 (รวมภาษีท้องถิ่น) คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์หรือราคาขายแล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า แต่ในขณะนี้ มีการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือร้อยละ 0.11 ซึ่งอัตรานี้ จะใช้บังคับไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2546 หากพ้นกำหนดนี้แล้ว และไม่มีกฎหมายให้ลดภาษีธุรกิจเฉพาะ จะเสียในอัตราปกติ และเมื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากรแสตมป์ใบรับตาม 3.
แต่ถ้าเป็นการขายอาคารพานิชย์พร้อมที่ดินใช้เป็นที่อยู่อาศัยที่ผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎรเป็นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

ที่มา : กรมที่ดิน


ที่พี่บอลพูดมาคล้ายๆ กฎเกณฑ์สำหรับการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
แต่ยังไงก็ขอขอบคุณนะครับที่ช่วยตอบ ...  :bow:
"Winners never quit, and quitters never win."
โพสต์โพสต์