เงินฝากไหลลงทุนตราสารหนี้ 9 หมื่นล้าน

การลงทุนอื่นๆนอกจากหุ้น วีไอ กองทุนรวมชนิดต่างๆ RMF LTFตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ อนุพันธ์ และเกษตรล่วงหน้า

ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
BerZerK
Verified User
โพสต์: 128
ผู้ติดตาม: 0

เงินฝากไหลลงทุนตราสารหนี้ 9 หมื่นล้าน

โพสต์ที่ 1

โพสต์


เงินฝากไหลลงทุนตราสารหนี้ 9 หมื่นล้าน

โดยโยกออกจาก 4 แบงก์ใหญ่ เข้าลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นผ่าน บลจ.ซึ่งเป็นบริษัทลูก

เปิดพฤติกรรมผู้ลงทุนโยกเงินฝากหันลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเพิ่ม เผย 12 เดือนย้อนหลัง 4 แบงก์ใหญ่มีเม็ดเงินไหลออกเข้า บลจ.ซึ่งเป็นบริษัทลูกแล้วกว่า 9 หมื่นล้านบาท ด้าน "ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ" คาดสัญญาณดอกเบี้ยขึ้นยิ่งกระตุ้นตลาดบอนด์ระยะสั้นคึกคักขึ้น เตือนระวัง บจ.สบช่องมั่วขายสินค้า

นายเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอเจเอฟ จำกัด เปิดเผยว่า ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาพบว่า มีเม็ดเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่งไหลเข้าบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจ บลจ.กันจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ายอดเงินดังกล่าวคงมีไม่น้อยกว่า 90,000 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ส่งผลให้การลงทุนในตลาดดังกล่าวมีความคึกคักตามไปด้วย

"ที่ผ่านมาจะเห็นการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในตลาดตราสารหนี้ เพราะมีเม็ดเงินจากแบงก์ขนาดใหญ่ 4 แห่งไหลเข้ามาอยู่ในกองทุนรวมกันจำนวนมาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นไปได้ที่แบงก์แนะนำให้ผู้ฝากเงินมาลงทุนเพื่อเลี่ยงการส่งค่าธรรมเนียมจ่ายคืนให้กองทุนฟื้นฟู แต่ยอดการไหลเข้ากองทุนตรงนี้ส่วนใหญ่จะออกมาเลย มีจำนวนน้อยมากที่โยกกลับไปฝากแบงก์ ซึ่งการเคลื่อนไหวตรงนี้เชื่อว่าจะได้เห็นถึงปลายปีนี้" นายเรืองวิทย์ กล่าว

ด้าน ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยนั้น เชื่อว่าจะหนุนให้การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นมีความคึกคักขึ้น ขณะที่ตราสารหนี้ระยะยาวผู้ลงทุนอาจชะลอการลงทุนไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม แม้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะหนุนให้ภาวะตราสารหนี้ระยะสั้นคึกคักขึ้นก็ตาม ในแง่ของผู้ลงทุนควรจะใช้ความระวังในการลงทุนให้มากขึ้น เพราะอาจมีบริษัทจดทะเบียนบางรายที่ฐานะการเงินไม่มั่นคงหันมาออกขายตราสารประเภทนี้กันมากขึ้น ดังนั้น การเข้าลงทุนควรวิเคราะห์งบการเงินให้ละเอียด รวมทั้งต้องดูผู้บริหารของผู้ออกตราสารด้วยว่ามีความเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน

"แน่นอนว่าดอกเบี้ยขึ้น ตราสารหนี้ระยะสั้นจะยิ่งคึกคักและขาดตลาด ทำให้มีผู้หันมาออกตราสารระยะสั้นกันมากขึ้น เช่น ตั๋วแลกเงิน (บีอี) แต่ในช่วงตลาดยิ่งคึกคัก ผู้ลงทุนต้องยิ่งวิเคราะห์ให้ดีหากไม่มั่นใจงบการเงินก็อย่าเข้าไปลงทุน เพราะบางครั้งงบการเงินดีแต่ไม่ถูกต้อง อย่างนี้ผู้ลงทุนก็เสียหาย" ดร.อนุสรณ์ กล่าว

เขากล่าวด้วยว่า ในส่วนผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้นนั้น ยอมรับว่าอาจส่งผลทางจิตวิทยาการลงทุนบ้าง แต่คงไม่มากนัก เนื่องจากผู้ลงทุนส่วนใหญ่ได้คาดการณ์เรื่องนี้ไว้ก่อนหน้าแล้ว แต่ผลกระทบที่มีต่อบริษัทจดทะเบียนนั้น แน่นอนว่าต้องมีบ้างเพราะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น กลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล กลุ่มลิสซิ่ง รวมถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะธนาคารที่มีโครงสร้างเงินฝากและเงินปล่อยกู้ที่สมดุล

"เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์กันอยู่แล้ว ดังนั้น ผลกระทบต่อตลาดหุ้นจึงไม่น่ารุนแรงนัก ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้ อาจส่งผลโดยตรงต่อราคาหุ้นในกลุ่มสินเชื่อรายย่อย ลิสซิ่ง และอสังหาริมทรัพย์ แต่ที่ผ่านมาตลาดก็ได้ตอบรับข่าวไปแล้ว เห็นได้จากการปรับตัวของราคาหุ้นกลุ่มเหล่านี้ และการขึ้นของดอกเบี้ย ผมยังมองว่าภายในปีนี้คงขึ้นได้ไม่เกิน 0.5%" ดร.อนุสรณ์ กล่าว


6 กรกฎาคม 2548 07:53 น.
กรุงเทพธุรกิจ



ผมไป update สมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พนักงานแบงค์แนะนำให้ผมซื้อกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นแทนการฝากเงินสดไว้ใน Bank

อีกสองสามวันก็มีข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่ากองทุนตราสารหนี้ของบลจ เบอร์ดีน ซื้อตั๋ว B/E ของปิกนิกด้วย

ช่างเข้ากับสุภาษิต "หนีเสีอปะจรเข้" ยังไงก็ไม่รู้

ชาว TVI มีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ
:?:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 33

เงินฝากไหลลงทุนตราสารหนี้ 9 หมื่นล้าน

โพสต์ที่ 2

โพสต์

สลากออมสินก็ตั้งเป้ากวาด 2 หมื่นล้าน
เหลืออยู่แค่ 1 พันกว่าล้าน ขายดีจิงจิง
เห็นข่าวว่า ซื้อ 5 แสนหน่วย หน่วยละ50บาท
ได้สลาก 1 หมื่นหน่วย สามารถถูกสลากทุกเดือน(4ตัว)
ผลตอบแทน1.73%
ไม่นับรวม ได้ลุ้นรางวัลที่ 1
10 ล้านบาท
ครบกำหนดได้ดอกเบี้ยหน่วยละ1บาท
นำไปกู้ได้90-95%ของยอดสลาก
แถมไม่ต้องเสียภาษี
ทางเลือกในการลงทุน
ได้ลุ้นเงินต้นไม่บุบสลาย


แล้วอย่างนี้ใครว่าคนไทยจน หรือจนไม่จิงจิง
ภาพประจำตัวสมาชิก
BerZerK
Verified User
โพสต์: 128
ผู้ติดตาม: 0

เงินฝากไหลลงทุนตราสารหนี้ 9 หมื่นล้าน

โพสต์ที่ 3

โพสต์

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พันธบัตรรัฐบาล 8 (SCBGB8) จะเปิดขาย วันที่ 15-25 กรกฎาคม 2548 นี้เท่านั้นเป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ตราสารหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง
  • * ระยะเวลา 12 เดือน
    *โอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
    *รับผลตอบแทนทุก 6 เดือน (รับสองครั้ง วันที่ 27 มกราคม 2549 และ 28 กรกฎาคม 2549)
    *ไม่เสียภาษี


ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.scbam.com

+++++++++

ข้อมูลของ ไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 7 (SCBGB7)
งวดที่ วันทำการรับซื้อคืน อัตราการรับซื้อคืน
1. 30 ธันวาคม 2548 ร้อยละ 1.075 ของมูลค่าเงินลงทุน
2. 30 มิถุนายน 2549 ร้อยละ 1.075 ของมูลค่าเงินลงทุนพร้อมทั้ง เงินลงทุนคงเหลือทั้งหมดตามสัดส่วนจำนวนเงินที่รวบรวมได้

*** อัตรารับซื้อคืนเป็นค่าโดยประมาณการผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลาโครงการ

+++++++++
ล็อคหัวข้อ