มีวางระเบิด3จุดที่สงขลาครับ

[booklover]

แย่มากๆเลยไม่รู้จะหนักแค่ไหนครับ คนทำเลวจริงๆเลย
ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก้อตาม ขอประณามครับ

[Dech]

คราวนี้มาถึง สงขลาแล้วหรือครับ ต่อไปก็สตูล

ผมจำได้เมื่อก่อนเขาจะแบ่ง 5 จังหวัด ชายแดนใต้นิครับ เริ่มมาสงขลาแล้ว

พี่ครรชิตครับ หวังว่าคงสบายดีนะครัย

[jaychou]

ตูมไปแล้ว

อาจจะเป็นผลดีต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง เพราะต้องใช้วัสดุในการซ่อม

[Dech]

ด่วน!! ระเบิดสนามบิน-ห้างคาร์ฟูร์หาดใหญ่- ตาย 2 เจ็บระนาว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 เมษายน 2548 21:15 น.


เกิดเหตุระเบิดใจกลางเมืองหาดใหญ่ พร้อมกัน 2 จุดซ้อน เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. ที่ผ่านมา โดยจุดแรกที่ห้างคาร์ฟูร์ สาขาหาดใหญ่ มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน และในเวลาไล่เรี่ยกัน เกิดระเบิดขึ้นอีกจุดภายในสนามบินหาดใหญ่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ล่าสุดมีรายงานว่า ที่ห้างคาร์ฟูร์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน


THAI AOT กระทบแน่ๆ

[ปรัชญา]

คงไม่หยุดแค่หาดใหญ่

ใกล้เข้ามาอีก....

[Jeng]

คนพวกนี้ต้องการอะไรกันแน่

ทำไป ตัวเองก็ต้องทนทุกข์ กับภาพคนเจ็บ คนตายที่คอยหลอกหลอน

เพราะสิ่งที่ทำไป ไม่ใช่ความดี ความถูกต้อง

สุดท้าย ไม่ว่านับถือศาสนาอะไร ผลของการกระทำ ต้องตามสนอง ให้ตัวคนทำ ต้อง ติดคุก ตาย หรือไม่ ก็ต้องหลบหนีอยู่ในป่า

เวรกรรมจริงๆ

[ปรัชญา]

คนตกงาน คนมีคดีติดหลัง
คนด้อยโอกาสทางสังคม คนอยากดัง
ได้เงินสนับสนุนเข้ามาก่อการร้าย
จะไปเอาสามัญสำำนึกที่ไหน

อยากเห็นดอนเมือง
ตรวจวัตถุระเบิด+อาวุธก่อนเข้าอาคารเลย
ทุกวันนี้ก็ตรวจกันแค่ตอนขึ้นเครื่อง
มองดูยังหละหลวม

[วัวแดง]

คนที่ทำเค้าไม่เรียกมนุษย์แน่ๆๆ

ขออย่าให้ลามไปมากกว่านี้เลย หวังว่าพ่อผมที่สุราษ ยังหลับได้อยู่

[dr_norr]

เห็นข่าวออกมาล่าสุด ระเบิด 3 ที่ และสงสัยจะมีซุกซ่อนอีก 1 ลูก

[Jeng]

อืม เรื่องการตรวจสอบ ต้องยอมรับเลยว่า ที่เมกา ตรวจกันแหลกเลยเฮียปรัชญา

พักหลัง ผมใช้วิธี ไม่ใส่อะไรเลย คือ เข็มขัด นาฬิกา สร้อย หรืออะไรก็ตามไม่ใส่เลย

แม้กระทั่งรองเท้าก็ต้องถอดครับ

แย่จัง พักหลังไม่ค่อยอยากเดินทางแล้ว

[jaychou]

เสียชีวิตไป 2 .. อาจจะดูไม่มาก กรณีอื่นสูญเสียมากกว่านี้

แต่เข้ามาใจย่านธุรกิจอย่างห้าง โรงแรม สนามบิน

มันส่งผลทางจิตวิทยามากครับ


เห็นด้วยกับพี่ปรัชญา น่าจะตรวจวัตถุระเบิด ก่อนเข้าอาคาร

อย่างน้อยยยย มีสุนัขตำรวจคอยสุ่มดมกลิ่นก็ยังดีครับ

[ปรัชญา]

ตรวจผู้โดยสารภายในไม่ละเอียดเลย
ผมไปกทม.ก่อนขึ้นเครื่องแค่เดินผ่านเครื่องตรวจเอง
ตอนกลับที่ดอนเมืองดีขึ้นมานิด นิดเดียวจริงๆ
มีให้ขึ้นยืนบนแท่นแล้วมีเครื่องมาไล่ตามตัว
เครื่องบินตกไม่น่ากลัว
การวางระเบิดน่ากลัวกว่า 8)

[ครรชิต ไพศาล]

ผมได้ฟังข่าวเพิ่งรู้ข่าว พร้อมๆ กับชาวกรุงเทพฯ ชาวขอนแก่น

สภาผู้แทน เพิ่งอภิปราย ส่งภาษาดอกไม้ ไปให้พวกก่อการร้ายฟัง

พวกก่อการร้าย ส่งกลับมาเป็นก้อนอิฐกับเศษเหล็ก ลูกระเบิด

นักวิชาการ ก็บอกให้รัฐบาล ส่งช่อดอกได้กลับไปให้ผู้ก่อการร้าย

พวกก่อการร้าย ส่งกลับมาเป็นก้อนอิฐกับเศษเหล็ก ลูกระเบิด

นักวิชาการ ก็บอกให้รัฐบาล ส่งช่อดอกได้กลับไปให้ผู้ก่อการร้าย

พวกก่อการร้าย ส่งกลับมาเป็นก้อนอิฐกับเศษเหล็ก ลูกระเบิด

แล้วเมื่อไร จะได้ตัวพวกผู้ก่อการร้าย มานั่งคุยกันได้ ว่าจะเอาอย่างไร

[jaychou]

ดีใจที่พี่ครรชิตปลอดภัยครับ

[ปรัชญา]

พี่ครรชิต คงปลอดภัยดีนะครับ
นับวันเรื่องก็คงบานปลาย

เมื่อซุกขยะไว้ใต้พรมเรื่องกลิ่นก็ต้องตามมา

คนนับถือมุสลิม ถูกอุ้มหายไป2พันกว่าคน
ไม่รู้ว่า ฝ่ายไหนเป็น ผู้อุ้ม ผู้หิ้ว เอาไป

หลายคนมองแง่ร้ายบอกเจ้าหน้าที่
หลายคนมองโลกแง่ดี เจ้าหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ
หลายคนไม่มองอะไรเลย ช่างมันกรูไม่เดือดร้อน ทำเฉย 555
ดันหัวเราะลงลูกคอ

การแก้ไขคงต้องระวังและให้ความร่วมมือกับฝ่ายราชการ
ทำคนให้เสมอภาคไม่เลือกปฏิบัติ
ทำให้คนจนเท่าเทียมกัน

แต่ปัจจุบัน นายหัว นายเหมือง รวยจั่งฮู้
ประชาจน จนจั่งฮู้

หุหุหุ

[ครรชิต ไพศาล]

ไม่อยากให้ โทรทัศน์ออกข่าว ถี่นัก ออกครั้งเดียวก็พอแล้ว

ยิ่งออกข่าวถี่ๆ พวกผู้ก่อการร้าย ยิ่งดีใจ ยิ่งชอบใจ ได้โฆษณาผลงานของตัวเอง

ยิ่งออกข่าวถี่ๆ พวกผู้ก่อการร้าย ยิ่งดีใจ ยิ่งชอบใจ ได้โฆษณาผลงานของตัวเอง

แถมไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาเสียด้วย เสียแต่ลูกระเบิดลูกเดียว

[เทียน]

เห็นด้วยครับ

ยิ่งออกข่าวถี่ๆ พวกผู้ก่อการร้าย ยิ่งดีใจ ยิ่งชอบใจ ได้โฆษณาผลงานของตัวเอง

ถ้าท่านนายก เก็บอาการหน่อย ก็จะยิ่งดีมากๆครับ

[ปรัชญา]

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2548


Nation Group GO

รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟู

1.นางสุทธิดา หัวเสน ส่งตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ 2.นางสาวจิฐาพร กองวงศ์จันทร์ อายุ 17 ปี อยู่โรงพยาบาลกรุงเทพ 3.นางสาวธิภากร ธรรมรัตนพงศ์ อยู่โรงพยาบาลกรุงเทพ 4.นายวุฒิพงศ์ อินทรพงศ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ

5.นายทิพย์สุคนส์ ธรรมรัตนพงศ์ ขณะนี้อยู่ห้องผ่าตัดโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ 6.นายอมร ไชยสาลี อยู่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลกรุงเทพ 7.นายอนันต์ ไม่ทราบนามสกุล อยู่โรงพยาบาลมอ.หาดใหญ่ 8.นายมุกดา ไม่ทราบนามสกุล อยู่โรงพยาบาลกรุงเทพ และ 9.นายสมใจ กองวงศ์จันทร์ โรงพยาบาลหาดใหญ่

[ปรัชญา]

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2548


Nation Group


มะนาเซะ เจ๊ะเลาะ ชื่อที่ถูกกล่าวถึงจากเหตุการณ์รุนแรงที่จ.สงขลา

ภายหลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชื่อของ มะนาเซะ เจ๊ะเลาะ หรือ กอเซ็ง เจ๊ะเล๊าะ ชื่อจัดตั้ง ซา การิม หรือชื่ออื่นๆ เช่น เซ็งซา หรือ การิง แลแวะ หรือ เซ็ง แลแวะ ในวัย 52 ปี ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงอ้างว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งนี้

ทว่าในคราวนี้เป็นการอ้างชื่อของชายผู้นี้โดย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในคืนของวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน ภายหลังจากที่เหตุการณ์รุนแรงขึ้น เป็นการยืนยันว่าชายผู้นี้ซึ้งเคยถูกทางการจับกุมตัวได้ในเดือนมีนาคม และต้องปล่อยต่วไปในที่สุดเนื่องจากขาดพยานหลักฐาน มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นใน อ.หาดใหญ่ และในเขต อ.เมือง จ.สงขลา โดยตรง

" คนร้ายที่ก่อเหตุเราทราบแล้ว เป็นคนเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่เคยจับกุมตัวไว้ได้ก่อนหน้านี้แต่ปล่อยตัวไปในที่สุด และขณะนี้ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวแล้ว " พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวตอนหนึ่งในการให้สัมภาษณ์

หากข้อมูลที่พล.อ.ชัยสิทธิ์ อ้างถึงเป็นข้อเรื่องที่สอดคล้องกับฐานความเป็นจริงนั้น ก็นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ผู้ต้องสงสัยรายนี้ จะถูกระบุอย่างเปิดเผยว่าจากบุคคลในกองทัพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง

ได้ถูกจับกุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงต้นเดือนมีนาคม โดยเป็นการนำกำลังตำรวจในสังกัด สภ.อ.นาทวี จ.สงขลา พร้อมกำลัง ได้เข้าล้อมสวนยางพาราพื้นที่หมู่ 6 ต.คลองกวาง อ.นาทวี เนื่องจากได้รับรายงานว่ามีชายต้องสงสัยหน้าตาคล้ายบุคคลที่ทางการออกหมายจับและตั้งค่าหัว ในคดีการสร้างสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้อาศัยอยู่ที่บริเวณดังกล่าว เมื่อตรวจค้นพบนายมะแอ สุหลง อายุ 52 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 6 ต.คลองกวาง อ.นาทวี จ.สงขลา จากนั้นส่งตัวไปยังกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า เพื่อซักถามสอบปากคำเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามภายหลังการนำตัวมาสอบปากคำปฏิกริยาที่เกิดขึ้นต่อมาจากทางฝ่ายกองทัพซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ก็คือ "ชายผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว เป็นเพียงคนที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับนายมะนาเซ เจ๊ะเลาะ ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่น และมีส่วนพัวพันกับสถานการณ์ในภาคใต้ โดยถูกตั้งค่าหัว 1 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด รวมถึงข้อมูลของผู้ต้องสงสัยรายนี้เช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เนื่องจากถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก " พ.อ.สมควร แสงภัทรเนตร โฆษก กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขชายแดนภาคใต้ ( กอ.สสส.จชต. ) กล่าวถึงบทสรุปหลังการจับกุมตัวในขณะนั้น

ขณะเดียวเมื่อพิจารณาจากบทสรุปที่มาจาก พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ถักจากนั้นในวันที่ 10 มีนาคม นั่นก็คือ "นายมะแอ สุหลง ที่ถูกเชิญตัวมา ไม่ใช่คนๆเดียวกับนายมานาเซ เจ๊ะเลาะ โจรค่าหัว 1 ล้านบาทที่ทางการออกหมายจับ ดังนั้นในเมื่อไม่ใช่ก็ต้องปล่อยตัวเขาไป เพราะเป็นการเชิญตัวมาซักถามในฐานะผู้ต้องสงสัยเท่านั้น" พล.ต.ท.มาโนช ระบุ

ไม่ว่า นายมะแอ สุหลง จะเป็นคนเดียวกัน มะนาเซะ เจ๊ะเลาะ หรือไม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งนั่นก็คือ มีพื้นฐานของการก่อเหตุและความเกี่ยวข้องที่นับว่าอยู้ในระดับที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง นายมะนาเซ เจ๊ะเล๊าะ ในปัจจุบัน อายุ 52 ปี มีชื่อตามประวัติอีกชื่อหนึ่งว่า นายกอเซ็ง เจ๊ะเล๊าะ ชื่อจัดตั้ง ซา การิม หรือชื่ออื่นๆ เช่น เซ็งซา หรือ การิง แลแวะ หรือ เซ็ง แลแวะ เชื้อชาติไทย เป็นคน 2 สัญชาติ คือ ไทย และมาเลเซีย นับถือศาสนาอิสลาม มีพี่น้องด้วยกัน 5 คน

จบการศึกษาจากหลักสูตร 4 ปี โรงเรียนนายร้อย ประเทศลิเบีย ได้รับยศร้อยโท กลับมาสังกัดกลุ่มพูโลใหม่ ในตำแหน่งหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการในเมือง เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการฝึกอบรมสมาชิกของหน่วย พร้อมทั้งร่วมวางแผนและสั่งการให้สมาชิกปฏิบัติการก่อการร้าย และก่อวินาศกรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ บ้านแลแวะ ต.ตะโล๊ะแมะนา อ.มายอ จ.ปัตตานี แต่ย้ายไปอยู่ในประเทศมาเลเซีย ในตลาด อ.บาเจาะ รัฐกลันตัน โดยไปเปิดร้าน ส่วนพฤติการณ์ที่สำคัญ เมื่อปี 2537 ถูกต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี

กลางปี 2538 ร่วมกับนายหะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ นายเจ๊ะกูอาดือนัน และครูฝึกชาวลิเบีย และซีเรีย 7 คน ฝึกอบรมสมาชิกหน่วยก่อวินาศกรรม ที่โกตาบารู รัฐกลันตัน เป็นเวลา 15 วัน หลังจากนั้น ได้ส่งสมาชิกชุดละ 10 คน เข้ามาฝึกในพื้นที่เทือกเขาเมาะแต หลายครั้ง

ต่อมาเดือน ธ.ค. 2538 ส่งสมาชิกลอบเผาโรงเรียนบ้านทุ่งเหรียง ใน อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมทิ้งจดหมายที่มีสัญลักษณ์ของกลุ่มพูโลใหม่ มีข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เรียกร้องให้ทางการปลดปล่อยสมาชิกแนวร่วมที่ถูกจับกุม ลงชื่อ ซา การิม จากนั้น วันที่ 30 ม.ค. 2539 เป็นผู้สั่งการวางระเบิดทางรถไฟที่ ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา จากนั้น

เงียบหายไปนานหลายปี

ก่อนจะกลับมามีส่วนร่วมอีกครั้ง ในเดือนเมษายน 2542 โดยร่วมประชุมกับกลุ่มพูโลใหม่ และกลุ่มมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี ที่บ้านพักของ นายเจ๊ะกูแม กูเต๊ะ ประธานกลุ่ม ที่รัฐตรังกานู มีสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมคือ นายหะยีฮาดี มูโน๊ะ รองประธานกลุ่มพูโลใหม่ ฝ่ายกิจการภายใน นายอาแบกาแม หรือ กาแม ยูโซ๊ะ กรรมการสภาองค์การนำ นายหะยีรุสมัน ยามูแรแน หรือ รุสแล ปะลุกาแปเราะ แกนนำกลุ่มพูโลเก่า

โดยมีเป้าหมายแสวงหาความร่วมมือ ระหว่างกลุ่มพูโลกับกลุ่มมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี ในการปฏิบัติการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่นายอาแบกาแม หรือ กาแม ยูโซ๊ะ กรรมการสภาองค์การนำ ได้ขอให้ชะลอปฏิบัติการไปก่อน เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ และกำลังรองบประมาณที่ได้รับการบริจาคจากสมาชิก

จากนั้นในเดือนมิถุนายน 2543 กลุ่มพูโลใหม่ได้ประชุมที่บ้านของ นายอับดุลฮาดี บินหะยีรอยาลี รองประธานกลุ่มพูโลใหม่ ที่บ้านตาบันบารีย๊ะ อ.โกตาบารู รัฐกลันตัน มีสาระสำคัญคือ พิจารณาเห็นชอบตัวบุคคลทดแทนสมาชิก ที่เสียชีวิตจาการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ในวันที่ 16-17 พฤษภาคม 2543 ซึ่งในขั้นต้นมีความเห็นชอบให้นายมะแอ โต๊ะเพียร แทนนายยูโซ๊ะ บูเก๊ะตาเนาะ นายซา การิม หรือนายมะนาเซ เจ๊ะเลาะ แทนนายเจ๊ะมูอาดือนัน

กลางเดือน พฤศจิกายน 2543 กลุ่มพูโลใหม่ ประชุมสมาชิกที่รัฐกลันตัน โดยมีนายซา การิม หรือมะนาเซ เจ๊ะเลาะ หน่วยก่อวินาศกรรม และหัวหน้ากองกำลังสำรอง เป็นประธาน เพื่อจัดเตรียมจัดส่งสมาชิกหน่วยก่อวินาศกรรม เข้ามาก่อเหตุร้ายในประเทศไทย นับจากเดือนพฤศิจากายน 2543 เป็นต้นไป

[moo]

ขอภาวนาให้เรื่องราวต่างๆจบเร็วๆครับ

[mey]

..งานนี้ ท่านสส.ชูวิทย์ ที่พูดในสภาว่า ภาคใต้ไม่มี้ยย..ผู้ก่อการร้าย. แป่วววววววว...

[ปรัชญา]

8)



วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2548


Nation Group

บึ้มหาดใหญ่-สงขลาพร้อมกัน3จุด คาร์ฟูร์-โรงแรมกรีนเวิลด์ ระเบิดสนามบิน ตาย1เจ็บ46คน ทักษิณถกด่วน

โจรใต้เหิมหนักลอบวางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ กลางอาคารที่พักผู้โดยสาร สั่งอพยพคนด่วน หวั่นคนร้ายก่อเหตุระเบิดซ้ำ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บครึ่งร้อย ขณะเดียวกันได้เกิดระเบิดอีก 2 จุด ทั้งโรงแรม และห้างคาร์ฟูร์ ตำรวจ-ทหารรุดเคลียร์พื้นที่ พร้อมสั่งตัดสัญญาณมือถือ หวั่นคนร้ายอาจใช้สัญญาณโทรศัพท์จุดชนวนระเบิดซ้ำสอง

แม้ว่าจะมีการเปิดประชุมร่วม 2 สภา เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐสภา เมื่อวันที่ 30-31 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล เนื่องจากความรุนแรงได้ขยายวงกว้างออกไปยัง จ.สงขลา โดยเมื่อคืนวันที่ 3 เมษายน กลุ่มผู้ไม่หวังดีได้ก่อเหตุวางระเบิดพร้อมกัน 3 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.20 น. ได้เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณโรงแรมกรีนเวิลด์พาเลซ อ.เมือง จ.สงขลา โดยแรงระเบิดทำให้กระจกชั้นล่างและชั้นบนของโรงแรมแตกกระจาย นอกจากนี้ยังทำให้รถจักรยานยนต์เสียหายกว่า 10 คัน หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ห้ามประชาชน และนักท่องเที่ยวผ่านเข้าออกในบริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีระเบิดซุกซ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวอีก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตัดคลื่นสัญญาณโทรศัพท์มือถือในพื้นที่ทั้งหมด

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นวัยรุ่นต้องสงสัย นำรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จำทะเบียนได้แค่ 125 ไปจอดไว้ก่อนที่จะจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แรงระเบิดทำให้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ได้รับความเสียหาย ส่งผลให้กระจกโรงแรมแตกละเอียด แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 20.23 น. ได้เกิดเหตุระเบิดภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ชั้น 2 หน้าเคาน์เตอร์ของแอร์เอเชีย ภายในสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แรงระเบิดทำให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 15 ราย หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ผบช.ภ.9 ได้เดินทางมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งเตือนประชาชนภายในสนามบินหาดใหญ่ ให้ออกจากพื้นที่และออกจากลานจอดรถ เนื่องจากทราบจากสายข่าวว่า คนร้ายได้ซุกซ่อนระเบิดไว้ในรถซึ่งจอดอยู่ในบริเวณสนามบิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการอพยพประชาชนทั้งหมด ออกจากลานจอดรถของสนามบิน พร้อมกับเข้าทำการตรวจสอบ โดยขณะนี้ก็ยังไม่พบระเบิดแต่อย่างใด

เมื่อเวลา 20.25 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้นำระเบิดไม่ทราบชนิดและประเภท มาซุกไว้ในถังขยะด้านหน้าของห้างคาร์ฟูร์ อ.หาดใหญ่ บริเวณประตูทางเข้าออก โดยในช่วงดังกล่าว เป็นช่วงที่มีประชาชนพลุกพล่าน แรงระเบิดทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เป็นชาย 1 หญิง 4 คน หลังเกิดเหตุนายสมพร ใช้บางยาง ผู้ว่าฯ สงขลา ได้เดินทางมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับสั่งให้กันประชาชนให้ออกห่างจากห้างดังกล่าว เนื่องจากเกรงอาจมีระเบิดของคนร้ายซุกซ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวอีก

นอกจากนี้ นายสมพร ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการตรวจสอบบริเวณเข้าออกของโรงแรมทุกแห่ง และจุดผ่านทางเข้าออกใน อ.หาดใหญ่ ทั้งหมด

สำหรับรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ห้างคาร์ฟูร์ ประกอบด้วย 1.นางสุทธิดา หัวเสน ส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.หาดใหญ่ 2.น.ส.จิฐาพร กองวงศ์จันทร์ อายุ 17 ปี อยู่ รพ.กรุงเทพ 3.น.ส.ธิภากร ธรรมรัตนพงศ์ อยู่ รพ.กรุงเทพ 4.นายวุฒิพงศ์ อินทรพงศ์ รพ.กรุงเทพ 5.นายทิพย์สุคนธ์ ธรรมรัตนพงศ์ ขณะนี้อยู่ในห้องผ่าตัด รพ.กรุงเทพ หาดใหญ่ 6.นายอมร ไชยสาลี อยู่ห้องฉุกเฉิน รพ.กรุงเทพ 7.นายอนันต์ ไม่ทราบนามสกุล อยู่โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ 8.นายมุกดา ไม่ทราบนามสกุล อยู่รพ.กรุงเทพ และ 9.นายสมใจ กองวงศ์จันทร์ รพ.หาดใหญ่

นายกฯ ให้ "ชิดชัย" ดูแล

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.อ.เฉลิมเดช ชมพูนุช โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่า คนร้ายได้ลอบวางระเบิดที่หาดใหญ่ 5 จุดด้วยกัน โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุจะเป็นใครนั้น ต้องขอสอบสวนก่อน

ขณะที่ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงทั้งหมด และดูแลอย่างใกล้ชิด

"ชัยสิทธิ์" ระบุรู้ตัวมือบึ้มหาดใหญ่แล้ว

ขณะที่ พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ได้สั่งการไปยังมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) นำกำลังไปอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นแล้ว ส่วนเกิดจากสาเหตุอะไรนั้น ต้องรอตรวจสอบให้รอบคอบก่อนว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด ซึ่งยังไม่ทราบว่า จะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ทั้งนี้ได้กำชับให้กำลังพลระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนร้ายจะวางระเบิดไว้ที่จุดใดอีก

ด้าน พล.ต.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่าใครเป็นคนวางระเบิด ซึ่งคนร้ายเป็นคนเดียวกับที่ลอบวางระเบิดที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ที่ตำรวจเคยจับได้แต่ต้องปล่อยตัวไป เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ยังมีระเบิดที่ยังไม่ระเบิดอีก 2 ลูก ซึ่งกำลังหาอยู่ โดยลูกแรกอยู่ในห้างคาร์ฟูร์ ส่วนอีกลูกอยู่ในรถยนต์ที่คาดว่าจะจอดอยู่ในสนามบิน ซึ่งกำลังหารถยนต์คันดังกล่าวอยู่

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นต้องให้ตำรวจดำเนินการไปก่อน เนื่องจากเหตุการณ์ระเบิดอยู่นอกเหนือพื้นที่ที่ทหารดูแล สำหรับเหตุระเบิดครั้งนี้แสดงว่า การปฏิบัติงานในแก้ไขปัญหาความไม่สงบ 3 ชายแดนภาคใต้ ได้ผลเป็นอย่างดี กลุ่มก่อความไม่สงบไม่สามารถก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 ชายแดนภาคใต้ได้ จึงได้เล็ดลอดออกนอกพื้นที่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน คนร้ายไม่มีอุดมการณ์แต่ต้องการสร้างความเสียหาย

"ผมมั่นใจว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น สาเหตุมาจากกลุ่มก่อความไม่สงบได้มีการเล็ดลอดออกมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีสาเหตุอื่นปะปน ทหารในพื้นที่โดยเฉพาะกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถแก้ไขปัญหาได้ประสบผลสำเร็จ ทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบไม่สามารถก่อเหตุในพื้นที่ได้" ผบ.ทบ. กล่าว

พบเบาะแสบึ้นสนามบินก่อน

พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า เหตุการณ์วางระเบิดที่ อ.หาดใหญ่ ในหลายจุดนั้น กลุ่มผู้ลงมือคงไม่ได้ท้าทายอำนาจรัฐ หลังจากที่รัฐบาลตั้งกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ แต่เป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่รุนแรงกว่าครั้งอื่นๆ ซึ่งกำลังให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ว่า เป็นฝีมือของกลุ่มใด

"นายกฯ ยืนยันแนวทางสมานฉันท์ ก็ต้องดำเนินการตามนั้น ส่วนการปรับเปลี่ยนท่าทีตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ แต่เราจะเน้นความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาล" พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าว

รายงานข่าวจากศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด แจ้งว่า วันเดียวกันนี้ ตำรวจพบเบาะแสว่า จะมีคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ท่าอากาศยานอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้ตำรวจติดตามกลุ่มคนร้ายที่จะลอบวางระเบิดตั้งแต่เช้า แต่ไม่สามารถประกบตัวกลุ่มคนร้ายได้ ทั้งนี้กลุ่มคนร้ายได้ใช้รหัสในการก่อเหตุคือ "ไปไม่กลับ"

ผบ.ทบ.พร้อมส่งกำลังหนุนลงหาดใหญ่

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ. กล่าวว่า ในพื้นที่หาดใหญ่ขณะนี้ได้สั่งการให้แม่ทัพภาคลงไปดูแลผู้ที่บาดเจ็บ ส่งแพทย์ให้การรักษา รวมทั้งสนับสนุนกำลังพลอย่างเต็มที่หากได้รับการร้องขอจากผู้ว่าฯ สงขลา และตำรวจ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอมา

สำหรับการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดภาคใต้นั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้ทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด ซึ่ง กอ.สสส.จชต.ก็ทำงานได้ผล เพราะประชาชนในภาพรวมให้การสนับสนุนมากขึ้น เมื่อประชาชนสนับสนุนมากขึ้นผู้ก่อความไม่สงบก็ทำงานได้น้อยลง จึงออกนอกพื้นที่มาก่อเหตุ ทำให้ประชาชนที่บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ ดังนั้นหากมีอะไรไม่ปกติขอให้ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการกับผู้ก่อความไม่สงบ สำหรับในส่วนของจังหวัดอื่นๆ ก็คงจะมีมาตรการป้องกันตัวเอง แต่ทั้งนี้ประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย

ผบ.ทบ.กล่าวอีกว่า ในวันที่ 4 เมษายน คงจะมีการประชุมกัน เพราะต้องรอให้ รมว.กลาโหม และรมว.มหาดไทย สั่งการในภาพรวม

ผบ.ทอ.ประสานดอนเมืองคุมเข้ม

พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้กองทัพอากาศได้แจ้งเตือนท่าอากาศยานสนามบินหาดใหญ่ให้ระมัดระวังอย่างเต็มที่ว่า อาจมีคนร้ายลอบวางระเบิด โดยเฉพาะกองบิน 56 ของกองทัพอากาศ จึงมีการป้องกันอย่างเต็มที่ และมีการซักซ้อมเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยได้ส่งสารวัตรทหารเข้าไปร่วมปฏิบัติในพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ หากท่าอากาศยานหาดใหญ่ไม่สามารถนำเครื่องบินลงได้ ก็สามารถใช้ที่กองบิน 56 ของกองทัพอากาศได้ ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครคาดคิดและไม่มีใครคิดว่าคนร้ายจะสามารถเล็ดลอดเข้าก่อเหตุการณ์ได้

ผบ.ทอ.เปิดเผยอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายได้ขับรถนำวัตถุระเบิดมาวางไว้และขับออกไป ซึ่งเป็นการตรวจสอบยาก เมื่อถามว่า จะมีการป้องกันสนามบินดอนเมืองอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซํ้าสอง ผบ.ทอ.กล่าวว่า ได้มีการประสานงานกับท่าอากาศยานดอนเมืองตลอดเวลา โดยกองทัพอากาศได้ส่งเจ้าหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษและชุดป้องกันภัยเข้าไปเพิ่มเติม พร้อมกับชุดดีโอดีหรือชุดตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดในการเก็บกู้ หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง

พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพบก กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ก่อความไม่สงบถูกเจ้าหน้าที่กดดันและไม่สามารถก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ได้ จึงมีการเปลี่ยนเป้าหมายลอบทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างไร้มนุษยธรรม ไม่มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ชัดเจน ผู้ก่อเหตุไม่ใช่คนไทย ไม่มีศาสนา วิงวอนประชาชนช่วยกันขจัดภัย การกระทำเช่นนี้เปรียบเสมือนอมนุษย์ ต้องขจัดให้พ้นผืนแผ่นดินไทยโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมเครื่องบิน ซี 130 ให้พร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกในพื้นที่ใน จ.สงขลา แล้ว

ผจก.การท่าฯยันไม่มีระเบิดอีกลูก

นายบัญชา ปัตนาภรณ์ รักษาการผู้จัดการใหญ่บริษัทท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ยังมีการพบระเบิดอีกลูกในรถยนต์ บริเวณลานจอดรถสนามบินหาดใหญ่นั้น จากการตรวจสอบในทุกจุดไม่มีการพบระเบิดแต่อย่างใด

สำหรับระเบิดก่อนหน้านั้นได้ระเบิดขึ้นในที่โล่งบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด ล่าสุดทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เสียชีวิต 1 คน ซึ่งเข้าใจว่าเป็นผู้ที่มารอรับ-ส่งผู้โดยสาร

ส่วนเครื่องบินที่กำลังจะขึ้นบินระหว่างเกิดระเบิดนั้น มี 2 เที่ยวบิน คือ สายการบินนกแอร์ และสายการบินโอเรียนท์ไทย ได้ออกบินไปจนหมดแล้ว โดยได้จัดเตรียมรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ 100% ทั้งกำลังสารวัตรทหารอากาศ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) สนามบิน สำหรับสายการบินต่างประเทศที่จะมาลงจอดที่สนามบินหาดใหญ่นั้น ยังคงจอดตามปกติ

"ขณะนี้ทุกอย่างปกติหมดแล้ว ผมได้รายงานเหตุการณ์ให้ รมว.คมนาคม ทราบแล้ว ผมได้มีคำสั่งให้ทุกสนามบิน เตรียมอุปกรณ์และกำลังพลรักษาความปลอดภัยเต็มที่เช่นกัน" นายบัญชา กล่าว

เชื่อฝีมือกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต

แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรอง ระบุ ว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นใน อ.หาดใหญ่ และ อ.เมือง จ.สงขลา เป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้ายขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ซึ่งกลุ่มนี้มีการรวบรวมกลุ่มวัยรุ่น เพื่อออกมาก่อเหตุเหมือนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการวางระเบิดที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวจุดชนวน และเพื่อประกาศให้รัฐรู้ว่า ไม่สนใจคณะกรรมการสมานฉันท์ที่รัฐจัดตั้งขึ้น และต้องการแสดงศักยภาพให้ภาครัฐได้เห็นว่า จะเลือกก่อเหตุในจังหวัดใหญ่ๆ ก็ได้ แม้แต่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการก่อเหตุที่มุ่งให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ใช่เป็นการก่อกวน

"การเลือกห้างคาร์ฟูร์ก็เพราะเป็นห้างที่มีผู้คนจับจ่ายใช้สอยกันมาก เหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ประมาท เพราะได้เฝ้าระวังกันมาตลอด แต่เป็นเหตุสุดวิสัย" แหล่งข่าวระบุ

ผู้บาดเจ็บ 42 ราย เสียชีวิต 1 ราย

สำหรับผู้บาดเจ็บที่เข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ มีจำนวนทั้งสิ้น 23 ราย ส่วนที่โรงพยาบาลศิครินทร์ อ.หาดใหญ่ มีผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาตัวจำนวน 14 ราย ในจำนวนนี้มีชายไม่ทราบชื่ออายุ 50 ปี ขาขาดทั้ง 2 ข้าง ส่วนที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หาดใหญ่ มีผู้บาดเจ็บที่เข้ารักษาอาการ จำนวน 5 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตที่บริเวณสนามบิน อีก 1 ราย รวมผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษา ทั้งสิ้น 42 ราย และเสียชีวิตอีก 1 ราย

เผยพบระเบิดอีก 2 ลูกแล้ว

พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุระเบิดบริเวณสนามบินหาดใหญ่ ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 30 คน และพบวัตถุต้องสงสัยอยู่ในกระเป๋าเดินทางบริเวณลานจอดรถ และห้องผู้โดยสารแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเก็บกู้อยู่ และคงต้องรอการพิสูจน์ก่อนว่าเป็นระเบิดประเภทใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ระงับเที่ยวบินทุกเที่ยวบินแล้ว เพราะต้องเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดโดยใช้เวลาพอสมควร

พล.ต.อลงกรณ์ ทองประสม รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่สรรพาวุธ ทหารอากาศ และเจ้าหน้าที่กู้วัตถุระเบิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าทำการตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่สรรพาวุธทหารอากาศ ได้พบกระเป๋าสีดำ ถูกวางไว้ในบริเวณลานจอดรถ ดังนั้น จึงได้นำปืนแรงดันน้ำมาฉีดทำลาย ปรากฏว่า ภายในกระเป๋าไม่มีวัตถุระเบิดแต่อย่างใด หลังจากนั้นจึงได้เข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณลาดจอดรถ ซึ่งก็ยังไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม จากกระแสข่าวลือที่มีการระบุว่า มีการลอบวางระเบิดภายในห้างบิ๊กซี หาดใหญ่ ด้วยนั้น พล.ต.อลงกรณ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พร้อมกันประชาชนให้ออกห่างจากห้าง แต่เมื่อเข้าตรวจสอบไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่อย่างใด

เห็นถังขยะลอยตกตรงหน้า

น.ส.หงส์ แซ่เบ๊ อายุ 30 ปี อาชีพค้าขาย ผู้เห็นเหตุการณ์การระเบิดที่หน้าห้างคาร์ฟูร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า ได้เข้าไปซื้อของในห้างคาร์ฟูร์ จนเมื่อเวลา 20.30 น. จึงได้เดินออกจากห้าง ขณะที่เดินมาถึงประตูทางออก ซึ่งเป็นกระจก ก็ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นจนหูอื้อหน้ามืดขึ้นชั่วขณะ พร้อมมองออกไปด้านนอกอาคาร เห็นถังขยะลอยมาตกตรงหน้าพอดี จึงรีบวิ่งเข้าไปในห้างอีกครั้ง ซึ่งภายในห้างมีคนจำนวนมากที่กำลังวิ่งหาประตูทางออก จนล้มลุกคลุกคลานกันไปตามๆ กัน

น.ส.หงส์ กล่าวว่า ขณะที่เกิดระเบิด เห็นกลุ่มควันลอยอยู่หน้าประตูทางออกเต็มไปหมด จนไม่เห็นว่ามีใครบาดเจ็บบ้าง แต่หลังจากนั้นได้มานั่งตั้งสติอยู่ภายในห้างประมาณ 20 นาที ก็เห็นรถพยาบาลประมาณ 5 คัน วิ่งเข้ามาหน้าห้าง เพื่อมารับคนเจ็บ มีการลำเลียงคนเจ็บประมาณ 20 คน ทยอยกันขึ้นรถ ตนจึงรีบกลับบ้านเพื่อโทรศัพท์บอกญาติพี่น้องที่อยู่ในห้างหรือไปเที่ยวห้างต่างๆ ให้รีบกลับบ้านในทันที รู้สึกดีใจมากที่รอดตายเพราะระเบิดอยู่ตรงหน้าพอดี หากเดินออกไปก็คงตายทันที

เผาบ้านชาวบ้านที่สุไหงปาดี

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 3 เมษายน ร.ต.ท.กฤษณะ เข็มกลัดทอง ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนราษฎร ตั้งอยู่ริมถนนสายสุไหงปาดี-โต๊ะเด็ง หมู่ 1 บ้านโต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.เติม อินทะสะระ ผกก.สภ.อ.สุไหงปาดี ทราบ ก่อนระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวน 50 นาย รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้และมีชาวบ้านช่วยกันดับไฟ ก่อนรถดับเพลิงเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี จำนวน 2 คันจะไปถึง โดยใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 30 นาทีจึงสงบ จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายสุทัศน์ ผุดสระ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/3 หมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง ซึ่งได้อพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่กับญาติที่ จ.ยะลา ร่วม 2 เดือนแล้ว เนื่องจากถูกผู้ไม่หวังดีส่งจดหมายข่มขู่ แต่ไม่ยอมทำตาม จึงถูกกลุ่มคนร้ายบุกใช้อาวุธสงครามยิงใส่บ้านพักจนฝาผนังเป็นรูพรุน

จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่า โรงรถที่ปลูกติดกับบ้านพักได้รับความเสียหายทั้งหลัง มีรถไถนา 4 ล้อที่จอดอยู่ในโรงรถเสียหายทั้งคัน พร้อมทรัพย์สินที่เก็บไว้ในโรงรถถูกเพลิงไหม้อีกหลายสิบรายการ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบยางรถยนต์ 1 เส้นในสภาพไหม้เกรียม ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่คนร้ายนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง ส่วนตัวบ้านได้รับความเสียหายบางส่วน

สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่เข้ามาจอดใกล้กับบ้านหลังดังกล่าว โดยคนนั่งซ้อนท้ายได้ขนยางรถยนต์มาวางไว้ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับคนร้ายอีก 1 คนถือแกลลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตรมาราดบนยางรถยนต์แล้วจุดไฟเผา ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่พยายามสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ เนื่องจากคนร้ายเคยยิงข่มขู่เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว

รัวอาก้าใส่ชุดตำรวจสายตรวจ

ส่วนที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 3 เมษายน ร.ต.ท.สมภพ หลวงสงศ์ สภ.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกคนร้ายซุ่มยิงขณะปฏิบัติหน้าที่บนถนนสายปัตตานี-ยะลา บริเวณหมู่ 3 บ้านบือแนกือบง ต.ประจัน อ.ยะรัง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยยันต์ สุภาไชยกิจ ผกก.สภ.อ.ยะรัง รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์สายตรวจ ทะเบียนตราโล่ 39932 สภาพไม่ได้รับความเสียหายใดๆ จอดอยู่ริมถนน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำชุดสายตรวจ 6 นาย ประกอบด้วย ด.ต.สมโภชน์ สุตระ จ.ส.ต.สุรเทพ ศาสตร์สาระ ส.ต.ต.กิตติศักดิ์ สว่างอารมณ์ ส.ต.ต.จำเริญ มุสิกะวงษ์ ส.ต.ต.กอเดร์ จิมาร และ ส.ต.ต.ธีรศักดิ์ ปาทาน ปลอดภัยทุกนายเช่นกัน โดยจุดที่คนร้ายซุ่มยิงอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1/4 หมู่ 3 บ้านบือแนกือบง ต.ประจัน อ.ยะรัง พบปลอกระสุนปืนอาก้า 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า ขณะชุดสายตรวจดังกล่าวออกปฏิบัติหน้าที่ไปตามถนนสายปัตตานี-ยะลา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายคาดว่าจะมี 2 คน หลบอยู่ในพุ่มไม้หน้าบ้าน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มประมาณ 20 นัด ซึ่งบริเวณที่คนร้ายซุ่มอยู่เป็นบ้านเรือนราษฎร เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถยิงตอบโต้ได้ หลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้น แต่ไม่พบวี่แววของคนร้าย

เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายอาจจะเป็นคนในหมู่บ้าน เนื่องจากรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม จุดเกิดเหตุดังกล่าวเคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ก่อเหตุซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี มาแล้ว 3 ครั้งในรอบเดือนนี้

ซัลโว 4 นัดดับคนงานโรงน้ำแข็ง

ต่อมาเมื่อเวลา 16.45 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.สมศักดิ์ วรรณวรรค ผกก.สภ.อ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายบนทางหลวงชนบท หมู่ 1 บ้านจ่ากอง ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ 1 คัน ส่วนผู้ถูกยิงทราบชื่อคือ นายประภาส ทองเจริญ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 1 บ้านท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาดเข้าที่ลำตัว 3 นัด เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี

สอบสวนทราบว่า นายประภาส ผู้ตาย ทำงานอยู่ที่โรงน้ำแข็งกลางตัวเมืองสายบุรี หลังเลิกงานได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านที่ อ.ปะนาเระ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยว คนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบก่อนที่คนซ้อนท้ายจะใช้อาวุธปืนสั้นกระหน่ำยิง 4 นัด แล้วหลบหนีไป สาเหตุคาดว่า อาจเป็นทั้งเรื่องส่วนตัวและสถานการณ์ความไม่สงบ

กก.สมานฉันท์ รอลุยพื้นที่ จ.ปัตตานี

นายสุริชัย หวันแก้ว หนึ่งในคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในเวลา 14.00 น. วันที่ 8 เมษายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์ ทั้งคณะ 48 คนเป็นครั้งแรก ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีวาระที่สำคัญคือ การวางแนวทางและกรอบการทำงานตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย เพื่อแบ่งงานให้ตรงกับความต้องการ และความสามารถของกรรมการแต่ละคน ซึ่งหลักประกอบด้วย ด้านวิชาการ ด้านการแสวงหาความคิดเห็น ด้านสาธารณะ การเสริมสร้างความเข้าใจ และการใช้สื่อของรัฐ พร้อมทั้งวางแนวทางการเคลื่อนไหวและลงพื้นที่อย่างเป็นระบบ

"หลังวางแนวทางเสร็จแล้ว คณะกรรมการเตรียมจะลงพื้นที่ที่ จ.ปัตตานี เป็นอันดับแรก" นายสุริชัย กล่าวและว่า ตามความถนัดนั้นตนสนใจงานด้านวิชาการเสริมสร้างความเข้าใจ โดยเฉพาะการเป็นผู้ประสานงานด้านประชาสังคม เพราะนอกจากจะต้องสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ก็ต้องทำให้ภาคประชาสังคมทั้งหมดได้รับรู้และเข้าใจแนวทางแก้ไขปัญหาด้วย

"จาตุรนต์" จะนำผลศึกษา 3 จว.ใต้เสนอ

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลเรื่องการจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่หน้า สภ.อ.ตากใบ และเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า คาดว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 5 เมษายนนี้ นายกฯ คงจะรับมอบหมายอย่างเป็นทางการให้ตนดูแลในเรื่องนี้ ซึ่งก็คงจะเปิดเผยถึงหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เดือดร้อนได้

ทั้งนี้ ฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสมานฉันท์ ด้านตัวแทนฝ่ายการเมือง ในการประชุมนัดแรกวันที่ 8 เมษายนนี้ ตนจะนำผลการศึกษาที่เคยได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่ ไปสอบถามข้อเท็จจริงจากชาวบ้านในช่วงที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอต่อที่ประชุมให้พิจารณานำไปเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาด้วย

เอ็นจีโอยื่น 9 ข้อเสนอ กก.สมานฉันท์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 เมษายน เครือข่ายภาคประชาชน ประกอบด้วย คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) และองค์กรสิทธิมนุษยชน ได้ออกแถลงการณ์ว่า ทางเครือข่ายเตรียมยื่นข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 8 เมษายนนี้ ให้พิจารณาวาระเร่งด่วน 9 ข้อคือ

1.ควรเปิดเผยผลสอบสวนเหตุการณ์กรือเซะและตากใบอย่างละเอียด ภาครัฐต้องกล้าแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดทางนโยบาย เพื่อกอบกู้ความไว้วางใจจากประชาชน 2.ทบทวนหรือยกเลิกกฎอัยการศึก เพราะได้สร้างความอึดอัดและกระทบต่อวิถีชีวิตแบบอิสลาม 3.เร่งสะสางคดีอุ้ม ทนายสมชาย นีละไพจิตร โดยเฉพาะข่าวที่ว่าคนในทำเนียบรัฐบาลมีส่วนรู้เห็น 4.ทบทวนบัญชีดำ ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเก่าที่บางคนอาจเป็นสุจริตชน แต่ถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ

5.สะสางคดีอุ้มฆ่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 6.ปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ เพราะบางคนถูกจับโดยไม่มีหลักฐานเพียงพอ 7.ควรพิจารณาถอนหรือลดจำนวนทหาร ตำรวจ ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกจากพื้นที่ 8.เร่งเยียวยาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์กรือเซะ ตากใบ และฆ่ารายวัน รวมทั้งช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับอันตรายจากการปฏิบัติหน้าที่ และ 9.ครป.ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกการถือสองสัญชาติ เพราะมีประชาชนกว่า 2 แสนคน ที่ถือสองสัญชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุจริตชน จึงไม่ควรเอาการแก้ไขปัญหาส่วนน้อยมากระทบต่อสิทธิและความเป็นธรรมของคนส่วนใหญ่ ข้อเสนอระยะยาวนั้นภาคประชาชนจะจัดทำแผนการแก้ปัญหาระยะยาวเสนอต่อคณะกรรมการอิสระอีกครั้ง

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. กล่าวว่า ความสมานฉันท์หรือกระบวนการสร้างสันติวิธี ไม่ใช่แค่นายกรัฐมนตรีหยุดพูดเท่านั้น แต่ต้องมีมาตรการให้ทั้งส่วนกลางและพื้นที่ปรับตัว ปรับพฤติกรรมด้วย เช่น นายทหารหรือตำรวจบางนายที่มีพฤติกรรมเป็นมาเฟีย หรือถูกตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการสร้างปัญหา จะต้องไม่มีบทบาทในพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ และคนในพื้นที่ทราบดี หากคณะกรรมการจะเปิดตู้ ปณ.เพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแสก็จะยิ่งดี

"นอกจากนี้ ควรพิจารณาบทบาทสื่อมวลชนบางรายการ ที่มีเจตนาสร้างความแตกแยกและทำลายบรรยากาศสมานฉันท์ เช่น รายการของ นายสมัคร สุนทรเวช และนายดุสิต ศิริวรรณ ที่มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือของคณะกรรมการสมานฉันท์บางคน" นายสุริยะใส กล่าว

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนออื่น อาทิ การเพิ่มองค์ประกอบของคณะกรรมการสมานฉันท์ที่ยังขาดสัดส่วนสื่อมวลชน ทั้งสื่อส่วนกลางและสื่ออิสลามท้องถิ่น กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนของคณะกรรมการ ในการนำข้อเสนอไปสู่ภาคปฏิบัติและการเรียกร้องให้การแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นวาระแห่งชาติที่อยู่เหนือเกมการเมือง

[CK]

ไม่ทราบว่าพี่ครรชิตเป็นไงบ้างครับ หวังว่าจะปลอดภัยกันทั้งครอบครัว

[ลุงขวด]

คนดีและเป็นที่รักของคนที่รู้จัก แบบ คุณครรชิต ......... ผมว่า มี เกราะ ของ กรรมดี คุ้มครองอยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วง ครับ

[ครรชิต ไพศาล]

ผมสบายดีครับ น้อง CK

ปกติก็ ไม่เคยเดินทางไปสนามบิน,รถไฟ ไม่ค่อยไปเดินห้างฯ ไม่เคยมีธุระต้องไปโรงแรม

นั่งเล่นคอม. อยู่หน้าจอ อยู่แต่ในบ้าน

รู้ข่าวเห็นข่าว จากโทรทัศน์ พร้อมกับเพื่อนๆ ต่างจังหวัด

[Jeng]

ดีครับ พี่ครรชิต แล้วปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ด้วยหรือเปล่า ผมว่าน่าจะมีความสุขมากนะครับ

[ครรชิต ไพศาล]

ใช่ครับ น้อง Jeng

อยู่แต่ในบ้าน รดน้ำต้นไม้ เลี้ยงปลา เลี้ยงหมา เล่นคอม. ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ รอรับปันผลจากหุ้นลงทุน

ไม่หาทุกข์ใส่ตัว ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มน้ำชากาแฟ ดื่มแต่น้ำเปล่า :lol: :lol:

ไม่สำส่อนทางเพศ ไม่ก่อกองทุกข์แห่งหนี้ ไม่คดโกงใคร โกหกมดเท็จใคร

ทำให้ตัวเราทุกข์น้อย เบาบ้างไปเยอะ

ได้รู้จักความสุขจากการตาย เสียก่อนตาย เหมือน ท่านพุทธทาส พูดไว้

วันๆ ก็นั่งเล่นคอม. เก็บข้อมูลหุ้น สนุกๆเพลินๆ ไว้แจกเพื่อนๆ สบายใจดี

[moo]

ยินดีที่พี่ครรชิตปลอดภัยครับ

แนวทางที่พี่สอนน้องๆ นับได้ว่าเป็นที่สุดของที่สุดแล้วครับ

เป็นความสุขที่ไม่ต้องแสวงหาอะไรเลย ทุกอย่างอยู่รอบๆตัวเรา

ไม่ต้องเรียกร้อง ไม่ต้องขวนขวาย

เป็นความสุขที่ราบเรียบ เป็นความสุขที่สงบ

ดูแลตัวเองไม่ให้เดือดร้อน คนรอบข้างไม่ให้เดือดร้อน

พอเพียง มีเหลือก็จุนเจือผู้อื่น

ควระวะอย่างสูงครับ