กรุงไทยคาร์เร้นท์ เทียบกับ PL แล้วใครแกร่งกว่าครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
NH
Verified User
โพสต์: 100
ผู้ติดตาม: 0

กรุงไทยคาร์เร้นท์ เทียบกับ PL แล้วใครแกร่งกว่าครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน)
ที่ปรึกษาทางด้านการเงิน : บริษัทหลักทรัพย์ ซีมีโก้ จำกัด (มหาชน)
Web site: www.krungthai.co.th
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

กรุงไทยคาร์เร้นท์ เทียบกับ PL แล้วใครแกร่งกว่าครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มีคู่แข่งเข้ามาแล้วสิ

เอ๊ะ หรือไม่ใช่ เพราะเห็น pl ให้เช่าแต่กับองค์กร ไม่มีให้คนทั่วไปเช่า
Expecto Patronum!!!!!!
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 885

กรุงไทยคาร์เร้นท์ เทียบกับ PL แล้วใครแกร่งกว่าครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมมีข่าวของกรุงไทยครับ
เท่าที่อ่าน พื้นฐานค่อนข้างด้อยกว่า PL ครับ...

ปัจุจุบันบริษัทมีสินทรัพย์รวม 900 ล้านบาท มีเงินกู้โอ/ดี จำนวน 600 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 1 ต่อ 3 เท่า มีกลุ่มจันทรเสรีกุล ถือหุ้น 100% เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ขยายพอร์ตรถยนต์เช่า จากขณะนี้มีอยู่ 2.3 พันคัน าดว่า จะเพิ่มเป็นประมาณ 3 พันคัน ในปี 2548 ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนรถยนต์เช่าปีละประมาณ 500 คัน คิดเป็นจำนวนเม็ดเงินที่ใช้ประมาณ 300 ล้านบาท และแต่งตั้ง บล.ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
"บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนในช่วง 1-2 ปีนี้ เพื่อขยายจำนวนรถมากขึ้น เพราะมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าเช่ารถระยะยาว
เรามองว่าการเข้าตลาดเป้าหมายใหญ่ไม่ใช่เพราะต้องการเงิน
เพราะบริษัทมีกำไรสะสมแล้ว 60 ล้านบาท การระดมทุนจึงไม่สูงมาก
แต่เราต้องการสร้างความเชื่อมั่น สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จัก
และยอมรับของสาธารณชนรวมไปถึงลูกค้า ซึ่งเป็นการเปิดตัวเอง เราต้องการโนว์ฮาว ต้องการพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
การเข้าตลาดจึงเป็นการจัดระเบียบของบริษัทให้โปร่งใสและคนเชื่อมั่น" นายพิเทพ กล่าว ภายในระยะเวลาอีก 1-2 เดือนนี้
บริษัทจะมีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่ออกและเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่ในขั้นตอนกระจายหุ้น จะพิจารณาจากความพร้อมและภาวะตลาดเป็นหลัก เนื่องจากขณะนี้บริษัทได้มีการทาบทามมืออาชีพเข้ามาร่วมในการบริหารงาน และทาบทามให้เข้ามาเป็นกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระ เขากล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตด้านรายได้ต่อปี 15-20% ผลการดำเนินงานปี 2546 มียอดรายได้รวม 420-430 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 35 ล้านบาท คาดว่า หลังเข้าตลาดการเติบโตจะเพิ่มเป็นอัตราเฉลี่ย 20-30% ตามจำนวนรถเช่าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งในปีนี้คาดว่าบริษัทจะมียอดขายรวมทั้งสิ้น 450-500 ล้านบาท มีกำไรก่อนหักภาษีประมาณ 100 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิประมาณ 70 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากเป้าหมายการจัดโครงสร้างภายใน การพัฒนาเทคโนโลยี ทำให้บริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนด้านนี้ประมาณ 10 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการบริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ กล่าวว่า
ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมรถเช่า
มีการประเมินกันว่าปีนี้อุตสาหกรรมจะเติบโตประมาณ 15%
จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เป็นประเภทให้เช่าระยะยาวเป็นเวลา 1-5 ปี
ทั้งระบบ 20 ราย แต่ผู้ให้เช่าระยะสั้นเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน จะมีจำนวนมากประมาณ 100 รายทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ถือว่ามีสูง
เพราะเป็นตลาดใหม่ที่ลูกค้าเริ่มรู้จักอุตสาหกรรม
มีบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
ในส่วนของบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าระยะยาว 70% ของจำนวนพอร์ตรถเช่า
มีลูกค้าระยะสั้น 30% ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าองค์กร มีสัดส่วนประมาณ 70% หรือประมาณ 100 กว่าราย เช่น บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
กลุ่มบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย)
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ล็อคหัวข้อ