ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เท่าที่สังเกตเวลาพูดถึงกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว มักจะนึกถึง RGR เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องพอสมควร และ มีการกระจายรายได้ค่อนข้างดีคือไม่อ้างอิงกับธุรกิจโรงแรมเพียงอย่างเดียว แต่มาเน้นธุรกิจอาหารที่มีความมั่นคงมากกว่า เมื่อดูในแง่ valuation ก็ไม่แพง แต่ไม่ถูกมาก คือ ประมาณ PE 10 เท่า และ ยังตามข้อมูลได้ตลอดเนื่องจากมีนักวิเคราะห์ cover กันหลาย Broker ทีเดียว

แต่ถ้ามาดูหุ้น CENTEL หลังเริ่มมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจอื่นมากขึ้นนอกจากโรงแรมเหมือนกัน ดูเหมือนว่า CENTEL กำลังเหมือนดำเนินรอยตาม Business Plan ของ RGR อยู่ แต่ในแง่ valuation นั้น PE ก็ต่ำกว่า Dividend Yield สูงกว่าเล็กน้อย แต่สภาพคล่องน้อยมาก จะซื้อต้องเคาะ ต่อรองยากกว่า RGR จะหาข้อมูลก็ลำบากเพราะไม่ค่อยมี Broker ไหน Cover

เลยอยากจะทราบความเห็นท่านๆ ว่า ชอบโรงไหนมากกว่ากันครับ ส่วนตัวชอบทั้ง 2 โรงครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Eak71
Verified User
โพสต์: 344
ผู้ติดตาม: 0

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

มารอฟังด้วยคนครับ แต่ไม่รู้จะวิเคราะห์อย่างไร....ชอบ RGR อยู่ครับ(ติดตามผลงานทุกไตรมาส) แต่รู้ว่าหนี้มากไปหน่อย :?
NDD
Verified User
โพสต์: 408
ผู้ติดตาม: 0

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อ่านแต่งบ และ ธุรกิจของ centel และซื้อเก็บตั้งแต่ 16 บาท แต่ไม่ได้อ่าน RGR ละเอียดดูผ่านๆ เลยไม่ได้เปรียบเทียบ แต่ที่ชอบ centel เพราะ รายได้มาจากส่วนที่เป็นโรงแรม และ อาหาร P/E ต่ำ ปันผลสูง และที่สำคัญ ผมอุดหนุน KFC บ่อยๆ ก่อนซื้อลองไปกิน แอนตี้ อานซ์ ก็อร่อยดี
Viewtiful Investor
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เคยชอบ CENTEL เหมือนกันครับ แต่มันเป็นบริษัทครอบครัวมากกกกก เลย
อยู่ด้วยแล้วม่ายอุ่นใจ แต่กำไรน่าเย้ายวน

ใครถืออยู่บ้างครับ ช่วย share ความเห็นด้วยครับ
I do not sleep. I dream.
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 27

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

OHTL ไม่ได้อยู่ในตัวเลือก เลยตอบไม่ได้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 792
ผู้ติดตาม: 123

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

centel นี่ที่ขึ้นมาอาจมีการเก็งกันว่าจะได้ต่อสัญญาที่ ลาดพร้าวในปี 2551 ซึ่งเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ centel แต่ผมว่าค่าเช่าคงไม่สามารถเช่าจาก รฟท ได้ในอัตราเดิมแล้วละครับทำให้ operating expense สูงขึ้น แต่ centel ได้ทำการเพิ่มธุรกิจโรงแรมที่ central world กระบี่ และ อีก สองหรือ สามที่ผมจำไม่ได้แน่นอนครับเพื่อชดเชยกำไรส่วนลาดพร้าวครับ

ส่วนตัวล้วนๆนะครับผมชอบกิจการที่ผู้บริหารมีความเป็นเจ้าของอยู่ในตัว ซึ่งผมก็ยอมรับว่ามีแง่เสียเช่นกัน แต่ผมชอบเนื่องจากกิจการจะมีแรงกระตุ้นในตัวของมันอยู่ตลอด ซึ่ง RGR มีแรงผลักดันด้านนี้ค่อนข้างมากครับ ถ้าจะมองอีกตัวที่เจ้าของลงมาเล่นก็คือ OISHI ผมก็ชอบในเรื่อง แนวคิด และ การออก idea ต่างๆในทางธุรกิจ ในส่วนของทางฝั่ง us ตอนที่ Starbucks เข้าตลาดใหม่ๆก็ อาศัยแรงผลักดันจาก Howard Schultz ผู้ก่อตั้งอยู่พอสมควรในการสร้าง starbucks ให้เติบใหญ่ ผมว่า จิตใจของเจ้าของกิจการ ( Entrepreneurial Spirit) เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างกิจการ แถมยังทำให้เกิดสิ่งเร้าใจเช่นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บริการใหม่ๆ มากระตุ้นตลาดได้อีกต่างหากครับ

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดถูกขออภัย
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 885

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

พูดถึงเรื่องผู้บริหาร เห็นด้วยกับคุณขายของครับ

บริษัทนึง ของลูกเจ้าสัวเกิดบนกองเงินกองทอง
อีกบริษัท ของคนที่ไม่จบแม้กระทั่งมหาวิทยาลัย

น่าติดตามครับว่าที่สุด ใครจะไปได้ไกลกว่ากัน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 885

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

CENTELลุยธุรกิจตามแผน5ปีผุดรร.หรูดันรายได้พุ่ง8พันล้าน

CENTEL เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรมตามแผน 5 ปี ที่ประเมินว่าภายในปี 2551
รายได้จะถีบตัวสูงขึ้นเป็น 8 พันล้านบาท หลังเปิดตัวโรงแรม 4 แห่ง
เล็งผุดโรงแรมหรูในลาว และกัมพูชาเพื่อหวังดันรายได้
ส่วนแนวทางการดำเนินงานในไตรมาส 3 คาดเพิ่มขึ้นกว่า 30%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ทั้งปีขยับขึ้นเป็น 5
พันล้านบาท
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท
โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) เปิดเผยว่า
ตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปีของบริษัทสำหรับธุรกิจในกลุ่มโรงแรม
ระหว่างปี 2546-2551 บริษัทจะมีการลงทุนก่อสร้างโรงแรม 4
แห่งประกอบด้วยโรงแรมเซ็นทรัล กระบี่ เบย์รีสอร์ท
ศูนย์ประชุมเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯโรงแรม เซ็นทรัลวงศ์อมาตย์ บีส
รีสอร์ท พัทยา และโรงแรมเซ็นทรัล บีช รีสอร์ท ภูเก็ต
ซึ่งทั้งหมดจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2551
ซึ่งจะส่งผลให้ในปีดังกล่าวบริษัท จะมีรายได้แบบก้าวกระโดด
โดยประเมินว่าภาพรวมของรายได้ของบริษัทจะเพิ่มเป็น 8 พันล้านบาท
ภายในปี 2551 ซึ่งรวมกับการขยายตัวในส่วนของธุรกิจอาหารด้วย

สำหรับโรงแรมเซ็นทรัลกระบี่เบย์รีสอร์ท เป็นโรงแรมมาตรฐาน 5 ดาว
ห้องพักจำนวน 200 ห้อง คาดว่าจะเปิดได้ภายในเดือนตุลาคม 2548
โรงแรมและศูนย์ประชุมเซ็นทรัล เวิลด์ กรุงเทพฯ มาตรฐาน 5 ดาว
ห้องพักจำนวน 512 ห้อง คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2551
โรงแรมเซ็นทรัลวงศ์อมาตย์ บีชรีสอร์ท พัทยา มาตรฐาน 5 ดาว ห้องพักจำนวน
470 ห้อง คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2551 และเซ็นทรัลภูเก็ต
บีชรีสอร์ท ภูเก็ต มาตรฐาน 5 ดาว ห้องพักจำนวน 308 ห้อง
คาดว่าจะเปิดตัวได้ในปี 2552

นอกเหนือจากการเปิดตัวโรงแรมไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศแล้ว
บริษัทยังมีแผนลงทุนในต่างประเทศ
โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดการเข้า ไปลงทุนในประเทศลาว
และกัมพูชา ส่วนความคืบหน้าในการเข้าไปประมูล
เพื่อบริหารโรงแรมในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการประกาศผลรายชื่อบริษัทที่ผ่าน การประมูล
ซึ่งมีบริษัทประมาณ 5 แห่งที่ยื่นซองแข่งขัน

ส่วนโครงสร้างแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจโรงแรมทั้ง 4 แห่ง
มีมูลค่าการลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท
ส่วนหนึ่งมาจากการกู้เงินจากสถาบันการเงินประมาณ 4 พันล้านบาท
ส่วนที่เหลือบางส่วนมาจากการออกพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์
และจากเงินทุนหมุนเวียน
เนื่องจากบริษัทมีนโยบายรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 1:1
ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 0.94 เท่า

สำหรับแผนการดำเนินงานระหว่างปี 2548-2551 ของธุรกิจอาหาร
ตั้งเป้าที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นปีละ 30 สาขา ซึ่งจะทำให้ในปี 2550
จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 431 สาขา โดยยอดขายจะเพิ่มขึ้น 7-10%
โดยธุรกิจอาหารประกอบด้วย มิสเตอร์ โดนัท,เคเอฟซี,พิซซ่าฮัท,บาสกิน
รอบบิ้น,Auntie Anne's และสเต๊ก ฮันเตอร์

นายรณชิต กล่าวว่า แนวโน้มผล การดำเนินงานในไตรมาส 3 ของบริษัท
คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 30%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เกิน
กว่า 5 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยแบ่งเป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจอาหาร 58-60%
ส่วนที่เหลือจะเป็นธุรกิจโรงแรม

"ในส่วนของกลุ่มธุรกิจอาหาร จะมีการขยายสาขาต่อเนื่อง
และจะมีการนำอาหารแบรนด์ใหม่มาเปิดตลาดเพิ่มขึ้น
จากปัจจุบันที่มีสินค้าในกลุ่มอาหารอยู่ทั้งหมด 6 แบรนด์"

ส่วนผลการดำเนินงาน CENTEL ในไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2547
ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 89.57 ล้านบาท หรือ 0.50 บาทต่อหุ้น
จากขาดทุนสุทธิ 305 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 226.85 ล้านบาท หรือ 1.26
บาทต่อหุ้น จากกำไร 91.92 ล้านบาท หรือ 0.51 บาท
ต่อหุ้นในงวดเดียวกันปี 2546y.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 35

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ลืมเรื่องค่าชดเชยให้การรถไฟที่ต้องจ่าย
อีกกี่ร้อยล้านกี่ปีครับ

จำไม่ได้ จริง--จริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
ม้าเฉียว
Verified User
โพสต์: 350
ผู้ติดตาม: 0

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ธรรมชาติของธุรกิจโรงแรมที่สำคัญคือ มีความอ่อนไหวกับเรื่องร้ายๆที่กระทบการท่องเที่ยวมาก ดังนั้น ปัจจัยแห่งความสำเร็จของโรงแรมใหญ่ๆในระยะยาว คือ การกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ โดยการขยายเครือข่ายของโรงแรมให้กระจายอยู่ในหลายๆประเทศ เมื่อมาดูในไทย RGR ดูเหมือนจะเป็นบริษัทเดียวที่มีความชัดเจนในการที่จะมุ่งขยายโรงแรมออกไปยังต่างประเทศ ส่วนCENTEL นั้นยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้มากนัก เคยสัมภาษณ์คุณสุพัตตรา จิราธิวัฒน์ ในประเด็นนี้ เค้าก็บอกว่ายังต้องค่อยๆดู เพราะ Brand ของเค้ายังไม่ Internationaly เท่าใดนัก ต้องใช้เวลา เค้าเองก็พลาดมาเยอะ อย่างที่เซ็นทรัลแม่สอดฮิล ก็ไม่ค่อยกำไรเอาเสียเลย แต่เค้าเรียนรู้ค่อนข้างเร็วจาก Chain ระดับโลกที่เคยมาบริหารจัดการโรงแรมของเค้า ไม่ว่าจะเป็น ไฮแอทท์ หรือ แอคกอร์ ผมจึงเชื่อว่าซักวันหนึ่งเค้าก็น่าจะไปได้ในโดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างที่ลาวนี่ก็น่าสนใจ แต่ต้องที่หลวงพระบางนะ เพราะเวียงจันทร์ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว มีแต่พวกองค์กรระหว่างประเทศเต็มไปหมด แต่ที่หลวงพระบางก็คงต้องไปชนกับพวก Banyan Tree และ PANSEA และก็ยังมีที่ไม่ใช่ของ Chain ต่างชาติ อย่าง Villa Santi และ Grand Luang Prabang ซึ่งพวกนี้แม้จะไม่ใช้ Chain มาบริหารแต่ก็ทำได้ดีที่เดียว ส่วนกัมพูชาก็เช่นกัน ต้องไปชนกับอีกหลายChain อย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมว่า Centel ต้องคิดหนักเหมือนกัน ไม่ง่ายเลย

ส่วนด้านฟาสต์ฟูดนี่ ก็ดูดีทั้งคู่ ฝั่งของ Centel ที่เด่นก็คือ KFC ผมว่าเป็นเรือธงสำคัญ แต่RGR มีภาษีเหนือกว่ามาก ทั้ง The Pizza ที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งชัดเจนแล้วว่าขยายในต่างประเทศอีกมากแน่นอน ซิสเลอร์ ซึ่งทำในหลายประเทศมาส่วนใหญ่เจ็ง ยกเว้นที่ไทย แสดงว่าRGRน่าจะมีดี เห็นว่าจะเปิดที่จีนแล้วนี่ ก็คงต้องคอยดูไป ด้านไอติมของRGR ก็เด่นกว่า ทั้งแบบนั่งกิน และ Take away
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 885

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ข่าว RGR

Royal Garden Resorts Plc (RGR), a leading player in
Thailand's hospitality industry, is looking towards
expanding both its food and hotel businesses overseas by
means of acquisitions and management contracts.
Chairman Bill Heinecke yesterday said that the group was
looking at Bali, the Maldives and Vietnam as potential
destinations to either take over properties or manage
existing hotels under its own brands.
As the group now had its own hotel brand, Anantara, Mr
Heinecke said he has been approached by several hotels
overseas to manage their properties.

Next year, the group is likely to have more properties
overseas as well as more food outlets under a franchise
basis in China, the Middle East and Asean.
Currently, it has 15 franchised Pizza Company outlets
overseas and expects that number to increase to at least
35 next year, mainly in China. At the same time, the
group is looking to open Mandara Spa outlets overseas
after it acquired the 49 percent stake worth US$ 2.4
million owned by Nasdaq-listed Steiner Leisure Ltd and
became the sole owner of the spa business.
Pratana Manomaiphiboon, RGR's chief financial officer,
said the group was trying to increase the stakes in all
of its ventures as it would help immediately generate
more revenue for shareholders.
It recently acquired a 50 percent interest worth 479
million baht in the five-star JW Marriott Phuket resort
and spa previously held by the US hotel chain Marriott
International as part of an aggressive growth plan.
It also increased its holding in Rajdamri Hotel Plc from
49.3 percent to 57.7 percent by acquiring shares from
Kasikornbank worth 176.7 million baht.
"I want to buy businesses that I already know and our
company usually acquires businesses at reasonable
prices," said Mr Heinecke.
Recently, it opened two new Anantara Resort and Spa
sites on Koh Samui and Kao Lak, Phangnga, in addition to
two Anantara properties in Hua Hin and Chiang Rai.
Mr Heinecke said the unrest in the South had had no
impact on RGR's hospitality business. In fact, revenue
from the JW Marriott Phuket Resort and Spa grew 38
percent in the first nine months of this year.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
pong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 1

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ชอบที่พักของ อนันตรา
ชอบกิน สเวนเซ่น

ก็เลยขอเป็นผู้ถือหุ้นด้วยคนครับ :lol:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 885

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

pong เขียน:ชอบที่พักของ อนันตรา
ชอบกิน สเวนเซ่น

ก็เลยขอเป็นผู้ถือหุ้นด้วยคนครับ :lol:
คุณ pong เล่าให้ฟังหน่อยซิครับเป็นยังไงบ้าง อนันตรา
เป็นแบรนด์ของ RGR เองนะครับ แต่เพิ่งสร้างได้แค่ 2 แห่ง
คือที่หัวหิน และอีกที่แถวเชียงใหม่หรือเปล่าครับ

ไปพักแล้ว ประทับใจหรือเปล่า มีศักยภาพที่จะแข่งขันกับเชนดังๆ ต่างประเทศได้บ้างไหมครับ... :lol: :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 29

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

คุณม้าเฉียว ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าคุณมีความรู้เรื่องโรงแรมดีมากทีเดียว ผมจะขออนุญาติรบกวน ให้คุณม้าเฉียว ช่วยวิจารณ์ grand อย่างตรงไปตรงมา เอาแรงๆเลย ทั้งด้านดี หรือไม่ดี
ขอบคุณมากครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 29

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

อ่าน ณ .เวลานี่แบบผิวเผิน คำตอบคือ CENTEL ครับ
Invisible hand
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 357
ผู้ติดตาม: 70

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

พอมีเพื่อนใน greenbull ถามประเด็นนี้พอดีครับ เลยเอาขอเอามาตอบในนี้ด้วยนะครับ

ถ้าดู valuation แล้ว CENTEL ถูกกว่า RGR มากครับทั้งในแง่ P/e และ P/BV และก็ถูกจริงๆ ครับ

แต่ผมมองจุดเด่นของ RGR ที่อาจจะเหนือกว่าหุ้นโรงแรมตัวอื่นๆ ดังนี้ครับ

1 RGR มีโรงแรมทีกระจายอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เช่น กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย พังงา สมุย โดยไม่มีโรงแรมไหนของ RGR ที่เป็นการลงทุนที่ผิดพลาดเลย ในขณะที่โรงแรมอื่นๆ อย่าง CENTEL ยังมีการลงทุนที่ผิดพลาดให้เห็นบ้าง เช่น ที่หาดใหญ่และแม่สอด

2 RGR กำลังพัฒนา brand โรงแรมของตนเอง คือ อนันตรา ซึ่งประสบความสำเร็จที่หัวหิน อยู่ระหว่างการเติบโตในเชียงราย และอนาคตจะมีโครงการใหม่ที่จะใช้ brand อนันตรา ที่สมุยและพังงา รวมไปถึงการรับบริหารโรงแรมภายใต้ brand อนันตรา ทั้งในและต่างประเทศ

3 แม้ว่าโรงแรมส่วนใหญ่ของ RGR จะใช้แบรนด์ Inter เช่น Marriott และ Four Season แต่ส่วนใหญ่เป็นการบริหารงานเองโดย RGR แต่ใช้ brand Inter เพื่อประโยชน์ในเรื่องการหาลูกค้า ดังนั้นค่า Fee ที่จ่ายให้กับเจ้าของ brand จะต่ำกว่าการให้ brand เหล่านี้มาบริหารให้ทั้งหมด ซึ่งต่างจากบางบริษัทที่เป็นเพียงเจ้าของทรัพย์สินแต่ไม่มี knowhow ในการบริหาร

4. RGR มีการลงทุนใหม่ๆ ทั้งการ acquire และการหาพื้นที่ใหม่ที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล หากยกตัวอย่างการ acquire เช่น บ้านโบราณเชียงราย โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ ( รีเจนท์ เดิม ) หรือโรงแรมที่เกาะสมุย ก็นับว่าเป็นการลงทุนที่ดีครับ นอกจากนี้ RGR ยังมีการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่องในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งต่างจากหุ้นโรงแรมแบบ stand alone หลายโรงแรมที่ไม่มีการลงทุนใหม่ๆ ให้เห็น

5 RGR ดำเนินธุรกิจ Spa ของตนเอง ในโรงแรมของตนเอง และโรงแรมและสถานที่อื่นๆ เช่น โรงแรมอิมพีเรียล ควีนสพาร์ค รพ. บำรุงราษฎร์ ซึ่งผมมองว่าธุรกิจ spa เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้สูงมากในอนาคต และปัจจุบัน RGR ได้เริ่มเข้าไปทำธุรกิจ spa ในประเทศจีนแล้ว

6 ในธุรกิจ fastfood RGR เป็นเจ้าของ brand The Pizza เอง ทำให้ไม่ต้องเสียค่า Loyalty fee และสามารถขาย franchise ให้กับทั้งในและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศ RGR ได้ขาย franchise ให้กับประเทศฟิลิปปินส์ ตะวันออกกลาง และมีแผนจะขาย franchise ในจีน
นอกจากนี้ RGR ยังได้รับสิทธิจากเจ้าของ brand ในต่างประเทศ เช่น Swensen Sizzler ให้ดำเนินธุรกิจหรือขาย franchise ในต่างประเทศ โดยเหตุผลหลักก็คือ RGR บริหาร brand ดังกล่าวในประเทศไทย ได้ดีกว่าเจ้าของ brand ในต่างประเทศเสียอีก ยกตัวอย่างเช่น brand Swensen นั้นในอเมริกานั้นมีส่วนแบ่งการตลาดน้อยมากทีเดียว แต่กลับมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในธุรกิจร้านไอศกรีม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า RGR มี khowhow ในการบริหารธุรกิจร้านอาหารที่ค่อนข้างดีเยี่ยมทีเดียว

7 ธุรกิจโรงแรมหลายแห่งประสบปัญหาคล้ายๆ กันในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา คือ วิกฤติเศรษฐกิจ 11 กันยา โรคซาร์ และไข้หวัดนก แต่ RGR เคยผ่านวิกฤติที่หนักกว่าหุ้นโรงแรมตัวอื่นๆ คือ MFG หรือ The Pizza ที่ปัจจุบันเป็นบริษัทย่อยของ RGR เคยถูก Tricon ซึ่งเป็นเจ้าของ brand Pizza Hut ยกเลิกสัญญา คือ ยึดแบรนด์คืนแล้วเข้ามาทำธุรกิจแข่งกับ MFG ซึ่ง MFG ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถปรับตัวและสามารถต่อกรกับ Pizza Hut ได้และปัจจุบันก็ยังมี mkt share สูงกว่า Pizza Hut ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผมเชื่อว่าหากมีอะไรที่ทำให้ RGR เข้าสู่วิกฤติ ความเสียหายที่มีต่อผู้ถือหุ้นก็จะไม่รุนแรงนัก

สำหรับ CENTEL แม้ว่าสินทรัพย์ในเครือ CENTEL ก็เป็นสินทรัพย์ที่ดีหลายแหล่ง เช่น โรงแรม 2 แห่งที่สมุย ที่ภูเก็ตและหัวหิน แต่ผมมีข้อเป็นห่วงอยู่บางประการครับ

1 โรงแรมที่ทำรายได้หลักในเครือ คือ เซ็นทรัล ลาดพร้าว จะเจอปัญหารายได้และกำไรลดลงจาก 2 เหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต อย่างแรกคือ ตอนนี้ลูกค้าหลักๆ ของโรงแรมเซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน เพราะเป็นโรงแรมระดับบนไม่กี่แห่งที่ใกล้สนามบินดอนเมือง ซึ่งมีคู่แข่งที่ผมเห็นก็มี รร. มิราเคิล แกรนด์ ดังนั้นการย้ายสนามบินน่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของ centel อย่างมีนัยสำคัญครับ
อีกเหตุการณ์หนึ่งคือการหมดสัญญาเช่าที่ดินในปี 2551 ( ถ้าผมจำไม่ผิด ) ซึ่งคาดว่ากลุ่มเซ็นทรัลคงจะได้ต่อสัญญาแต่คาดว่าค่าเช่าคงจะต้องปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก

2 โครงการในอนาคต คือ โรงแรมที่เซ็นทรัลเวิลด์ ผมมองว่าอยู่ในทำเลที่มีการแข่งขันที่สูงเกินไป และในอนาคตก็จะมีโรงแรมใหม่ที่สยาม พารากอน ซึ่งอาจจะทำให้โรงแรมในบริเวณนั้นอาจจะ oversupply ได้

3 โครงการที่กระบี่ CENTEL ออกหุ้นกู้มีหลักประกัน ในปี 2543 โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำไปลงทุนในโครงการที่กระบี่ จนถึงปัจจุบันผ่านไป 4 ปี โครงการนี้ยังสร้างไม่เสร็จ ผมไม่แน่ใจว่าทำไมโครงการนี้ถึงได้ค่อนข้างล่าช้าครับ

4 หากดูโครงสร้างกลุ่มผู้ถือหุ้น กลุ่มผู้ถือหุ้นของ RGR น่าจะมีความน่าจะเป็นที่จะเกิด commitment ได้มากกว่าครับ เพราะการถือหุ้นของ CENTEL ผู้บริหารหลักถือน้อยไปหน่อยครับ และเจ้าของมี wealth อยู่หลายที่ อันนี้เป็นข้อสังเกตสำหรับการลงทุนนะครับ ผมมองว่า Intrigrity และ Commitment เป็นสิ่งที่สำคัญพอๆ กับ valuation แต่มันก็ยังเป็นแค่ Idea หนึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ถูกเสมอไป

ยังไงทั้ง RGR และ CENTEL ผมก็มองว่าถูกกว่าปัจจัยพื้นฐานทั้งคู่ครับ เพียงแต่เราให้น้ำหนักการลงทุนแบบไหน ถ้าให้น้ำหนักไปทาง Graham ก็อาจจะชอบ CENTEL แต่ถ้าหนักไปทาง Phillip Fisher ก็อาจจะชอบ RGR มากกว่าครับ ( Buffet บอกว่าตนเองเป็นผสมระหว่าง Graham กับ Fisher )

หากให้ทำนาย ผมคิดว่า price perfomance ของ CENTEL อาจจะดีกว่า RGR เพราะ concern ที่ผมห่วงเช่น เรื่องย้ายสนามบิน ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น และผลการดำเนินงานของโรงแรมเซ็นทรัล เวิลด์ ที่จะฉุดกำไรในอนาคต มันไม่เกิดในปีนี้และปีหน้าครับ

มีตัวเลขเปรียบเทียบระหว่าง centel และ rgr ที่น่าสนใจครับ

Mkt cap RGR เป็น 1.87 เท่าของ CENTEL
งบ 9 เดือนแรก
Operating cash flow RGR เป็น 1.35 เท่าของ CENTEL
EBITDA ของ RGR เป็น 1.60 เท่าของ CENTEL

ที่ ratio ตัว oper cash flow ต่างจาก EBITDA มากเพราะ RGR มี tax rate และดอกเบี้ยจ่ายสูงกว่า CENTEL ครับ

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถ้าเปรียบเทียบแบบ quantitative CENTEL จะถูกกว่า RGR มากครับ
Mr. Big
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1913
ผู้ติดตาม: 7

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ขอบคุณทุกท่านมากครับ สรุปชอบ 2 ตัวก็ซื้อ 2 ตัว ชอบ 1 ก็ลองเลือกเอาซะ 1 ตัวนะครับ ไม่ชอบก็หาตัวใหม่ไปเรื่อยๆ ครับ ส่วนผมเคยมีประสบการณ์ที่ดีกับ CPN มาก่อน เลยไม่ค่อยกลัว CENTEL ในแง่การบริหารครับ
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 1

ฮิฮิ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ไม่มีใครสนamarin เลยแฮะ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 29

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ขอบคุณท่านมือที่มองไม่เห็นครับ :D :D :D
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 885

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ไปดูรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่มาครับ

CENTEL - มีผู้ถือหุ้นใหญ่ (ถือหุ้นมากกว่า 0.5%) มากถึง 42 ราย ส่วนใหญ่เป็นตระกูลจิราธิวัฒน์แทบทั้งสิ้น มีที่น่าสนใจคือบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ IFC, อยุธยา อลิอัน ประกันชีวิต และกองทุนเปิดธณชาติลำดับสุดท้าย

RGR - รายชื่อคือคำตอบครับ

HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD69,598,48114.87%
บริษัท ไมเนอร์ โฮลดิ้ง (ไทย) จำกัด54,962,74011.74%
นาย นิติ โอสถานุเคราะห์39,746,5258.49%
บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)30,032,4226.42%
บริษัท ไมเนอร์ โฮลดิ้ง (ไทย) จำกัด29,000,0006.19%
บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)20,716,1364.43%
นาย วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค16,056,1003.43%
นาย จอห์น สก๊อต ไฮเน็ค15,702,5203.35%
กองทุน บำเหน็จบำนาญข้าราชการ15,000,0003.20%
กองทุนรวม เพื่อผู้ลงทุนซึ่งเป็นคนต่างด้าวดยลงทุน11,424,5702.44%
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช9,436,8002.02%
นาย วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค8,701,9761.86%
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด8,086,0841.73%
สำนักงานประกันสังคม7,825,6001.67%
นาย วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค6,369,8121.36%
ธนาคาร ยูโอบี รัตนสิน จำกัด (มหาชน)5,865,0001.25%
STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY5,530,3001.18%
บริษัท บางกอกรินเวสท์ จำกัด4,452,8470.95%
นาง สมพร โอสถานุเคราะห์3,783,7750.81%
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒ3,764,7000.80%
J.P. MORGAN BANK LUXEMBOURG S.A.103,752,6000.80%
กองทุนเปิด รวงข้าว3,656,2460.78%
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)3,207,2000.69%
กองทุนเปิด รวงข้าวหุ้นทุนบริพัตร2,608,7830.56%
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย2,450,1300.52%
JAPAN TRUSTEE SERVICES BANK,LTD2,412,8000.52%
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)2,366,7900.51%
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
pong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 1

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

พี่ลูกอิสานครับ

ผมเคยพักที่อนันตราหัวหิน ที่เดียวเอง แต่ก็ไปมาได้ สองครั้งแล้ว
ส่วน แบรนด์ อนันตรา ตอนนี้มี 4 ที่แล้วครับ
ที่แรกคือ หัวหิน
ที่สอง คือ ที่เชียงราย บริเวณ สามเหลี่ยมทองคำ (อันนี้ไปเทคเค้ามา)
สาม คือ ที่เกาะสมุย
และล่าสุด ที่เขาหลัก จ.พังงาครับ

ที่เขาหลักนี่ ผมเคยผ่านไปหลายครั้ง แต่ไม่ได้พัก เพราะ คนส่วนใหญ่ไปพังงา ก็จะไปเที่ยวที่เกาะสุรินทร์ และ เกาะสิมิลัน ซึ่งต้องผ่านเขาหลัก โดยส่วนตัวผมว่า ไม่ค่อยมีจุดท่องเทียวเท่าไหร่ แต่ก็มีโรงแรมหรูๆ ไปเปิดเยอะเหมือนกัน ก็คงต้องคอยดูว่าที่นีจะ มีอัตราการเข้าพักเป็นอย่างไร

แต่ความเป็นแบรนด์ ของอนันตรา ผมว่าต่างชาติยอมรับครับ (หรือที่หัวหินอย่างเดียวก็ไม่รู้) เพราะที่ไปมา(ที่หัวหิน) มีแต่คนต่างชาติครับ ทั้งเอเซีย และทางยุโรป
ส่วนบรรยากาศ เหมาะกับคู่รักมากกว่าครอบครัว เพราะจะสงบ นิ่งๆ หรูหรา
ถ้ามีเด็กๆไปหัวหิน เครือเซ็นทรัลอาจจะเหมาะกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
pong
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 1

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

เพิ่มเติมอีกนิด สำหรับที่สมุยครับ

หากใครคิดจะไป ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่า ที่ตั้งอาจจะไม่เด่นเท่าไหร่ เพราะอยู่ทางเหนือของเกาะ ใกล้องค์พระใหญ่ หรือที่เรียกว่า บ่อผุด ทางนั้นจะเงียบๆ ไม่ค่อยมีโรงแรม

ต่างจากที่หาดเฉวงหรือละไม ที่อยู่ทางตะวันออก ตรงนั้นถือว่าเป็นแหล่งเที่ยวเลยครับ

ซึ่งคู่แข่งที่เราะพูดถึงอยู่ รู้สึกจะอยู่ที่เฉวงครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6492
ผู้ติดตาม: 885

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ขอบคุณครับคุณ Pong
เหมาะกับคู่รัก ....ไปมาได้ สองครั้งแล้ว
:lol: น่าอิจฉาครับ :lol:

ฟังที่คุณ pong เล่ามา อนันตราออกจะเป็นโรงแรมระดับบน ที่เน้นความหรูหรา เป็นส่วนตัว ลูกค้าก็น่าจะเป็นทางยุโรปเป็นส่วนใหญ่นะครับ

ผมเคยผ่านไปที่เขาหลักเหมือนกัน รีสอร์ทผุดเหมือนดอกเห็ดยามหน้าฝน
เขาหลักดูจะไม่โดดเด่น แต่ก็ยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก และค่อนข้างสงบครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ม้าเฉียว
Verified User
โพสต์: 350
ผู้ติดตาม: 0

ตอบคำถามคุณ Jeng เกี่ยวกับ grand

โพสต์ที่ 24

โพสต์

สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้คลุกคลีในอุตสาหกรรมโรงแรมนี่ ผมขอให้จุดสังเกตสำคัญของ ความน่าสนใจในการลงทุนในโรงแรมที่บริหารจัดการโดยเครือโรงแรมชื่อดังจากต่างประเทศ (อันนี้ไม่รวมประเภทที่ซื้อแต่แบรนด์มาอย่างเดียว ไม่ซื้อการบริหารจัดการด้วย) คือ การลงทุนของบริษัทที่รับบริหารจัดการให้ เพราะ โดยปกติแล้ว บริษัทระดับโลกที่รับบริหารจัดการโรงแรม (หรือเจ้าของChain) ไม่ว่าจะเป็นแมนดาริน-โอเรียนเต็ล สตาร์วูดส์ หรือ บันยันทรี ฯลฯ จะมีรายได้สำคัญ 2 ส่วน คือ รายได้ค่าธรรมเนียม และเงินปันผลจากโรงแรมในเครือที่ตนเองลงทุนและบริหารจัดการ อย่างแมนดาริน-โอเรียนเต็ล นี่เมื่อปีก่อน บริษัทมีรายได้จากการเงินปันผลสูงกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่รายได้ค่าธรรมเนียมต่างๆมีเพียง 20 กว่าล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าโรงแรมไหนก็ตามที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูงๆ เจ้าของChain หรือบริษัทที่มารับจ้างบริหารจัดการ ก็จะไม่พลาดที่จะขอเข้าไปมีหุ้นส่วนในโรงแรมนั้นด้วย พอกลับมามองโรงแรมเวสทินแกรนด์สุขุมวิท ผมไม่เห็นว่า สตาร์วูดส์เค้ามีหุ้นส่วนในโรงแรมดังกล่าว แต่กลับลงทุนในโรงแรมรอยัลออคิดเชอราตันตั้งร้อยละ 44 อันนี้ก็เป็นข้อสังเกตหนึ่งของความน่าสนใจในศักยภาพของการทำกำไร
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 27

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

อือ จริงของคุณม้าเฉียวนะครับ :)

เรื่องระหว่างเจ้าของ property กับเจ้าของแบรนด์นี่ น่าสนใจมากนะครับ
โรงแรมที่ brand กับ property อยู่คู่กันได้นานๆ ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็น่า
จะดีกว่าในระยะยาวนะครับ คบกันยืด พอใจทั้งสองฝ่าย ยิ่งถ้าเจ้าของ
แบรนด์เข้ามาถือหุ้นด้วย อย่างนี้เรียกว่าร่วมหอลงเตียงกันเลย ไม่ใช่แต่ง
แค่ในนาม :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ม้าเฉียว
Verified User
โพสต์: 350
ผู้ติดตาม: 0

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ไหนก็ไหนผมให้ข้อมูลเสริมอีกนิด เรื่องของระดับตลาดของโรงแรมในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ตรงนี้นี่สำคัญกับเรื่อง ความสามารถในการตั้งราคา ซึ่งเป็นจุดเป็นจุดตายของความสามารถในการทำกำไรของโรงแรม นอกเหนือจากการบริหารอัตราการเข้าพัก เพราะลูกค้าต่างประเทศเค้าจะมีราคาห้องพักที่ควรจะเป็น เมื่อเทียบกับบริการ อยู่ในใจของเค้า ซึ่งรับรู้และยืนยันได้จากแบรนด์

ระดับตลาดของโรงแรมแบ่งได้เป็น 5 ระดับ ได้แก่
1.ระดับบนสุด (Luxury Market)
โรงแรมที่มีตลาดอยู่ในระดับนี้เป็นโรงแรมที่มีค่าห้องพักเฉลี่ยประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไป และมักเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไป
ในอุตสาหกรรมโรงแรมนั้น โรงแรมที่มีตลาดระดับสูงหรือกลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไปมักจะมีเสถียรภาพในด้านรายได้สูงกว่ากลุ่มโรงแรมที่มีตลาดในระดับรองลงมา เพราะลูกค้าของโรงแรมในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้านักธุรกิจ ซึ่งมีความจำเป็นและความสม่ำเสมอของการเดินทางมากกว่า ลูกค้านักท่องเที่ยว การจัดบริการให้ลูกค้าทั้งสองส่วนจึงค่อนข้างแตกต่างกัน ลูกค้านักธุรกิจต้องการการให้บริการด้านอินเตอร์เน็ต ระบบโทรคมนาคม การให้บริการ Room Service และการให้บริการที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนอยู่บ้านตนเอง ส่วนลูกค้านักท่องเที่ยวต้องการบริการที่ดี การตกแต่งที่สวยงาม วิวทิวทัศน์ และบริการด้านสปา
ในระดับโลกโรงแรมที่ถือว่าเป็นระดับ 5 ดาวขึ้นไป ได้แก่ Ritz-Carlton, Fairmont, Four Seasons, Park Hyatt, St. Regis และ Le Meridien ส่วนในเอเชีย ได้แก่ กลุ่ม Mandarin-Oriental
การแข่งขันในตลาดนี้เป็นการแข่งขันด้านคุณภาพในการให้บริการ และความหรูหราของสถานที่ ต้นทุนต่อห้องของการลงทุนในโรงแรมเหล่านี้จึงสูงกว่าโรงแรมระดับประหยัดถึง 9 เท่า และยังต้องปรับปรุงตกแต่งห้องต่างๆอยู่ตลอดเวลา เช่น Ritz-Carlton มีระบบหมุนเวียนปรับปรุงห้องพักทุกๆ 90 วัน

2. ระดับบน (Up-scale)
โรงแรมในกลุ่มนี้จะมีค่าห้องพักเฉลี่ยที่ 120 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับโรงแรมที่เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มนี้ ได้แก่ Mariott,westin,Sheraton, Radisson และ Hilton

3. ระดับพักยาว (Extended Stay)
โรงแรมในกลุ่มนี้เป็นโรงแรมที่จัดองค์ประกอบต่างๆ ของโรงแรมให้เหมาะสมกับการพักผ่อนระยะยาว จึงมีห้องนั่งเล่น และห้องนอน โดยมีการเก็บค่าเช่าเป็นอาทิตย์หรือเป็นรายเดือน โรงแรมประเภทนี้ถือว่าเป็นการให้บริการรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถเรียกค่าห้องพักได้ประมาณ 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ
โรงแรมในกลุ่มนี้มักมีชื่อที่ต่อท้ายด้วยคำว่า Suites เช่น Homestead Suites ของ Hilton และ Hawthorne Suites เป็นต้น

4.ระดับกลาง (Mid-scale)
โรงแรมกลุ่มนี้แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่มีบริการอาหาร และประเภทที่ไม่มีบริการอาหาร สำหรับราคาห้องพักโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 75-85 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ตัวอย่างของโรงแรมในกลุ่มนี้ได้แก่ Holiday Inn, Quality Inn, Comfort Inn, Novotel และMercure เป็นต้น

5. กลุ่มประหยัด (Economy/Budget)
โรงแรมแบบประหยัดเป็นโรงแรมที่เน้นการให้ที่พักแต่เพียงอย่างเดียว อาจมีบริการอาหารเฉพาะอาหารเช้าเท่านั้น
ตัวอย่างโรงแรมที่อยู่ในกลุ่มนี้ เช่น Ramada และ Ibis
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 29

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ม้าเฉียว
Verified User
โพสต์: 350
ผู้ติดตาม: 0

ตอบคุณJeng

โพสต์ที่ 28

โพสต์

เห็นคุณJeng สนใจGrandเป็นพิเศษ น่าจะมีเหตุผลส่วนตัว ช่วยบอกหน่อยได้ไหม
และน่าจะลองเปรียบเทียบกับ LRH ดู เพราะผมว่า Grand ไปลอกโมเด็ลธุรกิจเค้ามา (ถ้าไปเทียบกับ RGR หรือ Centel หรือโรงแรมตัวอื่นๆอาจจะไม่เข้ากันซักเท่าไหร่) ซึ่งเท่าที่ผมรู้ LRH ดูจะน่าสนใจกว่า เพราะ นอกจากโรงแรมในกลุ่มจะสามารถเรียกราคาได้สูงกว่า อัตราการเข้าพัก และระยะเวลาเข้าพักจะดีกว่า เพราะโรงแรมตั้งอยู่ใน Holiday Destination P/E ก็ 6กว่าเอง P/BV ก็เพียง 0.7 ซึ่งจริงๆน่าจะต่ำกว่านี้มาก เพราะมีสินทรัพย์ซ่อนเร้นเป็นที่ดินในภูเก็ตที่รอการพัฒนาจำนวนมากเลย ส่วนเรื่องผู้ถือหุ้นอย่างไทยวาที่ยังอยู่ใน Rehab นั้น ไม่น่ากลัวว่าจะมีเรื่องซิกแซกอะไรเท่าไหร่ เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่อีกฝ่าย ซึ่งถือหุ้นเกือบร้อยละ 50 เป็น บันยันทรี ซึ่งน่าจะมีการถ่วงดุลกันพอสมควร และบริษัทนี้ (บันยันทรี) ก็มีความใส่ใจเรื่องระบบบัญชีและตรวจสอบภายในเอามากเหมือนกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ถามคุณม้าเฉียว

โรงแรมตัวไหนที่มีอยู่ทั่วประเทศตามที่เที่ยวต่างๆเยอะสุดครับ

ผมชอบที่จะเป็นเจ้าของโรงแรมที่มีอยู่ทั่วประเทศ มากกว่า ขยายไปต่างประเทศ
Expecto Patronum!!!!!!
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 29

ท่านๆ มองหุ้น CENTEL vs. RGR แล้ว ชอบโรงแรมไหนมากกว่ากันครับ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

เหรอครับ ท่านม้าเฉียว เดี๋ยวผมจะรีบห้อม้าไปดู LRH หลุดไปได้อย่างไร PE 6