ถ้าจะซ์้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
wj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1423
ผู้ติดตาม: 293

ถ้าจะซ์้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมว่าจะตอบในกระทู้ viewtopic.php?p=1947916#p1947916 แต่ดูแล้วคห.ผมก็เป็นแค่ข้อมูลทั่วๆไปครับ ไม่ได้เจาะจง RATCH


การพิจารณาธุรกิจโรงไฟฟ้าตามความรู้ที่ผมพอจะมี
แหล่งกำเนิดของพลังงาน ประกอบด้วย
1.พลังงานจากดวงอาทิตย์ เช่น พลังงานฟอสซิล พลังงานโซล่าเซลล์ biomass, wind energy, solar, hydropower
2.พลังงานจากองค์ประกอบของโลกแร่ธาตุเช่นยูเรเนียม, พลังงานใต้พิภพจากการร้อนตัวของลาวา
3.พลังงานจากแรกโน้มถ่วง(น้ำขึ้นลง)

ต้นทุนเชื้อเพลิง แบ่งออกเป็น
มีการจัดหาวัตถุดิบ ซึ่งจะทำให้ gross margin ผันผวนไปตามต้นทุน เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหิน ก๊าซ มีค่าสึกหร่อของเครื่องจักรสูง, depreciation เป็นตัวต้องพิจารณา

ไม่มีการจัดหาวัตถุดิบเราจะพบว่า renewable energy ประเภท hydropower, wind, solar เป็นพลังงานที่เราไม่จัดหาเชื้อเพลิงแต่เอาแน่เอานอนไม่ได้ พวกนี้ gross margin สูงมาก มีต้นทุนในการก่อสร้างต่อ MW สูงกว่าแบบแรก

ต้นทุนไฟฟ้าที่ผลิตได้ต่อหน่วย แต่ละชนิดนั้นมีต่างกันมาก หากเราไม่พิจารณาเรื่องทำเลการก่อสร้าง ถึงวันนี้ solar cell หรือ PV มีต้นทุนต่อหน่วยตลอดอายุต่ำสุด(LCOE) แล้วโรงงานนิวเคลียร์มีต้นทุนต่ำจริงไหมลองไปหาข้อมูลดูครับในงบการเงินอ่านๆก็พอจะรู้ครับ ต้นทุนไม่ได้มีแค่ทางตรงมีทางอ้อมอีกนะ

การผลิตไฟฟ้า โรงไฟฟ้าพวก non-renewable จำเป็นต้องมีเพราะเราจำเป็นต้องจ่ายไฟฟ้าอย่างเสม่ำเสมอ โดยเฉพาะตอน peak hour

MW, kwh
MW คือกำลังการผลิตไฟฟ้า สมมติว่า โรงงานไฟฟ้ากำลังการผลิต 1 mw มีประสิทธิภาพในการผลิต 100% 1 ชั่วโมงจะผลิตไฟฟ้าได้ 1 MWh หรือ 1,000 kwh (1 kwh = 1 หน่วยไฟฟ้า) ประสิทธิภาพและ utilization hour จะไม่เท่ากัน ยกตัวอย่าง wind power 1MW มี efficiencyเฉลี่ย 20% ทั้งปีมีลมผ่าน 1800 hrs ก็จะผลิตไฟฟ้าได้ 0.2*1800*1MW = 600 MWh/ปี
ดังนั้นในธุรกิจ renewable energy อย่าง wind, solar จะต้องดูทำเลว่ามี utilization hours(จำนวนแสแดด จำนวนลม ลมแรงมากไปก็ผลิตไฟฟ้าไม่่ได้นะครับ ต้อง shut down ) เท่าไหร่ใน 1 ปี และ ประสิทธิภาพในการผลิตประกอบกัน ซึ่งต่างจากโรงไฟฟ้าที่มีเชื้อเพลิงในการผลิตจะไม่มีปัญหาเรื่องจำนวนชั่วโมงใช้งาน แต่จะมีปัญหาเรื่องเครื่องจักรสึกหรอและต้องการการซ่อมบำรุงที่ใช้ระยะเวลาที่ยาวนานและใช้เงินเป็นจำนวนมาก

สัญญาขายไฟฟ้า
จะเป็นการแปรผันกับต้นทุน หรือ FIT ที่กำหนดตายตัว หรือ Adder เป็นเงินอุดหนุนเพิ่มจากค่าไฟฟ้าต่อหน่วยอ้างอิง การขายไฟฟ้าเป็นราคาที่ voltage ไหนและวัดไฟฟ้ากันตรงไหนต้องมีการเพิ่ม voltage หรือไม่
เราจะพบว่าโรงไฟฟ้าอย่างไบโอแมสมีปัญหาเรื่องการขาดทุนเนื่องจากสัญญาเป็น FIT ซึ่งได้รับคงที่แต่ต้นทุนการผลิตมีค่าแปรผันต้นทุนน้ำมันจากค่าขนส่ง หรือ ราคาเศษพืชเศษไม้เพิ่มสูงขึ้น
FIT จึงเหมาะสมกับโรงไฟฟ้าที่ไม่ต้องจัดหาวัตถุดิบ


ดอกเบี้ยและ IRR
ในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำเช่น การออกหุ้นกู้ต้นทุนรายใหญ่ 3% การกำหนด IRR ก็จะอยู่ราวๆแค่ 8-11% หากต่อมาดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก็จะทำให้ IRR ที่เคยคิดไว้ก่อนลดลง ส่งผลให้ ROE ต่ำลง EPS ต่ำ
แต่ถ้าตอนยื่นข้อเสนอเบี้ยอยู่ในระดับสูงเช่นในช่วงปี 2540 เมื่อดอกเบี้ยเป็นขาลงทำให้ผลตอบแทนสูงกว่าที่กำหนดไว้ ซึ่งในช่วงนั้นดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ราวๆ 8 เปอร์เซ็นต์ทำให้ irr ของโครงการอยู่ในระดับ 15 เปอร์เซ็นต์ เช่น บางโครการของ EGCO ที่ให้ผลตอบแทนดีมากทำให้ ROE สูง เมื่อสัญญาหมดก็จะทำให้ ROE ตกต่ำอย่างมาก
โรงไฟฟ้าทั้งหมดในปัจจุบันจะมี ROE ที่ต่ำแถว 10% หรือ 12% อย่างมาก และถ้าเราเห็นโรงไฟฟ้าไหนสูงกว่านีผิดปกติ ถ้าไม่ได้adder ดีๆก็จากการวิ่งเต้น(สำหรับในไทย)

กำลังไฟฟ้าสำรอง
เนื่องจากการที่ฟ้าเผื่อช่วงการใช้งานสูงสุด ทำให้เราจำเป็นจะต้องมีกำลังไฟสำรอง 15% ( ยกเว้นประเทศไทยที่รวยมากเผื่อไว้> 40 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปมาหลายปีแล้วไม่ใช่แค่ช่วงโควิด เพราะช่วงโควิด >50% )

FIT สูงไม่ได้หมายความว่าจะได้ IRR ที่มากกว่า
การผลิตไฟฟ้าขายเช่น wind energy เราจะไม่ได้ดูว่าราคาสัญญาสูงจะได้ irr ดีเสมอไป เพราะต้องนึกถึงต้นทุนที่ต่างกันเช่น ค่าที่ดิน, การเข้าถึงและความยากในงานก่อสร้าง, utilization hours ผมเจอบ่อยๆว่าราคา FIT 2 บาทมี irr สูงกว่า FIT 4 บาท

ธรรมชาติของขยายธุรกิจ
ต้องใช้เงินจำนวนมาก capital intensive การที่บริษัทโม้ว่าจะขยายเท่านั้นเท่านี้ต้องดูเงินหน้าตัก และช่วงเวลาทำสัญญา เพราะผิดเวลาดอกเบี้ยก็ปรับเปลี่ยนได้ และโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่มีหนี้เพื่อขยายกิจการ และการขยายกำลังไฟฟ้า 1 เท่าตัว ก็ไม่ได้หมายความว่ากำไรเพิ่ม 1 เท่า ดูอย่าง BCPG บอกว่าขยายและเติบโตต่อเนื่งแต่เป้าของ EPS ต่ำเหลือเกิน มันก็ได้แค่นั้นแหละครับ ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องต่ำกว่า BV ให้มาก ไม่งั้นผลตอบแทนจะไม่ดี แต่พอประคองตัวได้ 6-8% ตามความสามารถของผบห.หรือตามแต่ภาวะตลาด(หุ้นและดอกเบี้ย)

โรงงานไฟฟ้าต้องมีค่าบริหารที่ต่ำ
ส่วนใหญ่แข่งขันกันรุนแรงดังนั้นต้องดูว่าค่าบริหารต้องต่ำ และระวังผบห.ไม่โม้เอาแต่โครงการเน้นปั่นหุ้นไม่เน้นผลกำไร หรือกลุ่มผบห.บางกลุ่มก็เน้นเงินจากการบริหารงานหวังได้เงินเดือนสูงๆ รถ สวัสดิการ หรือเลวร้ายมากก็เน้นค่าคอมมิชชั่น(โกง)จากการซื้อกิจการหรือหาผู้รับเหมา เช่น กลุ่มราดๆอะไรซักอย่างนี่ผมไม่ซื้อแน่ แต่ก็มีอีกหลายบริษัทที่ผมไม่สนใจเช่นกันกลัว

ดูงบให้เป็นอันนี้ basic ของนักลงทุน ก็ดูว่ากำไรที่มันแย่ มันแย่ชั่วคราวหรือเปล่า และเป็นโอกาสซื้อหรือไม่
ถ้า IRR ส่งผลต่อ EPS ROE ก็แปลได้ว่า ดอกเบี้ยก็มีผลมากต่อหุ้นเหล่านี้ รวมถึงค่าบริหาร ความฉลาดของผบห. รอดู SPCG ว่าหลังหมด adder แล้ว ROE จะเป็นเท่าไหร่ หรืออย่าง TPCH ที่ได้ FIT มาเขาจะทำอย่างไรหากต้นทุนวัตถุดิบสูงและสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดในโมเดลทางการเงินต้นเสนองานเกิดขึ้นไปทางลบ

นึกได้ก็เขียนเลย ใครมีอะไรเพิ่มก็เชิญครับ
พูดคุยกันได้ https://www.facebook.com/value.investing.freedo
chavlikit
Verified User
โพสต์: 132
ผู้ติดตาม: 14

Re: ถ้าจะซ์้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ตอนผมลงทุนหุ้นไทยใหม่ๆ (ปี 2020) ได้อ่านข่าวเห็นบอกว่าประเทศไทยมีกำลังผลิตเกินความต้องการไปเยอะแล้ว หลังจากนั้นผมเลยไม่สนใจหุ้นโรงไฟฟ้าไทยอีกเลย ยังงงๆว่าทำไมคนไทยชอบเล่นหุ้นโรงไฟฟ้ากันจัง ทั้งๆที่ต่างประเทศดูเหมือนเป็นหุ้นน่าเบื่อ สำหรับคนต้องการปันผลสม่ำเสมอแต่ไม่จำเป็นต้องมาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Peter1011
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 325
ผู้ติดตาม: 109

Re: ถ้าจะซ์้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

โพสต์ที่ 3

โพสต์

มีประโยชน์มากครับ
กลุ่มราดๆอะไรซักอย่างนี่ผมไม่ซื้อแน่
5555 เช่นเดียวกันกลับกลุ่มอ่าวๆนั่นแหละครับ และอย่าลืมว่ามันมีบางตัวที่เริ่มไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่รฟฟ.ด้วย พวกนี้ต้องระวังให้ดี พวกชอบ diworsify

ใน MD&A ก็จะมีพวกศัพท์ต่างๆเช่น AP EP COD PPA ... ใครสนใจอย่าลืมทำความเข้าใจด้วย

บางที่ในตปท. สัญญาขายไฟฟ้าอาจเป็นตลาดเสรีแบบให้ไป bid กันแล้วคนที่ bid ตำ่สุดก็ได้ contract นั้นไป และยังมีหุ้นบางตัวนั้นก็มีหน้าที่ในการจ่ายไฟฟ้าอีกด้วย (ซื้อมา + ขายไป + ผลิตเอง คล้ายๆกฟผ.)
Was der Onkel Charlie sagt, das soll man immer tun!
cntclub
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 289
ผู้ติดตาม: 0

Re: ถ้าจะซ์้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ท่านใดมีความรู้เรื่องโรงไฟฟ้าขยะ ช่วยมาแจมด้วยก็ดีนะครับ เห็นตอนนี้หลาย บมจ. มุ่งไป รฟ. ขยะ ซึ่งได้ค่า FiT 5.7-5.8บาท/หน่วย แต่ผมมีเพื่อนเป็นเทศบาล เพิ่งสร้างโรงไฟฟ้าขยะเสร็จมา 1ปี เริ่ม COD แล้วปรากฎว่าปีแรกขาดทุนหนัก ขยะที่ได้มาไม่พอเผาและผลิตไฟฟ้าได้น้อย แต่เห็นนโยบายรัฐบาล สนับสนุนโรงไฟฟ้าขยะ เรียกว่า Win-Win ก็เป็นได้ รัฐได้กำจัดขยะเก่าและใหม่ ส่วนเอกชนได้ค่ากำจัดและขายไฟฟ้า แต่เท่าที่เห็น ACE & TGE ในงบน่าจะรันไฟฟ้าได้เกิน 90%แล้ว ส่วน TPCH ยังขาดทุนกับโรงแรกนี้อยู่เลย ผมคิดว่าน่าจะยากเพราะ
1. ขยะที่ได้มีหลายชนิดแต่ชนิดที่จะมาเผาทำร้อนสูงๆน่าจะน้อย
2. ขยะใหม่ไม่ต้องทำ RDF บีบอัดเผาได้เลย แต่ไม่รู้ทำไมเช่น โรงไฟฟ้าขยะ 1ปีแรก ยังได้ขยะแทบไม่พอเผาผลิตไฟฟ้า
3. ผมอ่านข่าวและอ่าน Filling TGE เจอเหมือนโรงไฟฟ้าขยะจะประมูลแข่งกันคล้าย ชีวมวล รึเปล่า ถ้าจริง อนาคตคงไม่สดใส
4. ส่วนใหญ่รัฐจะทำเอง อันนี้ได้คำตอบจากเพื่อนที่เป็นเทศบาล ตั้งบริษัทเอกชน(ภาษีเราเอง) มาสร้างโรงไฟฟ้าขยะ แล้วรับขยะในพื้นที่นั้นๆมาผลิตไฟฟ้าขาย ทำให้โอกาส บมจ. ที่จะเข้าทำบ้าง หมดแรงจูงใจมัย
รบกวนผู้รู้มาช่วยแชร์เพิ่มเติมด้วยก็ดีนะครับ
Power Of Thinking
Sethanat
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 12
ผู้ติดตาม: 2

Re: ถ้าจะซ์้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

โพสต์ที่ 5

โพสต์

อยากจะสอบถามพี่ ๆ ครับ ทั้งพี่ Wj และท่านอื่น ๆ ว่าแบบมีความเห็นยังไงกับหุ้นโรงไฟฟ้าชีวมวล ตัวย่อ A. บ้างครับ
.
เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าตัวของหุ้นตัวนี้ ถือว่าแบบมีการ Operate ที่ดีกว่าตัวอื่นในกลุ่มโรงไฟฟ้าเดียวกัน + การควบคุมตัวของวัตถุดิบที่ทำได้ค่อนข้างดีกว่าคู่แข่งเพราะว่า ตัวของบริษัทมีเครือข่ายตรงจุดนี้อยู่ +หนี้สินต่ำและมีโครงการอยู่ในมือที่รอการพัฒนาค่อนข้างครึ่งนึงของที่มีอยู่
.
แต่ตัวของ treat ที่เห็นคือความไม่แน่นอนของโครงการที่ขอเซ็นสัญญา PPA ที่รอ pending มาเป็นระยะเวลานานแล้ว + การแข่งขันทางด้านราคาที่ค่อนข้างสูงในอนาคต

ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nasvirat
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 1

Re: ถ้าจะซ์้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Picture5.png


ในแง่ของพลังงาน ปัจจุบัน solar cell ต่ำสุด แต่ renewable ความสม่ำเสมอ มันเทียบกับ coal gas ไม่ได้เท่าไร จากที่ผมศึกษามา ทุกประเทศทั่วโลก เริ่มรู้แล้วว่า จำเป็นต้อง go green แต่ การ go green โดย ใช้แค่ แสง ลม น้ำ มันไม่สามารถทำได้ solar cell เองก็มีปัญหาเรื่อง สิ่งแวดล้อมเหมือนกัน โดยเฉพาะการกำจัด solar cell ที่หมดอายุมีต้นทุนที่สูงทำให้ส่วนมากก็ไปจบที่ฝังกลบ ส่วนตัวมองว่า nuclear energy ตอนนี้มีปัญหาเรื่องต้นทุน แต่มีประโยชน์ในแง่การผลิตพลังงานได้ในปริมาณที่มากๆ และเป็นพลังงานที่สะอาดจริงๆ
Dream like Sky,Fly like bird
wj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1423
ผู้ติดตาม: 293

Re: ถ้าจะซ์้อหุ้นโรงไฟฟ้าต้องรู้อะไรบ้าง

โพสต์ที่ 7

โพสต์

Nasvirat เขียน:
พฤหัสฯ. ก.ย. 01, 2022 10:02 am
Picture5.png



ในแง่ของพลังงาน ปัจจุบัน solar cell ต่ำสุด แต่ renewable ความสม่ำเสมอ มันเทียบกับ coal gas ไม่ได้เท่าไร จากที่ผมศึกษามา ทุกประเทศทั่วโลก เริ่มรู้แล้วว่า จำเป็นต้อง go green แต่ การ go green โดย ใช้แค่ แสง ลม น้ำ มันไม่สามารถทำได้ solar cell เองก็มีปัญหาเรื่อง สิ่งแวดล้อมเหมือนกัน โดยเฉพาะการกำจัด solar cell ที่หมดอายุมีต้นทุนที่สูงทำให้ส่วนมากก็ไปจบที่ฝังกลบ ส่วนตัวมองว่า nuclear energy ตอนนี้มีปัญหาเรื่องต้นทุน แต่มีประโยชน์ในแง่การผลิตพลังงานได้ในปริมาณที่มากๆ และเป็นพลังงานที่สะอาดจริงๆ
ยังมีวิธีอื่นๆอีกมากที่จะเก็บพลังงานจากการผลิตส่วนเกินจาก renewable resources ซึ่งขายไม่ได้ตามสัญญา
เช่น การกักเก็บในรูปแบบความร้อนผ่านตัวกลาง sand, salt…. , gravity storage ได้แก่ การสูบน้ำกลับไปที่สูงหรือการนำมวลไปไว้ที่สูง ของพวกนี้มีทำกันแล้วครับ
ตัว hydrogen เป็นอะไรที่ดีมาก เช่น นำไปใช้ในหัวลากรถไฟฟ้า แทนดีเซล แม้ว่าตอนนี้ hydrogen จะมีต้นทุนที่แพงกว่า แต่ถ้ามองต้นทุนรวมและการผลิตจำนวนมากในอนาคตก็ทำให้hydrogen ดูดีมาก เช่น เมื่อนำไปเป็นหัวลากรถไฟฟ้า การสร้างโครงสร้างจ่ายไฟฟ้าอย่าง Third rail หรือ overhanging , grid network ก็ไม่จำเป็น และถ้าhydrogen ผลิตจากช่วงที่ไม่มีความต้องการไฟฟ้า ก็ทำให้ต้นทุนต่ำลง
ส่วน pv มีข้อดีกว่า wind energy เพราะนำมาใช้ตรงกับuser รายย่อยได้ง่าย ติดตั้งในจำนวนน้อยกว่าได้
พูดคุยกันได้ https://www.facebook.com/value.investing.freedo
โพสต์โพสต์