สรุปหนังสือแปล How Buffett Does it ตามรอย วอเร็น บัฟเฟตต์

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2646
ผู้ติดตาม: 273

สรุปหนังสือแปล How Buffett Does it ตามรอย วอเร็น บัฟเฟตต์

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สรุปหนังสือแปล How Buffett Does it ตามรอย วอเร็น บัฟเฟตต์
เขียนโดย James Pardoe แปลโดย คุณเอกสิทธิ์ หัสสรังสี

สรุปเคล็ดลับการลงทุนของ คุณปู่ วอเร็น บัฟเฟตต์ ให้เข้าใจง่าย แบ่งออกเป็น 24 บทดังนี้
1.เลือกความเรียบง่ายมากกว่าความซับซ้อน
บัฟเฟตต์ บอกว่า การเป็นนักลงทุนที่ดี ไม่ต้องฉลาดมาก(IQ 130 ก็พอแล้ว) ไม่ต้องใช้สูตรที่ซับซ้อน
เพราะลงทุนเฉพาะบริษัทที่เข้าใจง่าย แข็งแกร่ง มีประวัติอันยาวนาน เป็นกลยุทธ์ที่สร้างผลลัพพ์อันสุดยอด

2.ตัดสินใจลงทุนด้วยตัวคุณเอง โดยศึกษาความรู้เพิ่มเติมด้านบัญชีและตลาดเงิน อ่านหนังสือของกูรูที่เก่ง
เช่น เบนจามิน เกรแฮม , วอเร็น บัฟเฟตต์ และ ชาลี มังเกอร์

3.จงมีสติ ในช่วงตลาดหมีหรือตลาดกระทิง ซึ่งประกอบด้วยความกลัวและความโลภ
เกาะติดอยู่กับบริษัทที่ดี อย่าตัดสินใจลงทุนเพราะมีคนอื่นมาบอกหุ้นเด็ด

4.จงอดทน บัฟเฟตต์ บอกว่าเวลาถือหุ้นจะกินเวลาเป็น 10ปีขึ้นไป จึงจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
เปรียบตอนลงทุนDisney ปี 1966 เพียง31 cent และขายออกในปีต่อมา 48 cent
แต่ถ้าถือถึง มีค 2021 ราคาขึ้นไปถึง 197$

5.ซื้อธุรกิจไม่ใช่ซื้อหุ้น ถ้าเลือกธุรกิจที่ดีแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องราคา ปล่อยให้ผู้บริหารจัดการ
ซึ่งหลักในการเลือกหุ้นได้แก่
5.1 เข้าใจธุรกิจที่จะลงทุนได้
5.2 บริษัทมีประวัติการดำเนินงานที่ดีเป็นระยะเวลายาวนาน
5.3 ดำเนินธุรกิจโดยผู้บริหารที่มีความสามารถและมีความซื่อสัตย์สุจริต
5.4 ราคาหุ้นน่าสนใจ

6.จงมองหาบริษัทที่มีฟรานไซส์ หมายถึง ธุรกิจที่มีกำแพงและคูเมืองล้อมรอบอยู่ สามารถป้องกันคู่แข่ง
จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดได้ ซึ่งธุรกิจที่มีลักษณะแบบฟรานไซส์ คือ
6.1 จำเป็นหรือตอบสนองความต้องการ
6.2 ไม่ต้องการเงินลงทุนที่มากเกินไ
6.3 เป็นผู้นำตลาดและไม่มีคู่แข่งที่ใกล้เคียง
6.4 สามารถขึ้นราคาสินค้าหรือบริการอย่างอิสระ

7.ซื้อบริษัทที่เป็น Low technology แทนบริษัท High Technology ซึ่งตอนdot com ยังไม่มีกำไรเลย
บริษัทที่คุณปู่Buffett สนใจ ได้แก่ บริษัททำอิฐ บริษัทสี บริษัทพรม บริษัทเฟอร์นิเจอร์ และบริษัทชุดชั้นใน

8.ลงทุนแบบมุ่งเน้น และ ปฏิเสธการกระจายความเสี่ยงไปลงหุ้นเยอะตัว ปกติลงแค่ 5-10ตัวในพอร์ตเท่านั้น

9.ฝึกที่จะอยู่นิ่ง ไม่เทรดหุ้นรายวันเพราะจะเสียค่าคอมมิสชั่นสูงมาก
คุณปู่บัฟเฟตต์แนะนำให้ลงทุนหุ้นเป็นสิบปีขึ้นไป ไม่ใช่ลงทุนรายวัน อย่างงี้โบรครายได้หายแน่นอน
ในไทย เคยถามคุณธันวา อดีตนายกสมาคมไทยวีไอ ว่าเทรดบ่อยไหม
ปรากฏว่า บางปีไม่มีการซื้อขายเลย นี่เป็นลักษณะของวีไอที่ถือยาว

10.อย่ามองตัววิ่งคือราคาหุ้น
นักลงทุนเน้นคุณค่าไม่สนใจการเคลื่อนไหวขึ้น ลงของราคาหุ้นในระยะสั้นๆ ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดี
เอาเวลาไปติดตาม ศักยภาพของธุรกิจ ซึ่งก็คือ ผู้บริหาร กำไร กระแสเงินสด การคาดการณ์อนาคตของบริษัทดีกว่า

11.มองตลาดหุ้นขาลงให้เป็นโอกาส
ตลาดหุ้นขาลงเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นดีในราคาถูก ในขณะที่คนส่วนใหญ่หนีออกจากตลาดหุ้น
Washington Post , GEICO , Well Fargo คือตัวอย่างของการเข้าซื้อตอนตลาดขาลง

12.อย่าตีบอลทุกลูกที่ขว้างมา
คุณปู่บัฟเฟตต์ สนใจอ่านหนังสือของเทด วิลเลี่ยม ตำนานนักตีเบสบอลของทีม Red Sox
วิลเลียมจะตีเฉพาะลูกบอลที่ถูกขว้างเข้ามาในโซน สวีทสปอต ซึ่งทำให้ตีถูก
ดังนั้นคุณปู่แนะนำว่า อย่าตีบอลทุกลูกที่ขว้างมา เปรียบกับการซื้อหุ้น ธุรกิจที่ดีที่มาพร้อมกับกำไรในอนาคต
ที่เข้มแข็ง บริหารโดยผู้บริหารที่มีความสามารถ และ หาซื้อในราคาที่เหมาะสม ดังนั้นถ้าหุ้นไม่อยู่ข่ายของ
การซื้อ เขาจะปล่อยผ่านไป จนกว่าจะหาเจอครบทุกเงื่อนไข จึงจะเข้าซื้อ

13.อย่าสนใจเรื่องมหภาค สนใจแต่เรื่องเกี่ยวกับบริษัทที่จะลงทุน
คุณปู่บัฟเฟตต์ไม่เคยปล่อยให้เรื่องของมหภาคมีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อหุ้น
แต่การลงทุนครั้งสำคัญๆของเขา เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตแต่ละครั้ง ซึ่งนักลงทุนคนอื่นกลัวและหนีออกจากตลาด

14.จับจ้องมองการบริหาร
คุณปู่บัฟเฟตต์มักจะมองหาธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับผู้บริหารที่ยิ่งใหญ่เสมอ กุญแจสำคัญที่พิจารณาก่อนลงทุน
14.1 ทีมผู้บริหารทำงานเพื่อผู้ถือหุ้น หรือ เพื่อความมั่งคั่งของตนเอง
14.2 ผู้บริหารใช้งบประมาณอย่างรอบคอบ หรือ ใช้จ่ายแบบสิ้นเปลือง
14.3 ผู้บริหารทุ่มเทเพื่อเพิ่มมูลค่าของบริษัทหรือไม่
14.4 ผู้บริหารมีโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อประโยชน์ของนักลงทุนหรือไม่
14.5 ผู้ถือหุ้นถูกปฏิบัติแบบหุ้นส่วน หรือ แค่หุ่นไล่กา
14.6 รายงานประจำปีของบริษัทเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้องหรือไม่
14.7 ผู้บริหารรายงานข้อมูลทางบัญชีที่ถูกต้อง หรือ พยายามปกปิดข้อมูลความเป็นจริง

15.ราชาแห่งWall Streetไม่ใส่เสื้อผ้า
คุณปู่บอกว่า Wall Street เป็นที่เดียวที่ คนมีรถหรูมาฟังคำแนะนำจากคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า
คุณปู่ไม่เชื่อเรื่องการวิเคราะห์การลงทุนที่อยู่พื้นฐานของกราฟ ปริมาณ และ การเคลื่อนไหวของราคา
ซึ่งการวิเคราะห์เชิงเทคนิควิ่งสวนทางกับกรอบความคิดของปู่โดยสิ้นเชิง เพราะพื้นฐานของวีไอคือ
การดู มูลค่าของธุรกิจ

16.ฝึกที่จะคิดให้เป็นอิสระ
คุณปู่แนะนำว่าการคิดแบบอิสระคือความเข้มแข็งอย่างหนึ่งของเขา คุณจะถูกเพราะข้อเท็จจริงและเหตุผล
ของคุณนั้นถูกต้อง ไม่ว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือไม่
ตย ช่วงยุคฟองสบู่ Dotcom แสดงให้เห็นถึงความคิดอิสระ ไม่ว่าคนส่วนใหญ่จะเชื่อเรื่องการเติบโตของธุรกิจdotcom
แต่คุณปู่ไม่เชื่อ เนื่องจากไม่เห็นกำไรจากบริษัทเหล่านั้น ดังนั้นจึงไม่ลงทุน ช่วงปี 1990-2000 ทำให้performanceของ
พอร์ตคุณปู่ สู้ กองทุนที่ลงทุนในdotcom ไม่ได้ จนกระทั่งเกิดฟองสบู่dotcom และ ดัชนีNasdaq ตกลงไป 75%
ส่วนพอร์ตของปู่กลับมาเติบโตเหมือนเดิม ซึ่งพิสูจน์ว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นวิธีที่ถูกต้อง

17.จงอยู่ในขอบเขตความรอบรู้ของคุณ
จงสร้างโซนของความชำนาญขึ้นมา แล้วอยู่ในโซนนั้น อย่าโทษตัวเองถ้าพลาดโอกาสดีๆที่เกิดขึ้นนอกโซนที่คุณสร้าง
ธุรกิจที่คุณปู่ต้องการจะซื้อ ได้แก่
17.1 บริษัทขนาดใหญ่ที่มีกำไรก่อนภาษี 50ล้าน$
17.2 ธุรกิจต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง
17.3 ธุรกิจสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี โดยหนี้น้อยหรือไม่มีเลย
17.4 มีผู้บริหารที่เข้มแข็งอยู่แล้ว
17.5 ธุรกิจต้องเรียบง่าย ไม่มีเทคโนโลยีที่ซับซ้อน
17.6 มีราคาขายที่แน่นอน
ธุรกิจที่ปู่สนใจ ได้แก่ รองเท้าบูทคาวบอย อิฐ พรม และสี

18.อย่าสนใจการพยากรณ์ตลาดหุ้น ให้ใช้เวลาไปกับการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในอดีตและปัจจุบัน
ของบริษัทเพื่อที่จะได้ข้อมูลและไอเดียเกี่ยวกับบริษัทในอนาคต มองโอกาสที่น่าเชื่อถือ
อย่าปล่อยให้เสียงรบกวนของการทำนายตลาดเข้ามาขวางทางการตัดสินของเรา

19.รู้จักกับนายตลาด และ Margin of Safety
คุณปู่เคยพูดไว้ว่า นักลงทุนที่ดี คือเรียนรู้แนวความคิดของ เบนจามิน เกรแฮม ในเรื่อง นายตลาด
มองหา Margin of Safety (ส่วนต่างระหว่างราคาที่แท้จริงกับราคาที่ซื้อได้ต่ำกว่าในช่วงตลาดหดหู่)
และ ความคิดว่าหุ้นคือการเป็นเจ้าของส่วนนึงของธุรกิจ

20.จงตื่นกลัวเมื่อคนอื่นกำลังโลภ และ จงโลภเมื่อคนอื่นกำลังตื่นกลัว
เตรียมพร้อมเสมอและเข้าลงทุนในเวลาที่ตลาดตกลงมาอย่างหนัก

21.อ่าน อ่านให้มาก แล้วคิดให้ดี
กฎข้อแรก คือ อ่าน , อ่าน , อ่านให้มาก
กฎข้อสอง คือ เลือกอ่าน เช่น หนังสือ The Intelligent investor ,Common Stocks and Uncommon Profit,
จดหมายที่คุณปู่เขียนถึงผู้ถือหุ้น

22.ใช้แรงม้าของคุณให้เต็มที่
22.1คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีต้นแบบที่เหมาะสม
22.2ต้องมีความพยายามเพื่อพฤติกรรมที่เหมาะสม นิสัยดี และ สติที่สมบูรณ์
22.3ให้จดนิสัย ข้อปฏิบัติ และ หลักการที่ต้องการทำให้เป็นนิสัยของคุณ
22.4ความสำเร็จทางการเงินมาจากการมีนิสัยที่ดี

23.อย่าทำพลาด แล้วเรียนรู้จากความผิดพลาดของผุ้อื่น เพื่อที่จะไม่ทำมัน

24.ก้าวสู่การเป็นนักลงทุนผู้รอบรู้จะต้องพัฒนานิสัยการลงทุนแบบรอบรู้
หลีกเลี่ยงปัญหาทางธุรกิจให้ได้มากที่สุด และ แก้ปัญหาทางธุรกิจให้น้อยที่สุด
ตัวอย่างที่เอามาพูดเสมอ คือ พยายามข้ามรั้วที่สูงแค่ 1 ฟุต ดีกว่าพยายามกระโดดข้ามรั้วที่สูง 7 ฟุต
โพสต์โพสต์