ไม่เก่งภาษา…ลงทุนต่างประเทศได้ไหม? / Pocket investor

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pocket investor
Thai VI Partner
โพสต์: 195
ผู้ติดตาม: 304

ไม่เก่งภาษา…ลงทุนต่างประเทศได้ไหม? / Pocket investor

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Investor's practice: สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้จะมาแชร์มุมมองของผมเกี่ยวกับการลงทุนต่างประเทศ ในฐานะ "คนอ่อนภาษา" ที่สมัยเด็กๆไม่เคยสอบวิชาภาษาอังกฤษได้คะแนนดีเลย จะเป็นอย่างไร ลองมาดูกันเลยครับ
.
เวลามีคนมาถามเกี่ยวกับการศึกษาหุ้น ผมมักจะแนะนำเสมอว่าให้ลอง "ศึกษาหุ้นต่างประเทศ" ดูครับ เพราะ ยังมีหุ้นอีกมากมายที่น่าสนใจ เป็นตัวเลือกให้สามารถหาโอกาสลงทุนได้อีกมาก นอกเหนือจากการลงทุนในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว
.
อย่างไรก็ตามในหลายๆครั้ง ข้อจำกัดอย่างหนึ่งที่ผมมักจะได้ยินบ่อยๆ คือ "ผมไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยครับ จะสามารถลงทุนได้หรือเปล่า?"
.
ส่วนตัวในฐานะคนที่อ่อนภาษาเหมือนกัน ผมเข้าใจดีเลยครับ แต่คงปฎิเสธไม่ได้ว่า Skill ด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งจำเป็นมากๆในยุคปัจจุบัน ไม่เพียงแค่การลงทุนในหุ้นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันที่ภาษาต่างประเทศมีบทบาทมากขึ้นทุกๆวัน ดังนั้น คงหลีกเลี่่ยงไม่ได้เลย ที่คุณจะต้องพัฒนา Skill ในด้านภาษาให้เก่งขึ้น
.
หากคุณจะออกไปลงทุนต่างประเทศ คุณควรจะต้องมีพื้นฐานด้านภาษาอยู่บ้าง อย่างน้อยๆก็ควรจะได้ "ภาษาอังกฤษพื้นฐาน" เพราะ การศึกษาหุ้นต่างประเทศทั้งหมด คงไม่มีภาษาไทยให้อ่าน/ฟังเหมือนหุ้นไทย ยิ่งใครเก่งภาษามากๆก็จะยิ่งได้เปรียบและใช้ความพยายามน้อยกว่าคนที่ภาษาไม่แข็ง
.
อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วการศึกษาด้านการลงทุนต่างประเทศนั้น Skill ส่วนใหญ่ที่เราควรจะมี คือ "ด้านการรับสาร" คือ "อ่าน" และ "ฟัง" ที่ใช้ในการอ่านเอกสารต่างๆ ฟังคลิป Video หรือ การทำ Online Scuttlebutt ส่วน Skill "พูด"และ "เขียน" นั้น อาจจะไม่ได้จำเป็นมากนัก
.
เป็นโชคดีอย่างหนึ่งที่ในยุคปัจจุบัน มีตัวช่วยสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ไม่ได้เก่งภาษามากนัก คือ "Google Translate" ที่จะช่วยให้การอ่านข้อมูลต่างๆของคุณง่ายขึ้นมาก เวลาเจอคำศัพท์ที่แปลไม่ออก ก็เพียงแค่ Copy คำนั้น/ประโยคนั้น ลงใน Google Translate และพยายามทำความเข้าใจหน่อย เชื่อว่าทุกท่านก็สามารถเข้าใจได้แน่นอน
.
แต่ถ้าใครรู้สึกว่าอ่านไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ แรกๆอาจจะ Copy เอกสารไปทั้ง Paragraph ลงใน Google ไปเลยก็ได้ครับ แต่ก่อนไปอ่านภาษาไทยที่แปลโดย Google แล้ว อยากให้คุณลองฝึกแปลด้วยตัวเองก่อน (ถูกผิด ไม่เป็นไร) และค่อยไปเทียบกับของ Google ว่าเราแปลได้ตรงแค่ไหน เมื่อทำไปเรื่อยๆคุณอาจจะพบเจอคำศัพท์ที่ใช้กันบ่อยๆ คุณก็จะได้คลังคำศัพท์มากขึ้น และ Skill การอ่านของคุณก็จะค่อยๆดีขึ้นเองครับ
.
ส่วนในด้านการฟังคลิปต่างๆ Google อาจจะไม่ได้ช่วยคุณมากนัก คงต้องฝึกฟังบ่อยๆน่าจะช่วยให้เก่งขึ้นเองครับ ซึ่งเป็นโชคดีอย่างหนึ่งที่คลิปต่างๆที่ต้องฟัง เช่น "Earning Call" ก็มี Transcript ที่สามารถอ่านได้ด้วย คุณลองฟัง Earning Call ว่าเข้าใจมากน้อยแค่ไหน แล้วค่อยมาอ่าน Transcript ก็จะช่วยพัฒนาด้านภาษาอังกฤษได้เหมือนกัน
.
โดยทั่วไปแล้วการลงทุนในต่างประเทศ แทบทุกประเทศจะมีภาษาอังกฤษให้สามารถอ่านได้ การลงทุนในตลาดอเมริกาหรือยุโรปที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก คงไม่ใช่เรื่องยากมากนัก
.
อย่างไรก็ตามหากคุณสนใจในตลาดประเทศอื่นๆที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น จีน เวียดนาม หรือ ญี่ปุ่น เป็นต้น ก็ไม่ได้แปลว่าจะลงทุนไม่ได้เลย แต่การมีความรู้ภาษาของประเทศนั้นๆไว้บ้าง จะได้เปรียบกว่ามากๆ เพราะ หลายๆครั้ง ข่าวสารต่างๆมักจะออกมาเป็นภาษาท้องถิ่น หรือหลายบริษัทขนาด กลาง-เล็ก อาจจะไม่มี Website/เอกสาร ภาษาอังกฤษให้อ่านด้วยซ้ำ กรณีแบบนี้ Google translate อาจจะไม่ได้ช่วยเรามากนัก เพราะ เราอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรไปอ่านตรงไหน
.
จะเห็นได้ว่า แม้เทคโนโลยีปัจจุบันจะทำให้การศึกษาการลงทุนง่ายขึ้นมากๆ แต่ความรู้ทางภาษาคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราต้องฝึกฝนพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่มุ่งมั่นแล้ว นอกจากการศึกษาความรู้ด้านธุรกิจ การเงิน การบัญชี จิตวิทยาการลงทุน ฯลฯ ความรู้ทางภาษาก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่เราควรต้องหมั่นพัฒนาเช่นกัน
.
ส่วนตัวผมคิดว่าทุกๆคนสามารถเรียนรู้จุดนี้ได้ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้คุณมีพื้นฐานภาษาดีแค่ไหน แต่มันขึ้นอยู่กับความพยายามและความเชื่อว่า "ฉันสามารถเก่งขึ้นได้ทุกๆวัน" มากกว่าครับ
.
เพราะ นักลงทุน คือ นักเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง
.
ทั้งหมดเป็นแค่มุมมองของผมเพียงคนเดียว อาจจะถูกบ้างผิดบ้างนะครับ ใครมีความคิดเห็นอย่างไรสามารถ comment มาคุยกันได้เลยนะครับ : )
Writer: Pocket investor
โพสต์โพสต์