อยากจะเป็นนักลงทุน VI ต้องเก่งเศรษฐศาสตร์แค่ไหน? / Pocket investor

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pocket investor
Thai VI Partner
โพสต์: 193
ผู้ติดตาม: 297

อยากจะเป็นนักลงทุน VI ต้องเก่งเศรษฐศาสตร์แค่ไหน? / Pocket investor

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Investor's practice: สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้ผมจะมาแชร์มุมมองเกี่ยวกับอีกศาสตร์ที่สำคัญในการลงทุน คือ "เศรษฐศาสตร์" แล้วนักลงทุน VI จำเป็นต้องเก่งเศรษฐศาสตร์แค่ไหน? เราลองมาดูกันเลยครับ
.
เศรษฐศาสตร์ (Economics) เป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรที่มีจำกัด ในการสร้างสินค้าหรือบริการต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ด้วยประสิทธิภาพสูงที่สุด เป็นวิชาที่อยู่กับโลกมาช้านานและเป็นฐานความคิดต่อยอดไปยังวิชาสายการเงินและบริหารธุรกิจ
.
วิชาเศรษฐศาสตร์ แบ่งออกเป็น 2 สาขาหลัก คือ
- เศรษฐศาสตร์จุลภาค (Microeconomics) ที่มุ่งศึกษาพฤติกรรมในระดับบุคคลหรือองค์กรธุรกิจ เช่น การกำหนดราคาสินค้า ปัจจัยการผลิตและต้นทุน อรรถประโยชน์ การแข่งขันในตลาด เป็นต้น
.
- เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics) มุ่งศึกษาโครงสร้างเศรษฐกิจภาพใหญ่ระดับประเทศ ภูมิภาค หรือระดับโลก เช่น GDP การบริโภค อัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ การค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น
.
สำหรับการลงทุนแบบ VI ที่มีมุมมองเปรียบเสมือนการ "ร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจ" ซึ่ง "ทุกๆธุรกิจย่อมอยู่ในระบบเศรษฐกิจ" ดังนั้น ความเข้าใจเศรษฐศาสตร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้สามารถวิเคราะห์กิจการได้ดีมากขึ้น นักลงทุน VI จึง "จำเป็น" ต้องมีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์บ้าง และไม่แปลกที่เราจะเห็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายๆท่าน จบมาทางด้านนี้ เช่น Benjamin Graham หรือ Warren Buffett
.
ในเมื่อความรู้ทางเศรษฐศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็น คำถาม คือ เราต้องเก่งเศรษฐศาสตร์แค่ไหน จึงจะสามารถลงทุนแบบ VI ได้?
.
มุมมองส่วนตัวคิดว่า คุณต้องเข้าใจ "พื้นฐาน" แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะด้าน "Microeconomics" ได้แก่ แนวคิดกลไกราคา Demand และ Supply, ลักษณะต้นทุนการผลิต, รูปแบบการแข่งขันของตลาด เป็นต้น ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณสามารถวิเคราะห์และเลือกกิจการที่ดีได้ และเข้าใจผลของการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่างๆที่จะมากระทบกับธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น ทิศทางการเปลี่ยนแปลง Demand และ Supply ของธุรกิจถุงมือยาง ในช่วงเกิด COVID-19 เป็นต้น
.
ส่วนด้านภาพ "Macroeconomics" เช่น GDP กับ Engine ทั้ง 4, ภาวะเงินเฟ้อ, นโยบายการเงินและการคลัง, เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ เป็นต้น ส่วนตัวคิดว่า "ไม่ได้ถึงกับเป็นสิ่งจำเป็น" แต่การที่พอเข้าใจสิ่งเหล่านี้ไว้บ้างย่อมดีกว่าการไม่รู้ ที่จะทำให้คุณมองเศรษฐกิจภาพรวมได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งบางครั้งกิจการที่คุณลงทุนอาจจะได้รับผลกระทบจากภาพใหญ่
.
ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียง "ความรู้พื้นฐาน" ที่คุณเคยเรียนมาแล้วในระดับมัธยมหรือสามารถศึกษาได้ทั่วไปผ่านโลกออนไลน์
.
คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึก จบปริญญาด้านนี้หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐศาสตร์ ก็สามารถลงทุนแบบ VI ได้อย่างแน่นอน เพราะ นักลงทุน VI ใช้แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์เป็นเพียง "Logic" ที่ถูกต้องเพื่อประกอบการวิเคราะห์เท่านั้น
.
คุณไม่จำเป็นต้องสามารถ พยากรณ์ทิศทางเศรษฐกิจ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ไม่ต้องสร้างตัวแบบความสัมพันธ์ของ Indicators ต่างๆ ไม่ต้องวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายภาครัฐต่างๆว่าจะสร้าง Multiplier ให้ระบบเศรษฐกิจได้เท่าไร เพราะ นั่นอาจจะเป็นหน้าที่ของ "นักเศรษฐศาสตร์" มากกว่า
.
สรุป คือ นักลงทุน VI ควรต้องพอมีพื้นฐานความรู้ทางเศรษฐศาสตร์บ้าง เพื่อเป็นกรอบความคิดในการมองภาพกิจการ แต่สำหรับ VI ที่มีหน้าที่เลือกหุ้นเป็นรายตัว การเข้าใจรูปแบบการทำธุรกิจของแต่ละบริษัท เข้าใจกลยุทธ์และวิธีทำการตลาด ความรู้งบการเงิน การประเมินมูลค่า จิตวิทยาการลงทุน การอ่านคน การเข้าใจโลก และการมีวินัย คงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าครับ
.
ทั้งหมดเป็นแค่มุมมองของผมต่อการลงทุนแบบ VI เท่านั้น อันที่จริง ยังมีการลงทุนรูปแบบอื่นๆ เช่น สาย Momentum investor ที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์การไหลของ Fund flow และทิศทาง Asset Allocation หรือนักลงทุนที่เน้นในหุ้นกลุ่มวัฏจักร ที่อิงกับปัจจัย Macro factor มากๆ แบบนี้อาจจะต้องเก่งภาพ Macro หน่อยครับ
Writer: Pocket investor
โพสต์โพสต์