MoneyTalk จัดทัพลงทุน ในช่วงโควิด

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2607
ผู้ติดตาม: 248

MoneyTalk จัดทัพลงทุน ในช่วงโควิด

โพสต์ที่ 1

โพสต์

MoneyTalk ปรับทัพลงทุนหลังCovid
ดร สมจินต์ ศรไพศาล อุปนายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ดำเนินรายการโดย ดร ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ ดร นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
สรุปโดย Seminar Knowledge by Amorn

ดร สมจินต์ มาพูดอัปเดทเรื่องจัดทัพลงทุน หลังเจอโควิด โดย
การเปิดภาพใหญ่ของการวางแผนทางการเงิน
ตอนนี้ ใครๆก็รู้จักเรื่อง New normal การบริหารการลงทุนไม่พอ
สำหรัลการที่จะอยู่ได้ดีในสภาวะปัจจุบัน ต้องเป็นแบบ Whole Process

ดร สมจินต์ ยกตัวอย่างของ เศรษฐีสามท่านมาประกอบการอธิบายในขั้นต่อไป

คนแรก John D Rockefellerเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันเจ้าของกิจการน้ำมัน
Standard Oil บริษัทที่ทำธุรกิจผลิตปิโตรเลียมในสหรัฐและเคยเป็นผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่
ที่สุดของโลก เคยล้มลุก คลุกคลานมาก่อนในธุรกิจน้ำมัน พูดไว้ว่า
การหาเงินนั้นยาก แต่การรักษาเงินลำบากกว่า

คุณJohn เคยสอนเด็กๆ ว่าจะให้เงิน30 centทุกสัปดาห์ โดยให้เด็กแบ่งเงินออกเป็น3ส่วน
1.ใช้จ่ายที่จำเป็น 2. เก็บออมเพื่ออนาคต 3. แบ่งปันให้คนอื่น
ถ้าใครอยากได้เพิ่มเติม ก็ต้องทำอะไรเพิ่ม เช่น การตัดหญ้า การไปจับกบ เป็นต้น
เด็กๆจะมารวมตัวกันที่ห้องสมุด เพื่อรายงานเรื่องเงินที่ได้ไป ทำตามแผนหรือไม่
เด็กๆก็จะเติบโต และ เข้าใจในเรื่องของการเงิน

2.Bill Gate เจ้าพ่อ Microsoft เป็นผู้นำ Operating system(OS) ไปให้ IBM ใช้บนเครื่องPC
คุณพ่อ คือ Bill Gate Senior เป็นนักกฎหมาย จะเล่าเรื่องคดีให้เด็กๆฟังทุกวัน เล่าเรื่องกลยุทธ์การต่อสู้อย่างไร
บิลเกตต์ เริ่มนำไปใช้กับพี่สาวตอนอายุ12 ปี ดังนั้นพอมีDealกับ IBM ก็เลยร่างสัญญากับIBM
เป็นการยืมใช้ OS บนเครื่องIBM PC โดย Microsoft สามารถนำ os ไปให้ผู้ผลิตใช้ด้วย สุดท้ายทำให้บริษัทเติบโต
แซงหน้าIBM

3.Warren Buffett นักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก
ในวัน Christmas จะแจกใบหุ้น เช่น บริษัท McDonald, Coke ให้กับเด็กๆ
และสอนว่าถ้าอยากรู้ว่ามีมูลค่าเท่าไหร่ ก็ไปเปิดดูราคาที่ Wallstreet Journal
เป็นการสอนเรื่องการลงทุนอีกวิธีนึง

สรุป
Bill Gate Senior สอนเรื่องการทำหากิน การหาเงิน
John D Rockefeller สอนการใช้เงินและการออมเงิน
Warran Buffett สอนเรื่องการลงทุน

ดังนั้น ความสำเร็จทางด้านการลงทุน ประกอบไปด้วย
1.ความสามารถในการหาเงิน
2.ความสามารถในการออมเงินบางส่วนจากที่หามาได้
3.นำเงินที่ออม มาลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าทำได้ดีทั้งสามอย่าง ในช่วงทำงานแรกๆ ก็สามารถทำต่อไปเรื่อยๆได้
ถึงแม้จะมีNew Normalมากระทบ เป็นภาพใหญ่ที่สำคัญ

มองเชิงบวก ในช่วงCovid ค่าใช้จ่ายลดลง โอกาสมีความสุขโดยไม่ใช้เงินมีมากขึ้น

เรามาดูตัว Wealth Ratio = รายได้ / รายจ่าย = (รายได้จากการทำงาน – รายได้จากทรัพย์สิน)/รายจ่าย

เป็นstepในการวัด Wealth ถ้ามีค่ามากกว่า หนึ่ง แสดงว่าดี ชีวิตจะดีขึ้น
ซึ่งดัชนี Wealth Ratio เป็นของ Robert kiyosaki คิดค้นขึ้น
ในช่วงเกษียณ ไม่มีรายได้จากการทำงาน

Wealth Ratio = รายได้จากทรัพย์สิน / รายจ่าย ถ้าเท่ากับหรือมากกว่า หนึ่ง แสดงว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว

หลักเกณฑ์
1. เราควรมองเป้าหมายในแต่ละช่วงชีวิต พยายามสร้างความสามารถในการหารายได้
2. ควบคุมรายจ่ายอย่างเหมาะสม ไม่ให้กระทบต่อWealth
ดร สมจินต์ บอกว่า ในช่วงโควิด 1ปี wealthเพิ่มขึ้น เพราะว่า รายจ่ายลดลงนั่นเอง

หนังสือ Happy Money ฉลาดใช้ ให้ความสุข เขียนโดย Elizabeth Dunn & Michael Norton
ซึ่ง TMBAM Eastspring นำมาแจกเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ถือหน่วยปี2562
บอกว่า จาก research base การใช้จ่ายให้เกิดความสุขมาจาก

เงินที่ใช้ซื้อของ สู้เงินที่ไปซื้อประสบการณ์ไม่ได้
เช่น เงินใช้จ่ายท่องเที่ยวกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท เป็นความสุขที่ยาวนานกว่า
ในช่วงโควิด เราออกไปทานอาหารนอกบ้านไม่ได้ ก็จะทำกับข้าวทานเอง
หรือ การเดินเล่นกับคนในครอบครัว ก็มีความสุขเพิ่มขึ้น
ดังนั้น Rockyfeller สอนเด็กๆ ทำให้การออมเงินง่ายขึ้น และทำให้การลงทุนดีขึ้น
เด็กรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่อยากลองสิ่งใหม่ๆ ซึ่งมาจาก สามส่วนคือ
1.ตัวเด็ก 2. พ่อ แม่ 3.นโยบายภาครัฐ
การเติบโตของเศรษฐกิจยุคใหม่ เด็กหนุ่มสาวมีความหวัง กล้าทดลองสิ่งใหม่ๆ
เสนอสินค้าใหม่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
ถ้าพ่อ แม่ มีฐานะดี เด็กก็จะกล้าทำมากขึ้น ไม่กลัวความล้มเหลว

การลงมือทำธุรกิจ สร้างนวัตกรรม ดร สมจินต์สนับสนุนให้ทำ
บางประเทศ สนับสนุนStart up และช่วยเหลือยามล้มเหลว

อาจารย์ไพบูลย์บอกว่า การจัดทัพลงทุนแบบเดิม มีกองหน้า กองกลาง กองหลัง
ต้องมีการปรับกลยุทธ์ไหม

ดร สมจินต์ตอบวา ต้องมีการปรับ แต่หลักการยังเหมือนเดิม
ชีวิตขับเคลื่อนด้วยวัตถุประสงค์

เงินแบ่งออกเป็นสามส่วน
1.เงินเก็บออมไว้สร้างอนาคต มีระยะเวลายาว เงินก้อนนี้รับความเสี่ยงได้ดี
มีสินทรัพย์ให้ลงทุนคือ หุ้น และ กองทุนหุ้น

2.เงินที่ใช้ในสภาพคล่อง เลือกให้ปลอดภัยไว้
ได้แก่ เงินฝาก กองทุนMoney market fund, Short term Fix Income

3.เงินที่อยู่ได้ระหว่า 1 ปี ถึง 7ปี ก็อยู่ตรงกองกลางได้
ได้แก่ตราสารหนี้ระยะยาว อสังหาริมทรัพย์ และ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน

อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง
เราต้องเรียนรู้ว่าเงินแบ่งตามหน้าที่ โดย

กองหน้า คือ หุ้นที่ชนะเรื่อยๆ เช่น SET50, S&P500 หรือ หุ้นบริษัทใหญ่ที่ได้เปรียบการแข่งขัน
สามารถปรับตัวขึ้นใน innovation ได้ แสวงหาการเติบโตในบริษัทเล็กกว่า
ถือเป็นเครื่องมือในการลงทุนหลัก
ยกตัวอย่าง Global Quality Growth ดร ชอบกระบวนการคัดเลือกหุ้น
วิเคราะห์การเติบโตในการสร้างกระแสรายได้ กระจายความเสี่ยง มองถึงการเติบโต
ซึ่งกองทุนแบบนี้จะไม่ตกสมัย มีการวิเคราะห์เศรษฐกิจ เวลาขึ้นก็ขึ้นพอสมควร เวลาตก ก็ลงไม่มากเกินไป
แต่ผลตอบแทนจะไม่จุใจเหมือน ค่าย Ark , Belli Giftford
คนมีเงินลงทุน ควรรับความเสี่ยงเพิ่ม เช่น ลงทุนในหุ้น และต้องคุมความเสี่ยงด้วย

ซึ่ง Bill Gate Senior บอกว่า ความเชื่อมั่นสูงในบางเรื่อง ทุ่มไป ความเสี่ยงเพิ่ม อาจเกิดความผิดพลาดได้
การคิดเก็งกำไร ควรหลีกเลี่ยง

ศึกษาและ เห็นหนทางก็ควรทำ เช่น ลงทุนในหุ้นเวียดนาม หรือ กลุ่ม innovation

ดร สมจินต์ พูดถึง นวัตกรรมสมัยใหม่ การadoptเร็วขึ้นเยอะ โดยเฉพาะช่วงcovid
มีกองทุนสนใจมาลงทุน น่าสนใจแต่ควรจัดสัดส่วนให้เหมาะสม
ผลตอบแทนสูง ผันผวนสูง ต้องถามตัวเองว่ารับความเสี่ยงได้ไหม
ส่วนหุ้นเวียดนาม ก็น่าสนใจ มีชนชั้นกลางเยอะ เศรษฐกิจเติบโตดี
หุ้นจีน เศรษฐกิจเติบโตสูง ทั้งสองประเทศ ควรจัดสัดส่วนให้เหมาะสมตามความเสี่ยง
น้ำหนักการลงทุน อยากให้ลงตามความเสี่ยงที่เรารับได้
ถ้าเป็นเงินเย็น อยากเพิ่มสัดส่วนหุ้นก็ไม่เป็นไร

ส่วนพันธบัตร ผลตอบแทนน้อยมาก และผันผวนได้มากด้วย
บิตคอย ยอมรับว่ายังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ถ้าสนใจศึกษา ก็สามารถทดลองจากเงินน้อยๆก่อนได้
ส่วนนี้ต้องยอมรับอาจขาดทุนได้หมด การเรียนรู้สิ่งใหม่ไม่เสียหายอะไร
ส่วนการลงทุนหุ้นinnovation รายตัวมีความเสี่ยง ให้ไปลง Innovation Fundจะดีกว่า

สำหรับการจัดสัดส่วนของกองหน้า กองกลาง และ กองหลัง
ทุกคนต้องทำความเข้าใจและจัดสัดส่วนเอง
Fix income ผลตอบแทนค่อนข้างน้อย ถ้าถือเยอะ ก็อาจไม่ได้อะไร
กองกลางและกองหลัง ตอนนี้ใกล้กันมากเรื่องผลตอบแทน แต่ความเสี่ยงยังต่างกัน
กองหน้า ถ้ารับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น ก็ขยายส่วนกองหน้าได้

สรุป กองกลางและกองหลัง สามารถยุบรวมได้
ส่วนกองหน้าขยายให้สัดส่วนเพิ่มได้ แต่ต้องดูความเสี่ยงของแต่ละคนด้วย

สุดท้ายขอขอบคุณ ดร สมจินต์ที่มาอัปเดท เรื่องจัดทัพการลงทุน ครับ
ขอบคุณ ผู้ดำเนินรายการ ดร ไพบูลย์ และ ดร นิเวศน์ ครับ
แนบไฟล์
2E76DAD1-1463-46DC-BB29-76D374813860.jpeg

โพสต์โพสต์