สรุป ThaiVI Go EP.1 - หุ้นญี่ปุ่น (On Clubhouse20/2/2021)

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 1

สรุป ThaiVI Go EP.1 - หุ้นญี่ปุ่น (On Clubhouse20/2/2021)

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สรุป ThaiVI Go EP.1 - หุ้นญี่ปุ่น (Japanese stock market)
ช่วงที่ 1 Panel discussion

มุมมองเศรษฐกิจญี่ปุ่น?
อ.เกด
สภาพเศรษฐกิจนิ่งมา 30 ปี เมื่อก่อนรู้สึกข้าวของแพง จนเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้รู้สึกแพงขนาดนั้นแล้ว
บริษัทญี่ปุ่นมีหลายแห่ง active ออกไปลงทุนต่างประเทศ
หรือ partner กับประเทศอื่น เช่น ธุรกิจบริการ/ดูแลผู้สูงอายุ
บริษัทที่เติบโตได้แกร่งก็แกร่งไปเลย ได้ market share ในโลก 70-80% อย่าง พวก B2B เช่น
Murata อะไหล่ ชิพ อิเลกทรอนิกส์ต่างๆ, Shimano ชิ้นส่วนจักรยาน
ญี่ปุ่นเวลาทำอะไร focus อย่างเดียวแล้วไปให้สุด

ดร.ภูมิ
ทุกประเทศ หรือทุกอุตสาหกรรมก็จะมีธุรกิจที่น่าสนใจเทียบกับบริษัทอื่น
สังคมผู้สูงอายุ GDP ไม่ค่อยโต ลดดอกเบี้ยก็ยังกระตุ้นการบริโภคไม่ได้
ก็เป็นภาพ macro ที่เป็นมานานยังแก้ไขไม่ได้

ในประเทศพอเริ่มตัน บางบริษัทก็มองหาโอกาสโตต่างประเทศ
แต่ก็ไม่ใช่ทุกประเทศที่ไปจะประสบความสำเร็จ
พฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน
อย่างเช่น uniqlo ออกไปก็สำเร็จ แต่ขณะบางห้างออกไปก็ไม่สำเร็จ
ขึ้นกับกลยุทธ์และ competitive advantage ที่เอาไปประยุกต์ใช้ได้
ถ้าเจอบริษัทอย่าง uniqlo ได้ก็เจอโอกาสลงทุนที่ดีได้

ลักษณะเฉพาะตัวคนญี่ปุ่น
-การทำงาน จริงจัง มีความเป็นทีมสูง เช่น ทำโปรเจคร่วมกันอยู่ถึงเที่ยงคืนก็จะอยู่กันหมด
ใครที่ไม่ทำตามทีม เพื่อนจะรู้สึกว่าแปลก
- ใส่ใจรายละเอียดมาก เช่น ร้านแกงกะหรี่ ใส่พริกกี่เม็ด ข้าวมากน้อย
เชื่อว่าเรื่องการมีระบบที่เอาไปใช้ต่อได้
- เกาะกันเป็นกลุ่มก้อน มี community ถ้าซื้อสินค้าคล้ายกันก็ เลือกของญี่ปุ่นก่อน

อ.เกด
อย่างบางบริษัททำเกลียวจักรยาน ก็ทำอย่างเดียวไปตลอด
ซุปเปอร์มาร์เก็ท รายได้กำไรเติบโต 32 ปีตลอด
จากความใส่ใจ ทำ cooking support
ตัดผัดตัดเนื้อให้แม่บ้าน เค้า focus ซุปเปอร์อย่างเดียว
แต่ปรับตัวตามยุคตามสมัย

มุมมองตลาดหุ้นญี่ปุ่น?
พี่โจ๊ค
เสริมบริษัทที่พี่วัฒน์พูดถึง Uniqlo บริษัทชื่อ Fast Retailing, Jins ขายแว่นตา ,
Muji ทำหลายอย่าง นอกจากขายเสื้อผ้า มีขายของกิน มีโรงแรมด้วย ชื่อว่า Ryohin Keikaku
หุ้นญี่ปุ่น 3 พันกว่าตัว มี 4 ตลาดหลักๆ
TSE 1,2 (Tokyo stock exchange) เป็นตลาดใหญ่
Mothers (“Market of the high-growth and emerging stocks”)
เป็นที่บริษัทโตสูง พวกเทคโนโลยีเข้าตลาดนี้ ไม่ค่อยมีเงื่อนไขควบคุมมากนัก ขาดทุนก็เข้าได้
Jasdaq เป็นตลาดหุ้นที่โตสูง เยอะเหมือนกัน ต่างกันที่หลายบริษัทมีกำไรแล้ว มีปันผลด้วย
ความถูกแพง ตลาดใหญ่ TSE, Jasdaq pe เฉลี่ย 20, pbv เกือบ 1 เท่า
ที่ผ่านมา 30 ปีก็น่าเบื่อมาก ขึ้นๆลงๆ
ตั้งแต่ 1985 เป็นช่วงที่บูมมากเคยไป 4 หมื่นจุดครั้งหนึ่ง ฟองสบู่แตกตกมาต่ำสุด 7 พันจุด
ล่าสุดเพิ่งทำ new high ในรอบ 30 ปี
เมื่อก่อนการลงทุนมักเน้นกันไปที่พวก บ.ใหญ่ sony, fuji, hitachi
แต่ล่าสุดคุยกับวุฒิเมื่อต้นปี คิดว่ามี potential คือเรื่อง digital transformation
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ conservative ไม่ค่อยอยากเปลี่ยนแปลง ceo มีอายุเฉลี่ยเกิน 60 ปี
ไม่ค่อยอยากเปลี่ยนแปลง รัฐไม่ได้มีการเอื้อให้เอกชนทำงานได้ง่าย เช่น ต้องมีตรายาง
สิ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงได้มากคือ covid
- คนญี่ปุ่นเจอหน้ากันไม่ได้ ทั้งที่ธรรมเนียมต้องนัดเจอกัน จึงทำให้เจอกัน online มากขึ้น
- รัฐบาลญี่ปุ่นต้องออกกฏให้ใช้ e-signature มีหุ้นหลายตัวเกี่ยวข้องกับ transformation
- มีตั้งกระทรวง digital ช่วยเหลือบริษัทให้เปลี่ยนแปลงไป digital ได้ง่ายขึ้น
ก็มีบริษัท หรืออุตสาหกรรมคล้ายอเมริกา อย่าง
Cloudstrike ญี่ปุ่นมี Cyber Security Cloud
Docusign ญี่ปุ่นมี Cloudsign
ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจหุ้นเทคโนโลยีเหมือนเพิ่มเริ่มต้น

คนที่เทรดหุ้นเทคมักจะดู P/S
แต่ดูหุ้นอเมริกาเทียบญี่ปุ่นจะเห็นการเติบโตที่ทำได้ 50-60% แต่ p/s 10
ความถูกแพงหุ้นยังไม่ price in มากเท่าไร
จึงเป็นจุดน่าสนใจศึกษาเพิ่มเติม และเป็นโอกาสลงทุนได้

คุณวุฒิ
ปีที่แล้วลงทุนอเมริกาหุ้น technology เช่น cloudstrike, teledoc
เห็นหุ้นปรับ multiple ขึ้นมาจากที่คนตระหนักว่าเทรนด์ดิจิตัลจะไปได้ไกล
ยกตัวอย่าง ความถูกแพงต้นปี 20 กับตอนนี้
Teledoc p/s 15 ตอนนี้ 25 , Cloud strike p/s 20 ตอนนี้ 40-50 เท่า
ในตลาดหุ้นญี่ปุ่นบริษัทเป็น manufacturing , conglomerate ยังเป็นภาพ old economy
ไม่มีภาพ growth หรือ innovation แบบอเมริกาเท่าไร
อย่าง Sony, Uniqlo, Panasonic, Sumitomo เป็นบริษัทใหญ่ที่ผ่านการเติบโตแรงมากแล้ว

ปีก่อนได้รับแรงบันดาลใจจากคุณแดม แนวลงทุนแบบ VC
ซึ่งที่จริง VC ต้องลงทุน early stage หน่อย รับความเสี่ยงสูง ได้ valuation ต่ำ
แม้ซื้อหุ้นในราคา multiple ต่ำมาก ซึ่งบริษัทนั้นอาจหายไปเลยก็ได้ กว่าจะเข้าตลาดหุ้น
แต่ถ้ายืนไปถึงแค่ ipo ก็กำไรเยอะมากแล้ว
ถ้าหากเราใช้แนวคิดลงทุนแบบ VC บน multiple
ที่ตลาดหุ้นอเมริกาตอนนี้เรากำลังเสียเปรียบบางมุม
เหมือนเราใช้วิธีคิดแบบเค้า แต่ซื้อแพงกว่าเค้ามาก จึงคิดว่าอาจเป็นอะไรที่ดูเสี่ยงสูงไป

พอมาเจอบริษัทขนาดเล็กญี่ปุ่น digital transformation ที่เติบโตได้สูง และยังไม่แพง
มันเหมือนเห็น cloudstrike , teledoc เมื่อต้นปีก่อน
ขณะที่คนญี่ปุ่นก็เห็นว่าหุ้นเค้าแพงแล้ว เพราะเค้าเคยเห็น p/s10 มาเป็น 20
ถ้าญี่ปุ่นเดินตามรอยอเมริกาได้จริง เราก็มีโอกาสได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ
ขนาดที่รายได้ปีนึง 50-60% สามารถโตได้อยู่แล้ว

ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่โตส่วนหนึ่ง บริษัทพอใหญ่ขึ้นก็เปลี่ยนเป็น conglomerate
จากผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ไปทำหนัง,เกม,ทีวี,ทำจอภาพ, sensor
พอตัวใหญ่เค้าก็พยายามทำให้กำไรให้ stable จึงทำให้ growth เลยไม่สูง
พอมี digital transformation ขึ้นมาก็มีโอกาสที่
ทำให้บริษัทเล็กๆในญี่ปุ่นมีโอกาสช่องว่างตรงนี้
Covid ไม่ใช่เร่งการเปลี่ยนแปลง แต่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่เปลี่ยน
อย่าง telehealth ก่อน covid ต่อให้อยากทำก็ทำไม่ได้
เพราะกฏหมายเขียนให้ผู้ป่วยต้องเจอแพทย์ตัวเป็นๆ
แต่พอมี covid รุนแรง มี.ค. ผ่านไปเดือน พ.ค. รัฐก็แก้ไขให้
ทำ telehealth ได้เหมือนพบแพทย์ตัวจริง
เปรียบเหมือนได้รับการเป่านักหวีดออกจากจุด start
ซึ่งบริษัทใหญ่ก็ไม่เคยเตรียมไว้ก่อนว่าจะทำได้
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่มองไม่ไปไหนมานาน ทำให้ถูกมองว่าน่าสนใจน้อยลง
สังเกตว่ากองทุนหุ้นตลาดหุ้นเอเชียจะมีคำว่า ex japan
เพราะคนมองว่าจะได้เห็นภาพที่ขึ้นไปได้ ไม่ได้โดยไม่ถูกถ่วง
(ภาครัฐ) ญี่ปุ่นน่าจะเป็นประเทศเดียวที่รัฐทุ่มซื้อ etf ของหุ้นญี่ปุ่น
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็ค่อยๆปรับตัวขึ้นมาเหมือนม้านอกสายตา ทำให้ตลาดมีความหวังขึ้น
(ภาคเอกชน )ในญี่ปุ่น บริษัทประกันมีเงินเยอะมากไม่มีทางไปก็ซื้อพันธบัตรรัฐบาล
ที่ผ่านมามีความพยายามทำให้ดอกเบี้ยลดลงจนติดลบ จะได้เอาเงินไปซื้ออย่างอื่น
ทำให้ตอนนี้ก็มีทางทำให้เงินที่ล้นตลาดพันธบัตร ก็เริ่มกลับมาในตลาดญี่ปุ่น
(ภาคประชาชน) นอกจากนี้รัฐก็ออกกฏกระทรวงให้ ม.ปลาย
นักเรียนญี่ปุ่นได้เรียนเรื่องการลงทุนด้วย
คิดว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ถูกเมินมานาน ถ้ามาเจอ 3 เรื่องด้วยกัน
ก็น่าจะพาตลาดหุ้นญี่ปุ่นให้ outperform ได้
ยกตัวอย่างหุ้น telehealth เช่น M3 Inc:2413 ไม่ได้ทำ telehealth เป็นหลัก
แต่ทำเครื่องมือแพทย์มาก่อนอยู่แล้ว
ตัวเล็กๆ มีอีกหลายตัว เช่น Medley:4480 , CareNet:2150

คุณวัฒน์
เคยตามคิดว่าจะลงหุ้นเทคเหมือนกัน เห็นน้องๆลงกันรู้สึกอ่านตามไม่ทัน
กลุ่มเทค PE กำไร พวกนั้นไม่มี ไม่รู้ขึ้นหรือลงเพราะอะไร
ก็เลยกลับไปดู old economy ดีกว่า ทั้งในไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม มันจับต้องได้
ถ้าเราอินกับสินค้า แต่ราคาหุ้นมันแพงก็ซื้อน้อยหน่อย
ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้เริ่มซื้อหุ้นญี่ปุ่น

การปรับตัว digital transformation ในญี่ปุ่น?
อ.เกด
ที่พูดกับบ่อยคือ 5G หลายบริษัทก็ดูแล้ว จะวางระบบยังไง หรือขนส่งยังไง เช่น Softbank
Mobility as a service ไม่ต้องมีคนขับ ที่ขับเคลื่อนหลักคือ Toyota ก็ disrupt ตัวเอง
ภาครัฐก็เน้น digital มากขึ้น มีหลายอันที่พยายามใช้ database , cloud เข้ามา
Track ข้อมูลประชากร ระบบเลขบัตรประชนชน เอามาใช้เก็บภาษีไม่ซ้ำซ้อน

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน
เมื่อ 20 กว่าปีแล้ว คนญี่ปุ่นเน้นการทำงาน บริษัทใหญ่ life long employment
ตอนนี้เริ่มมีทำงาน หลาย job หรือ freelance หรือ เป็น project base
ก็มีคล้าย HR platform เข้ามาช่วยจับคู่ตรงนี้
คนญี่ปุ่นเป็นนักเรียนรู้ ผู้สูงอายุก็ใช้ internet กันได้ อายุ 60-70 ก็สามารถจองโรงแรมได้
ทำให้เกิด web platform ได้ง่าย หาบ้านพัคนชรา หรือเตรียมตัวตาย หรือเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์

ในมุมหุ้นญี่ปุ่นเปรียบเทียบกับ old economy มีหุ้นน่าสนใจไหม?
ดร.ภูมิ
คิดว่า new economy น่าสนใจ มันมีหลายอย่างที่ old economy ทำไม่ได้
เช่น Marginal cost แทบเป็น 0 แค่ copy platform ไป
แต่อย่าง old economy ถ้าผลิต TV เพิ่มต้องจ้างคน, จ้างเซล, Distributor

บริษัทที่จะพูดถึงก็เกือบ 80 ปีแล้ว อาจมีความเป็น old อยู่ น่าสนใจว่าปรับตัวได้ดีแค่ไหน คือ
บริษัท Nintendo อย่างที่คนจะรู้จักเครื่อง famicom
ในเมริกาก็ใช้อีกชื่อ Nintendo entertainment system เป็นเครื่อง console มีความเป็น idol
ตอนยุคนายกอาเบะ ก็เคยมีการแถลงข่าว โดยใช้มาริโอ้ เป็นเหมือนมาสคอท
ประเทศไทยมองเด็กเล่นเกมไม่ตั้งใจเรียน แต่ญี่ปุ่นมองเป็นงานอดิเรก เป็นวัฒนธรรมเค้า
Nintendo มี คาแรคเตอร์ หรือเกมในมือ เหมือน marvel studio
ที่ไม่ว่าสไปเดอร์แมนสร้างกี่ภาค ก็มีคนต่อคิวดู

ความท้าทาย คนสมัยนี้หันมาเล่น mobile game แล้ว จะมีกี่คนที่ซื้อเครื่องเกม Nintendo switch มาเล่น
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นยอดขายก็ยังดีถล่มทลาย เพียงแต่เค้ายัง conservative กับ mobile game อยู่
เพราะกลัว cannibalize กับยอดขายเครื่องเกม Nintendo switch
อย่างมีเกมมือถือที่มีออกมา เช่นที่ออกมือถือ Super Mario Run ในแง่ยอด download ประสบความสำเร็จมาก
โมเดลให้เล่นฟรี 3 ฉาก จากนั้นก็จ่ายเงิน ซึ่งยังไม่สำเร็จเท่าที่ควร
ก็มีแนวที่จะปรับโมเดลการหาเงินจากการขายไอเท็มในเกม
ซึ่งพิสูจน์แล้วจากหลายเกมในอเมริกาว่า โมเดลนี้ทำเงินได้ดีกว่าแบบดั้งเดิม

รายได้จาก Digital ปีก่อน โต 100 % แต่เป็นกลุ่มที่ขาย online ไปเล่นผ่าน console มากกว่า
กลุ่มที่ผ่านมือถือ ios/play store ยังไม่ค่อยโต
มีขายระบบขายสมาชิก เล่นเกม Nintendo แบบ multiplayer
สัดส่วน mobile ยังน้อย มองแง่นึงก็ยังทำได้ไม่ดี มองอีกแง่เป็นโอกาสเติบโตได้มากก

Nintendo ก็เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่สามารถประสบความสำเร็จในต่างประเทศได้
สัดส่วนยุโรปอย่างเดียว หรืออเมริกาอย่างเดียวก็โตกว่าญี่ปุ่นทั้งประเทศแล้ว

สรุปถ้าจะลงทุนหุ้นญี่ปุ่นก็ดูที่บริษัทโตต่างประเทศได้
ลุ้นตรง mobile เติบโตได้แค่ไหน ไม่รวมเกมใหม่ๆ
นอกจากนี้ราคาของเกม เทียบกับความบันเทิงประเภทอื่น
ถือเป็น entertainment ราคาถูกทำให้เติบโตได้อีกมาก
2-3 ปีก่อน มีออก pokemon go ร่วมทุนกับบริษัทอื่น จึงมี product ที่น่าสนใจ
ไปจับ pokemon ในสถานที่จริงได้ เป็น AR technology
ซึ่งมองว่าเป็นอนาคตเกมในรุ่นต่อไป
AR เป็นการเอา digital content ไปใส่ในสถานที่จริง
ส่วน VR เราเข้าโลกเสมือน แบบหนัง ready player one
คิดว่าก็น่าจะเห็น innovative อะไรอย่างนี้ออกมาจาก Nintendo เพิ่มเติม
อย่างเกม Wii ก็ใช้ joy stick เป็น motion sensor
หุ้น Nintendo:7974 ราคาก็เพิ่งทำ high เดิมได้

คุณโจ๊ค
ดู theme digital เหมือนกัน ตัวที่จะมาแชร์เป็นกึ่ง digital
พยายามหาตัวที่คิดว่าเป็นผู้ชนะ ในอุตสาหกรรมที่มีตัวเร่ง digital transformation

Zholding:4689 เป็น holding company
ปกติคนญี่ปุ่นจ่ายเงินสด หรือใช้บัตร Suica พวกการเดินทางรถไฟ ใช้จ่ายซุปเปอร์มาร์เก็ท
ปี 2017 นายก อาเบะ ให้เพิ่มการใช้ cashless ใช้ 40%ในปี 2025 และระยะยาวเป็น 80%
การมองหาบริษัทไหนที่น่าจะชนะ เริ่มจากบ. Origami Pay ทำ QR code จ่ายร้านค้า
เมื่อก่อน Z holding ชื่อ Yahoo japan ร่วมทุนระหว่าง Softbank กับ yahoo อเมริกา
แล้วต่อมา Softbank ก็ซื้อมาถือเองหมด แล้วเปลี่ยนเป็น Z holding หลักๆ มี 2 ส่วน
คือ Media โฆษณา กับ search engine
โดยส่วนที่น่าสนใจ commerce คือ Paypay mall มี potential เรื่อง cashless ในอนาคต
อาจลองคิดถึง Square หรือ Cash App แต่ Paypay มีผู้ใช้งาน อันดับ 1 ญี่ปุ่น
คิดเป็นราว 43% ของ QR barcode payment
ที่บริษัทเติบโตได้มากเพราะบริษัทแม่ก็ทุ่มโปรโมชั่น รวมถึงรัฐมีปรับเรื่อง Vat จาก 8 -> 10%
โดยถ้าใช้ cashless จ่ายเสีย vat 8%
การจ่ายเงินด้วย Credit card คิดเป็น 64% พวก E-money ต่างๆ, Suica 20% ,
QR payment ต่างๆ,Paypay 7% จึงยังมีโอกาสโตมากกว่านี้
Paypay กำลังจะกลายเป็น superapp เหมือน tencent , wechat
สามารถลงทุนกองทุน, ซื้อประกัน, กู้เงินได้ เกิดจาก yahoo japan Softbank มีบริษัทย่อยเยอะ
และ rebrand หลายชื่อมาร่วมกัน Paypaycard, Paypaybank, Paypayinterest
ทำให้ลูกค้าใช้งานอะไรก็ได้ใน ecosystem

Z holding รายได้ ไม่ได้โตมาก
ปีล่าสุดโต 8% รายได้ล่าสุด 1 ล้านล้าน เยน PE 40 เท่า มีปันผล
Z holding มีบ.ย่อยน่าสนใจค่อนข้างเยอะ paypay เป็น 1 ในนั้น

ตัวเร่งที่น่าสนใจอีกอย่าง ปี 2018 ที่ paypay ให้บริการ ต้องการเร่งจำนวนร้านค้าเพิ่มเยอะ
จึงไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ paypay 3 ปี ซึ่งจะหมดลงในเดือน 10 2021
คือค่า MDR สมมติจ่ายเงินผ่าน QR ซื้อของ 100 เยน ร้านค้าจะได้ 95 ที่เหลือให้บ.ที่ทำสัญญา
จะเห็นว่า รายได้ paypay ที่ลงทุนใน 3 ปี ยังไม่เห็น จะเริ่มเห็นเดือน 10 ของปีนี้เป็นตัวไป

อีกส่วนของบริษัทคือ E-commerce คือ Paypay mall
ตลาด ecommerce ญี่ปุ่น เบอร์#1 Amazon, #2 Rakuten , #3 payapay mall
ผบห.ตั้งเป้าอยากเป็น เบอร์ 1 ให้ได้ใน 3 ปี
Ecommerce ของบ.โตได้ 30-40% ก็จะช่วยผลักดัน รายได้กำไรบริษัทเหมือนกัน

นอกจากนี้ บ.ย่อย ที่ Z coporation เข้าไปลงทุน มีพวก startup หรือบ.ที่มี potential มี 2 อุตสาหกรรม
เช่น Blockchain ลงทุนใน coindesk japan
กับอีกส่วน mobility ลงทุนใน skydrive ทำรถบินได้ เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ

คุณวุฒิ
การลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ต้องเริ่มจากถามความคาดหวังตัวเอง
ตอนนี้ถ้าอยากได้ return สูงๆดีๆ เปลี่ยนชีวิต เหมาะจะลงทุน crypto ต่างๆ ไม่ใช่หุ้น
รองมาหุ้นอเมริกา จีน ให้ผลตอบแทนปีนี้/ปีหน้าดีมาก ด้วยเม็ดเงินในระบบ
แต่สนใจลงทุนญี่ปุ่น เพราะหลังจากนี้
ที่จะหาผลตอบแทนจากตลาดหุ้น อเมริกา จีน ได้ดีแบบ 2-3 ปีที่ผ่านมาไหม
Multiple ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจถึงจุดที่เพิ่มไม่ได้
แต่ญี่ปุ่น multiple ยังไม่แพง และน่าจะขึ้นไปได้
คนญี่ปุ่นชอบทำกับญี่ปุ่นด้วยกันก็เป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้บ.อื่นเจาะเข้าไปยาก

ธุรกิจที่เกี่ยวกับ digital หรืออย่าง ดูแลผู้สูงอายุ + digital ก็น่าสนใจ เช่น
วิธีเดิม head hunt ช้า แพง กว่าจะหาคนได้ไม่ง่าย
ก็มี Platform จับคู่จัดหาพยายาล แพทย์ ให้ผู้สูงอายุก็คือ medley:4480
พอมีกฏหมายออกมาที่ไม่ต้องพบหมอ ก็พัฒนาต่อยอดให้เป็น telehealth
ได้ leverage platform สำหรับเป็นบ้านพักคนชรา, เป็นคนไข้กับหมอ และร้านขายยา

ถ้าอีก 2-3 ปีข้างหน้ารายได้โต 2 เท่า และ Multiple expansion 2 เท่า ก็ได้หุ้นขึ้น 4 เท่า
ซึ่งความเป็นจริงคือมีโอกาสที่รายได้จะโตได้มากกว่าที่คิด ธุรกิจ disrupt เร็วมาก
ปีนี้โต 50% ปีหน้าโต 50% ก็เกือบ 2 เท่าแล้ว คิดว่ามีโอกาสเยอะ ที่จะ perform

ปัญหาคือราคาหุ้นไม่ได้ขึ้นได้ง่ายเหมือนอเมริกา เม็ดเงินกองทุนใหญ่ไปไม่ถึง
ต้องรอให้กองทุนขนาดเล็ก เม็ดเงินรายย่อย ก็ต้องใช้เวลา

ส่วนตัวคือซื้อวันนี้ รอไป 2-3 ปี มันจะ outperform ได้
ถ้ารอวันนั้นก็ต้องซื้อมันแพง แล้วถึงวันนั้นก็ค่อยมาศึกษา จะเหมือนหุ้นอเมริกา
ที่หุ้นดีๆ ก็ขึ้นไปไกลแล้ว หรือถ้าไม่มีพื้นความรู้หุ้นอเมริกาเข้ามา
โอกาสทำผลตอบแทนดีๆก็ยากกว่าที่คิด
อันนี้พูดในแง่ลงทุนไม่ใช่เก็งกำไร
ถ้าเราเริ่มศึกษาวันนี้ คิดว่าผลตอบแทนจะคุ้มค่ากับสิ่งที่ทำลงไป
ทั้งนี้หุ้นที่แชร์ เป็นหุ้นขนาดเล็ก มีความเสี่ยงสูง ต้องใช้การ weight น้ำหนัก
แนะนำว่าต้องศึกษาการมองแบบ vc แบบในแนวทางเพจเล่าเท่าที่รู้
อย่าไปเล่นเหมือนหุ้นไทยที่ weight มากๆ

ภาพใหญ่มีความเสี่ยงอะไรที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ?
อ.เกด
หลายคนก็เริ่มขาดความเชื่อมั่นนายก เรื่องภาวะผู้นำ อย่างที่เกิดในช่วง covid
ญี่ปุ่นมีประมาณ 10 ด้านที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญ ได้แก่
Digital transformation , การปรับตัวเข้าสู่ online /digital ,
ปรับรูปแบบทำงานใหม่ ไม่ต้องทำงานประจำตลอด ไม่ต้องทำดึก
Online health care , IoT/AI,
Smart city รัฐบาลให้ความสำคัญ และวางนโยบายระดับประเทศและท้องถิ่น
เชื่อมโยง 5G กับบ.รถยนต์ เทคโนโลยี
หรือคู่แข่งบริษัทเดียวกันในธุรกิจเดียวกัน ก็น่ามอง
ภาพใหญ่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นวางนโยบายไว้


ช่วงที่ 2 Q&A
คุณทิพ (แชร์)
เรื่องความเสี่ยงประเทศญี่ปุ่น
จากที่ติดตามมาเรื่องพลังงาน กลาง ม.ค.64 เกิดหิมะตกหนัก อากาศหนาว
ซึ่งนายก ก็ไม่ได้มีการเตือนประชาชน เรื่องพลังงานไม่เพียงพอ
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะ พึ่งพาพลังงานนอกประเทศ
หลังวิกฤติพลังงาน นิวเคลียร์ ทำให้ลดการใช้
หลักๆต้อง พึ่งพา LNG ซึ่งช่วงม.ค.ที่ผ่านมา LNG ลำเลียงทางเรือเข้ามาล่าช้า
ทำให้ผู้ประกอบการรฟฟ.ก็อยากให้รัฐบาลช่วยประกาศให้ ลดการใช้ไฟ
แต่รัฐก็ไม่ได้ประกาศชัดเจน จนทาง ผู้ประกอบการออกมาว่ารัฐบาลกลัวเสียงสนับสนุนตก
ยังเป็นเรื่องที่ concern เกี่ยวกับธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมในญี่ปุ่น


คุณทศ (สอบถาม)
ส่วนตัวลงทุนอเมริกา , จีน, ไทย
การลงทุนจีนมีปัญหามากคือภาษา ก็เลี่ยงไปลงทุนบ.จีนที่ list ในอเมริกา
อยากทราบว่าญี่ปุ่นมี trick ยังไงในการศึกษา
อย่างบ.จีนที่ลงทุนไปหุ้นขึ้น 15% ก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ต้องรอกว่าจะมีคนแปลให้?
คุณโจ๊ค (ตอบ) บ.เกี่ยวกับเทคโนโลยี ตลาด mothers
อย่าง medley , ai ก็เป็นภาษาอังกฤษในเวบไซต์
เวลาไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจะมีคนคล้ายนักวิเคราะห์ที่เขียนอธิบายให้เป็นภาษาอังกฤษ
มีเวบเป็นสิบที่ไว้แชร์ให้
ส่วนข่าวประจำวัน มีภาษาญี่ปุ่นจะมาก่อน ภาษาอังกฤษาช้า
ส่วนงบการเงินที่ออกหลังๆภาษาอังกฤษก็มีมากขึ้น


คุณแดม(สอบถาม)
เพิ่งซื้อหุ้นจีนเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน
ก็อ่านจีนไม่ออก ญี่ปุ่นก็เหมือนกัน แนะนำอย่างไรบ้าง?

คุณวุฒิ (ตอบ) หุ้นเทคหลายบริษัทมาจาก startup มี VC ลงทุน
เอกสารเป็นภาษาอังกฤษเยอะ
บริษัทที่ยังไม่มีภาษาอังกฤษ ไม่เยอะ เปิด10 ตัว มีภาษาอังกฤษ 7-8 ตัว
แต่ข่าวมากกว่าที่จะเป็นปัญหา ที่กระทบ sentiment จะไม่มีใครแปล
อย่าง 2-3 อาทิตย์ก่อน ผู้บริหาร บ. Medley เป็นข่าวฉาวว่ามีชู้
หุ้นก้ลง แต่ไม่ได้ลงเยอะ
มันก็ทำให้ฉุกคิดว่าถ้าข่าวลืออื่นที่เกี่ยวกับบริษัทก็อาจเป็นปัญหา
ถ้าเข้าไม่ถึง source มัน อย่างเช่น เวบ Nikkei ในขณะอเมริกามันก็มี feed ข่าวเยอะ
เป็นสิ่งที่ต้องตระหนัก แต่แก้ไม่ได้ 100%
คุณโจ๊ค(ตอบ) ข่าวรายงานประจำวันมีเป็นภาษาญี่ปุ่นก่อน ค่อยเป็นภาษาอังกฤษ
แต่ไม่น่าซีเรียสมาก เวลาดูงบ หรือข่าวสำคัญที่ต้องแจ้ง ก็จะมีภาษาอังกฤษหมด


คุณบอล วศิน (สอบถาม)
มีคำถามการสเกล บริษัทเทคญี่ปุ่นเก่งแค่ไหน
TAM(Total Addressable Market) เค้าเป็นทั้งโลก ได้ไหม?
คุณภูมิ(ตอบ) ให้ตอบตรงๆ ก็ไม่ได้มี mindset international เหมือนอเมริกา
ซึ่งแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน
บ.อายุเยอะก็ conservative หน่อย บ.อายุน้อยก็ active มากกว่า
คนญี่ปุ่นมั่นใจในกลยุทธ์ตัวเองสูง คิดว่ามันใช้ได้ในญี่ปุ่น ทำไมไม่เอาไปใช้ที่อื่น
อย่างห้างที่มาเปิด ซึ่งคนญี่ปุ่นในไทยที่จะมาเป็นลูกค้าเค้าอาจไม่มีเยอะ
ซึ่ง mindset ในการโตต่างประเทศ ยังค่อนข้าง fix กับกลยุทธ์ที่เชื่อว่าใช้ได้
แต่ก็มีบ.ที่กลยุทธ์เค้าไปใช้โตต่างประเทศได้
บางคนก็เรียบจบอเมริกา หรือที่อื่นมาก็มีความคิด international หน่อย
พวก platform ญี่ปุ่นที่ยังเล็ก โตในญี่ปุ่นอย่างเดียวก็ได้หลายสิบเท่าแล้ว
แต่จะข้ามไปโตประเทศอื่นก็ยังมีความสงสัยอยู่


คุณชาตรี (สอบถาม)
มีเพื่อนเกาหลี(ทำอยู่ Samsung)
เล่าให้ฟังหลังสงครามโลกเกาหลีก้าวเป็นผู้นำเทคโนโลยี
ส่วน ญี่ปุ่น วัฒนธรรมองค์กร conservative ใครทำอะไรผิดเป็นเรื่องใหญ่
ทำให้เป็นอุปสรรค์ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ สิ่งที่ยังไม่พิสูจน์
จึงหมดเวลาไปกับการประชุม ทำงานจริงไม่เยอะ
แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากไอเดียใหม่ ต้องวางแผนใหม่
ทำให้พัฒนาการเกิดขึ้นช้ากว่าเกาหลี หรือจีน
ถ้าต้องไปแข่งขันกับพวกบ.ต่างประเทศข้างนอกจะสู้ได้ไหม?

อ.เกด(ตอบ) เคยฟังสัมมนาของเกาหลี
เขาก็บอกมีปัญหาเหมือนญี่ปุ่น มีการแข่งขันเข้ามหาลัย เครียด
คิดว่าน่าจะคล้ายกัน แต่เกาหลีได้เปรียบเรื่อง speed
ญี่ปุ่นต้องประชุม เสนอบอร์ด กว่าจะประชุม ต้องใช้ข้อมูลละเอียดมาก
ไม่ค่อยใช้ entrepreneurship spirit อาจมีบ้างอย่าง Softbank
แต่ก็มีหลายบริษัทที่พยายามสร้าง culture คิดนอกกรอบ อย่าง sony มีสร้างทีมให้อิสระขึ้นตรงกับ ceo
ส่วน startup หรืออุตสาหกรรมอื่นไม่ได้ใช้ creativity เยอะ แต่ไปสร้างเทคโนโลยีใหม่ เน้นทำให้ลึกขึ้น
เช่น ทำให้คนหายมะเร็ง หรือหายไข้หวัดใน 2 วัน
สิ่งที่ญี่ปุ่นเด่น อนิเมะ มังงะ ส่วนพวก product ใหม่ๆ ก็เป็นความท้าทายที่ติดในกรอบ


หมอเค (สอบถาม)
ปีก่อนบัฟเฟตต์ ลงทุนในญี่ปุ่น ราว 6 พันล้านเหรียญ ไม่ทราบมีมุมมองไหมครับ?
คุณวัฒน์(ตอบ) คิดว่าบัฟเฟตต์มีเงินเยอะ ลงเทรดดิ้งคอมพานี 5บริษัท ส่วนใหญ่
เป็นหุ้นแข็งแกร่งมีเงินสดเยอะ pe ต่ำ, Div 3-5%, pbv 0.8
มีแค่ Itochu ที่ pbvสูงหน่อย 1.56 เพราะถูกแข็งแกร่ง มีเงินสดเยอะ
เป็นหุ้นถือไปหลับสบาย ไม่มีทางล้ม
เสริมการลงทุนแบบบ้านๆ ชอบบริษัทไหน ไปใช้สินค้า ทำให้เราเข้าใจลงทุนง่าย
เช่น Uniqlo, Muji, Jins 10 ปีย้อนหลังก็ขึ้นมา 10 เท่าเหมือนกัน
ก็มองหา Next Uniqlo, Muji, Jins ถ้ามันยังเล็ก สาขาน้อย มีโอกาสสำเร็จในอนาคตได้
อย่างหุ้น Balmuda เตาปิ้งขนมปัง ซึ่งไทยไม่มีขาย ทุกคนต้อง import ข้ามา
อ่านจากข่าว ว่าเข้า ipo 1680 , วันแรกราคา 3500 จนตอนนี้ 6 พันกว่าแล้ว
ถ้าเห็นต้นๆก็สามารถทำเงินจากหุ้นบ้านๆที่เรารู้


คุณหลิน (แชร์)
อยากแชร์ให้ไปดูว่า หุ้นญี่ปุ่นที่น่าสนใจ บางตัวขึ้นมา 10 กว่าเด้ง
แต่ถ้าไปดูดัชนีญี่ปุ่นไม่ไปไหน
ซึ่ง Shanghai, Hangseng ก็ไม่ไปไหนเหมือนกัน
อะไรที่ทำได้ดี มันจะมาแบบเงียบๆ ถึงเวลาก็ไม่ทันแล้ว แบบ Tencent

โครงการนี้มีที่มาจาก 2 วันก่อน
มีปรากฏการณ์ยานอวกาศ Perseverance ลงจอดที่ดาวอังคาร
3-4 พันล้านปีที่แล้ว ดาวอังคารกับโลกเหมือนกัน
อย่างที่อีลอนบอกว่าเราไม่สามารถอยู่ในโลกอย่างเดียวได้
ถ้าเราอยู่ตลาดเดียวจะมีความเสี่ยงที่ไม่รู้ตัว
ทางสมาคมก็พยายามผลักดันให้ออกไปลงทุตต่างประเทศกัน
พวกเราเหมือน Perseverance มันแปลว่าความเพียร
ไปในจุดที่คนอื่นยังไม่ได้ไป มีความยากลำบากอยู่
ก็เป็นเหมือนยาน ที่พานักลงทุนออกไปศึกษาตลาดต่างประเทศ
ก็อยากจัดทั้ง 25 ตลาดเลย แต่ไม่รู้จะหาคนได้ไหม
ในสัปดาห์หน้าก็จะมีอเมริกา, เวียดนาม, จีน และจะมีวนมาที่ไทยด้วย

ขอขอบคุณวิทยากรและผู้จัดงาน อ.เกด,พี่โจ๊ค,น้องวุฒิ,ดร.ภูมิ,พี่วัฒน์,พี่หลิน,คุณทีน่า
รวมถึง participants ทุกท่านครับ ที่มาให้ข้อมูลและมุมมองใหม่ๆครับ
สิ่งที่จดบันทึกอาจมีความคาดเคลื่อนได้ครับ ก็ขออภัยและแก้ไขเสริมได้ครับ
Go against and stay alive.
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2620
ผู้ติดตาม: 262

Re: สรุป ThaiVI Go EP.1 - หุ้นญี่ปุ่น (On Clubhouse20/2/2021)

โพสต์ที่ 2

โพสต์

https://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=85&t=63688

คลิปเสียง งาน ThaiVI Go EP1 หุ้นญี่ปุ่น
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2620
ผู้ติดตาม: 262

Re: สรุป ThaiVI Go EP.1 - หุ้นญี่ปุ่น (On Clubhouse20/2/2021)

โพสต์ที่ 3

โพสต์

P.S. ตามที่พี่โจ๊คพูดในคลิป พี่โจ้คฝากเวปที่เขียนอัพเดทสถานการณ์สถานการณ์ปัจจุบันของญี่ปุ่น กับ มีพวกคอมเมนหุ้นรายตัวได้ค่อนข้างดีตามนี้เลยครับ ส่วนใหญ่ภาษาอังกฤษ มีบางหน้าที่เป็นภาษาญี่ปุ่นครับ

1. Shared Research https://sharedresearch.jp/en
2. FISCO https://www.fisco.co.jp/en/service/report.html
3. Holistic Research https://holistic-r.org/report/
4. Sessa Partners https://en.sessapartners.co.jp/home-en
5. Nippon IBR https://nippon-ibr.com/research-coverage/
6. Belle Investment Research (Belletk) https://belletk.com/?page_id=523
7. Bridge Salon https://www.bridge-salon.jp/database/
8. Alpha Win Capital https://www.awincap.com/eng/
9. Walden Japan https://walden.co.jp/reporten/
10. Morningstar https://portal.morningstarjp.com/stock/
11. Teddy Letter https://teddyokuyama.substack.com/
โพสต์โพสต์