Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ในการลงทุนระยะยาวแล้ว เมื่อเราถือหุ้นผิดตัวอยู่ให้ถอยออกมาจากหุ้นตัวนั้น แล้วสิ่งที่บอกว่าคืออะไร
1. ราคาหุ้นตก
2. กำไรลดลง
3. ธุรกิจอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูก disrupt
4. ค่า PE สูงมาก
5. ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นบางส่วน
6. มีการเพิ่มทุนที่ต่ำกว่าราคาตลาดแบบ pp
7. นักลงทุนที่มีชื่อเสียงขายหุ้นออกมาหมด
8. ผู้บริหารถูกจับได้ว่าทุจริต
9. สินค้าหรือบริการถูกกีดกันทางกฎหมาย
10. มีการกู้เงินมาเพื่อจ่ายปันผลเพียงอย่างเดียว
ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ เพื่อเป็นความรู้และประสบการณ์ให้กับนักลงทุน vi ด้วยกันครับ

ผมดูข้อ2.กำไรลดลง ผมต้องถอยกลับมาดูว่าข้อสมมุดิฐานต่างๆ มีอะไรที่ผิดพลาดหรือมองข้ามไป

ถือมานาน ราคาไม่ไปไหนครับ

รายได้ไม่โต แล้วมีทิศทางลดลง สูญเสีย Market Share

ส.สลึง เขียน: ↑

จันทร์ ม.ค. 11, 2021 12:35 pm

ถือมานาน ราคาไม่ไปไหนครับ

ตัวไหนที่คิดว่าธุรกิจดี แต่เสียที่ว่าถือมานาน ราคากลับไม่ไปไหน รบกวนช่วย PM บอกหน่อยนะครับ

A62936 เขียน: ↑

จันทร์ ม.ค. 11, 2021 9:11 am

ในการลงทุนระยะยาวแล้ว เมื่อเราถือหุ้นผิดตัวอยู่ให้ถอยออกมาจากหุ้นตัวนั้น แล้วสิ่งที่บอกว่าคืออะไร 1. ราคาหุ้นตก 2. กำไรลดลง 3. ธุรกิจอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูก disrupt 4. ค่า PE สูงมาก 5. ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นบางส่วน 6. มีการเพิ่มทุนที่ต่ำกว่าราคาตลาดแบบ pp 7. นักลงทุนที่มีชื่อเสียงขายหุ้นออกมาหมด 8. ผู้บริหารถูกจับได้ว่าทุจริต 9. สินค้าหรือบริการถูกกีดกันทางกฎหมาย 10. มีการกู้เงินมาเพื่อจ่ายปันผลเพียงอย่างเดียวทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ เพื่อเป็นความรู้และประสบการณ์ให้กับนักลงทุน vi ด้วยกันครับ

ไม่ชอบข้อ 4, 6, 8, 9, 10 ครับ

2-6-8-9-10 ครับ

แต่ระยะเวลาที่จะขาย หลังจากข้อมูลของแต่ละข้อเผยออกมา ไม่เท่ากันนะครับ

อย่างกำไรลดลง ผมอาจจะให้โอกาสได้อีกบางไตรมาส ถ้าเป็นแค่ชั่วคราวหรือการสะดุด
แต่ถ้าบางข้อเกิดขึ้น ถ้าผมรู้ก็คงคัททันทีนะครับ -*-

ดำ เขียน: ↑

จันทร์ ม.ค. 11, 2021 6:41 pm

ตัวไหนที่คิดว่าธุรกิจดี แต่เสียที่ว่าถือมานาน ราคากลับไม่ไปไหน รบกวนช่วย PM บอกหน่อยนะครับ

Asset Play ครับ
ประมาณหวังลูกสาว
แต่เลือกแม่หลอนเป็นแฟน

ส.สลึง เขียน: ↑

จันทร์ ม.ค. 11, 2021 11:25 pm

Asset Play ครับ
ประมาณหวังลูกสาว
แต่เลือกแม่หลอนเป็นแฟน

Asset play นี่เหมือนคำสาปครับ ขนาดเซียนๆ ยังต้องยอมมาหลายคนแล้ว

ึ
1. ราคาหุ้นตก / แล้วแต่ครับ ถ้าเราคิดต่างจากคนอื่น แล้วคนอื่นไม่ให้ราคาเหมือนเรา ก็ควรเริ่มแต่แรกว่า อย่าซื้อไม้เดียว
ถ้าเราคิดว่าดี แต่ราคาตก อาจจะต้องดูว่าคนอื่นเขามีเหตุผลอื่นที่เราไม่รู้รึเปล่า
2. กำไรลดลง / ผมคิดว่า ถ้าผิดจากสมมุติฐานที่เราคิดไว้ ก็น่าจะใช่ครับ ก็ต้องไปดูว่า รายได้ หรือค่าใช้จ่ายที่ผิดปกติ สาเหตุคืออะไร
3. ธุรกิจอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูก disrupt / ผมว่า เหมือนวิกฤตเศรษฐกิจครับ เวลากะยาก เหมือนข้อ 9. ก็อย่าไปทุ่มซื้อเป็นสัดส่วนเยอะ
4. ค่า PE สูงมาก / ขึ้นกับสาเหตุการเข้า ถ้าตอนซื้อ PE แพงอยู่แล้ว ถ้าตอนซื้อเข้าด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่ PE และมองว่า E จะเพิ่มมากในอนาคตหรือเปล่า
5. ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นบางส่วน / กลัวครับ เราอาจจะไม่รู้เท่าผู้ถือหุ้นใหญ่รึเปล่า สภาพคล่องน้อยกระทบ จิตวิทยาของคนอื่นก็กระทบ
6. มีการเพิ่มทุนที่ต่ำกว่าราคาตลาดแบบ pp / ผมว่า มองได้หลายอย่าง ขึ้นกับว่า dilution คุ้มไหม กับผลดีที่ได้
7. นักลงทุนที่มีชื่อเสียงขายหุ้นออกมาหมด / ผมว่า เขาอาจจะเจอหุ้นที่ดีกว่า อาจจะเหมือนข้อ 5.
8. ผู้บริหารถูกจับได้ว่าทุจริต / คิดว่าใช่ครับ
9. สินค้าหรือบริการถูกกีดกันทางกฎหมาย / ผมว่า ไม่แน่ครับ ผมยังเชื่อว่า บางธุรกิจ การที่ตลาดโตลดลงจากการถูกกีดกัน อาจจะยังทำให้กำไรดีก็ได้
เหมือน เซล ขายได้น้อยเวลา ไปหาลูกค้าเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าอาจจะซื้อน้อยลง เซลที่ขายก็น้อยลงเหมือนกัน
10. มีการกู้เงินมาเพื่อจ่ายปันผลเพียงอย่างเดียว / เห็นด้วยครับ คิดว่า ผิดปกติ

ดำ เขียน: ↑

อังคาร ม.ค. 12, 2021 12:02 am

Asset play นี่เหมือนคำสาปครับ ขนาดเซียนๆ ยังต้องยอมมาหลายคนแล้ว

ช่ายครับ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...

คบเธอเมื่ออ่อนแรง
แต่ต้องเท..เพราะอ่อนใจครับ

เมื่อไหร่ หุ้นที่ผมถือ เริ่มแดง
ผมจะพิจารณาทุกครั้งว่าคิดผิดหรือไม่ครับ

ถ้าทบทวนแล้ว คิดไม่ผิด ก็ถือต่อ หรือซื้อเพิ่มครับ

1. เราซื้อหุ้นที่แพงเกินไปตั้งแต่แรก
เพราะเราประเมินมูลค่าหุ้นโดยละเลยมูลค่าหนี้ และให้อัตราคิดลดน้อยเกินไป
เราให้ PE สูงเกินไป ประมาณการกำไรของกิจการมากเกินไป
หรือแม้กระทั่งเราอดทนต่อราคาหุ้นที่กำลังพุ่งสูงขึ้นไม่ได้

2. การเติบโตของกิจการไม่เป็นตามที่ตั้งสมมุติฐานไว้
ผลตอบแทนโครงการที่บริษัทคาดการณ์ไว้ไม่เป็นตามที่คิด
ความไม่แน่นอนในอนาคตเป็นสิ่งที่เราต้องคิดเสมอ ถึงแม้ว่า
ผู้บริหารจะออกมาบอกว่าโครงการนั้นๆดีแน่นอน

3. เรามองหุ้นที่เราถือว่าดีกว่าความเป็นจริง
ปัจจัยทางธุรกิจนั้นเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ หากเราขาดการตรวจสอบ
หรือแม้กระทั้งเวลาเกิดวิกฤติมากระทบ ราคาหุ้นทุกตัวจะกระทบหมด
แต่หุ้นที่แข็งแรงหรือได้ประโยชน์จากเหตุการนั้นมักจะฟื้นตัวได้เร็วกว่า
ตรวจสอบว่าหุ้นของเราแข็งแกร่งระดับไหน
และให้เกรดหุ้นในพอร์ตของเราอย่างสม่ำเสมอ ว่าเป็น A B+ B C+ C

4. เราไม่เผื่อ MoS จากข้อ 2.และข้อ 3. กรณีที่ถ้าเราซื้อหุ้นโดยมี MoS
เราจะไม่ขาดทุนหนักแม้ถือหุ้นผิดพลาด

ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับสมมุติฐาน เหตุผลในการเข้าซื้อของแต่ละคนครับ
ถ้าผิดจากสมมุติฐานที่คิดไว้ ก็คือผิดพลาด

บางทีเหตุผลอย่างกำไรบริษัทลด ก็อาจจะเป็นเหตุผลให้ถือต่อ
หรือซื้อเพิ่มได้ ถ้าเราคาดไว้ว่ามันจะลดเยอะ แต่มันน้อยกว่าสมมุติฐานที่เราคาดไว้

หรือเหตุผลอย่างราคาลดลง ถ้าอ้างอิงหลัก vi ในหนังสือหลายๆเล่มราคาไม่ควรจะเป็นเกณฑ์บอกว่าเราตัดสินใจผิดพลาด ตราบใดที่พื้นฐานยังเหมือนเดิม ให้ราคาเป็นทาสรับใช้เรา ก็อาจจะเป็นเกณฑ์ของเราได้ ถ้าเรามีสมมุติฐานว่าซื้อแล้วราคาไม่ควรลงไปที่ระดับเท่าไหร่
ถ้าเกินจุดที่คิดไว้ ก็ถือเป็นการลงทุนที่ผิดพลาดได้

คำตอบเหมือนจะกำปั้นทุบดิน แต่คิดว่าอยู่ที่สมมุติฐานตอนซื้อของนักลงทุนแต่ละคนเลยครับ

8 และ 10 จริงที่สุด

ส.สลึง เขียน: ↑

อังคาร ม.ค. 12, 2021 11:18 am

ช่ายครับ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...

คบเธอเมื่ออ่อนแรง
แต่ต้องเท..เพราะอ่อนใจครับ

เจ้าของไม่ยอมขายซักที?

Peter1011 เขียน: ↑

พุธ มิ.ย. 09, 2021 12:18 pm

เจ้าของไม่ยอมขายซักที?

เป็นลูกรัก เจ้าของไม่ขายแน่ครับ