โพสต์
เป็นโชคดีของนักลงทุนไทยที่มีกิจกรรมดีๆอย่าง Opportunity day ที่ทำให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนได้ง่ายมากๆ ผ่านการให้ข้อมูลจากผู้บริหารโดยตรงเลย การดู Oppday จึงเป็นวิธีศึกษาหุ้นไทย ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากๆ โดยเฉพาะ ช่วงหลังๆที่ผมเริ่มศึกษาหุ้นต่างประเทศจริงจัง รู้สึกว่าต้องใช้ความพยายามมากกว่าหุ้นไทยเยอะเลยครับ
อย่างไรก็ตาม การดู Oppday มันก็ต้องอาศัยความพยายามในการเรียนรู้และใช้เวลาพอสมควร แถมบริษัทที่มาออกก็เยอะมากๆ แทบทุกวัน บางวันมีมากถึง 7-8 บริษัท จะดู 1 บริษัท ก็ต้องใช้เวลามากเกือบ 1 ชม.แล้ว ทำให้หลายๆท่านอาจจะไม่ได้มีเวลาติดตามมาก โดยเฉพาะ นักลงทุนหน้าใหม่ อาจจะรู้สึกท้อ ไม่ค่อยอยากดูเท่าไรหรือไม่รู้ว่าจะเริ่มดูจากบริษัทไหนดี
วันนี้จะมาแชร์ 5 เทคนิคที่ทำให้คุณดู Oppday แล้วสนุกขึ้นและได้สาระด้วย แถมบางอย่างอาจจะนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อีกด้วย จะเป็นอย่างไรลองมาดูกันเลย!
สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มศึกษาบริษัทใหม่ๆ เปิดหน้า Oppday มาอาจจะถึงกับมึนได้ เพราะว่ามีบริษัทให้เลือกดูมากมายเลย แถมแต่ละตัวต้องใช้เวลาเกือบ 1 ชม.แบบนี้จะดูตัวไหนก่อนดีน้า?
ส่วนตัวแนะนำว่าให้เริ่มจากบริษัท "ใกล้ตัว" ที่คุณชอบและรู้จักก่อนครับ เช่น คุณเคยซื้อสินค้าจากร้านค้าของบริษัทนี้ คุณเคยกินอาหารร้านนี้ คุณเคยไปดูบ้านตัวอย่างของบริษัทนี้ เป็นต้น
การที่คุณเริ่มศึกษาจากบริษัทที่รู้จัก นอกจากจะทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายแล้วมันยังทำให้รู้สึกสนุกมากกว่า เพราะเวลาฟังผู้บริหารพูด คุณจะร้อง "อ๋อ" ได้ง่ายมากๆ
แถมเวลาเค้าพูดว่าจะขยายธุรกิจอย่างไรต่อไป มันก็เหมือนกับคุณได้อัพเดทเทรนด์ล่วงหน้า เช่น "เดี๋ยวบริษัทนี้เค้าจะเอาเครื่องดื่มแบรนด์ดังในไต้หวันเข้ามาขายใน 7-11 บ้านเรา ต้องไปลองแล้ว" เป็นต้น
แบบนี้จะสนุกมากกว่า การไปศึกษาธุรกิจที่ "ไกลตัว" เช่น "บริษัทน้ำมันกำลัง transition สิทธิสำรวจ G1/61 และ G2/61 ส่วนปีหน้าจะทำ Gas sales agreement และจะ transfer ในปี 2022" แบบนี้ เวลาฟังผู้บริหารพูด คุณจะร้อง "อิหยังวะ" ได้ง่ายมากๆ
เหล่าผู้บริหารที่มาให้ข้อมูลใน Oppday ล้วนแต่เป็นเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จหรือผู้บริหารมืออาชีพที่มีความสามารถ ที่บริหารบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ได้
การดู Oppday เป็นโอกาสที่ดีมากๆในการฟังแนวคิด มุมมองทางธุรกิจ หรือวิธีการนำเสนอข้อมูล และการตอบคำถามของท่านผู้บริหารเหล่านี้
ส่วนตัวผมสนุกกับการสังเกตว่าท่านผู้บริหาร เค้าจะ Present บริษัทของเค้าออกมาอย่างไร ให้น่าสนใจและทำให้คนภายนอกเข้าใจได้ง่าย และมองไหวพริบในการตอบคำถามต่างๆที่นักลงทุนถาม
ซึ่งต้องบอกว่าหลายๆอย่าง คุณสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานได้ เช่น วิธีเล่า Story telling เวลานำเสนอ วิธีตอบคำถามให้ตรงประเด็น หรือ แม้แต่การทำสไลด์นำเสนอ ซึ่งก็ต้องบอกว่าหลายๆท่านเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆครับ
หรือบางครั้งมันอาจจะทำให้คุณคิดลึกไปกว่านั้น ว่าเหตุผลเบื้องหลังการคำตอบที่ตอบออกมา หรือการให้ข้อมูลต่างๆ ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ ลองดูครับน่าจะทำให้การดู Oppday สนุกขึ้น นะ : )
ระยะเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ในการฟัง Oppday 1 บริษัทนั้น อาจจะทำให้คุณหลุด Focus ได้ง่ายๆ ดังนั้น ในระหว่างฟัง Oppday คุณสามารถ จด Short note ในประเด็นต่างๆที่สำคัญหรือถ้าใครฟิตหน่อยก็สรุปรายละเอียด เหมือนที่ผม สรุปในเพจก็ได้ครับ
สิ่งสำคัญ คือ เมื่อฟังจบแล้ว คุณลองเขียนสรุปประเด็นสำคัญ ของบริษัทนี้ สัก 4-5 ข้อ ดูครับ ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับ ลักษณะธุรกิจที่น่าสนใจ ผลประกอบการ แผนกลยุทธ์ หรือ Business model ใหม่ๆของบริษัท หรือแม้แต่ลักษณะผู้บริหาร ก็ได้ครับ
การเขียนสรุปนอกจากเป็นการฝึกจับประเด็นสำคัญแล้ว ยังช่วยให้จำได้ดีมากขึ้น ช่วยให้เราสามารถติดตามบริษัทได้อย่างเข้าใจมากขึ้นในอนาคต
ถ้าคุณได้ติดตาม Oppday มาสักพักแล้ว คุณจะพบว่าหลายๆบริษัทก็มาออก Oppday เป็นประจำทุกไตรมาส หรือบางบริษัทก็อาจจะมาไตรมาสเว้นไตรมาส
ถ้าคุณเคยศึกษาบริษัทนี้มาก่อนหน้าแล้ว เช่น เคยอ่าน 56-1 เคยวิเคราะห์งบการเงิน หรือเคยฟัง Oppday ของไตรมาสก่อนหน้ามาแล้ว คุณอาจจะกรอข้ามบางประเด็นไปได้ และเลือกฟังเฉพาะจุดสำคัญ ก็จะช่วยประหยัดเวลาได้ครับ เช่น
- ข้อมูลทั่วไปของบริษัท เป็นหัวข้อที่บริษัทต้องพูดทุกไตรมาส เนื่องจากยังมีนักลงทุนหลายๆท่านที่เพิ่งเคยฟังครั้งแรก ถ้าคุณรู้สึกว่าเข้าใจธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดีแล้ว ก็สามารถข้ามไปได้ครับ เนื้อหาตรงนี้มักไม่ค่อยเปลี่ยนบ่อย
- รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุด โดย ทั่วไป Oppday จะมาหลังจากช่วงประกาศผลดำเนินงานไปแล้ว ถ้าคุณได้วิเคราะห์งบ อ่าน MD&A มาแล้ว และรู้สึกว่าเข้าใจทุกจุดแล้ว ตรงนี้ก็สามารถข้ามไปได้ครับ
- แผนการดำเนินงานในอนาคต นี่เป็นจุดสำคัญที่ควรต้องฟัง เพราะ เป็นข้อมูลที่เราหาจากแหล่งอื่นได้ยาก และเป็นจุดที่จะบอกว่าธุรกิจจะเป็นอย่างไรในอนาคต ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการประเมินมูลค่าครับ
- ถาม-ตอบ อีกจุดสำคัญที่ควรฟัง เพราะ บริษัทส่วนมากมักนำเสนอแต่ด้านบวกของบริษัท เท่านั้น การฟังถาม-ตอบ จะทำให้เราเห็นมุมมองด้านลบของบริษัทบ้าง ซึ่งมักมีคำถามดีๆจากพี่ๆนักลงทุนมาเสมอๆเลย
ว่ามีการดำเนินงานจริงอย่างไร
นี่เป็นอีกวิธีที่ทำให้การดู Oppday สนุกมากขึ้นครับ นั่นก็ คือ หลังจากฟัง Oppday จบไปแล้ว คุณมักจะได้ฟัง idea จากท่านผู้บริหารว่าจะทำนั่นทำนี่มากมาย สิ่งที่อยากให้ลองทำต่อเนื่องกันเลย คือ การสำรวจกิจการจริงๆ (Scuttlebutt)
แล้วคุณจะพบว่าหลายๆบริษัทเค้าสามารถทำได้ตามที่พูดไว้ใน Oppday จริงๆ คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของบริษัทชัดเจนมากขึ้น และจะพบว่าหลายๆบริษัท อาจจะทำไม่ได้ตามที่เคยพูดไว้...ซึ่งก็น่าติดตามต่อไปว่า ใน Oppday ไตรมาสหน้า เค้าจะมาพูดอย่างไรต่อไป
จบแล้วครับกับ 5 เทคนิคการดู Oppday อย่างสนุกและได้สาระ จริงๆน่าจะมีเทคนิคอื่นๆอีกมากมาย เพื่อนๆมีวิธีไหนที่น่าสนใจ Comment มาคุยกันได้เลยนะครับ : )
ส่วนตัวคิดว่า การดู Oppday นอกจากทำให้เข้าใจ ธุรกิจและผลดำเนินงาน ของบริษัทแล้ว จริงๆมันยังมีประโยชน์ที่เราสามารถมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การฟังแนวคิดการทำธุรกิจของเจ้าของตัวจริง การเห็นการเปลี่ยนแปลงรอบตัวชัดมากขึ้น รวมถึงการฝึกพัฒนาการนำเสนอและการตอบคำถาม เป็นต้น นี่คือความสนุกของผมจากการฟัง Oppday ครับ
หวังว่าทุกท่านจะสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง และสนุกในการศึกษาธุรกิจมากขึ้นนะครับ สำหรับ Content ในเดือนถัดไปจะเป็นอะไรนั้น อย่างลืมติดตามเพจ Pocket investor น้า : )
https://www.facebook.com/pocketinvestor
บันทึกไม่สำเร็จ