จะเป็น VI รุ่นใหม่ ควรต้องไปลงทุนต่างประเทศ (ตอนนี้เลย) หรือไม่? / Pocket investor

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pocket investor
Thai VI Partner
โพสต์: 194
ผู้ติดตาม: 303

จะเป็น VI รุ่นใหม่ ควรต้องไปลงทุนต่างประเทศ (ตอนนี้เลย) หรือไม่? / Pocket investor

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Investor's practice: สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้ผมจะมาเขียนประเด็น Hot hit ของนักลงทุนไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะในปีนี้มีหลายๆท่านถามเข้ามา นั่นก็ คือ "เราควรต้องกระจายพอร์ตลงทุนไปต่างประเทศหรือไม่" วันนี้จะมาแชร์มุมมองของผมให้อ่านกันครับ จะเป็นอย่างไรลองมาดูกันเลย
.
"ถือหุ้นต่างประเทศด้วยก็อาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคนี้ที่แม้แต่ประเทศก็เป็นความเสี่ยงที่เราเรียกว่า “Country Risk”
ส่วนหนึ่งของบทความล่าสุดเรื่อง "Survivor" ของ อาจารย์ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
.
"จะเป็น VI รุ่นใหม่ ควรต้องไปลงทุนต่างประเทศ (ตอนนี้เลย) หรือไม่?"
ก่อนจะตอบคำถามนี้ ผมขอให้นิยามของคำว่า "VI รุ่นใหม่" ก่อนครับ ซึ่งไม่ได้หมายความถึง คนมีอายุน้อยเท่านั้น บางคนสูงอายุแล้วก็ยังเป็นคนรุ่นใหม่ได้เลย (ใช่มั้ยครับ 555)
.
แต่ VI รุ่นใหม่ในที่นี้หมายถึง ผู้ที่มีความมุ่งมั่นจริงจังในการลงทุนและศึกษาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เหมือนคนรุ่นใหม่ครับ ดังนั้น ตอบคำถามตัวเองก่อนเลยครับว่าเราพร้อมจะให้เวลากับมันหรือเปล่า?
.
สำหรับผู้ที่เป็น "VI รุ่นใหม่" แล้ว ... ผมแนะนำอย่างยิ่งให้ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการลงทุนและบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในต่างประเทศ และหาโอกาสในการลงทุนครับ ฟังธงเลยว่าใครศึกษาได้เปรียบกว่ามาก เพราะโลกการลงทุนของคุณจะกว้างกว่ามากๆ
.
"โปเกม่อน ไม่ได้มีแค่ Gen1 เพียง 151 ตัว ฉันใด หุ้นก็ไม่ได้มีแค่หุ้นไทย 600-700 ตัว ฉันนั้น"
.
แต่ถ้าถามว่า "จำเป็นต้อง" ไปลงทุนต่างประเทศตอนนี้เลยหรือไม่ ผมอยากให้คุณลองตอบคำถาม 3 ข้อ นี้กลับตัวเองก่อนครับ
.
ข้อ 1 คุณรู้จักบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศดีแค่ไหน?
สิ่งสำคัญของการเป็นนักลงทุน VI นั่นก็ คือ การลงทุนแบบเป็นเจ้าของธุรกิจ และธุรกิจที่คุณจะลงทุน คุณควรจะต้องเข้าใจเป็นอย่างดีเสียก่อน ครับ ซึ่งจริงๆแล้ว แม้ว่าจะเป็นบริษัทต่างชาติ แต่คุณอาจจะรู้จักเค้าเป็นอย่างดีก็ได้ เช่น
.
- ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่เติบโตมากับหนังการ์ตูนของ Walt Disney (เหมือนผม) คุณอาจจะลงทุนในหุ้น "DIS" ได้ดีก็ได้
.
- ถ้าคุณเป็นนักท่อง Social network หรือทำเพจ Facebook อยู่ คุณอาจจะเข้าใจระบบของ Facebook ได้ดี ซึ่งย่อมเป็นผลดีกับการลงทุนในหุ้น "FB"
.
-หรือถ้าคุณเป็นเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่น คุณน่าจะเข้าใจลูกค้าที่ซื้อ
Louis Vuitton และลงทุนในหุ้น "LVMH" ได้ดีกว่าผมที่เป็นคนทื่อๆเรื่องแฟชั่น
.
ทั้งหมด ย่อมดีกว่าการลงทุนในหุ้นไทยที่คุณไม่เข้าใจเป็นไหนๆ เช่น บริษัทปิโตรเคมี บริษัทน้ำมัน บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น
.
แต่ถ้าคุณไปลงทุนหุ้นต่างประเทศที่คุณไม่ได้เข้าใจมัน แต่ที่ลงไปเพราะคนอื่นเค้าว่ากันว่ามันดี แบบนี้อยากให้ลองทบทวนดูนะครับ ว่าคุณคาดการณ์อะไรบริษัทนี้ได้หรือไม่ และถ้าขาดทุนคุณจะเจ็บใจแค่ไหน
.
ข้อ 2 คุณรู้จักประเทศที่จะไปลงทุนดีแค่ไหน?
นอกจากการศึกษาบริษัทแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การเข้าใจภาพรวมของประเทศนั้น เช่น เศรษฐกิจ กฎหมายต่างๆ วัฒนธรรม ลักษณะประชากร หรือ นโยบายของภาครัฐ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อบริษัทที่คุณลงทุนทั้งสิ้น
.
- Joe Biden ขึ้นเป็น ประธานาธิบดีสหรัฐ คนใหม่ นโยบายของเขา จะกระทบต่อบริษัทในอเมริกาอย่างไร?
.
- ระบอบคอมมิวนิสต์ สไตล์เวียดนามเป็นอย่างไร ทำไมบริษัทส่วนใหญ่ ยังเป็นของภาครัฐ?
.
- ทำไม Ant Financial ที่กำลังจะเป็น IPO ที่มูลค่าสูงที่สุดในโลก ถึงโดนสั่งเบรคกระทันหัน?
.
นี่เป็นตัวอย่างคำถามเล็กๆน้อยๆ ที่ชวนคุณคิดว่า คุณตอบมันได้หรือไม่ และคุณเข้าใจประเทศนั้นดีแค่ไหน และคุณรู้หรือไม่ว่ามันจะกระทบกับบริษัทที่คุณลงทุนอย่างไร? ซึ่งเรื่องนี้คนที่เคยไปอาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆเลยน่าจะได้เปรียบ แต่ถ้าคุณไม่เคยก็อาจจะต้องศึกษาหน่อยครับ
.
ข้อ 3 ราคาหุ้นของบริษัทที่คุณสนใจ ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงหรือไม่?
หัวใจของการเป็นนักลงทุน VI คือ การประเมินมูลค่า ถ้าคุณเข้าใจบริษัทและประเทศ เป็นอย่างดีแล้ว คุณน่าจะได้หุ้นกลุ่มหนึ่งที่สนใจจะลงทุน ก็ให้ทำการประเมินมูลค่าหุ้นเหล่านั้น ก่อนซื้อเสมอครับ ถ้าหุ้นยังไม่ได้ "ถูกพอ" ที่จะเข้าลงทุนได้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อ แค่ต้องรอและติดตามศึกษาไปเรื่อยๆ
.
ลองตอบคำถามกับตัวเองดูนะครับว่า พร้อมจะไปลงทุนต่างประเทศหรือยัง : )
.
ส่วนตัวผมศึกษาบริษัทต่างประเทศแบบสนุกๆมานานแล้ว ปีนี้จริงจังหน่อยเพราะอยากลองลงทุนดูและเผื่อใช้ทำเพจ แต่ผมก็ยังไม่ได้ลงทุนในต่างประเทศเลยสักบาทครับ เนื่องจาก 2 ประเด็น
.
1. หุ้นที่ผมสนใจและเข้าใจดี ราคามันแพงเกินที่ผมรับได้
2. หุ้นที่ราคาถูกมากๆ เรายังไม่แน่ใจว่าธุรกิจนี้ดีจริงๆหรือไม่
.
ดังนั้น สิ่งที่ผมคงทำต่อไปเรื่อยๆ คือ ติดตามหุ้นที่สนใจไป จนเจอช่วงที่ "หุ้นผิดราคา" จึงเข้าซื้อและศึกษาธุรกิจต่างประเทศต่อไปเรื่อยๆด้วยความสนุก ให้เข้าใจเป็นอย่างดีเสียก่อน ดังคำกล่าวของปู่ Buffett ว่า "ความเสี่ยง มักมาจากการไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่"
.
ต่อๆไป ผมจะลองเขียนเกี่ยวกับบริษัทต่างประเทศให้มากขึ้นนะครับ จะเป็นอย่างไรฝากติดตามน้า
.
และอย่างที่บอกทุกครั้งว่า ทั้งหมดเป็นแค่มุมมองของผมคนเดียว ดังนั้น อย่าเชื่อ! แต่ให้พิจารณาด้วยตัวคุณเองครับ และใครมีมุมมองอย่างไร Comment มาคุยกันได้เลยครับ : )
Writer: Pocket investor
โพสต์โพสต์